รวมลิสต์สถานที่ เที่ยวคาวากุจิโกะ จัดเต็ม 14 แห่ง มาดูฟูจิต้องไม่พลาด

ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวญี่ปุ่น การไปชมภูเขาไฟฟูจิก็คงเป็นหมุดหมายของใครหลายๆ คน เพราะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของดินแดนอาทิตย์อุทัยเลยก็ว่าได้ และภูเขาไฟฟูจินั้น ก็อยู่ที่ทะเลสาบคาวากุจิ หรือ คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ในจังหวัดยามานาชิ หนึ่งใน 47 จังหวัดในญี่ปุ่น คาวากุจิโกะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว มีบรรยากาศที่สวยงามและสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างใกล้ชิด นอกจากการมาชมภูเขาไฟฟูจิแล้ว ถ้าจะมา เที่ยวคาวากุจิโกะ ยังมีที่ไหนที่น่าสนใจอีกมาก ตามมาดูกันเลยค่ะ

ชวน เที่ยวคาวากุจิโกะ มีมากกว่าฟูจิซัง ปักหมุดที่เที่ยวกันเอาไว้เลย !

คาวากุจิโกะเป็นหนึ่งในห้าทะเลสาบที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ และทะเลสาบแห่งนี้ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังภูเขาไฟฟูจิ ทั้งยังเป็นหนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย คาวากุจิโกะตั้งอยู่ในเมืองฟูจิคาวากุจิโกะ จังหวัดยามานาชิ ซึ่งไม่ไกลจากกรุงโตเกียว การมาเที่ยวคาวากุจิโกะนั้น จะมาเที่ยวแบบค้างคืนหรือเที่ยวแบบ One day trip ก็ยังได้ แล้วรอบๆ ทะเลสาบแห่งนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย จะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

1. Kachi Kachi ropeway : กระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิ

กระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิจะพานักท่องเที่ยวขึ้นไปบนภูเขาเท็นโจ ซึ่งจะเห็นทัศนียภาพโดยรอบได้อย่างเต็มตา นอกจากจะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิในมุมสูงแล้ว ยังเห็นวิวทะเลสาบโดยรอบอีกด้วย เรียกว่ามองเห็นวิวได้แบบพาโนรามา วิวทิวทัศน์เขียวขจีตัดกับสีของผืนน้ำในทะเลสาบ เรียกได้ว่าเป็นภาพที่งดงามน่าทึ่งเลยทีเดียวค่ะ และเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา เราก็จะมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา มองเห็นภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบคาวากุจิ และทะเลสาบอีกสี่แห่งที่อยู่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ ถ้าใครอยากมาชมภูเขาไฟฟูจิในมุมสูง ก็ต้องมานั่งกระเช้าลอยฟ้าเลยค่ะ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing สายสีแดง ลงป้ายรถเมล์ที่ 9 ชื่อป้าย Sightseeing Boat/Ropeway Ent.

แผนที่รถบัส kawaguchiko lake : คลิก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Kachi Kachi ropeway

แผนที่ : 

2. Oishi Park : สวนโออิชิ

Oishi Park เป็นสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน ที่สำคัญคือ สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ในมุมกว้าง สวนแห่งนี้ เป็นที่เที่ยวคาวากุจิโกะทางธรรมชาติที่ผสมผสานความเงียบสงบและความสวยงามของทิวทัศน์ได้อย่างลงตัว จะมาเดินเล่นชมดอกไม้ในสวนสวย มาถ่ายรูปดอกไม้หลากชนิดที่ปลูกตามฤดูกาล อาทิ ดอกชิบะซากุระ ดอกลาเวนเดอร์ ฯลฯ โดยมีภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง หรือมาพายเรือในทะเลสาบก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังสามารถมาปั่นจักรยาน ตกปลา หรือมาทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจได้ตามอัธยาศัย ในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฏาคมของทุกปี ที่นี่จะจัดเทศกาลชมดอกไม้ฤดูร้อน หรือ Fuji Kawaguchiko Herb Festival เทศกาลในญี่ปุ่นที่คนรักดอกไม้ต้องห้ามพลาด

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing สายสีแดง ลงป้ายรถเมล์ที่ 20 ชื่อป้าย Kawaguchiko Natural Living Center

แผนที่รถบัส kawaguchiko lake : คลิก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Oishi Park

