X
จิตวิทยาความรักของผู้ชาย

เช็ก ! จิตวิทยาความรักของผู้ชาย ฝั่งผู้ชายมองความรักยังไง ? ชวนมาเข้าใจเพื่อความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน !

เรามักจะคุ้นเคยกับมุมมองความรักของผู้หญิงที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ว่าผู้หญิงคิดอย่างไร ผู้หญิงชอบอะไร หรือผู้หญิงไม่ชอบอะไรที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์และความรัก แต่น้อยมากที่เราจะได้รู้ทัศนคติเกี่ยวกับความรักของผู้ชาย รวมถึงมุมมองความรักต่างๆ ด้วย เช่น จิตวิทยาผู้ชายที่ชอบผู้หญิงแก่กว่า เพราะผู้ชายอาจจะแสดงออกหรือบอกเล่าน้อยกว่าผู้หญิง ทำให้หลายครั้งเราอาจจะคาดเดาความรู้สึกของเขาไม่ถูกและทำให้ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ และเพื่อให้ความสัมพันธ์คู่รักดีมากขึ้น ในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะชวนมาเปิดมุมมอง จิตวิทยาความรักของผู้ชาย ในสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนไม่รู้เกี่ยวกับทัศนคติที่มีต่อความสัมพันธ์กันค่ะ

จิตวิทยาความรักของผู้ชาย เป็นยังไง ? มุมมองด้านความรักเป็นแบบไหนกันนะ ?

ความรักในมุมมองของผู้ชายนั้นมีความซับซ้อนและลึกซึ้งไม่ต่างจากผู้หญิง แม้บางครั้งอาจถูกมองว่าเป็นเพศที่เข้าถึงยากในเรื่องความรู้สึก แต่แท้จริงแล้วผู้ชายก็มีโลกของความรักที่น่าค้นหา พวกเขามักแสดงความรักผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เลือกที่จะเป็นผู้ปกป้องและสนับสนุนคนที่รักอย่างเงียบๆ ราวกับเป็นเบื้องหลังความมั่นคงในความสัมพันธ์ มาทำความเข้าใจวิธีคิดของผู้ชายกันค่ะ

หนังสือ เมื่อจิตวิทยาทำให้คนรักกัน

ทำไมเราถึงควรเข้าใจ จิตวิทยาความรักของผู้ชาย ?

เราควรเข้าใจจิตวิทยาความรักของผู้ชายเพราะจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและลดความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้น ผู้ชายมักถูกสังคมคาดหวังให้เป็นคนเข้มแข็ง ไม่แสดงความอ่อนไหว ทำให้บางครั้งการแสดงออกทางความรักของพวกเขาอาจถูกตีความผิดไป การเข้าใจว่าพวกเขาอาจแสดงความรักผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เช่น การดูแลเอาใจใส่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หรือการทำงานหนักเพื่อสร้างความมั่นคง จะช่วยให้เราเห็นคุณค่าและตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ดีขึ้น นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เข้าใจและเติบโตไปด้วยกัน

วิธีคิดของผู้ชาย ต่อมุมมองความรัก เป็นยังไงบ้าง ?

1. แสดงความรักผ่านการกระทำ

ผู้ชายมักแสดงความรักผ่านการลงมือทำมากกว่าคำพูด เช่น การซ่อมของให้ การขับรถไปส่ง หรือการแก้ปัญหาต่างๆ ให้คนรัก นี่คือวิธีบอกรักทางอ้อม บอกรักที่ไม่ได้พูดคำว่ารักที่พวกเขาถนัดและรู้สึกสบายใจที่จะแสดงออก

2. ความเป็นผู้นำและผู้ปกป้อง

ธรรมชาติของผู้ชายมักรู้สึกว่าต้องเป็นที่พึ่งให้คนรักได้ พวกเขาจึงพยายามสร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้กับความสัมพันธ์ ทั้งในด้านอารมณ์และการเงิน

3. เวลาในการประมวลผลทางอารมณ์

ผู้ชายต้องการเวลาในการจัดการกับความรู้สึก พวกเขามักต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพื่อคิดทบทวนเมื่อเจอปัญหาความสัมพันธ์ ไม่ชอบถูกเร่งรัดให้พูดคุยเรื่องความรู้สึกในทันที

