เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง แบบฉบับคนชอบเที่ยวท้องถิ่น (ตามเที่ยวเองได้จริง)

ประเทศไต้หวัน หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐจีน มีลักษณะเป็นเกาะขนาดพื้นที่ 35,808 ตารางกิโลเมตรในทะเลจีนใต้ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองที่เข้มข้นและได้รับอิทธิพลมาจากจีนผสมผสานกับญี่ปุ่น จึงทำให้ลักษณะของบ้านเมืองมีความคล้ายกับไปเที่ยวญี่ปุ่นในบางมุมและคล้ายกับจีนในบางพื้นที่ ลักษณะนี่เองจึงทำให้ไต้หวันมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ไต้หวันมีทั้งสถาปัตยกรรมผสมผสานความจีนและมีธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ วันนี้เราจะมาแนะนำ 7 ที่เที่ยวไต้หวันแบบคนท้องถิ่นที่เป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจ สามารถ เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง ได้ไม่ยาก ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

อยากไปไต้หวัน ! เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง สถานที่ท่องเที่ยวสุดโดนใจ มัดรวมมาให้แล้ว !

ต้องขอบอกก่อนว่า ไต้หวันเป็นที่ที่ไปเที่ยวง่ายมาก ไม่ว่าจะไปเที่ยวคนเดียวหรือไปกันแบบกลุ่ม ไปเป็นครอบครัว ก็ไปได้หมด เที่ยวไต้หวันงบน้อยงบมากก็ไปได้ ใครที่ลองหัดเที่ยวต่างประเทศมือใหม่ ไต้หวันก็เป็นอีกที่ที่น่าสนใจค่ะ มาดูกันว่า จะมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบไหนกันบ้าง

1. ตึกไทเป 101

ตึกไทเป 101 (Taipei 101) ตึกระฟ้าที่ครองตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในโลกระหว่างปี 2004 – 2010 โดยมีความสูงถึง 508 เมตรรวมทั้งหมด 101 ชั้น ตึกไทเป 101 เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจของไต้หวันในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ก็ว่าได้ ที่ชั้นใต้ดินจะมีสถานรถไฟฟ้าใต้ดินชื่อเดียวกับอาคารและที่ชั้น 89 มีจุดชมวิวในอาคารเรียกว่า “the Skyline 460 Observation” หรือหอชมวิวสกายไลน์ 460 ถ้าเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้น 91 จะพบกับจุดชมวิวนอกอาหารที่มองเห็นวิวเมืองไทเปแบบ 360 องศา จึงทำให้ตึกไทเป 101 เป็นจุดหมายที่เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองของนักท่องเที่ยวมากมาย

เวลาทำการ :

• วันจันทร์ถึงวันศุกร์เวลา 11.00 – 19.00 น.
• วันสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เวลา 10.00 – 19.00 น.
• ขึ้นชมหอชมวิวสกายไลน์ 460 รอบสุดท้าย 18.15 น.

ราคาโดยประมาณ : 2,000 NTD (หรือประมาณ 2,375 บาท)

แผนที่ : 

2. พิพิธภัณท์เมืองจิ๋วไต้หวัน

พิพิธภัณฑ์เมืองจิ๋วไต้หวัน (Miniatures Museum of Taiwan) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1997 โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากคู่สามีภรรยา Lin Wen – jen และ Lin Chin – mei ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวรอบโลกและได้เก็บเอาความประทับใจจากสถานที่ต่างๆ มาสร้างเป็นเมืองจิ๋วเอาไว้ที่นี่

จากการรังสรรค์ผลงานของสองสามีภรรยาร่วมกับศิลปินทั้งชาวยุโรป อเมริกา และศิลปินท้องถิ่นไต้หวัน ออกมาเป็นผลงานจิ๋วสุดเจ๋ง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงเป็นสถานที่เที่ยวไต้หวันที่รวบรวมเอาสถานที่สำคัญจากทั่วโลกมาไว้ด้วยกัน รวมถึงเรื่องราวในเทพนิยายแบบย่อส่วนให้นักท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองได้มาสัมผัสกับสถานที่จิ๋วกันอย่างจุใจ

เวลาทำการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น. หยุดวันจันทร์

ราคาโดยประมาณ :

• ผู้ใหญ่ 200 NTD (หรือประมาณ 237 บาท)
• เด็ก 150 NTD (หรือประมาณ 178 บาท)
• ผู้สูงอายุ 125 NTD (หรือประมาณ 148 บาท)

แผนที่ : 

3. พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง

พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (National Palace Museum) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า
“พิพิธภัณฑ์กู้กง” ตั้งอยู่ในเมืองหลวงไทเป ภายในพิพิธภัณฑ์นักท่องเที่ยวจะได้ชมวัตถุโบราณและข้าวของเครื่องใช้ อาทิ เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเซรามิก เครื่องประดับ งานแกะสลัก ผ้า งานศิลปะ และหนังสือ ที่เจียง ไคเชกนำมาจากพระราชวังต้องห้ามในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งนำมาไว้ที่เกาะไต้หวัน รวมแล้วกว่า 620,000 ชิ้น แต่ละชิ้นมีอายุราว 5,000 กว่าปี นักท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองจะได้สัมผัสประวัติศาสตร์ชาติจีนและไต้หวันผ่านข้าวของเครื่องใช้นานาชนิดที่ได้รวบรวมไว้ ณ ที่แห่งนี้

การเดินทาง สามารถขึ้น MRT มาลงที่สถานี Shilin และเดินมาขึ้นรถบัสสาย 815 ไปลงป้าย National Palace Museum ก็จะถึงที่หมาย

เวลาทำการ :

• วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดีเวลา 8.30 – 18.30 น. 
• วันศุกร์และวันเสาร์เวลา 8.30 – 21.00 น.

ราคาโดยประมาณ : 350 NTD (หรือประมาณ 415 บาท)

แผนที่ :

4. อุทยานธรณีเย่หลิว

อุทยานธรณีเย่หลิว (Yehliu Geopark) แหลมที่ยาวประมาณ 1,700 เมตร เกิดขึ้นในภูเขาดาตุน (Datun Mountain) มองจากด้านบนสถานที่แห่งนี้เหมือนเต่ายักษ์ดำน้ำในทะเลจึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “เต่าเย่หลิว” ซึ่งเกิดจากชั้นหินปูนที่โดนน้ำทะเลและลมกัดเซาะ จึงทำให้หินมีรูปร่างแปลกตาจนถูกนำไปตั้งชื่อเรียกให้หินแต่ละส่วน เช่น หัวของราชินี รองเท้าของนางฟ้า และหินแท่งเทียน เป็นต้น

นอกจากนี้ อุทยานธรณีเย่หลิวยังเหมาะสำหรับการวิจัยทางธรณีวิทยา และการวิจัยภาคสนามอีกด้วย ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหลากหลายทางธรรมชาติหากมาเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองจะสามารถดื่มด่ำกับความแปลกตาของอุทยานธรณีเย่หลิวได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ สำหรับการเดินทาง ขึ้น MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานี Taipei Main Station และต่อรถบัส KuoKuang สาย 1815 ไปลงที่ป้ายเย่หลิว ก็จะถึงอุทยาน

เวลาทำการ : 8.00 – 17.00 น.

ราคาโดยประมาณ : 120 NTD (หรือประมาณ 143 บาท)

แผนที่ : 

5. แหลมซานเตียว

แหลมซานเตียว (Sandiao Cape) ที่เที่ยวไต้หวันทางธรรมชาติที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ตั้งของประภาคารซานเดียวเจียว (Sandiaojiao Lighthouse) ที่สร้างขึ้นในปี 1931 ประภาคารแห่งนี้ถูกเรียกว่า “ดวงตาแห่งไต้หวัน (Eye of Taiwan)” ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง เพราะนอกจากจะมีประภาคารที่ตั้งตระหง่านสวยงามน่าถ่ายรูปแล้ว แหลมซานเตียวยังเหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้วย

ชื่อของแหลมซานเตียวถูกตั้งขึ้นโดยชาวสเปนที่ค้นพบแหลมแห่งนี้ จึงตั้งใจตั้งชื่อให้คล้ายกับ “Santiago” นั่นเอง ความสวยงามดังเทพนิยายของแหลมซานเดียวจึงเป็นสถานที่โปรดสำหรับถ่ายละครและถ่ายภาพ Pre Wedding อีกด้วย ถ้าใครอยากไปชมวิวดวงตาแห่งไต้หวัน สามารถขึ้นรถบัสจาก Taipei Main Station สาย 965 ไปยังป้าย Jiufen Old Street และต่อรถบัสสาย 856 ไปยังป้าย Magang (Sandiaojiao Cape Lighthouse) และเดินทางต่อไปอีก 190 ม. ก็จะถึงที่หมาย รวมระยะเวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

เวลาทำการ :

