ผักต้องห้ามกินเจ, ผักที่ไม่เจ

ผักที่ไม่เจ มีอะไรบ้าง ? พร้อมแนะนำผักกินแล้วอิ่มนาน ในเทศกาลกินเจ !

เทศกาลกินเจเวียนกลับมาอีกแล้ว และแน่นอนวัตถุดิบหลักของเทศกาลนี้ก็น่าจะเป็น “ผัก” นั่นเอง แต่พอจะซื้อผักทีก็แอบลืมว่า ผักที่ไม่เจ มีอะไรกันบ้างใช่มั้ยหล่ะคะ สำหรับผู้อ่านที่เกิดความสงสัย ไม่ค่อยแน่ใจ ในบทความนี้ DIYINSPIRENOW มีข้อมูลเรื่องผักมาฝากกัน เพื่อให้ทุกท่านได้เตรียมพร้อมกินเจได้อย่างสบายใจ และได้บุญกันไปเต็มๆ ค่ะ

แจกลิสต์ ผักที่ไม่เจ ให้เตรียมพร้อมก่อนเทศกาลกินเจ

Image Credit : canva.com-pro

ผักเป็นอาหารที่มีประโยชน์และอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่ามีผักบางชนิดที่ไม่เข้าข่ายอาหารเจ ทั้งนี้เนื่องจากในกระบวนการเพาะปลูก หรือลักษณะทางธรรมชาติของพืชเอง ผักเหล่านี้อาจมีส่วนประกอบหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตอื่น ซึ่งขัดกับหลักของการรับประทานอาหารเจ ความรู้เกี่ยวกับผักที่ไม่เจนี้มีความสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการกินอาหารเจอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถเลือกกินได้อย่างถูกต้องตามความเชื่อ และหลักปฏิบัติของตน ลองมาดูรายละเอียดกันนะคะ

อาโวคาโดสด 1 กิโลกรัม สดจากสวน พันธ์ุพื้นเมือง 

ผักที่ไม่เจ มีอะไรบ้าง ?

ผักทั้งหลายที่กำลังจะแนะนี้ ถือว่าเป็นผักที่ไม่ควรกินในช่วงเทศกาล เนื่องจากเป็นผักที่มีกลิ่นฉุน ลองมาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

  1. กระเทียม : นอกจากความเชื่อว่ากระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกทางเพศแล้ว กระเทียมยังมีสารที่เป็นพิษต่อแมลง ซึ่งขัดกับหลักของอาหารเจที่ไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต
  2. หัวหอม : มีคุณสมบัติคล้ายกระเทียม ทั้งในแง่การกระตุ้นอารมณ์และการมีสารที่เป็นอันตรายต่อแมลง
  3. หลักเกียว : กลิ่นฉุนของมันเชื่อว่ากระตุ้นประสาทและอารมณ์ ซึ่งขัดกับหลักการของการทานเจที่มุ่งเน้นความสงบทางจิตใจ
  4. ใบยาสูบ : แม้ไม่ใช่ผักที่รับประทาน แต่ถูกห้ามในอาหารเจเนื่องจากมีสารนิโคตินที่เสพติดและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  5. กุยช่าย : กลิ่นฉุนของมันเชื่อว่ากระตุ้นอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งไม่สอดคล้องกับแนวคิดของการทานเจที่มุ่งเน้นความสงบ
  6. ต้นหอม : เป็นพืชในตระกูลเดียวกับกระเทียมและหัวหอม จึงมีคุณสมบัติคล้ายกันในการกระตุ้นอารมณ์และมีสารที่เป็นพิษต่อแมลง
  7. ผักชี : แม้ไม่ได้ถูกห้ามอย่างเคร่งครัดในทุกแนวทางของการกินเจ แต่บางคนเชื่อว่ามีฤทธิ์กระตุ้นร่างกาย ซึ่งอาจขัดกับหลักการของการกินเจบางแนวทาง
  8. หอมแดง : เป็นพืชในตระกูลเดียวกับกระเทียมและหัวหอม จึงมีคุณสมบัติในการกระตุ้นอารมณ์และมีสารที่เป็นอันตรายต่อแมลงเช่นกัน

