Kylie Jenner คือใคร? แชร์เทคนิคกว่าจะมาเป็นวัยรุ่นพันล้านสไตล์ Kylie Jenner 

Kylie Jenner คือใคร? สำหรับตัว Kylie เองนั้นเธอที่เป็นทั้ง Reality star, businesswoman และ social media icon ที่มาจากตระกูลดังอย่าง Kardashian และ Jenner ซึ่งเธอสามารถสร้างรายได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นจากการทำ Kylie cosmetics แบรนด์เครื่องสำอางของเธอเอง โดยเธอได้แสดงให้เห็นว่ายิ่งเราเริ่มต้นได้เร็วเท่าไหร่ความสำเร็จก็เกิดขึ้นได้เร็วเท่านั้น ซึ่ง Kylie ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้หญิงเก่งที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยเด็กคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปติดตามดู ประวัติ Kylie Jenner กันต่อเลยดีกว่าว่าเธอเคยผ่านอะไรมาบ้างและทำยังไงถึงสามารถผันตัวจากเด็กวัยรุ่นธรรมดาสู่วัยรุ่นพันล้านที่ประสบความสำเร็จได้แบบนี้กับ Kylie Jenner 

Kylie Jenner คือใคร ? และทำอย่างไรถึงได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยเด็ก

Image Credit : twitter.com/kyliecosmetics

Kylie Jenner คือใคร ? ตระกูล Kardashian คือใคร ? หากพูดถึงตระกูลเซเลบอันดับต้นๆ ในอเมริกาคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักตระกูล Kardashian และ Jenner ที่มีชื่อเสียงมาจากการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านชีวิตจริงเป็นซีรีส์ผ่านรายการทีวีที่มีชื่อว่า Keeping up with the Kardashians ซึ่งรายการนี้ถือได้ว่าเป็นรายการที่สร้างทั้งรายได้และชื่อเสียงอย่างมหาศาลให้กับตระกูลนี้และ Kylie เป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่ซีรีส์ออกอากาศไปได้เพียงไม่กี่ตอนก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้มากมาย ทำให้ Kylie และครอบครัวมีรายได้และมียอดผู้ติดตามจากโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการที่มีคนสนใจที่จะหาประวัติ Kylie Jenner มากขึ้นจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น  Kylie Jenner คือใคร?หรือครอบครัวของเธอมีใครบ้าง? แต่ถึงกระนั้น Kylie ก็เป็นคนเดียวในตระกูลที่หารายได้ได้น้อยที่สุดเพียงแค่ 2 ช่องทางเท่านั้น นั่นก็คือการโพสต์ ig และถ่ายซีรีส์ ไม่เหมือนกับพี่ๆ ของเธอที่มีรายได้เสริมมาจากช่องทางอื่นด้วย ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่จุดประกายให้ Kylie อยากจะสร้างธุรกิจใหม่เป็นของตัวเองนั่นก็คือธุรกิจจำหน่ายเครื่องสำอางหรือ Kylie cosmetics นั่นเอง

[affegg id=2534]

Kylie ในวัย 17 ปีตอนนั้นจึงเริ่มต้นจากการหาสิ่งที่เธอชอบก่อนเป็นอย่างว่าเธอชอบและมั่นใจที่จะทำอะไรจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอ นั่นก็คือการดู YouTube สอนแต่งหน้านั่นเอง โดย Kylie ได้เริ่มลงทุนจากเงินเก็บก้อนแรกจำนวน 250,000 ดอลลาร์ เพื่อผลิตเครื่องสำอางที่เป็น lipstick และ lip liner ขึ้นมาก่อนจำนวน 15,000 ชุด ชื่อว่า Kylie lip kits ซึ่งมีทั้งหมด 3 เฉดสี ได้แก่ Candy K, Dolce K และ True Brown K

“I turned to makeup to help me feel more confident”

ซึ่ง Kylie ได้เริ่มประกาศขาย Kylie lip kits ครั้งแรกในวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 2015 ผ่านทาง Instagram ส่วนตัวของเธอในราคา 29 ดอลลาร์หรือประมาณ 900 บาท ซึ่งปรากฏว่าผ่านไปได้ไม่กี่นาทีเซตสินค้าทั้งหมดที่วางจำหน่ายก็ขายได้จนเกลี้ยงสต็อก โดยยอดขายที่ทำได้สูงถึง 435,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13 ล้านบาท และได้กำไรมากกว่า 5.55 ล้านบาทเลยทีเดียว ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็ถูกจับตามองและมีการค้นหาในโซเชียลมีเดียมากขึ้นด้วยคำถามอย่างเช่นว่า Kylie Jenner คือใคร? และเครื่องสำอางของเธอ Kylie lip kits ก็ถูกค้นหาและแนะนำให้เป็นหนึ่งใน item ตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังเลือกว่าจะซื้อลิปสติกยี่ห้อไหนดี? อีกด้วย

เมื่อ Kylie cosmetics มีผลกำไรที่ดีและน่าจะต่อยอดในอนาคตได้ Kris Jenner แม่ของ Kylie เลยเข้ามาช่วยเธอในการพัฒนาธุรกิจนี้ให้สามารถไปได้ไกลขึ้น อย่างเช่น การนำ Kylie cosmetics เข้าระบบ E-commerce บนแพลตฟอร์มของ Shopify และได้วางแผนเปิดตัว Kylie cosmetic อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 ซึ่งในครั้งนี้เธอได้มีการสต็อกสินค้าเพิ่มมากขึ้นถึง 500,000 ชุด และเพิ่มเฉดสีอีก 3 เฉด ได้แก่ Posie K, Mary K และ Koko K

[affegg id=2536]

“I would want to hopefully start more business and just be, like a businesswoman”

ซึ่งผลที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คาดการณ์ไว้ เพราะมีผู้คนแห่มาซื้อสินค้าของเธออย่างล้มหลามทำให้ Kylie สามารถสร้างรายได้ได้สูงถึง 307 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9,500 ล้านบาท ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี ซึ่งตัวของ Kylie เองก็ไม่ได้คิดที่จะหยุอยู่แค่นี้เพราะเธอรู้สึกว่าเธออยากจะทำมันให้มากขึ้นและอยากจะเป็น businesswoman อย่างเต็มตัวสักที

Image Credit : twitter.com/kyliecosmetics

โดยหลังจากมีกระแสตอบรับที่ดีแบบนี้นอกจากจะทำให้หลายๆ คนได้รู้จักว่า Kylie Jenner คือใครมากขึ้น การทำธุรกิจของเธอก็พัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดตามไปเช้นกัน นั่นก็คือทาง Kylie Cosmetics ได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าใหม่ออกมา ไม่ว่าจะเป็น eyeshadow, blush on, eyeliner และอื่นๆ ทำให้ในเวลาต่อมาเธอสามารถสร้างรายได้จากการเริ่มต้นธุรกิจภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีแรกไปกว่า 630 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 19,500 ล้านบาท ทำให้นิตยสาร Forbes แต่งตั้งให้เธอเป็น “Billionaire ที่มีอายุน้อยที่สุดที่สร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง” แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Mark Zuckerberg เจ้าของธุรกิจ Facebook ที่เคยสร้างสถิตินี้ไว้ตอนอายุ 23 ปี

“Don’t listen to negative comments and be true to who you are”

ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้เธอได้ขายหุ้นกว่า 51% ให้กับทาง COTY และได้ถูกถอดออกจากตำแหน่งที่เคยถูกแต่งตั้งไว้แล้ว แต่ Kylie ก็ไม่ได้รับความเดือดร้อนมากเท่าไหร่นัก เพราะเธอเองก็ถือได้ว่าเป็นดาวดังอันดับที่ 2 ที่มีค่าโพสต์ Instagram แพงที่สุดในปี 2020 ที่ 986,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 29,639,160 บาทต่อโพสต์ ซึ่งปัจจุบัน Kylie มีผู้ติดตามราวๆ 206 ล้านคน และอย่างที่เธอได้กล่าวไว้ว่าเธอไม่ได้สนใจกับความเห็นลบๆ หรือตำแหน่งดังกล่าว เพราะในชีวิตของเธอยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เธออยากจะทำและใส่ใจกับมันมากกว่าตำแหน่งพวกนี้

[affegg id=2535]

Image Credit : twitter.com/KylieJenner

สุดท้ายนี้เราได้นำบทสัมภาษณ์ของ Kylie ใน TIME ที่เคยสัมภาษณ์เธอเอาไว้มาแปะให้ทุกคนได้ลองอ่านและทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้นกว่านี้อีกว่าจริงๆ แล้วตัวตนของ Kylie Jenner คือใคร? และเป็นยังไงกันแน่? กับคำถามที่ว่า คุณมั่นใจและเชื่อในตัวของตัวเองรึเปล่า? ซึ่ง Kylie ก็ได้ตอบว่า เธอมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวของเธอเอง แต่ถึงกระนั้นเธอก็อยากจะเติบโตและพัฒนาตัวเองให้ขึ้นไปมากกว่านี้อีกในอนาคต ซึ่งถ้าเธอมีอายุถึง 25 ปีเมื่อไหร่ เธอก็หวังว่า ณ ตอนนั้นเธอจะได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ที่อยากจะทำมากขึ้นแล้ว และสิ่งนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่ถ้าเธอทำแล้วเธอจะต้องรู้สึกมีความสุขและสนุกสนานไปกับมัน ก่อนจะตบท้ายว่า That’s just my personality 

Image Credit : twitter.com/KylieJenner

จากประวัติ Kylie Jenner คร่าวๆ ก็ทำให้เราได้รู้จักว่า Kylie Jenner คือใครมากขึ้นแล้ว สำหรับมุมมองของเรารู้สึกว่าถึงแม้ครอบครัวของ Kylie จะรวยและมีชื่อเสียงมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้วโดยที่เธอไม่จำเป็นต้องทำงานเลยก็ได้ แต่เธอกลับเห็นต่างและเลือกที่จะทำงานหาเงินเพื่อสร้างธุรกิจและหารายได้ให้กับตัวเอง ซึ่งส่วนตัวเรารู้สึกชื่นชม Kylie มากๆ กับความคิดที่อยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นไปเรื่อยๆ และรู้สึกชื่นชมที่ Kylie มีความอดทนและสามารถสร้างภูมิต้านทานกับกระแสด้านลบต่างๆ ในสังคมให้มีอิทธิพลต่อตัวเองน้อยที่สุดได้ โดยไม่ได้ไปตอบโต้กับมันและจดจ่ออยู่ที่กับการก้าวไปข้างหน้าแทน เพราะฉะนั้นเราหวังว่าเรื่องราวและประวัติของ Kylie ที่เราได้นำมาบอกเล่าให้ฟังในวันนี้จะสามารถนำมาช่วยเป็นข้อคิดในการตัดสินใจวางแผนการทำธุรกิจในอนาคตได้นะคะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่า อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจหรือไอเดียใหม่ๆ ในการเริ่มต้นทำธุรกิจเพิ่มบ้างไหมคะ ? ลองมาพูดคุยมาแชร์กันได้นะคะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : time.com, forbes.com, bbc.comcnbc.com, kyliecosmetics.com, Hellomagazine.com, en.wikipedia.org