เพลงดิสนีย์, เพลงดิสนีย์ ไทย

รวม เพลงดิสนีย์ EN – TH  ที่ฟังแล้วฟิน สร้างแรงบันดาลใจ ผ่อนคลายได้ทุกที่ ทุกเวลา !

การ์ตูนดิสนีย์เปรียบเสมือนพื้นที่แห่งความสุขที่หลายๆ คนเคยนั่งเฝ้าหน้าจอทีวีกันตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ  และสำหรับใครหลายคนก็ยังคงเป็นความสุขแม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม เพราะมีหนังดิสนีย์น่าดูมากมายที่ดีต่อใจในวัยผู้ใหญ่มากๆ และบางคนก็ยังย้อนกลับไปดูการ์ตูนเรื่องเดิมอยู่บ่อยๆ หรือนำเพลงดิสนีย์จากแอนิเมชั่นในดวงใจมาร้องมาฟังกันอยู่เสมอ ทั้งเพลงดิสนีย์ ไทยและเวอร์ชั่นอังกฤษก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน ด้วยสำนวนในการแปลที่เข้าขั้นเทพ ภาษาสวยงาม แถมยังเข้ากับจังหวะได้เป็นอย่างดี เราอยากชวนมาฟังเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจ และเพลิดเพลินไปกับ เพลงดิสนีย์ ทั้ง 15 เพลงจากแอนิเมชั่นเรื่องฮิต รับรองว่าครบรสและถูกใจสาวกดิสนีย์อย่างแน่นอน

เพลงดิสนีย์ ในดวงใจ ฟังเมื่อไหร่ก็อิน ฟินไปกับเพลง !

นอกจากเนื้อเรื่องของการ์ตูนที่สนุกโดนใจ จะเปิดดูกี่รอบก็ไม่มีเบื่อแล้ว เพลงประกอบก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้เราอินไปกับเนื้อเรื่องมากขึ้น และบางเพลงก็เป็น Signature ของการ์ตูนเรื่องนั้นๆ เลยก็ว่าได้ แล้วแต่ละเพลงก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันไป มาดูกันค่ะว่า จะมีเพลงไหนบ้าง ที่เราหยิบยกมาฝากกันในบทความนี้ บางเพลง อาจจะเป็นเพลงในดวงใจของใครหลายคนอยู่แล้วก็ได้ ไปดูกันเลย !

การผจญภัยที่กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว

เพลงดิสนีย์, เพลงดิสนีย์ ไทย
Image Credit : Unsplash

เริ่มกันที่เพลงในหมวดแอนิเมชั่นสร้างกำลังใจ ปลุกพลังในตัวเราให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น หรือใครที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่ เพลงหมวดหมู่นี้ ก็จะเสริมสร้างกำลังใจให้เราอยากออกไปผจญโลก ออกเดินทาง เพื่อค้นพบตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง จะมีเพลงอะไรบ้างนั้น ไปฟังกันเลย !

[affegg id=4518]

1. Reflection (Mulan)

ถ้าขาดเพลง Reflection’ หรือ ‘เงา’ ไปก็เหมือนไม่ใช่ภาพยนตร์ Mulan เพลงนี้ถือได้ว่าส่งให้ภาพยนตร์มีพลังขึ้นไปอีกขั้น และเมื่อเราได้ฟังเพลงดิสนีย์เพลงนี้ก็จะรู้สึกอินไปกับเพลงได้ไม่ยาก เพราะความหมายของเพลงสื่อถึงการค้นหาตัวตนที่ไม่มีสังคมมาจำกัดหรือตีกรอบให้เราเป็น และยังเป็นเพลงดิสนีย์ ไทยที่ติดหูและได้รับความนิยมมากๆ อีกด้วย

EN :

TH :

2. Colors of the wind (Pocahontas)

มาต่อกันที่เพลงดิสนีย์อย่าง ‘Colors of the wind’ หรือ สีสันแห่งสายลม’ ที่ร้องโดยโพคาฮอนทัส เนื้อเพลงพูดถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และความสำคัญของทุกสรรพสิ่งที่ทำให้โลกนี้สวยงาม และเพื่อให้มนุษย์ตระหนักได้ว่าตนเองไม่ได้เป็นเป็นเจ้าของทรัพยากรทุกสิ่งบนโลก และโลกนี้สวยงามได้ก็เพราะความสมดุลของธรรมชาติ นอกจากเพลงที่ติดหูแล้ว ความหมายยังส่งพลังให้กับเราได้อีกด้วย

EN :

TH :