โดยทั่วไป เหตุผลหลักที่ผักเหล่านี้ไม่ถือเป็นอาหารเจ คือการมีสารที่กระตุ้นอารมณ์หรือเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ซึ่งขัดกับหลักการของการทานเจที่มุ่งเน้นความสงบทางจิตใจและการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติอาจแตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรมหรือแนวทางการกินเจด้วยค่ะ

Image Credit : canva.com-pro

ผักที่ควรกิน มีอะไรบ้าง ?

นอกจากจะมีผักที่ไม่เจ ที่คนกินเจไม่ควรกินแล้วนั้น ยังมีผักอื่นๆ ที่คนกินเจกินได้ และดีต่อร่างกายอีกด้วย โดยควรเลือกกินผักให้ครบ 5 สี เพื่อที่จะได้รับวิตามินและใยอาหารครบถ้วน แถมยังสามารถซื้อผักสดออนไลน์ได้อย่างง่ายๆ ด้วย ซึ่งผัก 5 สีมีอะไรบ้าง มาดูกันต่อค่ะ

  1. ผักสีเขียว เช่น ผักบุ้ง ผักโขม ผักกาดหอม ผักคะน้า และผักสลัดต่างๆ ที่สามารถปลูกเองก็ได้ (ดูวิธีการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์เพิ่มเติมกันได้อีกนะคะ) มีประโยชน์คือ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันเซลล์ถูกทำลาย ป้องกันโรคมะเร็ง ทั้งยังทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ลดการเกิดริ้วรอย และหากกินเป็นประจำจะช่วยให้มีระบบการขับถ่ายที่ดีด้วย
  2. ผักสีเหลือง สีส้ม เช่น แครอท ฟักทอง มันเทศ มีประโยชน์คือ ช่วยรักษาสุขภาพของหัวใจ หลอดเลือด และระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกาย มีสารลูทีน และสารเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา
  3. ผักสีม่วง สีน้ำเงิน เช่น กะหล่ำสีม่วง มะเขือม่วง มันเทศสีม่วง มีประโยชน์คือ ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ และช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมองได้ ทั้งยังยับยั้งเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้
  4. ผักสีขาว สีน้ำตาลอ่อน เช่น ลูกเดือย หัวไชเท้า ดอกกะหล่ำ ถั่วงอก มีประโยชน์คือ ช่วยลดอาการอักเสบ และรักษาระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดไขมันในเลือด และป้องกันโรคความดันโลหิตและโรคหลอดเลือดหัวใจ
  5. ผักสีแดง เช่น มะเขือเทศ บีทรูท พริกหวาน มีประโยชน์คือ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าวิตามินอีถึง 100 เท่า และมากกว่ากลูตาไธโอนถึง 125 เท่า และมีสารไลโคปีน ช่วยบำรุงผิวพรรณและชะลอความชรา และป้องกันการเกิดมะเร็งตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
มันฝรั่งสด 1 กิโลกรัม สวย สด คัดเกรดคุณภาพ (มี 2 ขนาดให้เลือก 3-4 ลูก/กก. และ 5-7 ลูก/กก.)

ผักที่กินแล้วอิ่มนาน มีอะไรบ้าง ?

ผักที่กินแล้วอิ่มนานเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการกินเจ เนื่องจากช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องและได้รับสารอาหารที่จำเป็น ลองมาดูกันค่ะว่ามีผักอะไรบ้าง

