หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการไปเที่ยวคนเดียวก็คือประเทศญี่ปุ่นที่มีทั้งธรรมชาติงดงาม ของกินอร่อยๆ วัฒนธรรมน่าสนใจ และสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย แต่จากสถานการณ์โควิด-19 อาจทำให้หลายคนคิดหนักว่าจะ ไปเที่ยวญี่ปุ่น ดีไหม ความจริงแล้วแม้ว่าช่วงนี้เราจะยังไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ แต่เราก็สามารถวางแผนเที่ยวล่วงหน้าได้ว่าเมื่อหมดโควิดเราจะปักหมุดเดินทางไปญี่ปุ่นที่เที่ยวที่ไหน และ DIY INSPIRE NOW ก็ขอมาแนะนำสถานที่เที่ยวน่าสนใจใน 8 ภูมิภาคของญี่ปุ่นให้สาวๆ ได้เก็บไว้เป็นไอเดียกันค่ะ
รวมไอเดียที่เที่ยว 8 ภูมิภาค หลังโควิดไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ไหนดี ?
1. ฮอกไกโด
Image Credit : FB/hokkaido-treasure.com
ไปเที่ยวญี่ปุ่นที่แรกกับภูมิภาคฮอกไกโดซึ่งเป็น 1 ใน 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น มีจุดเด่นอยู่ที่อากาศหนาวเย็นกว่าภูมิภาคอื่นทำให้โดดเด่นเรื่องการมาเที่ยวช่วงฤดูหนาว แต่สำหรับการเที่ยวช่วงฤดูร้อนก็สามารถเพลิดเพลินได้ไม่แพ้กันเพราะที่ฮอกไกโดมีทุ่งดอกไม้สวยๆ รอเราอยู่นั่นเอง
- โอตารุ : ที่เที่ยวที่แรกในฮอกไกโดที่เราอยากแนะนำก็คือโอตารุ เมืองท่าขนาดเล็กที่มีไฮไลท์อยู่ที่คลองโอตารุและย่านโกดังสินค้าเก่า นอกจากนี้ยังมีถนนสายซูชิที่มีร้านซูชิเรียงรายอยู่ริมทางและย่านช้อปปิ้งมิยาโกะสำหรับขาช้อปด้วย
- นิเซะโกะ : มาฮอกไกโดทั้งทีก็ต้องแวะมาเมืองสกีที่มีชื่อเสียงอย่างนิเซะโกะที่อยู่ทางตะวันตกของซัปโปโร แต่นอกจากจะเด่นเรื่องกิจกรรมฤดูหนาวแล้วหากมาเที่ยวช่วงฤดูร้อนก็มีอะไรให้เราทำหลากหลายทั้งการปีนเขา ล่องแพ ล่องแก่ง ขี่ม้า และชมทุ่งดอกไม้
- อาซาฮิคาวะ : เมืองธุรกิจที่มีไฮไลท์อยู่ที่ความคึกคักและงานเทศกาลหิมะ (Asahikawa Winter Festival) สุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์
2. โทโฮคุ
Image Credit : tsunagujapan.com
ภูมิภาคโทโฮคุมีความโดดเด่นในด้านสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติ ทำให้การเดินทางมาท่องเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงมีความสวยงามและโดดเด่นเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีเทศกาลที่โด่งดังอย่างเทศกาลแห่โคมไฟอีกด้วย
- ลำธารโออิระเซะ : ลำธารที่เป็นสถานที่ชมใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีอันดับต้นๆ ของโทโฮคุ มีความยาวกว่า 14 กิโลเมตร เหมาะสำหรับมาชมความงามตามธรรมชาติและเดินเลียบริมน้ำแบบสุดชิลล์
- พื้นที่ราบสูงภูเขาไฟฮะจิมันไต : อีกหนึ่งสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมากที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างจังหวัดอะคิตะและอิวะเตะ มีถนนแอสไปต์ไลน์เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมและยังได้รับการกำหนดให้เป็นวนอุทยานแห่งชาติด้วย
- สวนสาธารณะซากปราสาทฟุนะโอกะ : ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น มีต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้นรวมถึงดอกไม้อีกนานาพันธุ์ มีไฮไลท์คือการนั่งสโลปคาร์ลอดผ่านอุโมงค์ซากุระระยะทางกว่า 300 เมตร
3. คันโต
Image Credit : okujapan.com
หนึ่งในญี่ปุ่นที่เที่ยวที่ต้องเดินทางไปเยือนสักครั้งก็คือภูมิภาคคันโตซึ่งเป็นที่ตั้งของโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ได้ชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางประเทศนอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่มีระบบการคมนาคมดีที่สุดในโลก มีสถานที่เที่ยวขึ้นชื่อมากมายทั้งวัด ธรรมชาติ และแหล่งช้อปปิ้ง
