เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

Interview : เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นกับ “คุณคิลิน” นักเขียนนิยายรักยูริ เจ้าของธุรกิจ The Kloset

GUEST : คุณเอมอนันต์ อนันตลาโภชัย (นามปากกา “คิลิน”) นักเขียนนิยายยูริ – ผู้ก่อตั้ง The Kloset

คุณกล้าไหม? ที่จะ เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น และก้าวออกมาจากกรอบความคิดแบบเดิมๆกับ “คุณเอม-นามปากกาคิลิน” นักแต่งนิยายรักยูริ เจ้าของธุรกิจ The Kloset

สวัสดีค่ะทุกคนเป็นยังไงกันบ้างคะ เราเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนที่กำลังอ่านบทความนี้คือคนที่กำลังอยาก เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น อยู่ใช่ไหมคะ ? เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลยอยากมาแชร์เรื่องราวดีๆ ที่จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังเหนื่อยกับบทสัมภาษณ์ของผู้หญิงเก่งคนหนึ่ง ตามไปดูกันว่าเธอมีเรื่องราวความเป็นมาในชีวิตอย่างไรถึงได้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต กล้าแสดงออกและมีความมั่นใจในตัวเองได้แบบนี้ กับคุณคิลิน-เอมอนันต์ อนันตลาโภชัย นักเขียนนิยายรักยูริ เจ้าของคอมมูนิตี้ The Kloset ในวัย 36 ปี กันค่ะ 

1. ในช่วงอายุ 10 ปี เป็นยังไงบ้าง ?

ในช่วงอายุประมาณ 10 ปี คุณคิลินมีสังคมรอบตัวที่ทุกอย่างเป็นเหมือนสีขาวและดูดีไปหมดเรื่อยมา จนมาถึงช่วงมัธยมต้นที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ culture shock ของเธอเลยก็ว่าได้เมื่อได้เข้าศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งเพราะสภาพแวดล้อมและคนรอบตัวในฉากหน้าที่คนอื่นมองว่าดีแต่ลับหลังกลับเป็นอีกแบบที่ไม่เหมือนกันเป็นสีเทาประดิษฐ์ที่ทำให้เธอแสดงออกในความเป็นตัวของตัวเองแต่คนรอบตัวกลับมองว่าเป็นพฤติกรรมของเด็กมีปัญหา ทำให้คุณคิลินตัดสินใจเริ่มต้นเลือกที่จะคุยแต่กับคนที่คุยกันรู้เรื่องเท่านั้น 

 “คุณจะวาดใบไม้สีอะไรมันก็เรื่องของคุณ เพราะมันเป็นใบไม้ของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องวาดสีเขียวก็ได้” 

Quote ด้านบนนี้ เป็นคำพูดของคุณครูห้องศิลปะเมื่อครั้งที่คุณคิลินได้ไปแลกเปลี่ยนในโครงการ AFS ในช่วงมัธยมปลาย สังคมที่นี่ไม่ได้แตกต่างจากเมืองไทยเลยในแง่ของคนที่ไม่เด่นไม่สวยนั้นก็ไม่ได้รับการยอมรับในสังคม ซึ่งคุณคิลินในตอนนั้นเองก็รู้สึกว่าเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้รับการยอมรับเช่นกัน เมื่อเกิดปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ก็เลยแอบไปนั่งร้องไห้อยู่ในล็อกเกอร์บ่อยๆ และจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้นเมื่อได้เจอกับครู Ramona Johnson (ครูห้องศิลปะ) ซึ่งครูคนนี้ก็ได้กลายเป็นแรงผลักดันให้กับคุณคิลินให้เกิดความมั่นใจที่จะเป็นตัวของตัวเองและเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น นอกจาก quote ที่เป็นจุดเริ่มต้นพลังบางอย่างให้กับคุณคิลินแล้ว คุณครูยังเคยพูดกับคุณคิลินว่า “ถ้าไม่สวยก็ต้องมีสมอง” และนั่นทำให้คุณคิลินเห็นถึงความสวยงามที่แท้จริงของมนุษย์ซึ่งไม่ใช่รูปร่างหน้าตาแต่เป็นทัศนคติที่ดีงามนั่นเอง ครู Ramona ทำให้นักเรียนทุกคนหรือแม้กระทั่งคนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็น loser มีที่ยืน ทำให้พื้นที่ห้องศิลปะเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยความรักความเข้าใจ ซึ่งเมื่อคุณคิลินกลับมาถึงประเทศไทยก็รู้สึกว่าสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นและอยู่กับในสังคมนี้ได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

2. ช่วยเล่าชีวิตในช่วงอายุ 20 ปี ให้ฟังหน่อย ?

