7 หนังสือให้กำลังใจ มาบอกรักตัวเอง รับพลังบวก ส่งต่อพลังบวกกัน !

ถ้าพูดถึงงานอดิเรกต่างๆ แล้ว บางคนก็อาจจะชอบดูหนัง ดูซีรีย์ บางคนก็อาจจะชอบฟังเพลง หรือออกไปทำกิจกรรมข้างนอก หรือบางคนก็อาจจะชอบฟังพอดแคสต์เวลาว่างๆ และก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นหนอนหนังสือ ชอบอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก ไม่ว่าจะเป็น E- book หรือแบบเป็นเล่มๆ ก็ตาม บางคนก็ยังชอบอ่านหนังสือเป็นเล่มที่ยังสัมผัสได้ถึงเนื้อกระดาษ เพราะชอบเวลาที่ได้กลิ่นกระดาษ ชอบที่ได้จับหนังสือ และค่อยๆ ซึมซับเรื่องราวในระหว่างอ่านบรรทัดต่อบรรทัด เป็นการใช้เวลากับตัวเองที่คุ้มค่าและได้ประโยชน์จากการอ่านเรื่องราวดีๆ และการได้อ่านหนังสือบางเล่มนั้น อาจจะเปลี่ยนชีวิตของคนๆ หนึ่งไปเลยก็ได้ ในบทความนี้ เราอยากจะมาแนะนำ หนังสือให้กำลังใจ ตัวเองที่อ่านแล้วฟีลกู๊ด อ่านแล้วได้รับพลังบวก จะซื้ออ่านเอง หรือจะซื้อเป็นของขวัญให้กับคนอื่นก็ได้ จะมีเล่มไหนที่น่าอ่านบ้าง มาดูกันค่ะ

ชวนอ่าน 7 หนังสือให้กำลังใจ อ่านแล้วได้ปลอบโยนหัวใจ ได้บอกรักตัวเอง

หนังสือนั้นก็มีอยู่หลายหมวดหมู่ด้วยกัน บางคนก็ชอบอ่านแนวนวนิยาย วรรณกรรมเยาวชน หรือบางคนก็ชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ นิทานปรัมปรา บางคนก็ชอบอ่านหนังสือธุรกิจ หนังสือการเป็นผู้ประกอบการ หนังสือพัฒนาตัวเอง บางคนก็ชอบดูหนังสือภาพ และก็ยังมีหนังสือหมวดหมู่ให้กำลังใจตัวเอง ที่บางเล่มอ่านแล้วก็ได้รับพลังดีๆ มากหมาย เป็นหนังสือรักตัวเองที่อ่านแล้วทำให้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น มาดูกันค่ะว่า หนังสือที่จะทำให้เราได้เอนเนอร์จี้บวกๆ กลับไปนั้น จะมีเล่มไหนน่าอ่านบ้าง

1. ฉันไม่ใช่ผู้ใหญ่ ฉันแค่อายุ 30

ใครที่กำลังเข้าสู่วัยเลข 3 แล้วคิดว่าตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ควร เพราะถูกสังคมกดดันว่าต้องมีบ้าน มีรถ มีครอบครัวที่อบอุ่น มีหน้าที่การงานมั่นคง มีเงินเดือนสูงๆ แต่ก็ใช่ว่าชีวิตของทุกคนจะต้องเป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะเงื่อนไขชีวิตของแต่ละคนนั้นต่างกัน แล้ววัยสามสิบก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิตเสียหน่อย! แต่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นอีกก้าวหนึ่งต่างหาก เพราะอายุมากขึ้น ก็หมายความว่าเรามีประสบการณ์มากขึ้นนั่นเอง แล้วใครกันที่เป็นคนกำหนดว่า คนในวัย 30 จะต้องมีชีวิตเป็นแบบไหน และถึงแม้เราจะอายุ 30 แล้ว เราก็ยังสนุกและมีความสุขกับการใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้เสมอ ถ้าใครที่กำลังท้อแท้กับชีวิตตัวเอง หรือรู้สึกว่าชีวิตช่างกดดันเหลือเกิน แล้วก็กำลังกังวลถึงเลข 3 อยู่ละก็ เราอยากจะชวนมานั่งสบายๆ บนเก้าอี้ตัวโปรดของคุณ เปิดเพลงเบาๆ เตรียมน้ำเตรียมขนมที่ชอบไว้ให้พร้อม แล้วมานั่งอ่านหนังสือให้กำลังใจคนวัย 30 เล่มนี้ไปด้วยกัน