  1. มันฝรั่ง : เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ยอดเยี่ยม อุดมไปด้วยใยอาหารและวิตามินซี การย่อยมันฝรั่งใช้เวลานาน ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยาวนาน วิธีการปรุงที่ดีต่อสุขภาพที่สุดคือการนึ่งหรืออบ โดยไม่ต้องเติมน้ำมันมากเกินไป
  2. มันเทศ : นอกจากจะให้ความรู้สึกอิ่มนานแล้ว ยังมีรสหวานธรรมชาติ อุดมไปด้วยวิตามินเอและใยอาหาร มีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่ามันฝรั่ง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ สามารถนำมาอบ นึ่ง หรือทำเป็นซุปเพื่อเพิ่มความหลากหลายในมื้ออาหาร
  3. ฟักทอง : เป็นผักที่มีแคลอรี่ต่ำแต่ให้ความอิ่มสูง อุดมไปด้วยวิตามินเอและซี รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ เช่น โพแทสเซียมและแมกนีเซียม เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มของฟักทองทำให้รู้สึกอิ่มท้อง สามารถนำมาทำเป็นซุป ผัด หรืออบเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับมื้ออาหารเจ
  4. อะโวคาโด : แม้จะมีไขมันสูง แต่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ดีต่อสุขภาพ มีใยอาหารสูงและให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและให้ความรู้สึกอิ่มนาน สามารถกินสด หรือนำมาทำเป็นสลัด แซนด์วิช หรือสเปรดได้
  5. ถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ : เป็นแหล่งโปรตีนและใยอาหารที่สำคัญสำหรับผู้ทานเจ มีสารอาหารหลากหลาย ทั้งวิตามินบี แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ การย่อยถั่วใช้เวลานาน ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยาวนาน สามารถนำมาต้ม ผัด หรือทำเป็นซุปได้หลากหลาย
  6. บร็อกโคลี : เป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเค และใยอาหาร มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อต้านการอักเสบ การกินบร็อกโคลีจะช่วยเพิ่มปริมาตรอาหารโดยไม่เพิ่มแคลอรี่มาก ทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน
  7. ผักใบเขียว เช่น คะน้า และผักโขม : มีใยอาหารสูง และแคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ โดยเฉพาะธาตุเหล็กและแคลเซียม การกินผักใบเขียวจะช่วยเพิ่มปริมาตรอาหารโดยไม่เพิ่มแคลอรี่ ทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน สามารถนำมาทำสลัด ผัด หรือใส่ในซุปได้
  8. เห็ดชนิดต่างๆ : นอกจากจะมีรสชาติดีแล้ว ยังเป็นแหล่งโปรตีน และใยอาหารที่ดีสำหรับผู้กินเจ มีสารอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เนื้อสัมผัสของเห็ดให้ความรู้สึกเหมือนเนื้อสัตว์ ทำให้อิ่มท้องได้นาน สามารถนำมาผัด อบ หรือทำเป็นซุปได้หลากหลาย
  9. กะหล่ำปลี : เป็นผักที่มีใยอาหารสูง และแคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ การเคี้ยวกะหล่ำปลีใช้เวลานาน ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้ยาวนาน จะนำไปผัด ต้ม ก็ได้หลากหลาย
  10. แครอท : เป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีน และใยอาหารที่ดี มีรสหวานธรรมชาติ และให้ความกรุบกรอบ การเคี้ยวแครอทที่ใช้เวลานาน ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้ยาวนานขึ้น สามารถกินสด ต้ม ผัด หรือนำมาทำน้ำผักปั่นเพื่อเพิ่มความหลากหลายในมื้ออาหารเจก็ได้

การกินผักเหล่านี้ร่วมกับธัญพืชไม่ขัดสี และการดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอ จะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น และได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนในระหว่างการกินเจได้ค่ะ

Image Credit : canva.com-pro

คำแนะนำ – ข้อควรระวัง เกี่ยวกับการกินผักในการกินเจ

คำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การกินผักในช่วงกินเจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับประโยชน์สูงสุดทางโภชนาการมากขึ้น ลองมาดูรายละเอียดกันนะคะ

