แมวตกใจ หายใจแรง ทำยังไงดี ? รวมวิธีรับมือที่ทาสต้องรู้เมื่อนายท่านที่บ้านเกิดอาการตกใจ !

แมวดูเหมือนจะเป็นสัตว์ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและแสนจะเอาแต่ใจจนทาสอย่างเราต้องคอยเอาใจอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างนั้น แมวก็เป็นสัตว์ที่ขี้กลัวและตื่นตกใจง่ายด้วยเช่นกันเพราะมีประสาทสัมผัสที่รับรู้ความรู้สึกได้มากกว่ามนุษย์เรานั่นเอง ซึ่งในบางครั้งที่ แมวตกใจ หายใจแรง ก็มักจะมีอาการหอบถี่จนน่าเป็นห่วงเลยทีเดียว ถ้านายท่านที่บ้านของเรามีอาการแบบนี้จะต้องรับมือยังไง และสามารถดูแลยังไงได้บ้าง มาดูกันเลยค่ะ

รวมวิธีรับมือที่ทาสแมวควรรู้ไว้ แมวตกใจ หายใจแรง ต้องทำยังไงดี ?!

แมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะรักสันโดษ ดังนั้นเมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นชินก็อาจทำให้แมวตกใจได้ง่าย เช่น ย้ายบ้านใหม่ เจอคนแปลกหน้า เจอแมวตัวอื่น หรือต้องไปหาหมอ ซึ่งทำให้แมวตกใจ หายใจแรง เหมือนกำลังอยู่ในอาการหอบ มีการแลบลิ้นออกมา พร้อมทั้งมีอาการหัวใจเต้นแรงร่วมด้วย เมื่อสังเกตเห็นว่าเจ้าเหมียวของคุณกำลังมีอาการเหล่านี้อยู่ ก็ขอให้รู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นอาการของแมวตกใจ นอกจากนี้ยังอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่

1. ซ่อนตัวหนีผู้คนและไม่ให้ใครจับตัว
2. ขนตั้งฟู ตัวพอง
3. ดวงตาเบิกกว้าง
4. อาจมีเสียงคำราม หรือมีเสียงกรน
5. พยายามกัดหรือข่วนเมื่อมีคนพยายามเข้าใกล้
6. หูลู่ไปทางลำตัวด้านหลัง

อาการตกใจ หายใจแรงในแมวอาจมีสาเหตุมาจาก อาการโฟเบีย

สาเหตุที่ทำให้แมวเหมียวน่ารักของเราอยู่ในอาการตกใจอาจเกิดจากการที่แมวมีความกลัวมากจนเกินไป หรือที่เรียกว่า อาการโฟเบีย (phobia) โดยอาการนี้สามารถพบได้ทั้งในคนและในแมว แต่ในแมวจะพบได้มากกว่าเพราะมีประสาทสัมผัสที่รับรู้เสียงและกลิ่นได้มากกว่ามนุษย์ อาการโฟเบียที่พบบ่อย คือ กลัวเสียงดัง กลัวฝนตกฟ้าร้อง กลัวสถานที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลหรือคลินิกรักษาสัตว์ หรือกลัวการอยู่ตัวเดียว เป็นต้น ทั้งนี้อาการแมวตกใจ หายใจแรงนั้นไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงแต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจเพราะอาจนำไปสู่ภาวะโรคอื่นๆ ตามมาได้ เช่น โรคหัวใจ หอบหืดแมว ฯลฯ

ชวนดูวิธีรับมือเมื่อ แมวตกใจ หายใจแรง ทำอย่างไรดี ?

ในคนที่เลี้ยงแมว เมื่อเห็นว่าแมวของเรามีอาการผิดปกติ ตกใจกลัว ก็คงจะรู้สึกกังวลและไม่สบายใจ อยากให้แมวของเราหายจากอาการนั้นไวๆ แล้วจะทำอย่างไรดี ? มาดูวิธีรับมือเมื่อแมวเหมียวมีอาการตกใจกลัวกันค่ะ

1. ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมเพื่อบรรเทาอาการ

เมื่อแมวตกใจ หายใจแรงมักจะทำให้เกิดความเครียดและมีอาการตื่นตระหนกร่วมด้วย หากไม่รู้ว่าจะต้องรับมือยังไงแนะนำให้หาซื้อผลิตภัณฑ์ช่วยคลายเครียดติดบ้านไว้เลยค่ะ วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกและได้ผลเร็วที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์บรรเทาความเครียดสำหรับน้องแมวมากมาย เช่น ปลอกคอฟีโรโมน แคทนิปสำหรับแมว ตำแยแมว เป็นต้น เมื่อแมวได้กลิ่นเหล่านี้ก็จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ช่วยให้คลายความกังวลลง รู้สึกสงบขึ้น และกลับสู่ภาวะปกติ

2. ให้ขนมหรืออาหารโปรด

เมื่อแมวมีอาการตกใจ หายใจแรง การให้ขนมหรืออาหารแมว (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ อาหารแมวยี่ห้อไหนดี?) ก็ช่วยทำให้แมวรู้สึกดีขึ้นได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าแมวบางตัวอาจจะต่อต้านเจ้าของอยู่บ้างในขณะที่รู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับขนมโปรดอย่างแน่นอน โดยเฉพาะขนมแมวเลีย ทั้งนี้ อาจจะเลือกซื้อเป็นขนมหรืออาหารที่มีส่วนผสมของสารต้านความเครียดอยู่ด้วยก็ได้ เช่น ทริปโตเฟนที่ทำให้แมวรู้สึกง่วงนอน และอัลฟา-คาโซเซพีนที่ทำให้แมวรู้สึกผ่อนคลาย แต่แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้นะคะ

3. การเล่นหรือลูบในจุดที่แมวรู้สึกดี

น้องแมวเป็นสัตว์ที่ชอบให้ทาสลูบหรือเล่นกับเค้ามาก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้แมวรู้สึกดีขึ้นก็คือการเล่นและสัมผัสตัวเค้านั่นเองค่ะ แมวจะรู้สึกได้รับความรักหากได้รับอ้อมกอดจากทาสหรือถูกเกาในจุดที่ชอบ เช่น เกาคางหรือลูบหัว หากมีเสียง purr ของแมว ก็เป็นสัญญาณบอกได้ว่าแมวรู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว แต่ถ้าแมวอยู่ในอาการตกใจและหนีไปแอบซ่อนก็ไม่ควรไปบังคับแมวหรือพยายามไปอุ้มออกมานะคะ เพราะอาจจะทำให้แมวยิ่งรู้สึกตกใจกลัวมากขึ้นกว่าเดิมได้

การเลี้ยงแมวนั้นนอกจากจะต้องดูแลในเรื่องของอาหารและสุขภาพกายภายนอกแล้ว ยังต้องคอยเอาใจใส่เป็นพิเศษด้วย เพราะแมวเป็นสัตว์ที่มีอาการฝังใจได้ง่ายเมื่อเจอเรื่องที่ไม่ดี จึงควรสังเกตอย่างใกล้ชิดว่าแมวมีอาการอะไรผิดปกติหรือไม่ นอกจากวิธีรับมือเมื่อแมวตกใจ หายใจแรงที่เราได้แนะนำไปแล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะทำให้แมวมีอาการกำเริบด้วย เช่น พาไปอยู่ในที่ชุมชน หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เมื่อแมวมีสุขภาพจิตที่ดีก็จะช่วยทำให้แมวแข็งแรงและอยู่กับเราไปได้อีกนานเลยค่ะ

Inspire Now ! : แมวตกใจ หายใจแรงสามารถป้องกันได้หากมีการฝึกตั้งแต่แมวยังเด็กในช่วงอายุ 2 – 7 สัปดาห์ หรือในช่วงเวลาที่เรียกว่า ระยะเข้าสังคม ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่แมวจะสามารถจดจำได้มากเป็นพิเศษ ควรฝึกให้แมวได้มีการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมแปลกใหม่โดยไม่ทำให้เกิดความกลัว เช่น ให้ขนมในตอนที่พาไปหาหมอ หรือ ใช้ผ้าเช็ดตัวห่อตัวแมวเมื่อมีเสียงดังเพื่อให้รู้สึกปลอดภัย และไม่ควรทำโทษด้วยความรุนแรงโดยเด็ดขาด เมื่อแมวเติบโตมาด้วยสิ่งแวดล้อมที่ดีก็จะทำให้แมวมีความมั่นใจมากขึ้น ส่งผลทำให้ไม่ตกใจต่อสิ่งเร้าที่เข้ามากระทบ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของแมวด้วยเช่นกัน

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ?  การที่แมวตกใจและหายใจแรงนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามปกติ เมื่อเจ้านายที่บ้านมีอาการแบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะได้รู้วิธีรับมือที่เรานำมาฝากกันแล้ว ใครมีวิธีอื่นที่ใช้แล้วได้ผลก็มาคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : thesprucepets.com, petmd.com, theoaklandpress.com

Featured Image Credit : vecteezy.com/koldunova