สัญลักษณ์ความโชคดี, สัญลักษณ์โชคดี

ชวนดู สัญลักษณ์ความโชคดี ทั่วโลก ! อะไรบ้างที่แสดงถึงความโชคดีในแต่ละความเชื่อกันบ้างนะ

ความเชื่อเรื่องดวงและความโชคดีนั้น อยู่คู่กับมนุษย์เรามาช้านาน ไม่ใช่เฉพาะแค่ในประเทศไทย แต่ยังมีในเรื่องของความเชื่อเรื่องของโชคและดวงชะตาในท้องที่อื่นๆ อีกด้วย อย่างที่รู้จักกันดีก็เป็นความเชื่อเกี่ยวกับราศีนักษัตรและจักรราศีต่างๆ ทั้งนี้ก็เพราะว่าศาสตร์แห่งการพยากรณ์และความเชื่อเกี่ยวกับโชค ดวงชะตา และลางบอกเหตุต่างๆ นั้น มีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล และอยู่เคียงคู่กับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงยังมีการพกเครื่องราง หรือสิ่งของต่างๆ ที่เชื่อกันว่าจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และนำพาความโชคดีมาให้ผู้ครอบครองอีกด้วย แล้ว สัญลักษณ์ความโชคดี ในแต่ละท้องที่ต่างๆ นั้นจะมีอะไรบ้าง ? จะเป็นสิ่งที่เราเคยเห็นผ่านๆ ตากันมาก่อนหรือไม่ แต่ละสัญลักษณ์มีความหมายว่าอย่างไร ไปดูกันค่ะ

9 สัญลักษณ์ความโชคดี ของแต่ละประเทศ มีอะไรบ้าง มาดูกัน !

สัญลักษณ์ความโชคดี, สัญลักษณ์โชคดี
Image Credit : unsplash.com

ความเชื่อเรื่องเครื่องราง หรือสัญลักษณ์ต่างๆ นั้น อยู่คู่กับศาสตร์แห่งการทำนายมาช้านาน และยังมีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย นอกจากเทพแห่งโชคลาภ ที่มนุษย์เราไปกราบไหว้บูชาสักการะกันแล้ว ก็ยังมีสัญลักษณ์ต่างๆ ที่แสดงถึงความโชคดีด้วยเช่นกัน และเชื่อว่าหากพกติดตัวหรือมีไว้ครอบครองนั้น จะช่วยบันดาลความโชคดีมาให้ และสัญลักษณ์บางอย่างยังช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัยอีกด้วย แล้วในแต่ละวัฒนธรรมบนโลกนั้น มีสิ่งใดบ้างที่เป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี มาดูไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

1. ใบโคลฟเวอร์ 4 แฉก : ไอร์แลนด์

สัญลักษณ์ความโชคดี, สัญลักษณ์โชคดี
Image Credit : unsplash.com

ในโคลเวอร์สี่แฉกนั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ความโชคดีของประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งมีความเชื่อว่าโอกาสที่จะพบใบโคลเวอร์สี่แฉกมีเพียง 1 ใน 10,000 เท่านั้น ถ้าใครได้เห็นใบโคลเวอร์สี่แฉก ก็จะถือว่าได้รับความโชคดี และจะได้รับโชคใหญ่ในวันนั้น ทั้งนี้ ความหมายของใบโคลเวอร์ในแต่ละแฉกคือ ความศรัทธา ความหวัง โชค และความรัก บางตำนานของศาสนาคริสต์เล่าว่า อีฟได้นำเอาใบโคลเวอร์สี่แฉกติดตัวไปด้วยหลังจากถูกเนรเทศออกจากดินแดนของพระเจ้าเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจ และเลขสี่ยังเชื่อมโยงถึงด้านทั้งสี่ของไม้กางเขน ดังนั้น ในบางคนจึงเชื่อว่าใบโคลเวอร์สี่แฉกเป็นสิ่งที่มาจากดินแดนสวรรค์ของพระเจ้านั่นเอง

2. ลูกโอ๊ก : อังกฤษ

ในตำนานเกี่ยวกับแม่มดและไสศาสตร์ เชื่อว่าลูกโอ๊กเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันความเจ็บป่วย ช่วยให้ผู้ที่ครอบครองลูกโอ๊กดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ และทำให้มีโชคลาภ นำพาความโชคดีมาให้ สำหรับการเป็นสัญลักษณ์ของโชคดีนั้น เชื่อกันว่าลูกโอ๊กจะช่วยป้องกันความเจ็บป่วย ความปวดเมื่อย และความป่วยไข้ไม่สบายอื่นๆ ทำให้เรามีสุขภาพที่ดี ถ้าหากใครที่กำลังป่วยอยู่นั้น กล่าวกันว่าลูกโอ๊กจะช่วยเร่งกระบวนการรักษาและบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้