• ช่วงฤดูร้อน : เดือนเมษายน – ตุลาคม 9.00 – 18.00 น.
• ช่วงฤดูหนาว : เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม 9.00 – 17.00 น.
• ปิดวันจันทร์

ราคาโดยประมาณ : ค่ารสบัส 120 NTD (หรือประมาณ 142 บาท)

แผนที่ :

6. ตลาดจิ่งเหมย

ไทเปเป็นเมืองแห่งสตรีทฟู้ดที่มีอาหารน่าลองชิมมากมาย ที่เที่ยวไต้หวันในเมืองไทเปอย่างสตรีทฟู้ดมีอยู่หลายแห่ง เราจะมาแนะนำตลาดจิ่งเหมย (Jingmei Night Market) ตลาดอาหารที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้จักแต่เป็นตลาดที่คนท้องถิ่นนิยมกันมาก โดยเฉพาะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Shih Hsin ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ร้านค้าร้านอาหารที่นี่มีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น บะหมี่อาจง เต้าหู้เหม็น ซาลาเปาทอดน้ำ และชาสมุนไพร ตลาดแห่งนี้จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองเอามากๆ เพราะทั้งได้ลิ้มรสอาหารรสชาติท้องถิ่นและได้สัมผัสบรรยากาศแบบ Local กันเลยทีเดียว จะไปเที่ยวคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวเหงา ได้เลือกชิมอาหารเพลินจนลืมเหงาแน่นอน ถ้าใครอยากมาที่ตลาดแห่งนี้ สามารถเดินทางโดย MRT มาลงที่สถานี Jingmei ทางออก 2 ก็จะถึงตลาดทันที

เวลาทำการ : วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 18:00 – 24:00 น.

ราคาโดยประมาณ : ไม่มีค่าบริการ

แผนที่ :

7. ทะเลสาบเฉียนเต่า

ทะเลสาบเฉียนเต่า (Qiandao Lake) เป็นอีกที่เที่ยวสุดปังที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนักแต่บอกเลยว่าต้องไปให้ได้สักครั้งหนึ่ง เพราะเป็นที่เที่ยวธรรมชาติที่สวยมาก ทะเลสาบเฉียนเต่าเดิมสร้างเป็นอ่างเก็บน้ำและต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็นทะเลสาบ ซึ่งเกาะที่เกิดขึ้นคือภูเขาที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบทำให้เกิดวิวที่สวยงามและถูกขนานนามว่าเป็น ทะเลสาบพันเกาะแห่งชินดิง (Thousand Island Lake 千島湖 in Shinding) คล้ายกับสถานที่เที่ยวยอดนิยมในจีน นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตชาของไต้หวันอีกด้วย จึงทำให้มีร้านชาตั้งอยู่ริมผมที่สามารถชมวิวของทะเลสาบเฉียนเต่าได้เกือบ 180 องศา

วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองสามารถขึ้นรถบัสสาย GR12 ที่ป้าย Xindian Station ไปยังป้าย Xiaogetou และเดินเท้าอีก 1.5 กิโลเมตร เพื่อไปยังทะเลสาบ หรือจะเช่ารถขับไปจากในเมืองก็สะดวกค่ะ

เวลาทำการ : ไม่มีเวลาเปิดปิดทำการ

ค่าบริการ : ไม่มีค่าบริการ

แผนที่ :

Inspire Now ! : ไต้หวันมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ใครชอบเที่ยวเชิงธรรมชาติก็มีอุทยานสวยงามให้เลือกหลากหลาย ใครชอบแบบ Night life ก็มี Night Market ให้ไปลองชิมสตรีทฟู้ดท้องถิ่นกัน หรือใครอยากศึกษาประวัติศาสตร์ ก็มีพิพิธภัณฑ์ให้ไป ใครชอบบรรยากาศความเป็นเมืองก็ต้องท่องไทเปให้เต็มอิ่มกันไปเลย ไต้หวันยังมีเอกลักษณ์ที่ผสมผสานวัฒนธรรมทั้งจีนญี่ปุ่น รวมเป็นความเอเชียเอาไปด้วยกัน เป็นประเทศที่ไปแล้วครบจบที่เดียวก็ว่าได้

DIY INSPIRE NOW ให้ฉันได้ไอเดียในการชาร์จพลังใช่ไหม ? ได้ลิสต์เที่ยวที่ไต้หวันแบบจุใจกันไปแล้ว ใครเวลาน้อย ไม่อยากเดินทางไกล แต่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ ลองไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ที่ไต้หวันดูนะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mmot.com.tw, npm.gov.tw, travel.taipei

Featured Image Credit : freepik.com/lifeforstock