แผนที่ : 

3. Kawaguchiko Music Forest Museum : พิพิธภัณฑ์คาวากุจิโกะมิวซิคฟอร์เรส

พิพิธภัณฑ์คาวากุจิโกะมิวซิคฟอร์เรส เป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีโบราณที่อยู่ท่ามกลางหมู่บ้านแบบยุโรป ซึ่งมีการจัดแสดงเครื่องดนตรีจากต่างประเทศ โดยจะจัดแบ่งเป็นโซนต่างๆ ภายในบริเวณหมู่บ้าน เช่น โซน History Hall จัดแสดงเครื่องดนตรีโบราณและมีการโชว์คอนเสิร์ต และ Organ Hall ที่มีการแสดง Dance Organ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นออร์แกนอัตโนมัติที่ไม่ต้องใช้คนเล่น ดูน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ ภายในหมู่บ้านยังมีการแสดงดนตรีสดให้ได้ชมอีกด้วย และก็มีร้านอาหาร มีคาเฟ่ มีร้านขายของที่ระลึกให้ได้เลือกซื้อกันมากมาย หากมาเที่ยวคาวากุจิโกะแล้วสภาพอากาศไม่เป็นใจ ไม่ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิ จะเปลี่ยนเป็นการมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ได้นะคะ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing สายสีแดง ลงป้ายรถเมล์ที่ 14 ชื่อป้าย Kawaguchiko Museum of art

แผนที่รถบัส kawaguchiko lake : คลิก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Kawaguchiko Music Forest Museum

แผนที่ : 

4. Itchiku Kubota Art Museum : พิพิธภัณฑ์ศิลปะคูโบตะ

ชื่นชมผลงานศิลปะกิโมโนอันประณีตที่สร้างโดย Itchiku Kubota ศิลปินสิ่งทอชื่อดังของญี่ปุ่น จัดแสดงชุดกิโมโนที่สะท้อนถึงความสามารถและวิสัยทัศน์อันน่าทึ่งของคูโบตะผ่านการสร้างสรรค์ชุดกิโมโนแบบต่างๆ คูโบตะได้อุทิศชีวิตของตัวเองเพื่อฟื้นฟูศิลปะดั้งเดิมของการย้อมผ้าไหมสึจิกาฮานะ (辻が花) ซึ่งเป็นเทคนิคที่เคยเฟื่องฟูในยุคมุโรมาจิ การออกแบบชุดกิโมโนของคูโบตะมีสีสันสดใส มีลวดลายที่ซับซ้อน และเป็นงานฝีมือที่มีความปราณีตพิถีพิถันอย่างยิ่งยวด ทำให้เสื้อผ้าแต่ละชิ้นเป็นผลงานศิลปะอย่างแท้จริง โดยเฉพาะผลงานที่ชื่อว่า “Symphony of Light”  ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติทั้ง 4 ฤดู และนิยามของ “จักรวาล” ในแบบฉบับของคูโบตะ เมื่อนำกิโมโนเหล่านั้นมาเรียงต่อกัน ก็จะกลายเป็นรูปภูเขาไฟฟูจิขนาดใหญ่ แต่น่าเสียดายที่ผลงานชุดนี้ยังไม่สำเร็จดี ศิลปินก็ได้เสียชีวิตไปก่อนในวัย 85 ปี อย่างไรก็ตาม ใครที่ชื่นชอบและหลงใหลศิลปะแห่งผ้าและเครื่องแต่งกาย ก็ควรจะมาเยือนที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้ได้สักครั้งค่ะ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing สายสีแดง ลงป้ายรถเมล์ที่ 17 ชื่อป้าย Itchiku Kubota Art Museum

แผนที่รถบัส kawaguchiko lake : คลิก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Itchiku Kubota Art Museum

แผนที่ : 

5. Kawaguchiko Natural Living Center

Kawaguchiko Natural Living Center เป็นจุดท่องเที่ยวที่สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้อีกมุมหนึ่ง ถ้าใครไปเที่ยวคาวากุจิโกะในช่วงเดือนเมษายนพอดี ก็จะได้เห็นดอกซากุระบานสะพรั่งที่นี่ บรรยากาศดูสวยงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียวค่ะ นอกจากจะมาชมภูเขาไฟฟูจิแล้ว ที่ Kawaguchiko Natural Living Center ยังมีรูปสลักหินภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณหน้าตึกของฝาก สามารถมาถ่ายรูปเทียบกับฟูจิซังของจริงได้เลย เมื่อเดินเล่นจนพอใจแล้ว ก็มาแวะซื้อของฝากกันได้ มีทั้งเครื่องหอม ขนม น้ำผลไม้ และผลผลิตทางการเกษตรทั้งแบบสดและแปรรูป เป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถมาแวะกันได้ค่ะ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing สายสีแดง ลงป้ายรถเมล์ที่ 20 ชื่อป้าย Kawaguchiko Natural Living Center