ราคาโดยประมาณ : 265 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

2. ปรัชญาแมว ปรัชญาเหมียว แมวและความหมายของชีวิต

หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ว่าด้วยปรัชญาชีวิตของมนุษย์และแมว ใครที่ชอบอ่านหนังสือปรัชญาชีวิตอยู่แล้ว เล่มนี้ก็อ่านไม่ยากค่ะ และถ้าใครที่เป็นทาสแมวจะต้องชอบใจ เพราะพูดถึงความลึกซึ้งเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ เปรียบเทียบกับลักษณะอุปนิสัยของเจ้าแมวเหมียว ดั่งคำโปรยหลังปกที่บอกว่า “แมวมีความสุขที่ได้เป็นตัวเอง ขณะที่มนุษย์พยายามจะมีความสุขด้วยการหนีจากสิ่งที่ตัวเองเป็น ชวนเหล่ามนุษย์นักคิดมาไขความหมายชีวิตพร้อมมวลแมว ผู้ครองเสรีภาพที่มนุษย์มิอาจเอื้อม รักเพียงเพราะพอใจที่จะรัก โอบรับชีวิตเสมือนเป็นของขวัญ”  เป็นหนังสือให้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและเป็นหนังสือให้กำลังใจตัวเองแบบที่ลึกซึ้งเอามากๆ ใครที่คิดว่าชีวิตของเรานั้นช่างยากเย็นเกินไป ลองมาเปิดใจเรียนรู้การใช้ชีวิตจากเจ้าแมวเหมียวผ่านเล่มนี้กันค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 230 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

3. ทุกวันเป็นวันที่ดี :  ความสุข 15 ประการที่การชงชาสอนฉัน

ญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่รุ่มรวยไปด้วยวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและละเมียดละไม ถ้าใครชอบวัฒนธรรมการชงชาของญี่ปุ่น อยากชวนให้อ่านเล่มนี้มากๆ ค่ะ หนังสือเล่มนี้ เป็นการรวบรวมแง่คิดชีวิตที่คุณนักเขียนโมริชิตะ โนริโกะ ได้เรียนรู้จากการชงชามานานกว่า 25 ปี “ซาโด”หรือพิธีการชงชานั้นมีพิธีรีตองอันเครงครัด และมีรายละเอียดยิบย่อยชวนให้ท้อใจ แต่ไม่น่าเชื่อว่า สำหรับโนริโกะนั้น การเรียนชงชาได้ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตมากมาย และข้อคิดบางอย่างก็เป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตที่ดีมากๆ อย่างการสอนให้เราอยู่กับขณะปัจจุบัน การขอบคุณความงดงามเล็กๆ น้อยๆ ที่มีอยู่ในชีวิต การโอบรับความสุขที่มีอยู่เอาไว้ให้เต็มที่ โนริโกะพบว่า ไม่ว่าชีวิตตัวเองจะพบเจอกับความไม่แน่นอนหรือต้องเจอกับอุปสรรคหลากหลาย วันหนึ่ง เธอจะปะติดปะต่อและเข้าใจมันได้ดีผ่านการเรียนชงชานั่นเอง เป็นหนังสือให้กำลังใจในการใช้ชีวิตสำหรับคนที่ยังค้นหาที่ทางและความหมายของชีวิตที่เรียบง่ายและก็งดงามมากๆ ค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 275 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

