ประเทศไม่มีกลางคืน สว่างตลอดทั้งวัน มีที่ไหนบ้าง ไปสำรวจกันเลย !

เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เคยมีความรู้สึกว่าไม่อยากให้หมดวันเลย อยากเที่ยวต่ออีกสักหน่อยเพราะกำลังสนุก เพราะได้ไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย ไม่อยากให้พระอาทิตย์ตกดินเลย มีใครรู้สึกแบบนี้กันบ้างไหมคะ ? ถ้าใครเคยมีความรู้สึกแบบนี้ ลองไปเที่ยว ประเทศไม่มีกลางคืน ที่อาจจะตอบโจทย์เรา บางคนอาจเคยได้ยินชื่อประเทศที่มี “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” อย่างนอร์เวย์ แต่ความจริงแล้ว มีมากกว่านั้น ยังมีประเทศที่มีแต่กลางวันอีกหลายแห่งด้วยกัน จะมีที่ไหนบ้าง มาสำรวจไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

ประเทศไม่มีกลางคืน มีที่ไหนบ้าง ? เกิดขึ้นได้อย่างไร ? มารู้จักให้มากขึ้น

โดยปกติแล้วโลกจะหมุนรอบตัวเอง ซึ่งด้านที่หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ก็จะเป็นเวลากลางวัน ด้านที่อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ก็จะเป็นเวลากลางคืน แต่เพราะแกนโลกเอียง ทำให้ประเทศที่อยู่ติดขั้วโลกบางส่วนต้องหันด้านใดด้านหนึ่งเข้าหาดวงอาทิตย์ตลอดเวลาเป็นระยะเวลาหลายเดือน โดยเฉพาะประเทศที่อยู่บริเวณ arctic circle ขึ้นไป จึงสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ได้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในฤดูร้อน เรียกว่าปรากฏการณ์ “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” หรือ Midnight Sun นั่นเองค่ะ ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นบริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ และประเทศที่อยู่ในแถบๆ บริเวณนี้ ก็จะเป็นประเทศไม่มีกลางคืน มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ตลอดทั้งวัน จะมีประเทศอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย !

1. Norway – นอร์เวย์

นอร์เวย์เป็นประเทศไม่มีกลางคืนที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุด โดยเฉพาะการไปดูแสงเหนือและพระอาทิตย์เที่ยงคืน เพราะได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน” เลยล่ะค่ะ จุดชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนและแสงเหนือที่มีชื่อคือเมืองทรอมโซ (Tromso) แต่นอกจากนี้ก็ยังมีเมืองและจุดชมวิวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่างเช่นเกรังเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) จุดชมวิวดาล์สนิบบา (Dalsnibba) ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในยุโรปอย่างมิวนิก ประเทศเยอรมัน หรือบูดาเปสต์ในฮังการี เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศนอร์เวย์แต่ละจุดจะมีมีระยะทางห่างกัน จึงนิยมเช่ารถสำหรับขับเป็น Roadtrip หรือใช้บริการรถไฟและทัวร์ท้องถิ่น

แผนที่ : 

2. ไอซ์แลนด์ –  Iceland

ถ้าใครชอบเที่ยวแบบชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ ชอบการถ่ายรูปแบบ Landscape และยังได้ดูพระอาทิตย์เกือบตลอดทั้งวัน ต้องมาที่ไอซ์แลนด์เลยค่ะ ขอบอกว่าทัศนียภาพทางธรรมชาตินั้นงดงามอลังการมากๆ ไอซ์แลนด์เต็มไปด้วยสถานที่เที่ยวอย่างน้ำตก บลูลากูน หรือภูเขาอย่างเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) ที่โด่งดัง ถ้าชอบสถานที่ท่องเที่ยวและวิวที่อลังการ Iceland คือประเทศที่ตอบโจทย์สุดๆ ลองไปเยือนประเทศที่ไม่มีกลางคืนที่นี่ดูสักครั้งสิคะ และยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอีกด้วย ทั้งนี้ ควรเช็กสภาพอากาศและช่วงเวลาที่จะเดินทางเอาไว้ด้วย เพราะสภาพอากาศที่ไอซ์แลนด์มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ซึ่งอาจกระทบกับการทำกิจกรรมท่องเที่ยวของเราได้ และนิยมเช่ารถขับเพื่อชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้อย่างตามใจ

แผนที่ : 

3. Greenland – กรีนแลนด์

กรีนแลนด์เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นดินแดนปกครองตนเองของประเทศเดนมาร์ก แม้ว่าจะชื่อกรีนแลนด์ แต่ความจริงแล้วภูมิประเทศประกอบไปด้วยน้ำแข็งเป็นหลัก มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ด้วยเพราะอยู่ขึ้นไปทางเหนือจนเกือบถึงขั้วโลก ทำให้ส่วนใหญ่ของกรีนแลนด์ถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดเวลา มีธารน้ำแข็งที่สวยงาม และพระอาทิตย์เที่ยงคืน กรีนแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีแต่กลางวัน ไม่มีกลางคืน และมีกลางวันยาวนานเป็นเวลาหลายเดือน มีแสงเหนือหรือออโรร่าที่สวยงาม ส่วนเมืองทางใต้นั้นจะเป็นเมืองที่มีชุมชนคนอยู่เป็นกลุ่มซึ่งช่วงที่ไม่มีน้ำแข็งปกคลุมจะมีกิจกรรมให้ทำมากมายทีเดียว สำหรับคนไทยที่จะไปกรีนแลนด์ต้องยื่นคำร้องขอเชงเก้นวีซ่ากับสถานทูตเดนมาร์ก และต้องมีประทับตราว่า Valid for Greenland ก่อนถึงจะเข้าประเทศได้ และเมื่อไปถึงกรีนแลนด์ หากต้องการออกท่องเที่ยวนอกเมืองหลักต้องจอง local tour เท่านั้นค่ะ

แผนที่ : 

4. Finland – ฟินแลนด์

ฟินแลนด์แดนซานต้าเป็นประเทศไม่มีกลางคืนที่มีพรมแดนอยู่ติดกับสวีเดน นอร์เวย์และรัสเซีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เราสามารถชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ และช่วงเวลาหนึ่งของปีจะมีช่วงกลางวันที่ยาวนานเมื่อเทียบกับช่วงเวลากลางคืน ถือเป็นประเทศที่มีธรรมชาติสวยงาม และยังเหมาะสำหรับการมาล่าแสงเหนืออีกด้วย ถ้าใครจะไปเที่ยวฟินแลนด์ การเดินทางในประเทศมีทั้งบัส รถไฟ หรือจะซื้อทัวร์ท้องถิ่นก็แสนสะดวก นิยมไปเที่ยวที่ กรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของประเทศ รวมถึงเมืองปอร์โว แลปแลนด์ ป้อมซัวแมนลินน่า เมืองตัมเปเร เมืองตุรกุ เป็นต้น

แผนที่ : 

5. Sweden – สวีเดน

อีกประเทศไม่มีกลางคืนที่อยู่ในแถบแสกนดิเนเวีย มีอากาศหนาวเป็นส่วนใหญ่ และภูมิประเทศสวยงามเหมาะกับการท่องเที่ยว เมืองหลวงอย่างกรุงสตอกโฮล์มก็มีประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์มากมายให้เรียนรู้ นอกจากนี้ หากชอบกีฬาฤดูหนาวอย่างสกี ที่สวีเดนก็จะมีสกีรีสอร์ทดีๆ ให้มาเล่นกันได้อย่างมากมาย สวีเดนเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่มีกลางคืน และในฤดูร้อนกลางวันอาจจะยาวนานติดต่อกันหลายวัน สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในสวีเดนนั้น ในเมืองใหญ่จะมีบัสหรือรถไฟให้บริการ หรือสามารถเดินเล่นสบายๆ รอบๆ เมืองก็ได้เหมือนกัน

แผนที่ : 

6. Canada – แคนาดา

แคนาดาเป็นประเทศไม่มีกลางคืนที่ไม่ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มของประเทศยุโรป แต่เพราะแคนาดามีส่วนที่อยู่ติดกับขั้วโลกเหนือจึงทำให้มีหลายเมืองที่มีกลางวันยาวนาน โดยเฉพาะหมู่เกาะทางด้านตอนเหนือของแคนาดาอย่างเมือง Nunavut และ Yukon อันเป็นโซนที่มีพระอาทิตย์เที่ยงคืนอยู่หลายเดือนในรอบปี จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีแต่กลางวัน นอกจากนี้ เมือง Yukon ยังมียอดเขาที่สูงที่สุดในแคนาดาอย่างภูเขาโลแกน ตั้งอยู่อีกด้วย ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติงดงามมากๆ ค่ะ

แผนที่ : 

7. Alaska, United States – อลาสก้า, สหรัฐอเมริกา

อลาสก้าเป็นรัฐที่อยู่เหนือสุดของประเทศสหรัฐอเมริกาที่บางคนอาจจะไม่รู้ว่า นี่ก็เป็นหนึ่งในประเทศไม่มีกลางคืนเช่นกัน เพราะอลาสก้านั้นอยู่ติดกับขั้วโลกเหนือทำให้มีบางช่วงของปีที่จะมีกลางวันยาวนาน และยังมีแสงเหนือให้เราเห็นได้อีกด้วย  เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบกิจกรรมเมืองหิมะเช่นสกี ล่องธารน้ำแข็ง ชมวาฬ สำรวจธรรมชาติซึ่งจะได้เห็นสัตว์ป่า เช่น หมี, กวางมูส, หมาป่า และตัวบีเวอร์ ตัวเป็นๆ จะซื้อทัวร์นั่งเรือไปชมฟยอร์ด เดินป่าในอุทยาน Chugach State Park หรือพายเรือคายัค ใครชอบกิจกรรมแบบนี้ ต้องมาที่เมืองเหนือสุดของอเมริกา และเมื่อถึงอลาสก้าสามารถเช่ารถหรือใช้ทัวร์ท้องถิ่นไปท่องเที่ยวได้ อย่าลืมไปกินปูอลาสก้า และ Alaska King Salmon ที่เลื่องชื่อกันด้วยนะคะ

แผนที่ : 

8. Russia – รัสเซีย

รัสเซียเป็นประเทศที่มีอาณาเขตกว้างขวาง และส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซียนั้น ก็สามารถมองเห็นแสงสว่างได้ตลอดทั้งวัน โดยจะมีการจัดงานที่เรียกว่า WHITE NIGHT FESTIVAL ซึ่งถือเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ จัดขึ้นที่ Saint Petersburg เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเมื่อได้สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองโดยเทศกาลจะยาวนานถึง 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม -กรกฎาคม ซึ่งจะตรงกับช่วงหน้าร้อนที่ได้เห็นปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนพอดี ถ้าใครไปเที่ยวรัสเซียช่วงเวลาดังกล่าว ก็จะได้เห็นทั้งเทศกาลและปรากฏการณ์ไร้กลางคืน นอกจากนี้ ยังมีเมืองมูร์มันสก์ (Murmansk) เมืองโนรีลสก์ (Norilsk) และเมืองอาร์คังเกลสก์ (Arkhangelsk) ในรัสเซียที่ไม่มีช่วงเวลากลางคืนเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีแต่กลางวันอีกแห่งหนึ่งเลยค่ะ

แผนที่ : 

Inspire Now ! : ประเทศเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน หรือไม่มีช่วงกลางคืนในฤดูร้อนเป็นหลัก และแม้ว่าจะเป็นประเทศที่มีแต่กลางวันแต่ก็อยู่ในแถบขั้วโลก จึงมีอากาศหนาวจัดแม้ในช่วงที่มีแสงอาทิตย์ตลอดทั้งวัน ถ้าใครจะไปเที่ยวแนะนำให้เช็กสภาพอากาศให้ดีก่อนไป จะได้เตรียมเสื้อผ้าไปให้เหมาะสม และแพลนได้ว่าจะทำกิจกรรมอะไรบ้างที่สอดคล้องกับสภาพอากาศ เช่น อยากไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืน ควรไปช่วงไหน อยากไปดูแสงเหนือ ควรไปฤดูอะไร เพราะถ้าไปผิดฤดูก็อาจพลาดโอกาสชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติตามที่ตั้งใจเอาไว้ค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากออกเดินทางใช่ไหม ? เคยไปประเทศไหนมาแล้วบ้าง หรืออยากไปประเทศไหนก็คอมเมนต์บอกกันได้นะคะ และถ้าใครอยากรู้จักห้องสมุดสวยๆ ทั่วโลกให้มากขึ้น ก็ไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยนะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : punchng.com, timesofindia.indiatimes.com

Featured Image Credit : freepik.com/wirestock