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Kawaguchiko Natural Living Center

แผนที่ : 

6. Iyashi no Sato : พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะ

Iyashi no Sato หรือพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะ ได้รับการบูรณะและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งให้ผู้เข้าชมได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและสินค้าหัตกรรมแบบดั้งเดิม เช่น การทอผ้า การปั้นเครื่องปั้นดินเผา และพิธีชงชา นอกจากนี้ ยังมี Art Gallery ที่แสดงงานศิลปะท้องถิ่น มีสตูดิโอถ่ายภาพที่นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดกิโมโนและชุดเกราะซามูไรเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก หนึ่งในไฮไลท์ของ ที่เที่ยวคาวากุจิโกะ Iyashi no Sato คือทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบ Saiko และภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งมองเห็นได้จากจุดชมวิวต่างๆ ภายในหมู่บ้าน ถ้าใครอยากมาศึกษาวัฒนธรรมของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในย่านคาวากุจิโกะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็น่าสนใจค่ะ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส Saiko Sightseeing สายสีเขียว ลงป้ายรถเมล์ที่ 48 ชื่อป้าย Saiko iyashi-no-Sato Nenba

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Iyashi no Sato

แผนที่ : 

7. Fuji-Q Highland : สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์

เอาใจวัยรุ่นกับการมาเที่ยวคาวากุจิโกะแบบตื่นเต้นเร้าใจ Fuji-Q Highland เป็นสวนสนุกที่ขึ้นชื่อว่าหวาดเสียวที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะเครื่องเล่นรถไฟเหาะ “Fujiyama” หนึ่งในรถไฟเหาะที่สูงที่สุดและเร็วที่สุดในโลก และรถไฟเหาะ “Eejanaika” ที่ตีลังกาหมุนแบบ 4 มิติ ม้วนหน้าม้วนหลัง รับรองว่าไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร นอกจากรถไฟเหาะแล้ว Fuji-Q Highland ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ทั้งโรงพยาบาลผีสิง เหมืองร้าง เรือโจรสลัด หรือแม้แต่เครื่องเล่นเบาๆ อย่างถ้วยม้าหมุนก็มี นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึกอีกด้วย

วิธีการเดินทาง : จากสถานี Kawaguchiko ไปยัง Fuji-Q Highland ด้วยรถบัส ประมาณ 10 นาที

ข้อมูลรถบัส : คลิก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Fuji-Q Highland

แผนที่ : 

8. Fujiyama Onsen : ฟูจิยามะ ออนเซน

Fujiyama Onsen เป็นออนเซนที่เงียบสงบและงดงาม ตั้งอยู่ในบริเวณภูเขาไฟฟูจิ รับรองว่าบรรยากาศดีสุดๆ ออนเซ็นหรือน้ำพุร้อนขึ้นชื่อในเรื่องการบำบัดรักษาความเจ็บป่วยเมื่อยล้า ผู้ที่ได้มาแช่ออนเซนก็จะได้ฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ ที่นี่มีที่พักสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมหลากหลายประเภท แต่ละห้องออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้มาเยือน นอกจากการแช่ออนเซนแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกหลายอย่าง อาทิ การเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ ไปตกปลาในทะเลสาบ หรือมาพักผ่อนหย่อนใจและดื่มด่ำบรรยากาศโดยรอบก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับที่ปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับรสชาติญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง เป็นการเที่ยวคาวากุจิโกะแบบผ่อนคลายและได้ชาร์ตพลังอย่างเต็มที่ค่ะ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing สายสีน้ำตาล เป็นรถรับส่งฟรีสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ

ข้อมูลรถบัส : คลิก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Fujiyama Onsen

แผนที่ :

9. Chureito Pagoda เจดีย์แดง 5 ชั้น

นอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้ว เจดีย์ชูเรโตก็เป็นหนึ่งในที่เที่ยวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมากๆ และมักจะถูกนำมาใช้เป็นภาพโปรโมทเที่ยวญี่ปุ่นอยู่เสมอ เจดีย์ชูเรโตเป็นเจดีย์ 5 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อปี 1959 เพื่อเป็นอนุสาวรีย์วีรชนที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามของเมืองฟูจิโยชิดะช่วงศตวรรษที่ 19 สถาปัตยกรรมของเจดีย์แห่งนี้บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ต้องขึ้นบันไดไป 400 ขั้นเมื่อชมความงามของเจดีย์ และเมื่อไปถึงจุดชมวิวแล้ว จะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิแบบพาโนรามาและมีเจดีย์สีแดงสวยอยู่ด้านหน้า เป็นภาพที่งดงามมากทีเดียวค่ะ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมเจดีย์แดงคือช่วงซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ หรือจะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็เหมาะ เนื่องจากต้นไม้ที่อยู่รายรอบช่วยเพิ่มความสวยงามของธรรมชาติให้กับภูมิทัศน์ที่สวยงามอยู่แล้ว รับรองว่าได้ภาพวิวที่สวยงดงามอลังการแน่นอนค่ะ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟจาก Kawaguchiko ไปลงสถานี Shimoyoshida ประมาณ 10 นาทีและเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Chureito Pagoda

แผนที่ :

10. Oshino Hakkai : หมู่บ้านน้ำใสแห่งภูเขาไฟฟูจิ

Oshino Hakkai หรือหมู่บ้านน้ำใสแห่งภูเขาไฟฟูจิ เป็นหมู่บ้านที่งดงามและเงียบสงบ มีชื่อเสียงในด้านธรรมชาติที่สวยงามโดยรอบ ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 แห่งภูเขาไฟฟูจิ และมักถูกเรียกว่า “น้ำพุทั้งแปดแห่งโอชิโนะ” หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งชื่อตามน้ำพุแปดแห่งที่ไหลมาจากภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้เกิดบ่อน้ำใสสะอาดที่มาจากธรรมชาติ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในโอชิโนะฮักไก เป็นที่อยู่ของปลาและสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปตามสะพานไม้ที่เชื่อมระหว่างสระน้ำและเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบของสภาพแวดล้อมโดยรอบ และที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมเอาไว้ มีร้านค้า ร้านกาแฟ และพิพิธภัณฑ์ ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของหมู่บ้าน ให้บรรยากาศคล้ายกับย้อนไปสู่อดีตเลยทีเดียวค่ะ

วิธีการเดินทาง : เดินทางจากสถานี Kawaguchiko และสถานี Gotemba นั่งรถบัส ใช้เวลา 1 ชั่วโมง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Oshino Hakkai

แผนที่ :

11. Narusawa Ice Cave  : ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ

ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ห้ามพลาด การก่อตัวของน้ำแข็งภายในถ้ำเกิดจากน้ำใต้ดินที่เย็นจัดจนกลายเป็นน้ำแข็งและส่องประกายระยิบระยับ สร้างบรรยากาศที่งดงามน่าทึ่ง อุณหภูมิภายในถ้ำคงที่ที่ประมาณ 3 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะไม่ได้มีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย ถ้ำแห่งนี้คล้ายกับเป็นตู้เย็นตามธรรมชาติสำหรับชาวบ้านในช่วงสมัยเอโดะ ช่วยถนอมอาหารให้กับผู้คนในสมัยก่อน หากจะมาเที่ยวถ้ำแห่งนี้ อย่าลืมสวมเสื้อผ้าอุ่นๆ และสวมรองเท้าที่กันลื่นมาด้วยนะคะ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส ด้านนอกสถานี Kawaguchiko จะเจอป้ายรถเมล์ ขึ้นรถ “Kawaguchiko Loop Bus” และลงที่ป้าย Narusawa Ice Cave การเดินทางใช้เวลาประมาณ 25 นาที

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Narusawa Ice Cave

แผนที่ :

12. Kawaguchiko Konohana Museum : หอศิลป์คาวากุจิโกะโคโนะฮานะ

มาดูที่ เที่ยวคาวากุจิโกะ ที่เหมาะกับสายอาร์ตอีกแห่ง หอศิลป์แห่งนี้อยู่ใกล้กับทะเลสาบคาวากุจิ จัดแสดงผลงานศิลปะญี่ปุ่นร่วมสมัย ทั้งผลงานภาพวาดที่วาดโดยนักเขียนอิเคดะ อากิโกะ เป็นตีมแฟนตาซีที่มีเจ้าแมว Dayan เป็นตัวละครหลัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมนิทรรศการต่างๆ ที่มีทั้งภาพวาด ประติมากรรม เซรามิก และสื่อทางศิลปะอื่นๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับสไตล์ศิลปะที่หลากหลาย หลังจากเยี่ยมชมหอศิลป์คาวากุจิโกะโคโนะฮานะจนอิ่มใจแล้ว อย่าลืมแวะมาคาเฟ่สไตล์ยุโรปที่อยู่ข้างๆ นะคะ เพราะว่าสวนด้านหลังเป็นจุดชมวิวทะเลสาบและภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามทีเดียว

วิธีการเดินทาง : จากสถานี Kawaguchiko นั่งรถ Retro Bus ประมาณ 10 นาที

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Kawaguchiko Konohana Museum

แผนที่ :

13. Mount Fuji World Heritage Center : พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลความรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิ ทั้งในเรื่องปรากฎการณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีความเกี่ยวข้องกับภูเขาไฟฟูจิ มีการจัดแสดงนิทรรศการอย่างหลากหลาย เน้นไปที่การก่อตัวทางธรณีวิทยา ความหลากหลายทางชีวภาพ และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของภูเขาไฟฟูจิ และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีคอลเลกชั่นงานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย จุดเด่นของที่นี่ก็คือสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภูเขาไฟฟูจินั่นเองค่ะ ประกอบกับสภาพแวดล้อมโดยรอบมีบรรยากาศดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเรียนรู้ครบครัน พิพิธภัณฑ์ Mount Fuji Museum World Heritage Center จึงเป็นที่ เที่ยวคาวากุจิโกะ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

วิธีการเดินทาง : จากสถานี Fuji ไปยัง สถานี Fujinomiya โดยใช้สายTokaido Line และเดินต่ออีก 10 นาที

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Mount Fuji World Heritage Center

แผนที่ :

14. Nagasaki Park สวนนางาซากิ

สวนนางาซากิตั้งอยู่ในคาวากุจิโกะ เป็นสถานที่เงียบสงบและงดงาม สวนสาธารณะแห่งนี้สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างเต็มตา ภายในสวนมีดอกไม้ญี่ปุ่นหลากหลายชนิด มีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีโรงน้ำชาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมให้ผู้ที่มาเยือนได้เพลิดเพลินกับการจิบชาท่ามกลางบรรยากาศดีๆ สวนสาธารณะแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมสำหรับการมาปิกนิกและชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิอีกด้วยค่ะ ถ้าไม่รู้จะไปที่ไหนดี ก็มาเดินเล่นที่สวนแห่งนี้ได้นะคะ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส Saiko Sightseeing สายสีเขียว ลงป้ายรถเมล์ที่ 24 ชื่อป้าย Yagisaki Park

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Nagasaki Park

แผนที่ :

Inspire Now ! : ฤดูกาลที่ฮอตฮิตสำหรับการมาเที่ยวทะเลสาบคาวากุจิก็คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ซึ่งจะเห็นภาพดอกซากุระบานโดยมีภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง และในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีราวๆ เดือนตุลาคม – พฤศจิกายนก็เหมาะเช่นกัน คาวากุจิโกะ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับใครหลายๆ คน ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม และฟูจิซังที่ใครก็อยากไปเห็นสักครั้งในชีวิต หากใครได้ไปแล้วจะต้องประทับใจและไม่มีวันลืมที่นี่แน่นอน ถ้าใครมีเเพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ละก็ destination นี้ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยค่ะ

DIY INSPIRE NOW ช่วยเติมเต็มทริปการเดินทางของฉันใช่ไหม ? เที่ยวคาวากุจิโกะได้อย่างจุใจ อยากไปที่ไหนก็วางแผนได้เลยนะคะ ใครชอบที่ไหนบ้าง มาแนะนำกันได้นะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : tsunagujapan.com, jw-webmagazine.com, en.kawaguchiko.net

Featured Image Credit : vecteezy.com/Nuttawut Uttamah