4. กัมบัตเตะ ! ล้มเจ็ดครั้ง ลุกแปดครั้ง

Ganbatte ! เป็นการให้กำลังใจในภาษาญี่ปุ่น และยังมีความหมายว่า “ทำให้ดีที่สุด และอย่ายอมแพ้” หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือให้กำลังใจตัวเองผ่านแนวคิดแบบญี่ปุ่น ที่หัวใจสำคัญอยู่ที่ความเพียรพยายาม และการฟื้นตัว หรือแนวคิด Resilience คือการล้มแล้วลุกได้ใหม่เสมอนั่นเอง แม้ล้มไปเจ็ดครั้งแล้ว เราก็ต้องลุกขึ้นใหม่ในครั้งที่ 8 ให้ได้ และแม้จะยังล้มอยู่ ก็ต้องลุกขึ้นให้ไหว เพราะความสำเร็จของคนเรานั้นไม่ได้ง่ายดายเพียงแค่เริ่มต้นทำครั้งแรกแล้วจะสำเร็จเสร็จสมบูรณ์แต่อย่างใด สำคัญที่ว่า เรามีความอดทนมากขนาดไหนเพื่อที่จะทำให้ตัวเองบรรลุเป้าหมายให้ได้ หนังสือเล่มนี้ บอกเล่าเรื่องราวการไม่ยอมแพ้ผ่านแนวคิดตามวิถีญี่ปุ่น เช่น วิถีแบบ Kaizen ใครที่ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นและชอบแนวคิด ปรัชญาการใช้ชีวิตแบบญี่ปุ่น ลองอ่านหนังสือเล่มนี้เพื่อเป็นการให้กำลังใจตัวเองกันนะคะ

ราคาโดยประมาณ : 245 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

5. แค่โอบกอดตัวเองให้เป็น

แค่ชื่อหนังสือก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นหัวใจแล้ว การโอบกอดตัวเองหรือการปลอบประโลมตัวเอง ไม่ได้หมายความว่าเราโดดเดี่ยวเสียจนต้องมานั่งปลอบใจตัวเองนะคะ แต่การโอบกอดตัวเอง หมายถึงการใจดีกับตัวเอง ใจเย็นกับตัวเอง รู้จักปลอบใจตัวเองและให้กำลังใจตัวเองได้ หนังสือให้กำลังใจตัวเองเล่มนี้ เป็นความเรียงจากผู้เขียน “คิดมาก” เจ้าของนามปากกาที่มักจะออกหนังสือสร้างพลังบวกให้กับคนอ่านอยู่เสมอ เช่นเดียวกับหนังสือเล่มนี้ ที่เป็นความเรียงการให้กำลังใจ ให้พลังบวกที่นำเสนอในรูปแบบจดหมาย เหมือนเรากำลังอ่านจดหมายจากนักเขียนอยู่ และอาจเป็นเหมือนการอ่านจดหมายส่งมอบความรักที่เราได้อ่านให้กับตัวเองด้วย เป็นหนังสือรักตัวเองที่อยากบอกกับทุกคนว่า สิ่งดีๆ ในชีวิตที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ก็อาจเกิดขึ้นได้ และมันก็เกิดขึ้นได้กับทุกคน รวมถึงตัวเราเองด้วย เป็นหนังสือที่ส่งต่อกำลังใจได้ดีมากๆ เลยค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 275 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