- ชินจูกุ : ย่านช้อปปิ้งที่รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่างอิเซตัน ทาคาชิมายะ หรือห้างมารุอิ นอกจากนี้ยังมีตึกร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างโยโดบาชิ คาเมร่าและบิ๊ก คาเมร่า เรียกได้ว่าขาช้อปต้องมาย่านนี้
- ชิบุยะ : ย่านแห่งวัยรุ่นและความบันเทิงและยังมีไฮไลท์อย่างห้าแยกชิบุยะและรูปปั้นฮะจิโคที่หน้าสถานีชิบุยะ มีห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าแฟชั่น และร้านขายของมากมาย เป็นแหล่งช้อปปิ้งวัยรุ่นอีกหนึ่งแห่งที่ขาช้อปไม่ควรพลาด
- คาวาโกเอะ : เปลี่ยนบรรยากาศจากย่านการค้ามาที่คาวาโกเอะซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์ของถนนสายโบราณ มีร้านค้าและร้านขนมเก๋ๆ บรรยากาศคลาสสิกมากมายทำให้ได้รับฉายาว่าเป็น “เอโดะน้อย” เพราะคาวาโกเอะมีความเจริญคล้ายเอโดะ เมืองหลวงของญี่ปุ่นเมื่อประมาณ 400 ปีก่อนนั่นเอง
4. จูบุ
Image Credit : en.japantravel.com
ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันต่อที่ภูมิภาคชูบุที่มีวัฒนธรรมหลากหลายและอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์อยู่ที่ออนเซ็นกลางธรรมชาติที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค หมู่บ้านชิราคาวะโกะ และจุดชมภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกลด้วย ที่สำคัญยังมีโรงงานปลาโอแห้งที่โด่งดังไปทั่วญี่ปุ่นด้วย
- ท่าเรือชิมิซุ : ท่าเรือที่ขึ้นชื่อว่ามีคลื่นสงบ ท้องฟ้าใสและสวย เหมาะสำหรับมากินลมชมวิว ถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งเด่นเป็นสง่า นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้มรดกโลกทางวัฒนธรรมอย่างมิโฮะโนะมะทสึบะระและที่ราบสูงนิฮงไดระ ด้วย
- ปราสาทนาโกย่า : ปราสาทนาโกย่ามีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ภายใน จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ส่วนสวนหย่อมภายนอกปราสาทมีความสวยงามและยังแบ่งเป็นสองชั้นคือคูเมืองและกำแพงปราสาทด้วย
- ทาคายามะ : ใครชอบเที่ยวสโลไลฟ์และใกล้ชิดวัฒนธรรมต้องไม่พลาดเพราะที่นี่คือหมู่บ้านชนบทที่ผู้คนยังรักษาวิถีชีวิตบนภูเขาเอาไว้ได้เป็นอย่างดี มีเทศกาลที่โดดเด่นคือเทศกาลทาคายามะซึ่งเป็นเทศกาลประจำฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง และยังเป็นเทศกาลที่อลังการที่สุด 1 ใน 3 เทศกาลของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
5. คันไซ (คิงกิ)
Image Credit : agoda.com
ภูมิภาคคันไซหรือคิงกิมีโอซาก้าเป็นจุดศูนย์กลาง มีไฮไลท์อยู่ที่วัฒนธรรม อาหารท้องถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยเฉพาะเมืองหลวงเก่าอย่างเกียวโต – นารา
- ทะเลสาบบิวะ : ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่เลียบริมทะเลสาบคือทะเลสาบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าเหมาะกับการมาชมพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนช่วงค่ำจะมีการแสดงน้ำพุเต้นระบำประดับไฟและยังมีกิจกรรมอย่างการล่องเรือและปั่นจักรยานริมทะเลสาบอีกด้วย
- คุระมะ : ไฮไลท์อยู่ที่ภูเขาคุระมะที่มีตำนานเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์และยังมีรถไฟชมวิวที่ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถรับชมความงามของทิวทัศน์ได้ในทุกฤดูกาล
- เท็นโนจิ : เท็นโนจิคือย่านช้อปปิ้งที่น่าสนใจและเจริญที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโอซาก้า มีห้างสรระพสินค้ามากมายและยังมีแลนด์มาร์กอย่างห้างอาเบโนะฮารุคัสซึ่งเป็นตึกสูงที่สุดในญี่ปุ่นและด้านบนสุดเป็นจุดชมวิวของเมืองโอซาก้าอีกด้วย
6. ชูโกกุ
Image Credit : travel.gaijinpot.com
ภูมิภาคชูโกกุมีไฮไลท์น่าเที่ยวอยู่ที่ทะเลทรายทตโตริและยังมีวัฒนธรรมโบราณที่งดงามและน่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีถ้ำ ปราสาท และศาลเจ้าเก่าแก่น่าไปเที่ยวหลายแห่งด้วย
