เจ้าหญิงไดอาน่า ประวัติ เจ้าหญิงตลอดกาล ผู้อุทิศตนทำงานเพื่อสังคม

เจ้าหญิงไดอาน่า ประวัติ เป็นยังไง ? เชื่อว่าคงจะรู้จักเธอกันมาบ้างแล้ว หลายคนรู้จักเธอกันดีในนาม เจ้าหญิงไดอาน่าแห่งเวลส์ หรือ Diana Frances Spencer อดีตภรรยาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งเวลส์ แม่ของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี่ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้กันค่ะ 

เจ้าหญิงไดอาน่า ประวัติ เจ้าหญิงผู้มีชื่อเสียงระดับโลก

เจ้าหญิงไดอาน่า ประวัติเธอน่าสนใจมากๆ เลยค่ะ เธอเป็นเจ้าหญิงที่มีชื่อเสียงระดับโลกไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความสวย การแต่งตัว การสนับสนุนงานการกุศลต่างๆ ถือได้ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงอันเป็นที่รักของประชาชนมาจวบจนทุกวันนี้แม้ว่าจะจากไปนานแล้วก็ตาม นอกจากเธอจะเป็นที่รักของใครหลายคนแล้ว เธอยังเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนที่อยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นอีกด้วย เจ้าหญิงไดอาน่าเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวตระกูลขุนนาง เธอเกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1961 ประเทศอังกฤษ ชีวิตวัยเด็กอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ Park  House หลังจากเรียนจบเจ้าหญิงไดอาน่าก็ได้ทำงานเป็นครูสอนที่โรงเรียนอนุบาลอยู่ช่วงหนึ่งจนกระทั่งแต่งงานกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในปี 1981 

หลังจากแต่งงานเจ้าหญิงไดอาน่าก็ได้ทำหน้าที่ของครอบครัวราชวงศ์อย่างเป็นทางการ นั่นก็คือการเดินทางไปเยี่ยมเยียนสถานที่ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศนั่นเอง ซึ่งการเดินทางครั้งแรกในฐานะสมาชิกครอบครัวราชวงศ์ของเจ้าหญิงไดอาน่าคือการเดินทางไปเยี่ยมเยียนประเทศเวลส์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เป็นเวลา 3 วัน ในปี 1981 และเจ้าหญิงไดอาน่าก็ยังเดินทางไปเยี่ยมเยียนประเทศต่างๆ อีกมากมาย เช่น ออสเตรเลีย, บราซิล, แคนาดา, เกาหลีใต้ เป็นต้น นอกจากการทำหน้าที่ของครอบครัวราชวงศ์ของเจ้าหญิงไดอาน่า ประวัติการทำงานด้านการกุศลของเธอก็เยอะมากๆ เลยค่ะ ตลอดระยะเวลาแต่งงานของเจ้าหญิงไดอาน่าเธอเป็นผู้อุปถัมภ์งานการกุศลมากกว่า 100 อย่างเลยหล่ะ เรียกได้ว่าเธอเป็นทั้งผู้หญิงเก่งแล้วก็ยังใจบุญอีกด้วย ซึ่งงานการกุศลของเจ้าหญิงไดอาน่าก็ได้สร้างประโยชน์อย่างมากแก่หลายๆ คนอีกด้วย

“ฉันกังวลเสมอที่จะสัมผัสคนที่เป็นโรคเรื้อน จึงพยายามแสดงท่าทีเรียบง่ายว่าพวกเขาไม่ได้ถูกด่าทอหรือถูกผลักไสจากเรา”  

งานการกุศลต่างๆ ที่เจ้าหญิงไดอาน่าเคยทำ ได้แก่ การต่อต้านทุ่นระเบิด เพราะทุ่นระเบิดสามารถทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้คนจำนวนมาก ภาพของเจ้าหญิงไดอาน่าที่สวมชุดและหน้ากากป้องกันอันตรายจากการไปพื้นที่ทุ่นระเบิดทำให้รู้ว่าเธอเป็นคนที่เสียสละและทำเพื่อผู้อื่นมากจริงๆ นอกจากนี้เจ้าหญิงไดอาน่ายังได้ไปเยี่ยมผู้ที่พิการจากการเหยียบทุ่นระเบิดอีกด้วย 

เจ้าหญิงไดอาน่าเป็นที่รู้จักในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยโรคต่างๆ ทั้งโรคเรื้อนซึ่งเจ้าหญิงไดอาน่าทำให้ผู้อื่นได้ตระหนักเกี่ยวกับความรุนแรงของอาการป่วยโรคผิวหนัง โดยการไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลโรคเรื้อนรวมถึงการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศเนปาล, ซิมบับเว และอินเดีย โดยเธอได้กล่าวว่า  “ฉันกังวลเสมอที่จะสัมผัสคนที่เป็นโรคเรื้อน จึงพยายามแสดงท่าทีเรียบง่ายว่าพวกเขาไม่ได้ถูกด่าทอหรือถูกผลักไสจากเรา”  

ถือได้ว่าเจ้าหญิงไดอาน่าเป็นบุคคลสำคัญเกี่ยวกับผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพราะในช่วงที่มีการระบาดอย่างหนักของโรคเอดส์เจ้าหญิงไดอาน่าเดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวีและได้มีการจับมือกับผู้ป่วยซึ่งสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะในสมัยนั้นผู้คนยังเชื่อกันว่าโรคเอดส์และเชื้อเอชไอวีสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสตัวผู้ป่วย ซึ่งในปี 1987 เธอได้เปิดหน่วย HIV / Aids แห่งแรกของสหราชอาณาจักรที่ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโดยเฉพาะที่โรงพยาบาล London Middlesex อีกด้วย