ชีวิตของคุณคิลินในช่วงมหาวิทยาลัยได้ศึกษาอยู่ที่ ABAC ในคณะนิเทศศาสตร์อินเตอร์ซึ่งสังคมแวดล้อมจะแตกต่างออกไปจากในวัยมัธยม ทุกคนมีความ unique มีความหลายหลายทั้งลักษณะนิสัยและวัฒนธรรม แต่ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางความแตกต่างแต่ก็นับได้ว่าสนุกและเป็นช่วงเวลาที่มีสีสันมากเลยทีเดียว หลังจากเรียนจบในวัย 23-24 ปี ก็ได้เริ่มทำงานจริงกับบริษัทของชาวแคนาดาที่เชียงใหม่ ตอนนั้นคุณคิลินเป็นนักเขียนรีวิวสินค้าในเว็บไซต์ขายของออนไลน์ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากเท่าไหร่ ระหว่างที่ทำก็รู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นล้วนแต่ทำตามเทรนด์และความต้องการของลูกค้าทั้งนั้น ซึ่งมันจำกัดแรงบันดาลใจที่ไม่รู้จบของคุณคิลิน ซึ่งผลลัพธ์ของงานที่ออกมาทุกครั้งก็จบลงตรงที่คำตอบของลูกค้าที่ว่าจะซื้อหรือไม่เท่านั้นเอง 

แต่แล้วชีวิตเริ่มต้นการทำงานของคุณคิลินก็ต้องเจอกับจุดเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อผู้สร้างเว็บไซต์จะปิดตัวบริษัทโดยอ้างเหตุผลว่า visa หมดอายุ และทิ้งท้ายคำพูดก่อนจากกับคุณคิลินไว้ว่า “ประเทศไทยบ้านนอกไม่มีอะไรดี ยกเว้นแต่มาให้เขากอบโกยผลประโยชน์ เรียนรู้ไว้นะเอมคนที่ make millions ตั้งแต่อายุ 10 ขวบเป็นยังไง” ซึ่งคำพูดนั้นก็ทำให้คุณคิลินได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างในช่วงวัย 20 ต้นๆ

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

3. แล้วในวัย 30 ปี หล่ะคะ ?

คุณคิลินเป็นสาวออฟฟิศในสายงานโฆษณามาประมาณ 2 บริษัทก่อนจะตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโท Ex-Mba ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในตอนนั้น เธอคิดว่าถึงสังคมที่อยู่นั้นจะแวดล้อมด้วยคนที่ดี แต่ก็แอบน่าเบื่อเพราะมีแต่คนทำตามแบบแผน ตามกรอบของตัวเอง เธอจึงอยากเปลี่ยนแปลงบางอย่างของสังคมที่เธออยู่ซึ่ง การทำวิทยานิพนธ์ในวันนั้นได้กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนให้เธอเป็นที่รู้จักในนามปากกาว่า “คิลิน” ในวันนี้ 

-นิยายรักยูริ ที่ผสมผสานชีวิตจริงแบบไม่อิงนิยาย – 

ยูริ ในคำจำกัดความของนักเขียนแบบฉบับของคุณคิลินคือสมมุติบัญญัติที่ใช้เรียกทุกสื่อที่เกี่ยวกับหญิงรักหญิง เธอเริ่มต้นอ่านนิยายยูริอย่างจริงจังในตอนที่ทำวิทยานิพนธ์และเริ่มต้นเขียนโดยใช้โครงเรื่องของความเป็นชีวิตจริงเข้าไปผสมซึ่งทำให้เริ่มมีฐานแฟนคลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ
Image Credit : mebmarket

4. แรงบันดาลใจที่ทำให้อยากทำธุรกิจนี้คืออะไรคะ ?

นิยายรักยูริ เรื่อง“รอรักเธอ” ของคุณคิลินเริ่มมีฐานแฟนคลับมากขึ้นประมาณหนึ่งเธอจึงได้ตัดสินใจจัดงาน meeting ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้แฟนคลับได้มาแลกเปลี่ยนพูดคุยประสบการณ์การอ่านกับคุณคิลินที่เป็นนักเขียนมากขึ้นซึ่งกิจกรรมนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจในการสร้างเป็นพื้นที่สำหรับการพูดคุยกับแฟนๆ แบบจริงๆ จังๆ ขึ้นมา ซึ่งแต่เริ่มเดิมทีจะตัดสินใจซื้อคอนโดแต่สุดท้ายก็จบลงตรงที่เปิดเป็นร้าน book club ที่จะมีการจัดอีเว้นท์ เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุย เป็นพื้นที่สำหรับผู้หญิงที่จะได้เป็นตัวของตัวเอง “นั่งยังไงก็ได้ โป๊ก็ได้ แบบไม่ต้องกังวล” เป็น The Kloset สำหรับผู้หญิงทุกคน 

