Whitney Wolfe Herd ผู้ก่อตั้งแอพ bumble ที่เป็นมากกว่าแอพพลิเคชั่นหาคู่

ในโลกปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นหลายรูปแบบให้เราเลือกดาวน์โหลดมากมาย แต่แอพพลิเคชั่นที่แปลกใหม่และเป็นที่น่าสนใจของหลายๆ คนนั้นคงจะเป็น app หาเพื่อน   ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเป็นฝ่ายชายที่เริ่มทำความรู้จักก่อน แต่ในปี 2014 เกิดแอพพลิเคชั่นตัวนึงชื่อว่า แอพ bumble ที่เปิดโอกาสให้ฝ่ายหญิงได้เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ก่อน ซึ่งผู้ก่อตั้งที่เราจะพาทุกคนไปรู้จักกันนั้น เธอเป็นผู้หญิงเก่ง ที่มีชื่อว่า Whitney Wolfe Herd เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปทำความรู้จักกับเธอกันเลยค่ะ

ผู้ก่อตั้งแอพ bumble ที่เปิดโอกาสให้ฝ่ายหญิงเดินหน้าทำความรู้จักอีกฝ่ายก่อน

Image Credit : fastcompany.com

“พวกเราไม่เหมือนกับแอพพลิเคชั่นอื่น ที่พยายามจะหาคู่เพียงเท่านั้น”

วิทนีย์ วูล์ฟ เฮิร์ด (Whitney Wolfe Herd) เกิดและเติบโตที่เมือง Salt Lake City, รัฐ Utah นิตยสาร The Times รายงานว่า พ่อของเธอเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และแม่ของเธอเป็นแม่บ้าน เธอเป็นผู้สนับสนุนสิทธิสตรีมาตั้งแต่ยังเด็ก เธอได้บอกกับนิตยสาร The Times ว่าเธอไม่ค่อยชอบวัฒนธรรมการออกเดทที่ Utah สักเท่าไหร่ เพราะที่นั้นฝ่ายชายมักจะเป็นคนที่ควบคุมความสัมพันธ์ ส่วนฝ่ายหญิงต้องรอให้อีกฝ่ายเข้าหาก่อนเท่านั้น

กว่าจะมาเป็น app หาเพื่อน อย่าง bumble นั้น วูล์ฟ เฮิร์ด ได้เข้าเรียนที่มหาลัย Southern Methodist ในรัฐ Texas เธอเคยเป็นสมาชิกของชมรม Kappa Kappa Gamma แถมเธอยังสนิทกับสาวๆ ในชมรมอีกด้วย โดยที่ก่อนจะมาเป็นแอพ bumble

วูล์ฟ เฮิร์ดได้เริ่มธุรกิจแรกของเธอในตอนที่เธออายุได้เพียง 19 ปี ขณะที่ยังเรียนอยู่มหาลัย โดยธุรกิจของเธอเริ่มต้นขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์รั่วไหลของน้ำมันดิบปริมาณมหาศาลในอ่าวเม็กซิโก ที่กินเวลากว่า 5 เดือนในปี 2010 เธอจึงได้ชักชวน Patrick Aufdenkamp ให้มาช่วยออกแบบ tote bag ซึ่งเป็นกระเป๋าผ้าบรรจุของได้เยอะ แถมยังสามารถนำไปใช้ได้กับทุกสถานการณ์และเริ่มวางจำหน่ายเพื่อนำรายได้ไปช่วยกองทุนสงเคราะห์โดยไม่ได้หวังผลกำไร โครงการนี้มีชื่อว่า The Help Us Get Cleaned Up Project ต่อมาโครงการนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อ นิโคล ริชชี (Nicole Richie) และ ราเชล ซู (Rachel Zoe) ใช้กระเป๋าผ้าของโครงการเธอ

Image Credit: thetimes.co.uk

เมื่อเธออายุ 22 ปี เธอได้รับว่าจ้างให้ทำงานที่บริษัท Start Up ชื่อว่า Hatch Labs ใน Los Angeles หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ร่วมงานกับคนกลุ่มนึงซึ่งกำลังวางแผนจะสร้าง app หาเพื่อนขึ้น แต่ยังไม่ใช่ แอพ bumble อย่างในปัจจุบัน

app หาเพื่อนที่พูดถึงนั่นก็คือ Tinder ต่อมาก็เติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางด้วยความช่วยเหลือของวูล์ฟ เฮิร์ด แถมเธอยังเป็นคนคิดชื่อคำว่า Tinder อีกด้วย จากนั้นเธอได้รับความไว้วางใจให้เลื่อนเป็นตำแหน่งผู้ก่อตั้งและใช้เวลา 2 ปีในฐานะประธานบริษัทฝ่ายการตลาด

หน้าตาของ app หาเพื่อนอย่าง bumble Image Credit: fortune.com

“ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง”

ก่อนจะมาเป็น แอพ bumble ช่วงระหว่างที่เธอทำงานที่ Tinder นั้น เธอได้ออกเดทกับ จัสติน มาทิน (Justin Mateen) ผู้ก่อตั้งและเจ้านายของเธอ หลังจากคบไปได้สักระยะหนึ่ง เธอก็ต้องเลิกรากับเขาและออกจากบริษัท โดยเธอได้ยื่นฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับเรื่องที่เธอโดนคุกคามทางเพศและการโดนเลือกปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งช่วงนั้น เธอยังเคยโดนคุกคามทางอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