3. Let it go (Frozen)

เพลงดิสนีย์, เพลงดิสนีย์ ไทย
Image Credit : Unsplash

ถึงจะไม่ใช่แฟนดิสนีย์แต่เชื่อได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จักเพลง ‘Let it go’ หรือ ‘ปล่อยมันไป’ เพลงสุดฮึกเหิมที่ได้ฟังแล้วจะต้องรู้สึกถึงความมั่นใจในตนเอง และมีพลังในการใช้ชีวิตมากขึ้น อยากจะปล่อยพลังความเป็นตัวเราออกมาเหมือนราชินีเอลซ่า โดยเฉพาะในท่อน ‘I don’t care what they’re going to say, Let the storm rage on, The cold never bothered me anyway’ หรือในเวอร์ชั่นไทย ‘ฉันไม่กลัว ปล่อยให้เขาพูดไป พัดให้โหมกระหน่ำ ความหนาวไม่ทำให้เดือดร้อนสักเท่าไหร่’ ทั้งนี้ เพลง Let it go ได้รับความนิยมจนอยู่ในอันดับที่ 4 Billboard’s Greatest of All Time ของเพลงดิสนีย์อีกด้วย

EN :

TH :

4. Into the unknown (Frozen 2)

ได้ฟังเพลงดิสนีย์จาก Frozen ภาคแรกกันไปแล้วมาต่อกันที่ Frozen 2 ในเพลง ‘Into the unknown’ หรือ เพลงดิสนีย์ ไทยที่ชื่อว่า ‘ดินแดนที่ไม่รู้’ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฟังเสียงข้างในของตัวเอง และออกค้นหาตัวเองเพื่อค้นพบตัวตนที่เราเองก็ยังไม่เคยเจอมาก่อน เพลงนี้ยังพิเศษไปอีกขั้นเพราะได้ AURORA นักร้องชาวนอร์เวย์มาร่วมร้องด้วย และเธอมีบทบาทสำคัญในเรื่อง Frozen2 อีกด้วยนะ เป็นเสียงปริศนาที่เอลซ่าได้ยินมาตลอดนั่นเองค่ะ

EN :

TH :

[affegg id=4519]

5. Show yourself (Frozen 2)

ยังคงอยู่กันที่เพลงจาก Frozen 2 ที่มีชื่อว่า ‘Show yourself’ หรือ ‘เผยตัวตน’เพลงดิสนีย์เพลงนี้มาด้วยจังหวะที่เร้าใจขึ้นมาอีกนิด รับรองว่าฟังแล้วฟินแน่นอนซึ่งเป็นเพลงที่ทำให้เรามีกำลังใจกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นอย่างภาคภูมิใจ กล้าที่จะเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมา ทั้งนี้ ยังมีเสียงหวานๆ ของ Evan Rachel Wood นักแสดงมากฝีมือที่เข้าชิงรางวัล Emmy Awards และเธอยังได้พากย์เสียงเป็นแม่ของเอลซ่าและอันนาในเรื่องนี้อีกด้วย

EN :

TH :

6. How far i’ll go (Moana)

มาต่อกันที่ ‘How far I’ll go’ หรือในเวอร์ชั่นไทยที่มีชื่อว่า ‘ห่างเพียงใด’ เพลงดิสนีย์นี้เหมาะมากสำหรับคนที่อยากได้แรงบันดาลใจ เติมพลังให้กับชีวิตในวันที่เหนื่อยล้า สำหรับใครที่ไม่เคยดูโมอานาฉากในเรื่องนี้ โมอานามีเสียงในใจบางอย่างที่เรียกร้องให้เธอหลุดออกจากกรอบการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ และตัดสินใจออกเดินทางข้ามมหาสมุทรเพื่อไปผจญภัยและทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ใครที่ยังไม่เคยดู ต้องบอกว่าห้ามพลาดเลยค่ะ

EN :

TH :

7. I’ve got a dream (Tangled)

ใครที่ชอบเพลงจังหวะเร็วๆ ต้องลองเปิดเพลง ‘I’ve got a dream’ หรือ ‘ฉันมีความฝัน’ จากเรื่อง Tangled เพลงจังหวะสนุกๆ ที่มาพร้อมกับเรื่องราวความฝันที่ไม่ว่าใครก็สามารถมีฝันได้ อย่างในเรื่องจะร้องนำโดยคนงานในเหมืองที่เล่าเรื่องของตนเอง และมีราพันเซลเข้าไปร่วมด้วย รับรองว่าสร้างพลังบวกและเพิ่มความหวังให้กับพวกเราคนฟังมากขึ้นเลยทีเดียว