- ฮิโรชิมะ : จังหวัดฮิโรชิมะมีประวัติศาสตร์อันยาวนานโดยเฉพาะช่วงยุคสงครามโลก สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของที่นี่ก็คือสวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ เส้นทางมรดกโลกทางทะเลแห่งฮิโรชิมะ และโดมปรมาณู นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลขึ้นชื่ออย่างหอยนางรมอีกด้วย
- มัตสึเอะ : เมืองมัตสึเอะมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศจีนมาอย่างยาวนานทำให้ตัวเมืองมีวัฒนธรรมหลากหลาย ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็คือปราสาทมัตสึเอะและทะเลสาบชินจินั่นเอง
- ทะเลเซโตะ : ทะเลเซโตะมีไฮไลท์อยู่ที่เกาะน้อยใหญ่มากมายกว่า 3,000 เกาะ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีความเงียบสงบ มีผลิตภัณฑ์อาหารทะเลและผลไม้ให้ซื้อกลับไปลองชิมหรือเป็นของฝากมากมาย
7. ชิโกกุ
Image Credit : insidejapantours.com
ภูมิภาคชิโกกุมีไฮไลท์อยู่ที่อุณหภูมิที่อบอุ่น อุด้งอร่อยขึ้นชื่อ และยังมีโชยุที่ได้ชื่อว่าอร่อยเพราะรสชาติกลมกล่อมแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังมีเกาะน้อยใหญ่อีกมากมายที่เราสามารถไปเที่ยวชมได้
- เกาะนะโอะชิมะ : ตั้งอยู่ในเขตทะเลเซโตะ บนเกาะเต็มไปด้วยผลงานศิลปะทั้งกลางแจ้งและในพิพิธภัณฑ์ ใครชอบชมเมืองจะได้พบกับจุดเด่นอีกอย่างคือ โนะเร็น ซึ่งก็คือป้ายผ้าสีสันสวยงามที่ชาวบ้านแขวนไว้หน้าบ้านด้วย
- ที่ช่องแคบนะรุโตะ : ช่องแคบแห่งนี้มีกระแสน้ำวนยักษ์ที่หาดูได้ยากเพราะมีอยู่ไม่กี่แห่งบนโลก เป็นปรากฏการณ์ที่สามารถชมได้วันละ 2 ครั้งช่วงน้ำขึ้นและน้ำลงและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปชมมากที่สุดก็คือปลายเดือนมีนาคม – ปลายเดือนเมษายน
- มัตสึยะมะ : เมืองที่โดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์และยังเป็นจุดหมายปลายทางของคนที่ชอบการแช่ออนเซ็น มี โดโกะอนเซ็น ซึ่งเป็นแหล่งออนเซ็นอายุ 3,000 ปีเป็นแลนด์มาร์ก นอกจากนี้ยังมีโรงอาบน้ำอีกหลายแห่งเปิดให้บริการด้วย
8. คิวชู
Image Credit : lonelyplanet.com
ภูมิภาคคิวชูมีภูมิประเทศเป็นทะเลและภูเขา นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งประวัติศาสตร์เพราะมีเมืองโบราณ มีน้ำพุร้อนขึ้นชื่อและยังมีอาหารอร่อยให้เรามาลองชิม
- ฟุคุโอกะ : ย่านใจกลางเมืองที่มีความคึกคัก มีชีวิตชีวา มีไฮไลท์คือรถเข็นขายอาหารที่เรียกว่า ยะไต นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดอย่างฮาคาตะราเมงให้ลองชิม ใครเป็นสายกินและอยาก ไปเที่ยวญี่ปุ่น หาของอร่อยต้องไม่พลาด
- สวนมิฟุเนะยะมะ-ระคุเอ็น : สวนแบบญี่ปุ่นที่มีต้นซากุระ 2,000 ต้นและต้นอาซาเลียกว่า 200,000 ต้น พร้อมดอกไม้นานาชนิดที่พร้อมใจกันบานในแต่ละฤดูกาลทั่วทั้งสวน กลายเป็นศูนย์กลางการชมดอกไม้และการจัดเทศกาลต่างๆ
- ภูเขาอะโซะ : ภูเขาแห่งนี้คือภูเขาไฟที่ยังไม่ดับใจกลางเกาะคิวชู บริเวณรอบๆ มีเมืองและทุ่งนารายล้อมและยังมีจุดชมวิวที่น่าสนใจอีกมากมาย
Inspire Now ! : ใครอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นหลังโควิด ช่วงนี้เรามีเวลาว่างยาวๆ ลองเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเองไว้เที่ยว หรือจะตามไปอ่านประสบการณ์ท่องเที่ยวในมุมที่คุณอาจไม่เคยเห็นได้เลยที่ www.diylifestyleblogs.com / FB : @diylifestyleblogs และ FB Group : ไม่อยาก “”เที่ยวญี่ปุ่น”” ที่เดิมแล้ว เพื่อมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ กันนะคะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ให้ฉันได้ไอเดียในการชาร์จพลังใช่ไหม ? ใครมีไอเดียที่เที่ยวญี่ปุ่นหลังโควิด มาแนะนำกันได้เลยนะคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : gogonihon.com, wikipedia.org, jnto.or.th
Featured Image Credit : freepik.com/tawatchai07