[affegg id=3992]

3. Dala Horse : สวีเดน

ม้า Dala หรือ Dalecarlian คือตุ๊กตาม้าแกะสลักที่เป็นงานอดิเรกของชาวสวีเดนเมื่อหลายร้อยปีก่อน ม้าถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีอีกด้วย ตุ๊กตาม้าแกะสลักของสวีเดนนั้นค่อนข้างมีราคาแพง คนสวีเดนบางคนจึงซื้อตุ๊กตาม้าที่ไม่ได้ทาสีนำไปตกแต่งเอง สีทั่วไปที่มักใช้กันคือ สีแดง สีขาว หรือสีเขียว และนอกจากความโชคดีแล้ว ม้ายังเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและการมีศักดิ์ศรีอีกด้วย

4. ลูกปัด Evil eye : ตุรเคีย

สัญลักษณ์ความโชคดี, สัญลักษณ์โชคดี
Image Credit : unsplash.com

หากใครได้ไปตุรกี หรือตุรเคีย ก็จะพบเครื่องรางเป็นลูกปัดเซรามิกที่มีสัญลักษณ์เป็นวงกลมสีน้ำเงินเข้มล้อมรอบรูปดวงตา วางขายอยู่ทั่วไปในตลาด Evil eye หรือ “The Nazar Boncuğu” เป็นจี้รูปดวงตาที่เชื่อกันว่าจะช่วยดูดซับพลังงานที่ไม่ดี และช่วยปกป้องเจ้าของจากคำสาปแช่งและความเจ็บป่วย จะนำเอามาทำเป้นเครื่องประดับอย่างแหวน สร้อยคอ หรือเอาไปแขวนผนังบ้านก็ได้เช่นกัน

5. ตาข่ายดักฝัน : อเมริกา

Dream Catcher หรือตาข่ายดักฝันนั้น มีความเชื่อมาจากชาวพื้นเมืองอเมริกัน และนิยมแขวนไว้บนหัวเตียงสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการนอนหลับ โดยเฉพาะผู้ที่มักจะฝันร้ายบ่อยๆ ซึ่งมีความเชื่อว่า ตาข่ายดักฝันจะช่วยดักจับฝันร้ายทั้งหมดของคนๆ นั้น และเกิดความโชคดีขึ้น จึงเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์โชคดีเช่นกัน ตามตำนานเล่าว่า เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ฝันร้ายที่ติดอยู่ในตาข่ายดักฝันจะสบายไป เพราะไม่สามารถทนแสงอาทิตย์ได้ ทั้งนี้ ชนพื้นเมืองอเมริกันได้สร้างตาข่ายดักฝันขึ้นเพื่อเป็นเครื่องรางปกป้องเด็กๆ ซึ่งมีความเชื่อมาจากตำนานของเทพธิดาแมงมุมหรือ Asibikaashi ของเผ่าโอจิบวี (Ojibwe) ผู้ซึ่งปกป้องคอยดูแลผู้คนและเด็กๆ ในหมู่บ้าน จึงได้มีการสร้างตาข่ายดักฝันขึ้น และมีลักษณะเป็นเส้นใยคล้ายกับใยแมงมุมนั่นเอง

6. Hamsa : อิสราเอลและตะวันออกกลาง

สัญลักษณ์ความโชคดี, สัญลักษณ์โชคดี
Image Credit : freepik.com

Hamsa Hand หรือ Khamsa พบได้ทั่วไปในชุมชนชาวยิวและชาวมุสลิมและเป็นสัญลักษณ์ความโชคดีตามความเชื่อของคนในท้องที่ ว่ากันว่าจะช่วยปกป้องผู้คนจากพลังงานด้านลบและนำพาความสุขมาสู่ผู้พบเห็น คำว่า “ฮัมซา” หมายถึงเลขห้าในภาษาฮิบรู กล่าวกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของหนังสือทั้งห้าเล่มของโตราห์ (Torah) ได้แก่ ปฐมกาล อพยพ เลวีนิติ ตัวเลข และเฉลยธรรมบัญญัติ ในศาสนาอิสลาม นิ้วทั้งห้านั้นมีความเชื่อมโยงกับเสาหลักทั้งห้าของอิสลาม และตาบนมือหมายถึงดวงตาที่สามารถมองเห็นทุกสิ่งและคอยระวังอันตรายจากรอบด้านนั่นเอง