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

“เราจะไม่บังคับให้ใครทำอะไร ถ้าคุณไม่อยากออกก็ in เป็นตัวของตัวเอง you don’t have to be lesbian or anything just be you แล้วก็หลับ อ่านหนังสือไป”

คุณคิลินตั้งใจอยากให้ The Kloset เป็นพื้นที่ผู้หญิงทุกคนสบายใจที่จะอยู่และเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ 

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

รู้สึกได้กำลังใจทุกครั้งเมื่อเห็นผู้มาเยือนสบายใจเมื่อเป็นตัวของตัวเอง

ซึ่งนั่นก็เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เธออยากสร้างคอมมูนิตี้นี้ให้เติบโตได้ต่อไป

5. เวลาเจออุปสรรค เหนื่อย หรือว่าท้อ มีวิธีคิดอย่างไรให้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้?

เวลาเจออุปสรรคหรือเหนื่อย อย่างแรกที่จะทำก็คือ ยอมรับว่ามันคือความจริงที่ได้เกิดขึ้นมาแล้ว จากนั้นก็หาวิธีแก้ไข และถ้าแก้ไขได้แล้วก็ ขอโทษ ขอบคุณ คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียรวมทั้งต้องไม่ลืมที่จะให้อภัยตัวเองด้วย 

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

คุณคิลินได้บอกอีกว่า “จงจำไว้เสมอว่าการอยู่คนเดียวแบบสันโดดไม่ได้แย่ ดีกว่าการที่เราอยู่รายล้อมด้วยผู้คนมากมายที่ไม่รู้ว่าเป็นพิษเมื่อไหร่ คือเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เขาทำอยู่คือเขาอาจแค่ระบายหรือทำร้ายเราโดยที่เขาไม่รู้ตัวก็ได้ เราก็แค่เป็นตัวของตัวเองและจงระลึกไว้เสมอว่า แม้แต่ครอบครัวในวันที่เขาโกรธเขาก็ร้ายใช่ย่อยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจงอยู่กับตัวเองให้เยอะๆ และเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น”

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

6. วางแผนอนาคตของตัวเองและธุรกิจของตัวเองไว้อย่างไรบ้าง ?

สำหรับ the kloset หลังจากหมดสัญญาซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเกิน 1 ปีครึ่งก็มีแผนว่าจะย้ายไปอยู่ใน online platform แทน โดยอยากให้พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เหมือนเดิมในแบบที่ save cost ได้มากกว่านี้แต่อยู่ด้วยกันได้ เติมเต็มกันได้ เป็นตัวของตัวเองได้

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

7. คิดว่าผู้หญิงมีบทบาทในการทำธุกิจมากน้อยแค่ไหน ?

เราก็ได้ถามถึงอีกบทบาทของผู้หญิงในวงการธุรกิจว่าคุณคิลินมีมุมมองในด้านนี้อย่างไรซึ่งก็ได้คำตอบว่ามันขึ้นอยู่ที่ว่าตัวเขาอยากจะทำอะไร? และก็ขึ้นกับ hormone เขาด้วย โดยเขาจะเป็นอะไรก็ได้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ แต่สิ่งที่สำคัญคือให้ไตร่ตรองให้ดีก่อนลงมือทำและพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น เพราะถ้าพรุ่งนี้ตาย วันนี้จะได้ไม่เสียดายที่ไม่ได้ทำ

8. เดินทางมาถึงตอนนี้แล้ว คิดว่าตัวเองเป็นยังไงบ้าง ? (ภูมิใจในตัวเองมั้ย ? / ตัวเราเองพัฒนาขึ้นกว่าเดิมเยอะขึ้นหรือเปล่า ?)

“พอแก่แล้วก็ต้องเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น เก่งขึ้นหมายความว่าสามารถอยู่ในโลกแห่งความจริงได้ดีขึ้น เราสามารถรับมือมันได้สมศักดิ์ศรีมากขึ้น และมันจะถึงจุดหนึ่งที่เราจะเด็กลงซึ่งตอนที่เด็กลงก็ขอให้เราเป็นเด็กที่มีความรู้ เพราะร่างกายไม่สามารถใช้ประสิทธิภาพได้เหมือนเดิมแล้ว”

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

ส่วนสิ่งที่ภูมิใจของคุณคิลินเกิดขึ้นจากการที่ว่าคุณ (ลูกค้า) พอใจกับผลงานเราแค่ไหน เพราะคุณคิลินคิดว่า “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” และนี่คือความภูมิใจที่คุณคิลินได้รับค่ะ

เรื่องราวที่ผ่านมาของคุณคิลินทำให้เราได้เห็นจุดเปลี่ยนในแต่ละช่วงชีวิตที่ปรับเปลี่ยนตัวเองควบคู่ไปกับสังคมปัจจุบันมากน้อยแค่ไหน ?  ไม่ว่าจะเป็นการมีหนังสือแรงบันดาลใจอย่างนิยายยูริ ที่ทำให้คุณคิลินได้ไอเดียทางธุรกิจ หรือหลังจากเผชิญกับเรื่องเลวร้ายต่างๆ ก็สัญญาว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นไม่ว่าจะร้ายหรือดีคุณคิลินก็สามารถผ่านมันมาได้ด้วยตัวของตัวเองและคนรอบตัวที่รักและสนับสนุนเธอ ซึ่งการสัมภาษณ์วันนี้ตัวเราเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับแรงบันดาลใจดีๆ จากคุณคิลินเช่นกัน ทำให้เรามีความกล้าที่จะคิดนอกกรอบและออกมาจาก safe zone ของตัวเองมากขึ้น หลังจากการฟังเรื่องราวต่างๆ ของคุณคิลินค่ะ

สุดท้ายนี้เราอยากให้คุณคิลินฝากกำลังใจให้กับทุกคนก่อนจากกันไป

เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น, นิยายรักยูริ

9. ช่วยฝากกำลังใจให้กับคนที่กำลังเริ่มทำธุรกิจในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้หน่อยได้ไหม ?

ลองไปดูซีรีส์เกาหลีเรื่อง start up และบอกว่า “ไม่มีใครช่วยใครได้ พึ่งตัวเองให้เยอะๆ และถ้าวินาทีนั้นค้นพบว่าตัวเองไม่มีความสุขเหมือนกินข้าวแล้วจุกก็พักก่อน อย่าโหดกับตัวเองหรือให้คนในสังคมกดดันเพราะเราคิดไปเอง พี่พูดเลยว่าไม่มีลูกค้าก็ได้ถ้าวันนั้นพี่สนุกกับตัวเอง ยังไงก็ได้ขอให้คุณมีความสุข ดังนั้นก่อนจะก้าวไป step ไหนไตร่ตรอง เพราะเราอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ตามมา เช่น ลูก หนี้ โรคระบาด พ่อแม่ ดังนั้นก่อนจะทำอะไรควรไตร่ตรองให้มากๆ” 

เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน กว่าจะมาเป็นคุณคิลินแบบทุกวันนี้ไม่ง่ายเลยใช่ไหม ? เราก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมและเห็นด้วยในความคิดนอกกรอบของคุณคิลินที่ว่า เราไม่จำเป็นต้องเป็นหรือเหมือนกับคนอื่นก็ได้ แค่เป็นตัวของตัวเองเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น และทำในสิ่งที่ชอบ โดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ ถ้าหากเพื่อนๆ เหนื่อยก็มาพักกันก่อนแล้วค่อยสู้ต่อไป ถ้าอยากร้องไห้ก็ร้องให้พอและรีบยืนหยัดขึ้นสู้ในวันใหม่กันต่อ ไม่มีใครที่จะไม่เหนื่อยหรือล้มก่อนประสบความสำเร็จนะคะทุกคน ขอแค่จงอย่ากลัวที่จะล้มก่อนถึงเส้นชัยก็เท่านั้นเอง 

Inspire Now ! : ในช่วงชีวิตเราย่อมต้องมีทั้งสิ่งที่ดีและร้ายเกิดอยู่ควบคู่กันไปเป็นเรื่องปกติของทุกคน แต่ไม่ใช่คนทุกคนที่จะยอมรับกับความจริงที่เกิดขึ้นและก้าวผ่านมันไปได้ แล้วคุณล่ะคะพร้อมหรือยังที่จะเปลี่ยนแปลงให้เป็นคุณคนใหม่ที่เข้มแข็งและดีกว่าที่ผ่านมา

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันหรือเปล่า ? อ่านเรื่องราวของคุณคิลินแล้วทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่เข้มแข็งกว่าเดิมและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคกันหรือเปล่าคะ ลองพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ

ทำความรู้จัก The Kloset ให้มากกว่าเดิมหรือพูดคุยสอบถามได้ที่ FB/Into the kloset

Facebook Comments

เป็นในสิ่งที่ชอบโดยการออกไปเดินทางและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและประสบความสำเร็จในแบบของตัวเอง