EN :

TH :

8. When will my life begin (Tangled)

อีกเพลงดิสนีย์จากเรื่อง Tangled ที่เหมาะกับการเปิดฟังในตอนเช้ายามตื่นนอน สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ทำหรับคนที่เบื่อสิ่งเดิมๆ และอยากลองทำอะไรใหม่ๆ เพลง ‘When will my life begin’ หรือ ‘เมื่อไหร่ชีวิตจะเริ่มต้น’ เป็นเพลงที่น่ารักและสื่อถึงความเป็นราพันเซลได้ดีมากๆ มาพร้อมจังหวะสนุกๆ และเนื้อเพลงที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี

EN :

TH :

รวมกองทัพสิงสาราสัตว์ทั้งบนดินและใต้น้ำ

ใครที่ชอบการ์ตูนแนวสัตว์น่ารักจะต้องถูกใจหมวดนี้ และเชื่อว่าเป็นหนึ่งในการ์ตูนเรื่องโปรดของใครหลายคนแน่นอน จะมีเพลงอะไรกันบ้าง ไปฟังกันเลยค่ะ !

9. Part of your world (The little mermaid)

เพลงประจำตัวของเจ้าหญิงดิสนีย์ การ์ตูนเอเรียลอย่าง ‘Part of your world’ หรือ ‘อยู่ในโลกเธอ’ จากเรื่อง The little mermaid เป็นหนึ่งในเพลงที่แฟนพันธุ์แท้น่าจะคุ้นหูในเวอร์ชั่นไทยมากกว่า แต่รับรองได้เลยว่าทั้งสองเวอร์ชั่นเพราะไม่ต่างกัน เพราะเสียงของเอเรียลทั้งเวอร์ชั่นภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้น หวานไพเราะจับใจทั้งคู่ สมเป็นเจ้าหญิงนางเงือกที่มีเสียงร้องไพเราะเป็นเอกลักษณ์จริงๆ

EN :

TH :

10. Hakuna Matata (The lion king)

สำหรับเวลาที่เรานึกถึง The lion king หนึ่งในภาพจำและวลีติดหูคงหนีไม่พ้น ‘Hakuna Matata’ ที่แปลได้ว่า ไม่มีปัญหา และไม่ต้องกังวล มู้ดของเพลงก็เป็นไปตามชื่อ เหมาะกับการเปิดฟังเพื่อโยกย้ายเคลื่อนไหวร่างกายไปตามจังหวะ และให้กำลังใจตัวเองว่าไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องอะไร ฟังได้แบบเพลินๆ พร้อมรับพลังบวกไปเต็มที่ โดยเฉพาะในเพลงดิสนีย์ ไทยเวอร์ชั่น ‘ฮาคูน่า มาทาท่า’ ในท่อน ‘ไม่เห็นต้องกังวล ปล่อยมันไปน่ะสุขแท้’ ที่บอกให้เราปล่อยวางในเรื่องร้ายๆ ไป แล้วมีความสุขกันเถอะ !

EN :

TH :

11. Happy working song (Enchanted)

มาถึงภาพยนตร์การ์ตูนดิสนีย์ที่เต็มไปด้วยสัตว์น่ารักๆ และเจ้าหญิงที่ต้องข้ามภพมาในโลกปัจจุบัน อย่าง Enchanted เปิดเรื่องมาด้วยเพลง ‘Happy working song’ หรือ ‘เพลงทำงานสุขสันต์’ เป็นเพลงที่เจ้าหญิงจีเซลกำลังทำงานบ้านพร้อมกับสัตว์ต่างๆ ที่เธอรัก ใครที่กำลังเบื่อหน่ายอยากหาเพลงฟังในระหว่างทำงานบ้าน บอกเลยว่าเหมาะสุด

EN :

TH :

ท่องโลกแฟนตาซีกับสิ่งมีชีวิตแปลกตา

มาต่อกันที่หมวดหนังท่องโลกแฟนตาซีที่ไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นดินแดนโลกหลังความตาย ดินแดนแห่งป่า ดินแดนแห่งเวทมนตร์ หรือแม้แต่ตะเกียงวิเศษก็มา น่าจะพอเดาออกกันบ้างแล้ว งั้นไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีเพลงอะไรกันบ้าง

12. Remember me (Coco)

ซึมซับวัฒนธรรมละตินและเผชิญกับโลกหลังความตายไปกับ Coco ในเพลง ‘Remember me’ หรือ ‘จำฉันให้ดี’ เป็นเพลงบอกเล่าซึ้งๆ ที่ถูกร้องไปตลอดทั้งเรื่อง และเป็นเพลงไคลแมกซ์ของเรื่องอีกด้วย แน่นอนว่าได้หลากอารมณ์ทั้งสุข สนุก เศร้า แต่ที่แน่ๆ ถ้าได้ฟังทุกคนจะได้รับพลังบวกในทุกเวอร์ชั่น

EN :

TH :

13. Speechless (Aladdin)

มาถึงเพลงจากภาพยนตร์ Aladdin ในเพลง ‘Speechless’ หรือเงียบเสียง’ ในเวอร์ชั่นไทยแม้ว่าจะร้องยากขึ้นจากการแปลมา แต่ก็ยังส่งมอบอารมณ์ได้ดีไม่มีตก แสดงถึงความไม่หวั่นกลัวในสิ่งใดของเจ้าหญิงจัสมิน และกล้าที่จะโต้ตอบในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่ถูกต้อง ใครที่กำลังรู้สึกลังเลที่จะทำบางสิ่งเพราะความกังวลใจ หรือกำลังไม่มั่นใจเพราะมีคนบอกว่าเราทำไม่ได้ ไม่ควรทำ อยากให้ลองมาฟังเพลงนี้กัน แล้วจะมีความกล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเองทันทีเลยค่ะ

EN :

TH :

14. Once upon a dream (Maleficent / Sleeping Beauty)

มาที่เพลงระดับตำนานที่เดิมเป็นเพลงจากการ์ตูนเรื่อง Sleeping Beauty แต่ถูกนำไปร้องใหม่อีกครั้งในอารมณ์ที่ต่างออกไปในภาพยนตร์ Maleficent เพลง ‘Once upon a dream’ หรือ ‘กาลครั้งหนึ่งในฝัน’ ถ้าฟังในเวอร์ชั่นการ์ตูนจะได้ความสดใสออกมาในมุมของออโรร่า เติมพลังบวกและความหวานโรแมนติกให้กับตัวเอง แต่ถ้าฟังเวอร์ชั่นของ Lana Del Rey จะสัมผัสได้ถึงความสง่า เข้มแข็งและแข็งแกร่ง มีความน่าเกรงขาม น่ากลัวนิดๆ เหมือนตัวละครมาเลฟิเซนต์นั่นเอง

EN :

TH :

15. You’ve Got a Friend in Me (Toy Story 4)

เพลงดิสนีย์, เพลงดิสนีย์ ไทย
Image Credit : Unsplash

จบท้ายด้วยแอนิเมชันเต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพอย่าง Toy Story ที่เพลงดิสนีย์ในเรื่องนี้ก็มีดีที่แพ้เนื้อเรื่องอย่างเพลง ‘You’ve Got a Friend in Me’ หรือ ‘เธอคือเพื่อนรู้ใจ’ ที่เนื้อเพลงได้เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนและเหล่าของเล่นที่มีชีวิต แต่พอฟังแล้วก็ทำให้นึกถึงมิตรภาพของเราและเพื่อนๆ ในชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี

EN :

TH :

[affegg id=4520]

Inspire Now ! : แต่ละเพลงของดิสนีย์จะซ่อนขุมพลังเอาไว้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเปิดฟังกี่ครั้ง เราก็จะได้รับพลังในการใช้ชีวิตกันอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเพลงดิสนีย์ ไทย และอังกฤษ อาจเป็นเพราะท่วงทำนองที่ไพเราะโดนใจ หรือความหมายของเนื้อเพลงที่ชวนสะกดใจ พาให้อินและดำดิ่งไปกับเพลงได้ไม่ยาก และบางเพลงยังเป็นทั้งความสุขและความทรงจำอันล้ำค่าในวัยเด็ก ที่หล่อหลอมให้เราหลงรักความเป็นดิสนีย์อย่างเสมอมา

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? ถ้าวันไหนอยากได้กำลังใจ หรืออยากปลุกใจตัวเอง ลองเปิดเพลงจากดิสนีย์ฟังดูนะคะ รับรองว่าจะต้องได้อะไรดีๆ หลังจากฟังจบแน่นอน หรือจะฟังเพื่อความเพลิดเพลินเฉยๆ ก็ได้นะ ใครมีเพลงโปรดอะไรกันบ้าง คอมเมนต์บอกได้เลยค่ะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : smoothradio.com, cheatsheet.com, billboard.com

Featured Image Credit : pexels.com/Magda Ehlers

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW