7 ซีรี่ย์เกาหลี แนวมาเฟีย ดูแล้ว ได้แง่คิด ได้เรียนรู้ชีวิต

ซีรี่ย์เกาหลี 2022 Netflix เป็นอีกหนึ่งปีที่เกาหลีผลิตซีรี่ย์แนวแอ็คชั่นล้างแค้น บู๊ระห่ำออกมาให้รับชมกันเยอะมาก ซึ่งปกติเราจะได้เห็นในภาพยนตร์กันมากกว่า เพราะซีรี่ย์แนวนี้ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง แต่ในปัจจุบัน ผลงานด้านวงการบันเทิงของเกาหลีได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศ ทำให้ซีรี่ย์มีการทุ่มทุนสร้างมากขึ้น และการผสมองค์ประกอบของหลายๆ ฉากในซีรี่ย์ก็ชวนให้น่าติดตามมากยิ่งขึ้น และจะมีเรื่อง ซีรี่ย์เกาหลี แนวมาเฟีย ไหนน่าไปเก็บตามกันบ้างไปดูกันเลย !

ซี่รี่ย์เกาหลี แนวมาเฟีย สุดปัง ! เนื้อหาเข้มข้นกับฉากแอคชั่นสุดมันที่คุณไม่ควรพลาด

มาดูกันเลยว่า ซีรีย์เกาหลี แนวมาเฟียที่เรานำมาฝากกัน จะมีเรื่องอะไรบ้าง นอกจาก หนังญี่ปุ่น Netflix ที่ดูแล้วมีไฟขึ้นมาทันที ยังมีซีรี่ย์เกาหลี แนวมาเฟีย ที่สุดสนุกชวนติดตาม ดูกันยาวๆ จนไม่ต้องนอนกันเลยก็ได้! พร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่ะ

1. My Name

ซีรี่ย์แอคชั่นเข้มข้นจากเน็ตฟลิกซ์ ถึงจะไม่ใช่ซีรี่ย์เกาหลี แนวมาเฟียซะทีเดียว แต่ก็มีเนื้อหาเข้มข้นชวนติดตามมากค่ะ โดยซีรี่ย์จะเล่าเรื่องราวของลูกสาวพ่อค้ายาเสพติดที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นตำรวจเพื่อตามหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอ พร้อมฉากบู๊สุดมันส์ที่ชวนเซอร์ไพรส์ของ “ฮันโซฮี” ซึ่งนอกจากจะได้เห็นฉากแอ็คชั่นที่จัดเต็มแล้ว ซีรี่ย์ยังเน้นไปที่การสืบสวนของแผนกปราบปรามยาเสพติด การล้างแค้นที่น่าตื่นเต้นของตัวละครมีความพิเศษเฉพาะตัวที่คุ้มค่าแก่การดูแน่นอน อีกทั้งซีรี่ย์มีแค่แปดตอนทำให้เราสามารถนั่งดูได้เพลินๆ เหมาะกับคนเวลาน้อยแต่ก็ยังได้ชมครบทุกอารมณ์ “เเล้วคุณจะรู้ว่ามนุษย์เปลี่ยนไปเป็นปิศาจได้อย่างไร” ซีรี่ย์เกาหลี 2022 Netflix ที่สามารถรับชมรันยาวแปดตอนรวดได้เลยค่ะ

นักแสดงนำ : ฮันโซฮี,อันโบฮยอน,พัคฮีซุน

ความยาว : 8 ตอน

2. Vincenzo (ทนายมาเฟีย)

Vincenzo เป็นซีรี่ย์เกาหลี แนวมาเฟียที่สนุกชวนลุ้นและตื่นเต้นไปกับเรื่องราวของทนายมาเฟียที่ต้องเข้ามาพัวพันกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซีรี่ย์เรื่องนี้ มีการผสมผสานจังหวะคอมเมดี้ได้อย่างลงตัว และการดำเนินเรื่องพลิกไปพลิกมาทำให้ผู้ชมลุ้นกันตลอดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางไหนเพราะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย อีกทั้งเรายังได้เรียนรู้กฎหมายและการสะท้อนกระบวนการยุติธรรมของเกาหลีผ่านซีรี่ย์อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์เกาหลีที่สนุกครบรสและไม่ควรพลาดจริงๆ

