รวม 7 น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ ให้กลิ่นหอมตลอดการเดินทาง

ไม่ว่าคุณจะใช้รถยนต์แบบไหน ใช้น้ำมัน หรือรถยนต์ไฟฟ้า (แนะนำ รถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นที่น่าซื้อ) ก็เชื่อได้ว่าจะต้องมีน้ำหอมปรับอากาศอยู่ในรถด้วยอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะช่วยให้บนรถของคุณมีกลิ่นที่หอมสดชื่นไปตลอดทางแล้วนั้น ยังช่วยขจัดกลิ่นอับ กลิ่นอาหาร หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้อีกด้วย ช่วยให้เราหายใจสะดวก มากขึ้น เพราะการใช้น้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์จะสามารถช่วยกำจัดกลิ่นรถเหม็นๆ ให้มีกลิ่นหอมขึ้นมาได้ ซึ่งในท้องตลาดนั้นก็มีให้เลือกใช้หลายยี่ห้อและหลายรูปแบบ หากคุณต้องการให้รถมีกลิ่นหอมสดชื่นอยู่เสมอนั้น เรามี 7 น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์  พร้อมข้อควรระวังในการใช้มาแนะนำกันค่ะ

7 ยี่ห้อ น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ หอมทน หอมนาน สดชื่นตลอดการเดินทาง

น้ำหอม รถยนต์ก็มีให้เลือกอยู่หลายยี่ห้อด้วยกัน สำหรับใครที่ไม่เคยซื้อใช้มาก่อน แล้วกังวลว่ากลิ่นจะหอมถูกใจหรือไม่ หรือกลัวว่ากลิ่นจะไม่หอมติดทนนาน เราคัดมาให้แล้วว่ามีน้ำหอมในรถยนต์ยี่ห้อไหนบ้างที่กลิ่นหอมนาน คุณภาพดี ช่วยให้เราขับรถได้แบบสดชื่น ไม่มีกลิ่นเหม็นอับมารบกวน ไปเลือกกันเลย !

1. Glade sport

เกลด สปอร์ต น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ ที่มาในรูปลักษณ์ดีไซน์ทันสมัย และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ให้กลิ่นที่หอมสดชื่น ผ่อนคลาย มีให้เลือกหลายกลิ่น ทั้งกลิ่นโอเชี่ยน เอสเคป กลิ่นคูลแอร์ กลิ่นคูลวอเตอร์ กลิ่นฟลอรัล เพอร์เฟ็คชั่น และกลิ่นลาเวนเดอร์ & มารีน ซึ่งช่วยขจัดกลิ่นเหม็นต่างๆ  และทำให้รถยนต์ของคุณหอมสดชื่นยาวนานถึง 75 วัน

ราคาโดยประมาณ : 169 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

2. Fresh Time

น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์อโรมา ที่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศทั้งในรถและในบ้านให้หอมอบอวล มาในกลิ่นหอมสะอาด สดชื่น และมาในรูปลักษณ์ทันสมัย คอลเลคชั่น LINE FRIENDS ที่น่ารักเหมาะกับรถยนต์สำหรับผู้หญิง ไม่อุดตันช่องแอร์ และไม่เป็นอันตรายต่อระบบทำความเย็น ให้กลิ่นหอมยาวนานถึง 45 วัน มี 2 กลิ่นให้เลือกคือ Cool Space และ Fresh Sunday

ราคาโดยประมาณ : 90 -129 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

3. Airpro

น้ำหอม รถยนต์ Airpro ที่สามารถใช้ได้ทั้งในรถยนต์ และใช้ได้กับทุกห้องในบ้านที่ต้องการให้มีกลิ่นหอม ให้กลิ่นหอมสดชื่นและยาวนาน สามารถอยู่ได้นานถึง 30 วัน มีหลายกลิ่นให้เลือกตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น Violet Blast ที่ให้กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ กลิ่น Paradise ให้ความหอมสดชื่นแบบธรรมชาติ หรือกลิ่น New Car ที่ให้กลิ่นหอมสดชื่นแบบสปอร์ต