“ฉันรู้สึกว่าคุณค่าในตัวเองรวมถึงความมั่นใจมันหายไป มันเป็นช่วงเวลาที่มืดมนมาก เมื่อไหร่ที่ฉันคิดว่า ฉันที่อายุ 24 ได้ทำงานในบริษัทเทคโนโลยีที่ฮอตที่สุด แต่โลกอินเทอร์เน็ตกลับเกลียดฉัน มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้าย พอถึงวันหนึ่งในตอนเช้า ฉันคิดขึ้นมาได้ว่า ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง”

วูล์ฟ เฮิร์ด ยังต่อสู้กับโรควิตกกังวลอีกด้วย เธอกล่าวว่า “มันคือโรควิตกกังวลกับทุกสิ่ง ฉันมีความกังวลว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับคนที่ฉันรัก มีคนเคยบอกว่าโทรศัพท์มือถือเป็นตัวเร่งให้โรคนี้มันแย่ลง ฉันจึงต้องหาสิ่งที่น่าสนใจมาช่วยปรับสมดุลและทำให้มั่นใจได้ว่าฉันยังมีสุขภาพจิตที่ดีอยู่”

Image Credit: fortune.com

“พวกเราพยายามไม่ให้เกิดการเหยียดเพศหญิงแน่นอน นั่นไม่ใช่เป้าหมายของเรา”

วูล์ฟ เฮิร์ดก่อตั้งแอพ Bumble ขึ้นในปี 2014 โดยมีวิสัยทัศน์และไฟอันแรงกล้าที่อยากจะให้ผู้หญิงมีอำนาจที่จะตัดสินใจในทุกๆ อย่างด้วยตัวเอง และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่บริษัทของเธอขับเคลื่อนด้วยพนักงานหญิงกว่า 82 เปอร์เซ็นต์ “พวกเราพยายามไม่ให้เกิดการเหยียดเพศหญิงแน่นอน นั่นไม่ใช่เป้าหมายของเรา” วูล์ฟ เฮิร์ด กล่าว “ฉันรู้ว่าผู้ชายคงเบื่อที่จะต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนตลอดเวลา ทำไมผู้หญิงถึงต้องเป็นฝ่ายรออย่างเดียว และทำไมถึงมีบรรทัดฐานว่าผู้หญิงสามารถทำงานในฝันได้ แต่ห้ามคุยกับเพศตรงข้ามก่อน มาทำให้การหาเพื่อนในยุคนี้มันทันสมัยมากขึ้นดีกว่า”

แอพ Bumble มีผู้ใช้งานกว่า 75 ล้านคน ใน 150 ประเทศ เป็นอันดับสองรองจาก app หาเพื่อนอย่าง Tinder และในปลายปี 2017 ก็เริ่มมีการวางแผนที่จะขยายฐานไปยังอินเดีย แถมเธอยังติดอันดับที่ 39 ของผู้หญิงที่ทำเงินได้ด้วยตัวเองที่รวยที่สุดในปี 2020 อีกด้วย “ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังทำสิ่งที่สำคัญอยู่” วูล์ฟ เฮิร์ดเคยบอกกับ The Time of London ในปี 2018

Image Credit: blog.smu.edu

“ผู้คนจำนวนมากมักพูดว่า มันสำคัญอย่างไรกับแค่ app หาเพื่อน แต่สำหรับฉันมันสำคัญเพราะ ฉันรู้สึกว่า connection คือรากฐานของทุกๆ สิ่ง การสื่อสารของมนุษย์สามารถกำหนดสุขภาพและความหมายของความสุขได้ บริษัทนี้เป็นส่วนหนึ่งของฉัน ฉันรู้ว่ามันอาจจะฟังดูน้ำเน่าและแปลกสักหน่อย แต่ฉันรู้สึกจริงๆ ว่ามันเป็นภารกิจของฉัน”

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับผู้ก่อตั้งแอพ bumble อย่างวิทนีย์ วูล์ฟ เฮิร์ด ที่เธอทำให้เป็นมากกว่า app หาเพื่อนธรรมดาและได้เพิ่มโอกาสให้ฝ่ายหญิงได้เดินหน้าก่อนบ้างในความสัมพันธ์ แถมเธอยังเป็นคนเก่งและมีความตั้งใจอย่างแรงกล้ามากๆ ในการจะทำสิ่งต่างๆ อีกด้วย เห็นแบบนี้แล้ว ไฟในตัวของเพื่อนๆ ทุกคนเริ่มติดกันบ้างไหมคะ จากเรื่องราวของเธอชี้ให้เห็นเด่นชัดอยู่ข้อหนึ่งว่า ถึงแม้เธอจะผ่านเรื่องราวที่ไม่น่าจดจำมา แต่เธอก็ลุกขึ้นสู้และมุ่งหน้าตั้งใจทำในสิ่งที่เธออยากจะทำและพัฒนา app หาเพื่อนนี้ต่อไป ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เรามีแรงที่จะลุกมาทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จเลยหล่ะค่ะ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ตาม

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนที่ดีกว่าใช่หรือไม่? เพื่อนๆ มีสิ่งที่กำลังทำอยู่ด้วยไฟอันแรงกล้าและสำเร็จอย่าง แอพ bumble บ้างไหมคะ อาจเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ได้ มาแชร์กันได้นะคะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : www.businessinsider.com, www.fastcompany.com , edition.cnn.com