4. ต้องการการยอมรับ

ผู้ชายต้องการรู้สึกว่าตนเองมีค่าและเป็นที่ต้องการในความสัมพันธ์ การชื่นชมในสิ่งที่พวกเขาทำ จะช่วยเสริมความมั่นใจและกระตุ้นให้อยากทำสิ่งดีๆ มากขึ้น

5. การรักษาความเป็นตัวของตัวเอง

ผู้ชายให้ความสำคัญกับการมีพื้นที่ส่วนตัวและเวลาทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ การได้รักษาความเป็นตัวของตัวเองไว้ช่วยให้พวกเขารู้สึกสมดุลในความสัมพันธ์

6. ความซื่อสัตย์และความจริงใจ

เมื่อผู้ชายตัดสินใจที่จะรัก พวกเขามักจะทุ่มเทและจริงจัง ความรักของผู้ชายอาจไม่ได้แสดงออกผ่านคำหวานหรือของขวัญราคาแพง แต่มักแสดงออกผ่านความจริงใจและการอยู่เคียงข้างในระยะยาว

7. กลัวการถูกปฏิเสธ

แม้จะดูเหมือนว่าภายนอกจะดูมั่นใจ แต่ผู้ชายก็มีความกลัวการถูกปฏิเสธหรือไม่ได้รับการตอบรับจากคนที่รัก พวกเขาจึงมักระมัดระวังในการเปิดเผยความรู้สึกลึกๆ จนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัยพอ

8. ให้คุณค่ากับความภักดี

ผู้ชายให้ความสำคัญกับความภักดีและความไว้วางใจในความสัมพันธ์อย่างมาก เมื่อได้รับความไว้วางใจ พวกเขามักจะทุ่มเทกับความสัมพันธ์นั้นอย่างเต็มที่

มุมมองความรักของผู้หญิง VS ผู้ชาย

มุมมองความรักของผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างที่น่าสนใจในหลายด้าน แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่านี่เป็นเพียงแนวโน้มทั่วไป ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเป็นแบบนี้ เพราะแต่ละคนก็มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลองมาดูรายละเอียดกันนะคะ

1. การแสดงออก

  • ผู้หญิง : มักแสดงความรักผ่านคำพูด การสัมผัส และการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ชอบพูดคุยเรื่องความรู้สึก
  • ผู้ชาย : แสดงออกผ่านการกระทำ การแก้ปัญหา และการดูแล มักไม่ถนัดพูดเรื่องความรู้สึกโดยตรง

2. การจัดการอารมณ์

  • ผู้หญิง : ต้องการระบายความรู้สึกและพูดคุยเพื่อผ่อนคลาย ชอบแชร์เรื่องราวกับเพื่อน
  • ผู้ชาย : ต้องการเวลาส่วนตัวในการประมวลผลอารมณ์ มักแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

3. ความคาดหวัง

  • ผู้หญิง : มองหาความใส่ใจทางอารมณ์ การรับฟัง และความเข้าใจ
  • ผู้ชาย : มองหาการยอมรับ ความไว้วางใจ และพื้นที่ส่วนตัว

4. การให้คุณค่า

  • ผู้หญิง : ให้ความสำคัญกับความรู้สึกลึกๆ และการเชื่อมโยงทางอารมณ์
  • ผู้ชาย : ให้ความสำคัญกับความมั่นคงและการเป็นที่พึ่งพาได้
หนังสือ ความลับที่ผู้ชายไม่บอก แต่อยากให้ผู้หญิงรู้

เมื่อเราเข้าใจ “วิธีคิดของผู้ชาย” แล้ว ต้องทำยังไงบ้าง ?

  1. ให้เวลาและพื้นที่ เมื่อเขาต้องการช่วงเวลาส่วนตัวในการคิดหรือจัดการอารมณ์ ไม่เร่งเร้าหรือกดดันให้เขาต้องพูดคุยทันที
  2. เห็นคุณค่าการกระทำ สังเกตและชื่นชมการแสดงออกทางความรักที่เขาทำ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น การช่วยแก้ปัญหา การดูแลเอาใจใส่
  3. สื่อสารตรงไปตรงมา ผู้ชายมักชอบความชัดเจน ไม่ซับซ้อน การพูดตรงๆ ว่าต้องการอะไรจะช่วยให้เขาเข้าใจและตอบสนองได้ดีกว่า
  4. ให้ความไว้วางใจ แสดงให้เห็นว่าคุณเชื่อมั่นในตัวเขา ไม่จับผิดหรือสงสัยในความจริงใจ เพราะความไว้วางใจคือรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์
  5. เคารพความเป็นตัวเขา ให้อิสระในการทำสิ่งที่เขาชอบหรือใช้เวลากับเพื่อนฝูง ไม่ครอบงำหรือจำกัดพื้นที่ส่วนตัว
  6. สนับสนุนความฝัน แสดงให้เห็นว่าคุณเชื่อในศักยภาพของเขา พร้อมอยู่เคียงข้างในยามที่เขาต้องการกำลังใจหรือคำแนะนำ
  7. รักษาสมดุล ไม่พึ่งพาเขามากเกินไป รักษาความเป็นตัวของตัวเองและความสามารถในการพึ่งพาตนเอง เพราะผู้ชายชื่นชมผู้หญิงที่มีความมั่นใจและเข้มแข็ง

ปัจจัยที่มีผลต่อ วิธีคิดต่อความรักของผู้ชาย คืออะไรบ้าง ?

การเลี้ยงดูในวัยเด็กมีผลอย่างมากต่อมุมมองความรักของผู้ชาย สังคมและประสบการณ์ความรักในอดีตก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน ถ้าเคยผิดหวังหรือถูกทำร้ายจิตใจ อาจทำให้ระมัดระวังตัวมากขึ้นในความสัมพันธ์ต่อๆ มา การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเข้าใจที่มาของพฤติกรรมและความรู้สึกต่างๆ ในความสัมพันธ์ได้ดีขึ้น และสามารถสร้างความเข้าใจและการสื่อสารที่ดีระหว่างกัน ลองมาดูรายละเอียดลึกๆ ในแต่ละประเด็นกันค่ะ

1. อิทธิพลจากครอบครัวและการเลี้ยงดู

รูปแบบความสัมพันธ์ของพ่อแม่ที่เห็นตั้งแต่เด็กจะกลายเป็นต้นแบบความรักในอนาคต ถ้าเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แสดงความรักอย่างเปิดเผย มักจะกล้าแสดงความรู้สึกและเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ได้ดี หากเติบโตมาในครอบครัวที่มีความขัดแย้งหรือหย่าร้าง อาจทำให้มีความกลัวการผูกมัดหรือขาดความมั่นใจในความสัมพันธ์ ดังนั้นการได้รับความรักและการยอมรับจากครอบครัว สไตล์การเลี้ยงดูของพ่อแม่จึงส่งผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์และความกล้าที่จะรักผู้อื่น

2. ความคาดหวังและแรงกดดันทางสังคม

สังคมมักคาดหวังให้ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายนำในความสัมพันธ์ เช่น เป็นผู้จีบ เป็นผู้ดูแล หรือเป็นเสาหลักของครอบครัว ค่านิยมที่ว่าผู้ชายต้องเข้มแข็ง ไม่แสดงความอ่อนแอ ทำให้หลายคนเก็บกดความรู้สึกและไม่กล้าเปิดใจ อีกทั้งแรงกดดันทางการเงินและหน้าที่การงาน ทำให้บางคนรู้สึกว่ายังไม่พร้อมสำหรับความสัมพันธ์จริงจัง

3. ประสบการณ์ความรักในอดีต

ความผิดหวังหรือการถูกทำร้ายจิตใจในอดีตอาจทำให้ระมัดระวังตัวมากขึ้นในความสัมพันธ์ใหม่ ส่วนประสบการณ์ความสำเร็จในความสัมพันธ์ก่อนหน้าจะช่วยสร้างความมั่นใจในการสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้ บาดแผลจากการถูกหักหลังหรือนอกใจอาจทำให้มีปัญหาเรื่องความไว้วางใจไม่ต่างกับผู้หญิง ดังนั้นการเรียนรู้จากความสัมพันธ์ในอดีตช่วยให้เข้าใจตัวเองและรู้ว่าต้องการอะไรจากความสัมพันธ์มากขึ้น

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับความรักของผู้ชาย ที่ผู้หญิงควรรู้

ลองทำความเข้าใจกันนะคะ เมื่อเข้าใจความจริงเหล่านี้ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ราบรื่นขึ้น และลดความเข้าใจผิดที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้