ราคาโดยประมาณ : 45 – 49 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

4. Ambi pur

แอมบิเพอร์ คาร์ น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ ที่มาในกลิ่นหอมผ่อนคลาย ให้ความสดชื่นแก่ตัวรถ ทั้งยังสามารถเพิ่มความหอมได้ด้วยปุ่มเลื่อนปรับระดับความหอม ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความหอมสดชื่น และช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ยาวนานถึง 45 วัน มีหลากหลายกลิ่นให้เลือก ทั้งกลิ่นนิวซีแลนด์ สปริง กลิ่นไลท์ ซิตรัส กลิ่นเฟรช สกาย และกลิ่นแก้วมังกรแบบไทยๆ ที่ไม่เหมือนใคร

ราคาโดยประมาณ : 119 – 129 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

5. King’s Stella

น้ำหอม รถยนต์ FRESHY BEAR GEL จากคิงส์สเตลล่า มาในรูปแบบเจลน้ำหอมปรับอากาศในกระป๋องลายหมีสุดคิ้วท์ เนื้อเจลชนิดพิเศษให้กลิ่นหอมยาวนานกว่าปกติ และมีฝาเปิดสะดวกเพื่อให้กระจายกลิ่นได้อย่างทั่วถึง ทั้งยังปราศจากสารเคมีรุนแรงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย มีให้เลือก 8 กลิ่นด้วยกัน ได้แก่ กลิ่น Bubble Gum กลิ่น Ozone กลิ่น Gummy Gum กลิ่น Citrus กลิ่น Lemon กลิ่น Peach กลิ่น Lavender และกลิ่น Clean New Car

ราคาโดยประมาณ : 69 – 89 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

6. Chupa Chups

อีกหนึ่งน้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ที่มาในรูปลักษณ์น่ารักสะดุดตา น้ำหอมติดรถยนต์ Chupa Chups กลิ่นผลไม้หอมหวานสดชื่น สามารถใช้ได้ทั้งในบ้าน ในที่ทำงาน และในรถยนต์ มีให้เลือก 4 กลิ่น คือ กลิ่นจอลลี่เกรพ กลิ่นเฟรชแอปเปิ้ล กลิ่นครีมมี่สตรอเบอรี่ และกลิ่นเมล่อน ช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ และให้กลิ่นหอมยาวนานถึง 30 – 45 วัน

ราคาโดยประมาณ : 69 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

7. puvara

น้ำหอม รถยนต์ puvara ที่มาในรูปแบบน้ำมันหอมระเหยชนิดใช้ในรถ ให้มีความสุขทุกการเดินทาง ด้วยกลิ่นหอมอโรมาแบบไทยๆ กลิ่นหอมสะอาดสดชื่น ไม่ฉุน ไร้แอลกอฮอล์ ช่วยลดอาการเมารถ ลดภูมิแพ้ และฆ่าเชื้อในอากาศได้อีกด้วย เพราะสกัดจากธรรมชาติ 100% และไม่ทำให้แอร์อุดตันด้วยค่ะ มีทั้งหมด 8 กลิ่น ที่มาในชื่อไทยๆ อย่าง ชื่นจิตร ชื่นใจ วนาลี และสปาไทย เป็นต้น

ราคาโดยประมาณ : 199 – 219 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

Inspire Now ! : น้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่ทั้งนี้น้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์อาจมีสารเคมีที่เป็นพิษหากรับประทานเข้าไป หรือทำให้เกิดผื่นแดงหรือระคายเคืองหากสัมผัสกับผิวหนังหรือดวงตา ในขณะเดียวกันบางคนอาจมีอาการแพ้น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ได้ เช่น แพ้สารจำพวก Aldehyde ที่มีความเข้มข้นสูง และส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ หรือในบางคนอาจจะมีสัญญาณของการแพ้น้ำหอม เช่น จาม ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล และแน่นหน้าอก หรือ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจพบได้ในผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือโรคภูมิแพ้อื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น ควรใช้อย่างระมัดระวัง และเพื่อความปลอดภัยในการใช้ แนะนำให้เลือกแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก หรือเลือกจากที่เราแนะนำไปก็ได้ค่ะ

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? ใครชอบกลิ่นน้ำหอมปรับอากาศในรถกลิ่นไหนกันบ้างมาแชร์กันได้นะคะ และถ้ากำลังมองหาโต๊ะกินข้าวในรถเพื่อความสะดวกในการเดินทางแล้วนั้น เราขอแนะนำ 7 แบบ โต๊ะกินข้าวในรถ ที่ใช้งานง่ายและยังดีไซน์สวย ให้ไปเลือกกันได้เลยค่ะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : nourishedessentials.com, carcologne.co.uk

Featured Image Credit : freepik.com/arvstd