นักแสดงนำ : ซงจุงกิ,จอนยอบิน,แทคยอน

ความยาว : 20 ตอน

3. Taxi Driver (แท็กซี่ชำระแค้น)

เรื่องราวของอดีตทหารในหน่วยรบพิเศษ ที่ผันตัวมาทำงานให้องค์กรลับซึ่งเปิดบริษัทแท็กซี่บังหน้า มีความเป็นซีรี่ย์เกาหลี แนวมาเฟียหน่อยๆ แต่ไม่ได้มีฉากฆ่าฟันแทงให้เห็นมากนัก เนื่องจากซีรี่ย์จะเล่าถึงทำงานผ่านตัวพระเอกที่ทำหน้าที่เหมือนสารเตี้ยคอยลงโทษคนผิดเมื่อมีใครไม่ได้รับความยุติธรรม โดยจะเปิดบริการพิเศษสำหรับคนอยากแก้แค้นเท่านั้น นอกจากลูกค้าที่ต้องการชำระแค้นแล้ว ซีรี่ย์จะค่อยๆ เผยให้เราจะได้เห็นเรื่องราวความเจ็บช้ำและการสูญเสียของทีมขับแท็กซี่ผ่านการบริการการรับชำระแค้นของลูกค้าแต่ละราย การไขคดีที่ต่างๆในเรื่องเองก็ชวนให้น่าติดตาม ไม่ควรพลาด !

นักแสดงนำ : อีเจฮุน,อีซม,พโยเยจิน

ความยาว : 16 ตอน

4. The Devil Judge (ผู้พิพากษาปีศาจ)

ซีรี่ย์เกาหลีที่แสนจะสุดเดือดไปกับเรื่องราวของระบบกระบวนการยุติธรรม ที่เปลี่ยนศาลให้กลายเป็นรายการเรียลลิตี้พิจารณาคดี โดยให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจจากการโหวตผ่านแอพพลิเคชัน เป็นซีรี่ย์กฎหมายที่เราจะได้เห็นความแปลกใหม่ผ่านบทซีรี่ย์ และปัญหาเชิงโครงสร้างทางสังคมที่ส่งผลต่อคนทั้งระบบในประเทศ ทั้งการเมือง ความเหลื่อมล้ำต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม เป็นซีรี่ย์ที่สามารถเข้าใจอารมณ์ผู้คนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาเล่านี้ยังมีให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งบทในซีรีย์พยายามที่จะทำให้เราได้เห็นทั้งสองด้านของกระบวนการยุติธรรมที่อยู่บนผลประโยชน์ของพวกพ้องมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน และชวนให้คนดูตั้งคำถามถึงระบบโมเดลในซีรี่ย์ว่าถูกต้องจริงหรือไม่ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์แก้เบื่อสำหรับปี 2022 ได้ดีมากๆ

นักแสดงนำ : จีซอง,คิมมินจอง,พัคจินยอง,พัคกยอง

ความยาว : 16 ตอน

5. Prison Playbook (ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้)

ซีรี่ย์ดาร์กสายฮาที่ดำเนินเรื่องผ่านการใช้ชีวิตในคุก ซึ่งเราจะเห็นมุมมองความรักต่างๆ ทั้งในรูปแบบมิตรภาพและเพื่อนมนุษย์ร่วมกัน ผ่านเรื่องราวของนักเบสบอลดาวรุ่ง ที่มีเหตุพลั้งมือฆ่าคนตายและทำให้เขาต้องโทษติดคุก จากชีวิตที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด กลับมาจมดิ่ง เขาจะรู้สึกอย่างไร ? และเพื่อนนักโทษคดีต่างๆ ที่ติดคุกกับเขานั้นเป็นเลวร้ายจริงหรือไม่?  ซีรี่ย์มีซีนบีบอารมณ์ให้คนดูร้องไห้และหัวเราะไปในเวลาเดียวกันได้และเนื้อเรื่องกระชับ ฉับไว ไม่น่าเบื่อ สามารถดูได้เพลินๆ เป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์เกาหลี 2022 Netflix ที่แนะนำให้ไปดูมากๆ เลยค่ะ

นักแสดงนำ : ปาร์กแฮซู,จองคยองโฮ,คริสตัล f(x)

ความยาว : 16 ตอน

6. Vagabond (เจาะแผนลับเครื่อข่ายนรก)

ซีรี่ย์แอ็คชั่นเข้มข้นมีความผสมผสานคล้ายซีรี่ย์เกาหลี แนวมาเฟียอยู่บ้างแต่เนื้อหาในเรื่องมีความเข้มข้น สนุกไปกับเรื่องราวของสตันท์แมนที่เข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเครื่องบินตกและทำให้เขาสูญเสียหลานชายที่เป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาไป และพบว่าเหตุการณ์เครื่องบินตกไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดา แต่มีใครบางคนที่อยู่เบื้องหลัง เขาจึงพยายามค้นหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ ซึ่งซีรี่ย์เรื่องนี้บอกได้เลยว่าฉากแอ็คชั่นหรือฉากบู้ดีมากๆ เนื้อหาในเรื่องกระชับชวนตื่นเต้นและลุ้นไปทุกตอน ทำให้คนดูเดาทางได้ยาก เป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์เกาหลีที่ควรไปตามเก็บตามมากๆ

นักแสดงนำ : อีซึงกิ,ซูจี,ชินซองรก

ความยาว : 16 ตอน

7. law school ชีวิตนักเรียนกฎหมาย

Law School ชีวิตนักเรียนกฎหมาย ถึงจะไม่ใช่ซีรี่ย์เกาหลี แนวมาเฟีย แบบเต็มๆแต่ซีรี่ย์ก็มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตามมาก เป็นเรื่องราวของอดีตอัยการที่ผันตัวมาเป็นศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงเรียนกฎหมายและได้เสียชีวิตลงระหว่างคาบเรียน ซึ่งตำรวจได้สรุปเหตุการณ์ว่าเป็นการ “ฆาตกรรม” และผู้ต้องสงสัยอาจจะเป็นคนในโรงเรียนเพราะมีเพียงแค่คนภายในเท่านั้นที่สามารถเข้ามาเรียนได้ บทของซีรี่ย์จะออกแนวสืบสวนเรื่องราวภายในโรงเรียนกฎหมายและการใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อพลิกสถานการณ์ต่างๆ ตามฉบับนักเรียนกฎหมาย ซึ่งการทิ้งปมของซีรี่ย์ไว้ให้ตัวละครมีเหตุผลที่จะเป็นฆาตกรได้ทั้งนั้น ชวนให้เราอยากดูต่อ สำหรับใครที่หาซีรี่ย์ดูเรื่อยๆ แก้เบื่อหรืออยากหาแรงบันดาลใจก็แนะนำค่ะ

นักแสดงนำ : คิมยองมิน,คิมบอม,รยูฮเยยอง

ความยาว : 16 ตอน

เป็นยังไงบ้างคะ ? กับ 7 ซีรี่ย์ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้มีซีรี่ย์เกาหลี แนวมาเฟียเรื่องไหนที่น่าสนใจน่าไปเก็บกันบ้าง??  สำหรับใครที่ชื่นชอบซีรี่ย์สายแอ็คชั่น,บู๊ดุเดือด หรือตามไปดูเพราะชื่นชอบดารา ศิลปิน ท่านไหนที่มาแสดงกันบ้างเอ่ย? สามรถคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ หรือใครที่ผูกบัญชีกับ Netflix ก็อย่าปล่อยให้โดนหักเงินไม่รู้ตัว รีบตามไปดูให้ครบกันนะ หรือถ้าใครชอบแนว ซีรีย์เกาหลี พระเอกเป็น CEO ก็ไปหาดูกันได้เลยค่ะ

Inspire Now ! : ซีรีย์เกาหลี แนวมาเฟีย แม้จะมีเนื้อหารุนแรงอยู่บ้าง แต่สิ่งสำคัญคือ บทซีรีย์ที่ชวนติดตามและสะท้อนความเป็นจริงของสังคม และสะท้อนความเป็นจริงของชีวิต ซึ่งเราสามารถหยิบเอาข้อคิดดีๆ ที่ได้ หรือแนวทางการใช้ชีวิตสไตล์คนต่อสู้ชีวิต ไม่ยอมแพ้ให้กับความอยุติธรรม มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่างน้อยก้มีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนที่ดีกว่าใช่ไหม ? ดูซีรีย์แนวมาเฟียแล้ว ได้กำลังใจในการใช้ชีวิตกันมากขึ้นไหมคะ ? ใครชอบเรื่องไหน มาคอมเมนต์บอกเราได้เลยนะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : netflix.com

Feature Image Credit : freepik.com/h9images