1. ผู้ชายไม่ต้องการความผูกพันทางอารมณ์

  • ความเข้าใจผิด : ผู้ชายสนใจแค่เรื่องกายภาพ ไม่ต้องการความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
  • ความจริง : ผู้ชายก็ต้องการความผูกพันทางอารมณ์ แต่อาจแสดงออกต่างจากผู้หญิง พวกเขาต้องการคนที่เข้าใจ ยอมรับ และรู้สึกปลอดภัยที่จะเปิดใจด้วย

2. ผู้ชายไม่ชอบการพูดคุยเรื่องความรู้สึก

  • ความเข้าใจผิด : ผู้ชายหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องอารมณ์เพราะไม่สนใจความรู้สึกของคู่
  • ความจริง : พวกเขาอาจรู้สึกไม่สบายใจหรือไม่มั่นใจในการแสดงความรู้สึก เนื่องจากการหล่อหลอมทางสังคมที่มักสอนว่าผู้ชายต้องเข้มแข็ง ไม่แสดงความอ่อนแอ

3. การเงียบของผู้ชายแปลว่าไม่แคร์

  • ความเข้าใจผิด : เมื่อผู้ชายเงียบหรือต้องการเวลาส่วนตัว แปลว่าไม่ใส่ใจปัญหา
  • ความจริง : ผู้ชายมักต้องการเวลาประมวลผลอารมณ์และคิดหาทางแก้ปัญหา การเงียบอาจเป็นวิธีจัดการความเครียดและหาทางออกที่ดีที่สุด

4. ผู้ชายไม่สังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

  • ความเข้าใจผิด : ผู้ชายไม่สนใจและไม่จดจำเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ในความสัมพันธ์
  • ความจริง : พวกเขาสังเกตและจดจำสิ่งที่สำคัญกับคนที่รัก แต่อาจไม่ได้พูดถึงบ่อยๆ เหมือนผู้หญิง

5. ผู้ชายไม่ต้องการคำชมหรือกำลังใจ

  • ความเข้าใจผิด : ผู้ชายมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว ไม่ต้องการการยืนยันหรือกำลังใจ
  • ความจริง : ผู้ชายก็ต้องการการยอมรับ คำชม และกำลังใจ โดยเฉพาะจากคนที่พวกเขารัก

6. ผู้ชายชอบเล่นเกมในความสัมพันธ์

  • ความเข้าใจผิด : ผู้ชายชอบเล่นเกมทางอารมณ์และไม่จริงใจในความสัมพันธ์
  • ความจริง : ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบความตรงไปตรงมา และต้องการความสัมพันธ์ที่จริงใจ ไม่ซับซ้อน

7. ถ้ารักจริงต้องรู้ใจโดยไม่ต้องบอก

  • ความเข้าใจผิด : ถ้าผู้ชายรักจริง ควรเข้าใจความต้องการของคู่โดยไม่ต้องพูด
  • ความจริง : การสื่อสารที่ชัดเจนสำคัญมาก ผู้ชายมักชอบการบอกความต้องการตรงๆ มากกว่าการให้เดาใจ

8. ผู้ชายไม่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวถ้ารักจริง

  • ความเข้าใจผิด : การขอเวลาส่วนตัวแปลว่าไม่รักหรือมีปัญหาในความสัมพันธ์
  • ความจริง : การมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ชาย และไม่ได้เกี่ยวข้องกับระดับความรักที่มีต่อคู่
หนังสือ 500 ล้านปีของความรัก

Inspire Now ! : สำหรับคนที่กำลังอยู่ในความสัมพันธ์และอยากกระชับความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากที่คุณสาวๆ จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับมุมมองและความคิดของผู้ชายเกี่ยวกับจิตวิทยาความรักของผู้ชายแล้วนั้น การได้ออกไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมร่วมกันก็จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ยิ่งขึ้นอีกด้วย ลองหาที่เที่ยวกับแฟนที่ทั้งคุณและเขาชื่นชอบ และใช้เวลาร่วมกันอย่างมีค่าเพื่อเรียนรู้กันและกัน เพราะความรักของคนสองคนเป็นสิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้กันไปอย่างไม่รู้จบค่ะ

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? อ่านแล้วคิดเห็นยังไง มาคอมเมนต์แบ่งปันความคิดเห็นกับเราบ้างนะคะ ♡

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW