แนะนำ หูฟัง วิ่ง 10 ยี่ห้อ สำหรับใส่วิ่ง เพื่อการออกกำลังกายที่สนุกเพลิดเพลินมากกว่าเดิม

มีใครชอบวิ่งออกกำลังกายบ้างไหมคะ ? การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและสะดวกมากที่สุด ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมใดๆ มีเพียงแค่มีรองเท้าวิ่งคู่เก่งก็สามารถออกกำลังกายได้แล้ว ไม่ว่าจะวิ่งในสวนสาธารณะ วิ่งบนลู่วิ่ง วิ่งในสนามกีฬา หรือแม้แต่วิ่งในหมู่บ้านก็ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าวิ่งเฉยๆ ก็อาจจะเบื่อได้ บางคนก็เลยชอบฟังเพลงไปด้วย เพราะฉะนั้น จะขาด หูฟัง วิ่ง ไปได้อย่างไร เพื่อให้การวิ่งออกกำลังกายไม่น่าเบื่อและสนุกมากกว่าเดิม เรามีหูฟังใส่วิ่งมาแนะนำแล้วค่ะ

แนะนำ หูฟัง วิ่ง ใส่วิ่งได้ชิลๆ ไม่มีหลุด วิ่งได้สนุกกว่าเดิม

สำหรับการเลือกหูฟังใส่วิ่ง ควรเลือกหูฟังแบบไร้สาย เพื่อความคล่องตัวในการวิ่ง ที่สำคัญคือต้องกระชับกับหูของเราได้พอดี เพราะการวิ่งออกกำลังนั้นจะต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา หากหูฟังหลวมเกินไปก็อาจจะทำให้หลุดหายหรือตกพื้นแล้วชำรุดเสียหายได้ และควรมีน้ำหนักเบา จะได้ไม่รู้สึกหนักหรือรำคาญขณะใส่วิ่ง อีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่ต้องมีคือ คุณสมบัติกันน้ำ เพราะจะได้ไม่ชำรุดเมื่อโดนน้ำ โดนเหงื่อ ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่เราวิ่ง หรือเวลาเราเผลอล้างมือ ล้างหน้า แล้วน้ำอาจจะโดนหูฟังได้ เพราะฉะนั้น การเลือกหูฟังที่กันน้ำได้ ก็จะดีกว่าค่ะ

เคล็ดลับในการเลือกหูฟัง วิ่ง เลือกอย่างไร ? ให้เหมาะกับเรา

หูฟังสำหรับใส่วิ่งนั้นมีอยู่หลายแบบด้วยกัน ทั้งมีแบบคล้องคอ เกี่ยวหู แบบ In – Ear หรือจะเป็นแบบที่มีฟังก์ชั่นจับเสียงภายนอก แล้วควรเลือกอย่างไรดี ? เรามี Tips มาบอกค่ะ

1. หูฟังแบบ Canal หรือ Canal Headphones ให้เสียงดังฟังชัด เหมาะสำหรับคนที่กังวลเรื่องหูฟังหล่นหายขณะวิ่ง เพราะสามารถเข้าไปในช่องหูของเราได้ลึกที่สุด 
2. หูฟังแบบเกี่ยวหู หรือ Ear Clips เป็นหูฟังที่มีส่วนก้านโค้งออกมาเกี่ยวเข้ากับหู ทำให้เลื่อนหลุดยาก ไม่ต้องกังวลว่าหูฟังจะหล่นหาย และไม่ต้องจัดหูฟังให้เข้าที่บ่อยๆ วิ่งได้สบายๆ ฟังเพลงได้ยาวๆ ไม่มีสะดุด
3. หูฟังแบบ In – Ear จะช่วยป้องกันเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม แต่เหมาะสำหรับใส่วิ่งในยิมหรือในสวนสาธารณะมากกว่า หากใส่วิ่งตามถนนอาจไม่ได้ยินเสียงรถหรือเสียงแตร ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ 
4. หูฟังพร้อมฟังก์ชั่นจับเสียงภายนอก ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน โดยมีการทำงานคือ ใช้ไมโครโฟนแบบหันออกเพื่อช่วยตรวจจับเสียงภายนอก นอกจากจะฟังเพลงได้อย่างคมชัดแล้ว ยังสามารถได้ยินรอบข้างไปพร้อมๆ กัน และยังช่วยให้สื่อสารกับคนอื่นได้โดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังเข้าๆ ออกๆ อีกด้วย

10 ยี่ห้อหูฟัง วิ่ง เพื่อการวิ่งออกกำลังกายที่สนุกเพลิดเพลินมากกว่าเดิม

1. Apple Airpods Pro รุ่น 2

ใครที่เป็นสาวก Apple อยู่แล้ว ต้องห้ามพลาดหูฟัง วิ่งของ Apple เลยค่ะ โดย Apple Airpods Pro รุ่น 2 มีฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี และยังมีโหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ ซึ่งจะลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone หรือ นาฬิกาออกกำลังกาย Apple Watch ได้อย่างง่ายดาย สลับเสียงได้อย่างไม่มีสะดุดระหว่างเปลี่ยนอุปกรณ์ มีจุกซิลิโคน 4 ขนาดให้เลือก เพื่อปรับให้พอดีกับหูของเรามากที่สุด ใส่วิ่งได้อย่างไม่ต้องกังวลเลยค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 8,290 – 8,490 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