6. แล้วทุกสิ่งจะดีขึ้นราวกับมีเวทมนตร์

โปรเจกต์ภาพวาด 365 days of daydream ของ Jedit นักเขียนชื่อดังที่มีชื่อเสียงบนโลกโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ชุมชนศิลปะ Grafolio ของเกาหลีใต้ เป็นหนังสือภาพวาดที่ประกอบไปด้วยประโยคหรือข้อความสั้นๆ อ่านแล้วก็ได้รับพลังบวกกลับไป หรือบางประโยคก็ชวนให้เราได้ขบคิดอยู่กับตัวเอง ถ้าวันไหนรู้สึกเหนื่อยล้า หมดพลัง อยากได้กำลังใจ ลองหยิบหนังสือให้กำลังใจตัวเองเล่มนี้ขึ้นมา แล้วลองเปิดอ่านทีละหน้า หร้อมกับชื่นชมภาพวาดอันสวยงามในหนังสืออย่างพิจารณา เพียงเท่านี้ เราก็จะรู้สึกดีมากขึ้นแล้วค่ะ เพราะมีประโยคดีๆ ที่ชวยฮีลใจมากมาย เช่น “แม้ว่าจะผลิดอกได้เร็วหรือช้าแตกต่างกันไป แต่หมู่มวลดอกไม้จะเบ่งบานงดงามอย่างแน่นอน คุณเองก็เติบโตเหมือนกับดอกไม้เช่นกัน” เป็นหนังสือรักตัวเองที่ควรค่าแก่การมีติดไว้บนชั้นหนังสือเอามากๆ เพื่อที่จะได้หยิบมาอ่านในวันที่ต้องการพลังใจ

ราคาโดยประมาณ : 319 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

7. หัดขวางโลกบ้างก็ไม่เลวนะ

ถ้าใครหากใครไม่ได้เป็นคนที่อ่อนโยนกับตัวเองมากนัก แต่ต้องการหนังสือให้กำลังใจตัวเอง เราก็อยากจะแนะนำเล่มนี้ค่ะ เป็นหนังสือที่พูดถึงวิธีป้องกันไม่ให้คนอื่นมาทำให้ความคิดจิตใจของเราไขว้เขวไป ใครที่อยากจะสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง หรืออยากสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองแล้วละก็ จะอ่านเล่มนี้ก็เหมาะเหมือนกัน ซึ่งไม่ได้ยุยงหรือสอนให้เราทำตัวกร่างหรือไม่ฟังใครแต่อย่างใด แต่เป็นการให้แง่มุมเกี่ยวกับการฟังเสียงของตัวเอง และรู้จักปฏิเสธคนอื่น ขัดขืนอย่างมีศิลปะ สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว แล้วในเล่มก็ยังสอดแทรกมุกตลกชวนขำเอาไว้คลายเครียด แถมยังมีประโยคชวนให้ฮึดสู้หรือสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองสอดแทรกอยู่ในเล่มด้วย อย่าง “คุณไม่จำเป็นต้องรอให้ใครอนุญาต คุณแค่จำเป็นต้องลงมือทำ” ฟังแล้วก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหมล่ะคะ ? มาบอกรักตัวเองและให้กำลังใจตัวเองแบบฮาร์ดคอร์ผ่านการอ่านหนังสือรักตัวเองเล่มนี้กันค่ะ

ราคาโดยประมาณ : 185 บาท

ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย !

Inspire Now ! : สำหรับบางคนแล้ว หนังสือ ก็เปรียบเหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่คอยอยู่ข้างๆ เราในวันที่เราต้องการกำลังใจ หรือคอยอยู่เป็นเพื่อนเราเงียบๆ เมื่อเราอยากใช้เวลากับตัวเองเพื่อท่องไปในโลกของตัวอักษรและจินตนาการ คำกล่าวที่ว่า “การอ่านเป็นรากฐานที่สำคัญ” ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะการอ่านนั้นเสริมสร้างทั้งทักษะการใช้ความคิด เสริมสร้างการเรียนรู้ การมีจินตนาการ การได้อ่านหนังสือดีๆ ก็เป็นการดูแลตัวเองและบอกรักตัวเองทางอ้อมได้เหมือนกัน ลองซื้อหนังสือรักตัวเอง หรือหนังสือที่ให้กำลังใจตัวเองมาอ่านดูสักเล่ม จะได้มีพลังใจในการใช้ชีวิตต่อไปนะคะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? การได้อ่านหนังสือดีๆ สักเล่มก็อาจจะทำให้เราเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนทัศนติที่มีต่อชีวิตไปเลยก็ได้ และการอ่านหนังสือสร้างกำลังใจ ก็ช่วยฮีลใจของเราได้เหมือนกัน ใครมีเล่มไหนที่อยากแนะนำ มาคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ ♡

Featured Image Credit : vecteezy.com/brillianata124685