นอกจากนี้ เจ้าหญิงไดอาน่ายังมีโครงการช่วยเหลือเด็กและคนไร้บ้านอีกด้วย โดยเป็นการช่วยวัยรุ่นช่วงอายุ 16-25 ให้มีที่พัก มีอาหาร และมีงานทำ หลังจากได้อ่านประวัติเจ้าหญิงไดอาน่าหลายคนคงคิดว่าชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่าช่างน่าอิจฉาจริงๆ แต่ความจริงแล้วชีวิตเธอไม่ได้สวยหรูเหมือนเจ้าหญิงในนิทานหรอกค่ะ เพราะเจ้าหญิงไดอาน่าป่วยเป็นโรค Bulimia หรือภาวะความผิดปกติในการรับประทานอาหาร โดยมีอาการคือจะกินอาหารปริมาณมากหลังจากนั้นจะพยายามกำจัดอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปด้วยการทำให้ตัวเองอาเจียนออกมา โดยเจ้าหญิงไดอาน่าบอกว่าเริ่มเป็นโรค Bulimia ตั้งแต่สัปดาห์หลังจากที่หมั้นกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และใช้เวลาเกือบสิบปีในการเอาชนะมัน เจ้าหญิงไดอาน่าไม่เพียงแต่ต้องทรมานทางกายกับโรคนี้เท่านั้น แต่ยังทรมานทางใจเพราะความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ที่ไม่ราบรื่นอีกด้วย โดยต่อมาเจ้าหญิงไดอาน่าได้ตัดสินใจแยกทางกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในปี 1992

“ไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันมีความสุขไปมากกว่าการพยายามที่จะช่วยผู้คนที่อ่อนแอในสังคม มันคือเป้าหมายและเป็นส่วนสำคัญในชีวิตฉัน ทั้งยังเป็นโชคชะตาอีกด้วย”

ทุกคนสงสัยกันไหมคะว่าทำไมเจ้าหญิงไดอาน่าถึงอุทิศตัวทำงานเพื่อสังคมขนาดนี้ ?นั่นก็เพราะเธอเคยให้สัมภาษณ์กับ BBC ไว้ว่า “ไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันมีความสุขไปมากกว่าการพยายามที่จะช่วยผู้คนที่อ่อนแอในสังคม มันคือเป้าหมายและเป็นส่วนสำคัญในชีวิตฉัน ทั้งยังเป็นโชคชะตาอีกด้วย”

หากใครเคยอ่านประวัติเจ้าหญิงไดอาน่า ก็มักจะเห็นภาพของเจ้าหญิงไดอาน่าอุ้มเด็กที่ป่วย กอดกับคนไร้บ้าน หรือจับมือกับผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นภาพที่อบอุ่นมากเลยหล่ะค่ะ การที่เจ้าหญิงไดอาน่าได้มีการจับมือกับผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวี ทำให้คนทั้งโลกเปลี่ยนมุมมองที่ว่าผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวีนั้นน่ากลัวและไม่ควรเข้าใกล้ นอกจากนี้งานการกุศลที่เจ้าหญิงเคยทำยังมีคนสานต่อและส่งผลประโยชน์ให้แก่ใครหลายคนมาจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือ การรณรงค์การต่อต้านทุ่นระเบิดของเจ้าหญิงไดอาน่าที่ทำให้เธอกลายเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้เกิดสนธิสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นสัญญาที่ห้ามใช้ กักตุน ผลิต และขนย้ายทุ่นระเบิด ลงนามโดย 122 ประเทศ เพื่อลดอันตรายจากทุ่นระเบิดที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน 

เจ้าหญิงไดอาน่า ประวัติของเธอนั้นไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ ? เธอเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งมากๆ เรียกได้ว่าแทบตลอดทั้งชีวิตของเธอได้อุทิศตัวในการทำงานเพื่อสังคม แม้เธอจะป่วยก็ไม่เคยหยุดทำงานเลย ไม่แปลกใจเลยหล่ะว่าทำไมเจ้าหญิงไดอาน่าถึงได้เป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก ทั้งยังเป็นเจ้าหญิงตลอดกาลอีกด้วย สำหรับเรื่องราวและประวัติเจ้าหญิงไดอาน่าก็ทำได้ให้ข้อคิดที่ว่าการทำประโยชน์เพื่อสังคมและคนอื่นๆ นั้นเป็นการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ทั้งยังเป็นการให้โอกาสคนอื่นๆ ในสังคมอีกด้วย ซึ่งเราก็สามารถนำไปปรับใช้โดยการช่วยเหลือกันและกันในสังคมค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนที่ดีกว่าหรือเปล่า ? ได้รู้ว่าเจ้าหญิงไดอาน่า ประวัติการทำงานเป็นยังไง ทำให้มีแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองในการทำงานใช่ไหม ? ใครหรืออะไรที่เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตของคุณคะ ? แชร์กันมาหน่อยนะคะ

Image Credit : gettyimages.com/Tim Graham

Feature Image Credit : gettyimages.com/Tim Graham

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : time.com, royal.uk, independent.co.uk, vogue.com