2. EDIFIER NeoBuds Pro TWS

หูฟัง วิ่ง อันต่อมาที่อยากแนะนำก็คือ EDIFIER NeoBuds Pro TWS เป็นหูฟังเสียงสเตอริโอไร้สายที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี เสียงมีความละเอียดสูง ฟังเพลงได้นานต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง ทั้งเอียร์บัดและเคสชาร์จรองรับการชาร์จได้อย่างรวดเร็ว กันฝุ่นและน้ำระดับ IP54 ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะชำรุดจากการโดนน้ำหรือเหงื่อ ใส่ออกกำลังกายกลางแจ้งได้สบาย สามารถใช้ได้กับทั้งโทรศัพท์แอนดรอยด์และ iPhone มีดีไซน์ทันสมัย สวยงาม คุณภาพสมราคา

ราคาโดยประมาณ : 2,990 – 3,290 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

3. Lenovo XE05

ใครที่กำลังมองหาหูฟัง วิ่ง ราคาประหยัดอยู่ละก็ แนะนำเป็น Lenovo XE05 ตัวนี้เลยค่ะ โดยหูฟังตัวนี้ ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายโดยเฉพาะ มีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา ทำให้สวมใส่สบาย ไม่ต้องกังวลว่าหูฟังจะร่วงหล่นขณะวิ่งเพราะมีสายคล้องคอเพิ่มความกระชับ สามารถกันน้ำ กันฝุ่น กันเหงื่อได้เป็นอย่างดี ด้วยความสามารถในการกันน้ำระดับ IPX5 ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้ดี วัสดุยืดหยุ่นได้ ง่ายต่อการจัดเก็บ ถ้าใครงบมีจำกัด ก็แนะนำเป็นตัวนี้เลยค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 169  – 240 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

4. Sony WI-XB400

ใครที่เป็นแฟน Sony จะรู้ดีว่า แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเสียง โดยหูฟังของ Sony รุ่นนี้ เหมาะสำหรับการใส่ออกกำลังกายมากๆ มาพร้อมเอียร์บัดแม่เหล็กที่ช่วยป้องกันสายคล้องคอพันกัน และสายคล้องคอมีความยืดหยุ่น พกใส่กระเป๋าไปได้โดยไม่กินพื้นที่ มีเทคโนโลยี Extra Bass ให้เสียงเบสที่หนักแน่น ทุ้มลึก ใครที่ชอบฟังเพลงจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน ทั้งยังรองรับการโทรแบบแฮนด์ฟรี มีไมโครโฟนในตัว ทั้งยังสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว หากชาร์จเพียง 10 นาที จะสามารถใช้งานได้นานถึง 60 นาทีเลยทีเดียว

ราคาโดยประมาณ : 1,890 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

5. Soundpeats H1 Bluetooth 5.2

หูฟัง วิ่ง ของ Soundpeats รุ่นนี้ เป็นหูฟังแบบ True Wireless แบบ In – Ear ที่กระชับกับหูของเราได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสาย Sport ที่รักการออกกำลังกายมากๆ แถมยังมี Game Mode เล่นเกมได้ไม่มีสะดุด ไมโครโฟนตัดเสียงแทรกได้ดี จะใช้คุยโทรศัพท์ก็ได้ยินเสียงคมชัด มาตรฐานกันน้ำในระดับ IPX5 แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 10 ชั่วโมง เชื่อมต่อด้วย Bluetooth รุ่นใหม่ล่าสุด ให้การฟังเพลงลื่นไหลไม่มีสะดุด แถมยังมาในดีไซน์เรียบเท่ ทรงสปอร์ตสีเทาและสีดำ เหมาะสำหรับการใส่วิ่งมากๆ ค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 2,499 – 2,590 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

6. Jabra Elite 4 Active

หูฟังใส่วิ่งของ Jabra เป็นหูฟังที่มีคุณภาพดี เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายหลากประเภท กันน้ำได้ในระดับ IP57 สามารถตัดเสียงรบกวนได้ดี มีไมโครโฟนถึง 4 ตัว ช่วยให้คุยโทรศัพท์ได้เสียงคมชัดมากยิ่งขึ้น และยังเป็นหูฟังแบบมีฟังก์ชั่นจับเสียงภายนอก ทำให้สามารถได้ยินเสียงรอบตัวได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยหากใส่วิ่งบนถนน แถมยังชาร์ตแบตได้อย่างรวดเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที ก็ใช้งานได้ยาวนานถึง 60 นาที เป็นหูฟัง วิ่ง ที่ฟังก์ชั่นครบมากๆ ค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 3,390 – 3,790 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

7. JBL Endurance Run Bluetooth In-Ear

JBL ก็เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ทั้งหูฟังและลำโพงบลูทูธ มั่นใจในเรื่องของคุณภาพเสียง โดยหูฟัง วิ่ง ของ JBL รุ่นนี้ สามารถใส่ออกกำลังกายได้อย่างคล่องตัว เป็นหูฟังแบบอินเอีย์ไร้สาย ใส่กระชับหู สวมใส่แบบคล้องหู ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดร่วงหล่น แถมยังมีไมโครโฟนในตัว สามารถใส่คุยโทรศัพท์ได้ กันน้ำกันเหงื่อได้ในระดับ IPX5 แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องนานถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ราคาโดยประมาณ : 1,590 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

8. AUKEY EP-N8

หูฟังใส่วิ่งคุณภาพดีอีกยี่ห้อหนึ่งก็คือ AUKEY ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมมือถือชั้นนำจากประเทศเยอรมนี สำหรับหูฟังใส่ออกกำลังกายรุ่นนี้ กันน้ำได้ในระดับ IPX7 กันได้ทั้งฝน ทั้งน้ำ ทั้งเหงื่อ ไม่ต้องกลัวว่าจะชำรุดเสียหาย มีคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม ฟังเพลงได้ไพเราะถูกใจ ตัดเสียงรบกวนได้ดี แถมยังมี Transparency Mode สำหรับฟังเสียงภายนอก พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนคุณภาพสูง คุยโทรศัพท์ได้เสียงชัดแจ๋วเลยค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 3,190 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

9. JLab Go Air Sport

หูฟังใส่วิ่ง ของ JLab รุ่น Go Air Sport เป็นหูฟังบลูทูธ True Wireless Earbuds ใส่ออกกำลังกายได้ในทุกๆ วัน ดีไซน์เป็นแบบเกี่ยวหู ช่วยให้คล่องตัวมากขึ้น ป้องกันไม่ให้หูฟังหลุดขณะเคลื่อนไหว มีน้ำหนักเบาเพียงข้างละ ุ6.2 กรัม กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP55 แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 8 ชั่วโมง หูฟังสามารถแยกใช้งานซ้าย – ขวาได้ พร้อมไมโครโฟนแบบ MEMS ช่วยให้เสียงสนทนาคมชัด ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส ทั้งการเพิ่ม – ลดเสียง เล่น – หยุดเพลง และการรับสายสนทนา ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

ราคาโดยประมาณ : 1,390 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

10. Jabees FireFly 2 Touch

หูฟังสำหรับใส่วิ่งยี่ห้อสุดท้ายที่อยากนะนำ คือของ Jabees รุ่น  FireFly 2 Touch เป็นหูฟังสำหรับใส่ออกกำลังกายที่คุณภาพคุ้มค่าเกินราคา มีฟังก์ชั่นครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Ambient Mode ที่ทำให้เราได้ยินเสียงภายนอกแม้ใส่หูฟัง จะใส่วิ่งบนท้องถนนก็ปลอดภัย ได้ยินเสียงรอบด้าน กันน้ำได้ในระดับ IPX7 กันได้ทั้งเหงื่อ ทั้งฝน ใส่ออกกำลังกลางแจ้งได้สบาย แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ชั่วโมง ให้โทนเสียงที่ฟังสบาย ถ้าใครอยากได้หูฟังสำหรับใส่ออกกำลังกายในราคาไม่ถึง 1,000 บาท นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 990 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

Inspire Now ! : จะเลือกหูฟังสำหรับใส่วิ่งแบบไหนดี ? แนะนำว่าให้เลือกตามรูปแบบการออกกำลังกายของเราจะดีที่สุดค่ะ หากวิ่งบนลู่วิ่งในฟิตเนสเป็นหลัก อาจจะไม่ต้องเน้นหูฟังที่กันน้ำได้ในระดับสูงมาก แต่ควรเป็นแบบตัดเสียงรบกวนได้ดี จะได้มีสมาธิกับการวิ่งได้มากขึ้น แต่ถ้าวิ่งในสวนสาธารณะหรือวิ่งบนถนนเป็นหลัก แนะนำว่าควรใช้แบบได้ยินเสียงภายนอก เพราะสามารถได้ยินเสียงรถเสียงแตร เพื่อความปลอดภัยของเราเอง นอกจากนี้ ประเภทของหูฟังก็มีหลายแบบ หลายขนาด ควรเลือกที่กระชับหูของเรามากที่สุดและใส่สบายมากที่สุด ไม่ทำให้ปวดหู จะได้ออกกำลังกายได้อย่างสนุกแบบไม่มีสะดุดค่ะ

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? หวังว่าจะได้ไอเดียสำหรับซื้อหูฟังใส่ออกกำลังกายไปบ้างนะคะ หรือถ้ามียี่ห้ออื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ก็คอมเมนต์แนะนำกันมาได้เลยค่ะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : techradar.com, runnersneed.com

Featured Image Credit : freepik.com/drobotdean