ชวนเห็นคุณค่าในตัวเองกับ “To Every Me Who I Remember” แค่เป็นฉัน ก็ดีที่สุดแล้ว

ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา เราประสบกับภัยพิบัติหลายอย่างที่อาจจะบั่นทอนกำลังใจในการดำเนินชีวิต เริ่มต้นด้วยเหตุการดยิงที่โคราชซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมที่สะเทือนใจคนไทยเป็นอย่างมาก ต่อมาจนถึงภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างโควิด 19 และปัญหาน้ำท่วมที่หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนมาถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่ดูท่าจะร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปี หลายคนประสบกับภาวะเครียดอย่างหนักเมื่อชีวิตเดินมาถึงจุดที่ยากลำบากที่สุด มองไม่เห็นอนาคต ไม่ เห็นคุณค่าในตัวเอง สำหรับสถานการณ์แบบนี้ เราจึงอยากจะแนะนำหนังสือที่อบอุ่นหัวใจสักเล่มหนึ่งให้คุณ เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองในวันที่ชีวิตมืดมน

To Every Me Who I Remember เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ แต่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างมาก ผู้เขียนชาวกาหลีนามปากกาว่า Twoego นำเสนอมุมมองชีวิตแบบใหม่ที่จะทำให้คุณมองเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น และนี่คือ 5 ข้อคิดที่เราคัดสรรมานำเสนอให้คุณในวันนี้

กำลังใจให้ตัวเอง, เห็นคุณค่าในตัวเอง

Image Credit : Readery.co

ชวนเห็น คุณค่าในตัวเอง ไปกับหนังสือ To Every Me Who I Remember 

ช้อปออนไลน์ได้ที่ Lazada

[affegg id=2610]

ช้อปออนไลน์ได้ที่ Shopee

[affegg id=2611]

  • อย่าผิดหวังจนเกินไปนักเมื่อสถานะชีวิตในปัจจุบันแย่ลง

ชีวิตก็เหมือนสายน้ำมีขึ้นมีลง มีวันที่สงบราบเรียบและมีวันที่พายุโหมกระหน่ำ ถึงแม้ในวันที่พายุชีวิตซัดเข้าหาคุณอย่างบ้าคลั่ง สถานะปัจจุบันของคุณแย่ลง โดนไล่ออกจากงานหรือรายได้น้อยลง ระวังอย่าผิดหวังจนเกินไป เราไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตของตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะทุกคนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันปัจจัยในการดำเนินชีวิตก็ต่างกันไปด้วย ทุกคนต่างมีเรื่องราวของตนเอง ในวันที่ไม่มีใครเป็นกำลังใจให้คุณจงเป็นกำลังใจให้ตัวเอง มองให้เห็นคุณค่าในตัวเอง หาวิธีทำให้หลับสบายและบอกกับตัวเองว่า

กำลังใจให้ตัวเอง, เห็นคุณค่าในตัวเอง

“ฉันจะมีชีวิตอยู่ในแบบของฉัน แค่เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ก็มีคุณค่ามากเพียงพอแล้ว”

  • ช่องว่างระหว่างความจริงและอุดมคติ

ในช่วงวัยเด็กเราต่างมีความฝันมากมายอยากเป็นนักบินอวกาศ อยากเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์ แต่เมื่อโตขึ้นความเป็นจริงก็เริ่มดึงเราให้ห่างจากความฝันมากขึ้นทุกที เพียงเพราะชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้นทุนชีวิตของแต่ละคนต่างกัน บางคนสามารถทำตามความฝันได้ ในขณะที่บางคนต้องปิดล็อคมันไว้ในห้องใต้ดิน หลายคนรู้สึกท้อแท้เพราะชีวิตไม่ได้เป็นดั่งฝัน มองว่าตัวเองเหลาะแหละบ้าง ไม่ตั้งใจพอบ้าง หรือไม่มีความสามารถบ้าง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ฝันเราเป็นจริงขึ้นมา ทั้งยังบั่นทอนกำลังใจอีกด้วย ทางที่ดีเราควรมองหาจุดสมดุลระหว่างความจริงกับความฝัน มองให้เห็นคุณค่าในตัวเอง ถึงแม้เราทำตามฝันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ยังพยายามไปให้ถึงจุดนั้น ลองเข้าเว็บไซต์ที่สามารถแนะนำหนังสือน่าอ่านสักเล่มที่บอกเล่าเกี่ยวกับชีวิตของผู้คนที่ลำบากกว่าเรา เพื่อที่จะทำให้เราเข้าใจว่าในสังคมยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมาก และพวกเขาไม่ได้มัวแต่มานั่งท้อแท้ตัดพ้อชีวิต พวกเขายังคงสู้อย่างสุดกำลัง ถึงแม้ไม่ได้ดั่งฝันก็ทำให้ดีที่สุดเท่าที่กำลังของเราจะทำได้

กำลังใจให้ตัวเอง, เห็นคุณค่าในตัวเอง

  • เล่นโซเชียลมีเดียให้น้อยลง

หลายครั้งความท้อแท้ของเราเกิดจากการเปรียบเทียบกับคนอื่น ทำไมคนอื่นถึงมีชีวิตที่ดูดีจังในขณะที่เรากำลังลำบากแสนสาหัสอยู่แบบนี้ เราต้องอย่าลืมว่าชีวิตในโซเชียลมีเดียเป็นเพียงชีวิตด้านเดียวที่เจ้าของอยากให้เรามองเห็นเท่านั้น ทุกคนต่างก็มีความทุกข์ของตัวเอง เมื่อเห็นชีวิตที่ดีเพียงแค่ด้านเดียวของคนอื่นก็ทำให้เรารู้สึกเศร้าแล้ว สิ่งเหล่านี้ยิ่งบั่นทอนคุณค่าในตัวเรา ลองเล่นโซเชียลมีเดียให้น้อยลงเพื่อให้เรามีเวลากลับมามองสำรวจชีวิตของตัวเองได้มากขึ้น มองเห็นคุณค่าในตัวเองโดยที่เราไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร

กำลังใจให้ตัวเอง, เห็นคุณค่าในตัวเอง

  • ความเกรี้ยวกราดนำมาซึ่งความเกรี้ยวกราด

ในสภาวะปัจจุบันที่ทุกสิ่งรุมเร้าเข้ามาอย่างหนักเรามักจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่าย ทำให้บางครั้งเผลอแสดงอารมณ์ไม่ดีออกไปใส่คนอื่นอย่างไม่ตั้งใจ หลายครั้งทำให้เสียมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความรู้สึกคนในครอบครัวเสียไป แม้แต่เพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องก็พลอยอารมณ์เสียตามเราไปด้วย งานที่ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมก็ได้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร สรุปแล้วพอเราได้ระบายความโกรธใส่ใครสักคนหนึ่งแทนที่จะรู้สึกดีขึ้นสถานการณ์กลับแย่ลงกว่าเดิมเสียอีก ความเกรี้ยวกราดมีแต่จะทำให้เกิดความเกรี้ยวกราด ทั้งหมดต้องเริ่มที่ตัวเรา ควบคุมอารมณ์และสภาพจิตใจให้ดี ต้องมีเหตุผลและใจเย็น อย่าทำให้สถานการณ์ที่แย่อยู่แล้วแย่ลงไปกว่าเดิม

กำลังใจให้ตัวเอง

  • ให้ความสำคัญกับตัวเองมากขึ้นอีกหน่อย

การโหมทำงานอย่างหนักหน่วงเป็นภาระต่อร่างกาย ไม่ว่าคุณจะคาดหวังความสำเร็จอะไรในชีวิต พึงระลึกไว้เสมอว่าเราจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแรงเพื่อทำมันให้สำเร็จ ถ้ามัวแต่ทำงานจนลืมดูแลสุขภาพร่างกายแล้วหละก็ สักวันหนึ่งจะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่แพนแสนแพงให้กับสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมจนไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้อีก ให้ความสำคัญและมองให้เห็นคุณค่าในตัวเองให้มากหน่อย อย่าคิดเพียงแต่ว่าร่างกายของเราคือเครื่องจักรชนิดหนึ่งเท่านั้น จะใช้งานอย่างไรก็ได้ เพราะถ้าถึงวันที่ต้องล้มหมอนนอนเสื่อ อย่าว่าแต่ดูแลงานของคนอื่นเลย แม้แต่ตัวเองก็ดูแลไม่ได้

กำลังใจให้ตัวเอง

เมื่อชีวิตพบปัญหาหนักๆ การมองหาหนังสือดีๆ สักเล่มไว้เป็นเพื่อนยามที่คุณไม่มีใครเป็นอีกวิธีหนึ่งที่บำบัดความเครียดได้อย่างน่าทึ่ง การได้อ่านหนังสือบางครั้งมันก็เหมือนกระจกที่สะท้อนตัวเราในแง่มุมที่เราคิดไม่ถึง เมื่อคุณหมดหวังกับชีวิตหนังเล่มนั้นอาจจะช่วยให้คุณ เห็นคุณค่าในตัวเอง เพิ่มมากขึ้น ดังเช่นหนังสือ To Every Me Who I Remember ที่เราได้แนะนำไปแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้สามารถเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้คนที่กำลังท้อแท้หมดหวังในชีวิตได้ไม่มากก็น้อย

Inspire Now ! : เมื่อชีวิตประสบปัญหาจนมองไม่เห็นทางออก อย่ามัวแต่โทษตัวเอง ลองถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว แล้วมองย้อนกลับเข้าไปในชีวิตที่เราคิดว่าล้มเหลวไม่มีชิ้นดีอีกที บางทีเราอาจจะค้นพบว่าแท้จริงแล้ว ปัญหาไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิดและชีวิตยังคงมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเสมอ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนที่ดีกว่านี้บ้างไหมคะ? เวลาท้อแท้สิ้นหวัง เพื่อนๆ มีวิธีให้กำลังใจตัวเองอย่างไร ลองมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : readery.co

Facebook Comments

หนอนหนังสือตัวน้อยๆ ที่ชอบหมกตัวอยู่กับป่ากระดาษมากกว่าไปเจอป่าจริงๆ หลงรักนิยายแฟนตาซีตั้งแต่ ป.3 ช่างฝัน และเป็นนักเลี้ยงแมวมืออาชีพ