[affegg id=3993]

7. จิ๋นฉาน : จีน

จินฉ๋าน หรือคางคก 3 ขา เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คางคกทองคำ เป็นสัญลักษณ์ความโชคดีของชนชาวจีน โดยคางคกตัวนี้ ปากจะคาบเหรียญอยู่ บางครั้งอาจยืนอยู่บนกองเงินกองทอง หรือบนหลังเต่า หลังมังกร ตามความเชื่อเล่าว่า ในช่วงที่พระจันทร์เต็มดวง คางคก 3 ขานี้จะไปปรากฏตัวแถวบ้านที่กำลังจะได้รับข่าวดี และช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ออกไป นอกจากนี้ ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและความสำเร็จอีกด้วย

8. แมวกวัก : ญี่ปุ่น

สัญลักษณ์ความโชคดี, สัญลักษณ์โชคดี
Image Credit : freepik.com

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ความโชคดีที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือแมวกวักหรือ Maneki Neko จากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งจะพบเห็นได้ทั่วไปตามร้านค้าต่างๆ โดยมีความเชื่อว่า หากแมวยกอุ้งเท้าซ้ายขึ้นและกวักเรียก จะช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้านและช่วยให้กิจการร้านไปได้ดี หากอุ้งเท้าขวายกขึ้น เชื่อว่าจะดึงดูดเงินและความเจริญรุ่งเรือง ทั้งนี้ สีของแมวที่ต่างกัน ก็มีความหมายที่ต่างกันอีกด้วย สีขาวหมายถึงความสุข สีดำหมายถึงการปกป้อง สีเขียวหมายถึงสุขภาพ และสีครีมหมายถึงความโชคดีเป็นอย่างยิ่ง

9. ตัวด้วง : อียิปต์

ตัวด้วงเป็นเครื่องรางนำโชคและเป็นสัญลักษณ์โชคดีของชาวอียิปต์ ซึ่งมีความเชื่อมาตั้งแต่ 2345 ปีก่อนคริสตกาล สัญลักษณ์ตัวด้วงสื่อถึงการสร้างใหม่และชีวิตอันเป็นนิรันทร์ และยังมีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าแห่งแสงอาทิตย์ที่ชื่อว่า Khepri อีกด้วย ความเชื่อนี้ มีต้นกำเนิดมาจากการที่ชาวอียิปต์สังเกตเห็นตัวด้วงม้วนมูลของตัวเองไปทั่วผืนทราย และได้เชื่อมโยงสิ่งนี้เข้ากับการเดินทางข้ามท้องฟ้าของดวงอาทิตย์ เราจะเห็นว่าเครื่องประดับของฟาโรห์และราชินีในยุคอียิปต์โบราณนั้น มักจะมีเพชรหรืออัญมณีรูปตัวด้วงประดับอยู่ด้วย ซึ่งแสดงถึงความโชคดีนั่นเอง

[affegg id=3994]

Inspire Now ! : สัญลักษณ์ความโชคดีตามความเชื่อแต่ละประเทศนั้น บ้างก็เอามาทำเป็นเครื่องรางพกติดตัว บ้างก็เอามาทำเป็นเครื่องประดับ หรือเป็นของแต่งบ้าน ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน เพราะสัญลักษณ์ความโชคดีต่างๆ นั้น เปรียบเหมือนสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือพกไว้ให้อุ่นใจ และเชื่อว่าจะนำพาความโชคดีมาสู่ตัวเอง ทั้งยังเป็นการ Manifestation คือการคิดถึงสิ่งดีๆ เพื่อดึงดูดพลังงานดีๆ มาสู่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม สัญลักษณ์โชคดีต่างๆ นั้นแม้จะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาสู่ตัวเรา แต่ตัวเราเองก็ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท และคิดดีทำดีอยู่เสมอ เพื่อจะได้ส่งผลดีทั้งกับตัวเองแล้วก็ผู้อื่นด้วยค่ะ

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? ได้รู้เกี่ยวกับสัญลักษณ์ความโชคดีของแต่ละประเทศแล้ว ชอบของประเทศไหน คอมเมนต์บอกกันได้นะคะ จะหามาเป็นเครื่องราง หรือเป็นเครื่องประดับ ก็ได้เหมือนกันนะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : invaluable.com, usnews.com

Featured Image Credit : unsplash.com/Andreas Wagner

Facebook Comments

ฝันอยากเดินทางท่องโลกให้ได้มากที่สุด สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิทยา รักการอ่านหนังสือ ชอบถ่ายรูป หลงใหลแมวและกาแฟ