  1. ความหลากหลายของผัก : ควรกินผักหลากหลายชนิดเพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน ไม่ควรจำกัดตัวเองอยู่กับผักไม่กี่ชนิด ลองผสมผสานผักใบเขียว ผักหัว และผักตระกูลต่างๆ เพื่อให้ได้วิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย
  2. การล้างผัก : ให้ความสำคัญกับการล้างผักอย่างสะอาด โดยเฉพาะผักใบ เพื่อกำจัดสารเคมีตกค้างและเชื้อโรค อาจใช้น้ำส้มสายชูหรือเกลือในการล้าง
  3. วิธีการปรุง : ควรระวังไม่ให้ผักสุกเกินไป เพราะอาจทำให้สูญเสียวิตามิน และแร่ธาตุ วิธีการปรุงที่แนะนำ ได้แก่ การนึ่ง การอบ หรือการผัดแบบเร็วๆ เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหาร
  4. การเสริมโปรตีน : เนื่องจากอาหารเจไม่มีเนื้อสัตว์ จึงควรกินผักที่มีโปรตีนสูง เช่น ถั่วต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เพื่อให้ได้รับโปรตีนเพียงพอ
  5. ระวังน้ำตาลแอบแฝง : ผักบางชนิด เช่น แครอท หรือบีทรูท มีน้ำตาลธรรมชาติสูง ควรรกินในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องควบคุมน้ำตาล
  6. การเสริมวิตามินบี12 : วิตามินบี12 มักพบในอาหารจากสัตว์ ดังนั้นในช่วงกินเจอาจต้องเสริมจากอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์ที่เสริมวิตามินบี12
  7. ระวังการใช้เครื่องปรุงรส : ในการปรุงผัก ควรระวังการใช้เครื่องปรุงรสที่มีโซเดียมสูง อาจใช้พวกสมุนไพร และเครื่องเทศเสริมรสชาติแทน
  8. การดื่มน้ำ : การกินผักที่มีใยอาหารสูงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยในการย่อย และป้องกันอาการท้องผูก
  9. ให้ความสำคัญกับความสมดุล : พยายามกินให้ครบทั้งผัก ธัญพืช และโปรตีนจากพืชในแต่ละมื้อ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่สมดุล
เห็ดหอมแห้ง ไซส์กลาง 500 กรัม เหมาะสำหรับ ทำอาหาร จำพวก ต้ม ผัด แกง นึ่ง ตุ๋น

Inspire Now ! : แม้ว่าการกินเจนั้นจะมีผักที่ไม่เจที่เราไม่ควรกิน แต่การกินอาหารเจให้ดีต่อสุขภาพนั้น ก็คือต้องกินอาหารให้ครบห้าหมู่ตามปกติ และกินโปรตีนทดแทนเนื้อสัตว์ เช่น เต้าหู้ โปรตีนเกษตร นมถั่วเหลือง ถั่วต่างๆ และงา เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน เมนูเจที่นิยม ได้แก่ หมี่ผัดเจ, จับฉ่ายเจ, เต้าหู้ทอด และผัดผักต่างๆ รวมไปถึงสามารถประยุกต์จากเมนูคีโตเจนิคได้ด้วย คือการเน้นไปที่ผัก และไขมันดี เช่น ผัดผักรวมโดยใช้น้ำมันมะกอก เป็นต้น และนอกจากกินเจแล้ว ยังต้องถือศีล ไม่พูดจาหยาบคาย งดดื่มของมึนเมา เพื่อให้การกินเจนั้น ได้บุญได้กุศลอย่างเต็มที่ ใครที่กำลังตั้งใจว่าจะกินเจในปีนี้ ก็อย่าลืมศึกษาวิธีการกินให้ถูกต้องก่อนด้วยนะคะ รวมถึงอย่าลืมทำจิตใจให้สบาย ตั้งมั่นในศีลในธรรม เพื่อให้ผลบุญที่จะได้รับส่งถึงตัวเรานั่นเอง ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าเลยนะคะ

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันได้ไอเดียหรือเปล่า ? มีใครกินเจแล้วสุขภาพดีขึ้น กินแล้วเป็นยังไงบ้าง มาคอมเมนต์บอกกันบ้างนะคะ ♡

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW