ท่านอนแมวบอกนิสัย ที่ชาวทาสต้องรู้ แมวนอนแบบนี้ กำลังบอกอะไรเรากันแน่ !

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงน่ารักของใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่เป็นทาสแมวผู้หลงใหลในความน่ารักของเจ้าแมวเหมียว การพาน้องแมวมาเลี้ยงก็ทำให้เรามีความสุข และเพลิดเพลินไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องเหมียวแสนรัก นอกจากการเลี้ยงดูเอาใจใส่และให้ความรักแล้ว การสังเกตท่าทางของแมวก็เป็นสิ่งสำคัญ ท่านอนแบบนี้หมายถึงอะไร นอนแบบไหนบอกว่ากำลังป่วยอยู่นะ เพราะแมวไม่สามารถบอกเราได้ ทาสทั้งหลายจึงควรสังเกต ดังนั้นในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะชวนทาสแมวไปสังเกตแมวของเรา เพื่อการดูแล และเข้าใจน้องแมวของเราให้มากขึ้นกว่าเดิมกันค่ะ

ท่านอนแมวบอกนิสัยเรายังไง ? ท่านอนแบบไหนบอกว่าชิลล์ แบบไหนบอกว่าป่วย มาดูกัน !

ในเวลาปกติน้องแมวของเราอาจจะร่าเริงสนุกสนาน หรือไม่ก็นั่งชมนกอยู่ข้างหน้าต่างและนั่งเลียขนอย่างสบายใจ แต่ในวันที่น้องแมวของเราไม่สบายก็อาจจะมีอาการเซื่องซึม ไม่เล่นกับเรา ไม่กินอาหาร นอนมากผิดปกติ บางคนอาจจะเข้าใจไปว่าแมวของเราอาจจะแค่เบื่อๆ จนละเลยสุขภาพน้องแมวและไม่พาไปหาสัตวแพทย์ รู้ตัวอีกทีน้องเหมียวก็ไม่สบายหนัก ซึ่งเราสามารถสังเกตอาการป่วยของน้องแมวจากท่านอนได้ ท่านอนแมวไม่สบาย และท่านอนแมวบอกนิสัยอื่นๆ บอกอะไรเราได้อีกบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

แมวนอนแบบนี้ กำลังบอกอะไรเราบ้าง ?

1. ท่านั่งนอน

ถ้าน้องแมวอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ดูเป็นท่านอนที่ไม่สบายตัวเท่าไหร่นัก นั่นแสดงว่าน้องแมวกำลังอยากพักผ่อนด้วยการงีบสั้นๆ เป็นเวลา 15 – 20 นาที และพร้อมที่จะตื่นตัวได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสภาพแวดล้อมอาจไม่สงบปลอดภัยให้น้องแมวสามารถนอนหลับพักผ่อนสบายๆ ได้

2. ท่าแมวเหลว

บางครั้งเราอาจจะเห็นน้องแมวนอนท่าแปลกๆ คล้ายกับไม่มีกระดูก ทำตัวเป็นของเหลวที่สามารถบิดตัวไปมาได้อย่างอิสระ เป็นเพราะว่าแมวมีกระดูกถึง 230 ชิ้น โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลังและส่วนหาง ซึ่งทำให้แมวสามารถเคลื่อนไหวได้ดีกว่าและนอนบิดตัวไปมาทำท่าแปลกๆ ได้เสมอ โดยเฉพาะในเวลาที่รู้สึกสบายตัวมากๆ นั่นเอง เป็นท่านอนแมว บอกอารมณ์ได้ว่าน้องแมวรู้สึกสบายตัวสบายใจสุดๆ ค่ะ

3. ท่านอนหงายพุง

หากแมวของเรานอนหงายพุงโชว์ รู้ไว้เลยว่าน้องแมวไว้ใจเรามากๆ เพราะโดยทั่วไปแล้วแมวจะนอนในลักษณะนี้เฉพาะเวลาที่รู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยมากๆ เท่านั้น เนื่องจากท้องและกระเพาะของแมวเป็นส่วนของร่างกายที่บอบบางที่สุด ดังนั้น การนอนแผ่เปิดเผยพุงอย่างอิสระนั้น หมายความว่ามันสบายพอที่จะละทิ้งสัญชาตญาณการป้องกันตัวมากที่สุด เป็นท่านอนแมว บอกอารมณ์ที่แปลว่ามันไว้ใจเรามากๆ เลยค่ะ ยิ่งถ้ามีเสียง purr ของแมวในขณะที่เราลูบตัวน้องแมวเบาๆ ละก็ แสดงว่ามันกำลังสบายตัวสุดๆ ไปเลย

4. ท่าก้อนขนมปัง

นี่เป็นหนึ่งในท่านอนแมวที่น่ารัก และเป็นที่ชื่นชอบของทาสมากๆ เพราะท่านี้จะทำให้มันตัวกลมปุก ด้วยการซุกอุ้งเท้าหน้าไว้ใต้ร่างกาย ท่าทางที่น่ารักนี้หมายความว่ามันไม่ได้วางแผนจะนอนนาน แต่เพียงพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อชาร์จพลังก่อนจะเริ่มเล่นสนุกในวันใหม่ และเป็นท่าที่พร้อมจะลุกขึ้นได้เสมอ

5. ท่านอนตะแคงข้าง

เช่นเดียวกับท่านอนหงายพุง หากแมวนอนตะแคงแสดงว่าแมวกำลังรู้สึกผ่อนคลายมากและกำลังนอนหลับสนิท ท้องที่บอบบางของมันจะไม่ได้รับการปกป้อง พร้อมกับแขนขาที่เหยียดออก เนื่องจากมันรู้สึกปลอดภัยและรู้สึกสงบมากพอที่จะไม่ตื่นตัวหรือหลับไม่สนิท เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นเจ้านายนอนท่านี้ทาสก็อย่าเพิ่งไปรบกวนนะคะ ปล่อยให้น้องแมวได้พักผ่อนอย่างสบายใจดีกว่าค่ะ

6. ท่ารถไฟแมว

หนึ่งในท่านอนของแมวที่น่าสนใจที่สุด และมักจะกลายเป็นมีมน่ารักๆ ในโลกโซเชียล คือท่านอนแบบโมโนเรลหรือรถไฟ เป็นการนอนอยู่บนแขนหรือหลังเก้าอี้ โซฟา ราวบันได เสารั้ว และอื่นๆ ที่มันสามารถนอนได้ และห้อยขาบางส่วนหรือทั้งหมด จะเห็นได้ชัดว่าแมวอยู่ในตำแหน่งนี้เพราะเหมาะสำหรับการเฝ้าระวังทั่วไปมากกว่า ไม่ได้ตั้งใจจะนอนหลับอย่างจริงจัง โดยเฉพาะตามสัญชาตญาณของนักล่า ยิ่งสูง ยิ่งปลอดภัย เราจึงมักเห็นแมวนอนในท่านี้บนต้นไม้สูงเช่นกันค่ะ

7. นอนในกล่อง

การที่แมวนอนในกล่องนั้น เป็นท่านอนแมวไม่สบายใจ เพราะต้องการหลบซ่อนศัตรูที่อาจเข้ามาทำร้ายน้องแมวระหว่างนอนได้ โดยเฉพาะแมวที่นำมาเลี้ยงในบ้านตั้งแต่เล็กๆ ถ้าวันไหนน้องแมวเข้าไปนอนในกล่องละก็ สองสังเกตดูว่าวันไหนมีคนแปลกหน้ามาที่บ้านหรือเปล่า หรือมีอุปกรณ์บางอย่างภายในบ้านที่ส่งเสียงดังรบกวนน้องแมวจนทำให้แมวเกิดความรำคาญได้

ถ้านอนด้วยท่าทางแบบนี้อยู่ล่ะก็ อาจหมายถึงสัญญาณที่บอกว่ากำลังป่วย !

1. นอนขดตัว

ท่านอนแมวไม่สบายท่าแรกก็คือ การนอนขดตัว โดยน้องแมวจะนอนขดเป็นวงกลม หัวซุกอยู่ตรงบริเวณท้องแล้วใช้หางพันรอบตัวเอง เป็นท่านอนที่ทำให้แมวรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ทั้งยังเป็นท่านอนที่ช่วยปกป้องบริเวณหน้าท้องซึ่งเป็นจุดบอบบาง แต่ในบางครั้งเวลาที่น้องแมวรู้สึกเจ็บปวดหรือรู้สึกไม่สบายตัวก็อาจจะนอนท่านี้ได้ด้วย หรืออาจจะรู้สึกหนาวเกินไป ลองสังเกตอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ถ้าน้องแมวซึม ถ่ายเหลว เบื่ออาหารร่วมด้วย ก็ควรจะพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อเช็กอาการค่ะ

2. นอนหายใจเร็ว

ปกติแล้วอัตราการหายใจของแมวจะอยู่ที่ 20 -30 ครั้งต่อวินาที ซึ่งจะหายใจเร็วกว่านี้ถ้าอยู่ในระหว่างเล่นซนหรือออกกำลังกาย แต่ถ้าแมวนอนอยู่เฉยๆ แล้วหายใจเร็ว หรือดูคล้ายกับว่าแมวกำลังตกใจ หายใจแรง มีอาการหอบถี่เป็นเวลานาน บ่งบอกได้ว่านี่เป็นท่านอนแมวไม่สบาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ และระบบหลอดเลือด วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นคือ ให้เรานำผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่ามาเช็ดบริเวณใบหู อุ้งเท้า ใต้ท้อง และขาหนีบของน้องแมวเพื่อช่วยคลายความร้อน จากนั้นให้พาน้องแมวไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทหรือเตรียมเจลเย็น เบาะนอนเย็นไว้ที่บ้าน หากน้องแมวยังอาการไม่ดีขึ้นควรพาไปพบคุณหมอ เพราะอาจช็อก และเสียชีวิตได้

3. นอนปิดหน้าปิดตา

ท่านอนน้องแมวท่านี้ ไม่เชิงเป็นท่านอนแมวไม่สบาย แต่เป็นสัญญาณบอกเราว่า “อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉัน” หากแมวนอนท่านี้ แสดงว่าอยากพักผ่อนอย่างเต็มที่และไม่อยากให้ใครไปรบกวน บางครั้งแมวอาจจะไม่ได้ตั้งใจเอามือมาปิดหน้าปิดตาตัวเอง แต่เป็นการทำไปโดยอัตโนมัติเพราะเป็นสัญชาตญาณการป้องป้องตัวเอง ซึ่งเราควรปล่อยให้น้องแมวนอนหลับต่อไป เพราะถ้าหากปลุกน้องแมวตอนนี้ อาจมีอารมณ์เสียได้

คลายข้อสงสัย ทำไมแมวถึงนอนทั้งวัน ?

ทาสแมวหลายคนคงสงสัยว่าทำไมแมวของเรานอนทั้งวัน ปกติแล้วแมว นอนกี่ชั่วโมง เพราะเราจะเห็นแมวนอนได้ทุกที่ และที่แมวนอนเยอะส่วนหนึ่งมาจากอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนที่แมวกินเข้าไปซึ่งต้องใช้เวลานอนมากเพื่อช่วยย่อยอาหาร รวมถึงรูปแบบการล่าของเหล่าแมวเหมียว ซึ่งมักจะออกล่าหรือออกไปวิ่งเล่นวันละสองครั้งคือรุ่งเช้าและค่ำ ดังนั้น ควรปล่อยเจ้านายของเรางีบหลับอย่างสบายใจ ยกเว้นว่าแมวของเรานอนทั้งวันโดยที่ไม่สนใจที่จะเล่นหรือกินเลย นั่นเพราะอาจมีความผิดปกติหรือมีอาการป่วยได้ ควรพาไปหาสัตวแพทย์จะดีที่สุดค่ะ

คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับทาสแมว

1. การสังเกตพฤติกรรมการกินอาหาร : แมวที่มีสุขภาพดีจะมีพฤติกรรมการกินอาหารที่สม่ำเสมอ เจ้าของควรจัดเวลาให้อาหารเป็นประจำและจัดหาน้ำสะอาดให้พร้อมตลอดเวลา สังเกตปริมาณการกินในแต่ละมื้อ หากพบว่าแมวกินน้อยลงหรือไม่ยอมกินอาหาร อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องพาไปพบสัตวแพทย์
2. พฤติกรรมการใช้กระบะทราย : โดยปกติแมวจะเข้าห้องน้ำเป็นเวลาและรักความสะอาด เจ้าของควรทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน เปลี่ยนทรายเมื่อมีกลิ่น สังเกตสีและลักษณะของอุจจาระและปัสสาวะ หากแมวไม่ยอมใช้กระบะทราย อาจเกิดจากความไม่พอใจในความสะอาดหรือมีปัญหาสุขภาพ
3. การทำความสะอาดตัวเอง : แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด จะใช้เวลาเลียขนทำความสะอาดตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ขนของแมวที่สุขภาพดีจะเป็นมันเงาไม่พันกัน เจ้าของควรช่วยหวีขนให้แมวเป็นประจำเพื่อลดการเกิดก้อนขนในท้อง หากแมวหยุดทำความสะอาดตัวเองกะทันหัน อาจหมายความว่ากำลังป่วยหรือเครียดอยู่
4. พฤติกรรมการนอนและพักผ่อน : ตามธรรมชาติแมวจะนอนประมาณ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน เจ้าของควรจัดเตรียมที่นอนที่สะอาด สบาย และเงียบสงบ สังเกตจุดที่แมวชอบนอนเพื่อจัดพื้นที่ให้เหมาะสม การนอนที่มากหรือน้อยผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ต้องเฝ้าระวัง
5. อารมณ์และการแสดงออก : แมวที่มีความสุขจะส่งเสียงร้องนุ่มนวล กระดิกหาง และชอบเล่นอย่างสนุกสนาน เจ้าของควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น ความซึมเศร้า เงียบผิดปกติ หรือก้าวร้าว รวมถึงการส่งเสียงครางดังที่อาจบ่งบอกถึงความเจ็บปวด
6. การจัดสภาพแวดล้อม : แมวต้องการพื้นที่ที่มีทั้งที่ซ่อนตัว ที่สูงสำหรับปีนป่าย ที่ลับเล็บ และของเล่นที่ปลอดภัย สภาพแวดล้อมควรมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป พื้นที่ต้องสะอาด ปราศจากสิ่งอันตรายที่อาจทำให้แมวบาดเจ็บ
7. สัญญาณที่ต้องพาพบสัตวแพทย์ : เจ้าของควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันทีเมื่อพบอาการผิดปกติ เช่น ไม่กินอาหารเกิน 24 ชั่วโมง มีอาการอาเจียนหรือท้องเสียต่อเนื่อง หายใจลำบาก เดินโซเซ ซึม มีบาดแผลหรือการบวม หรือมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างกะทันหัน
8. การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน : การดูแลสุขภาพที่ดีต้องครอบคลุมทั้งการพาไปฉีดวัคซีนตามกำหนด การถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ การตรวจสุขภาพประจำปี และการทำหมันเพื่อป้องกันโรค และลดพฤติกรรมก้าวร้าว การดูแลเชิงป้องกันจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายแรงได้ค่ะ
9. การควบคุมน้ำหนัก : เจ้าของควรหมั่นสังเกตและชั่งน้ำหนักแมวอย่างสม่ำเสมอ การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักที่ผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ ควรปรับปริมาณและชนิดของอาหารให้เหมาะสมกับอายุและระดับกิจกรรมของแมว
10. การสร้างความผูกพัน : การใช้เวลาร่วมกันผ่านการเล่น การพูดคุย และการสัมผัสอย่างนุ่มนวลจะช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแมวและเจ้าของ ควรสังเกตและเรียนรู้สิ่งที่แมวชอบและไม่ชอบ ให้รางวัลเมื่อแมวแสดงพฤติกรรมที่ดี การสร้างความผูกพันที่ดีจะช่วยให้การดูแลแมวเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้นค่ะ

Inspire Now ! : นอกจากท่านอนแมวบอกนิสัย บอกอารมณ์ต่างๆ ได้แล้ว เหล่าทาส รู้ไหมว่าทำไมแมวถึงชอบนอนบนตัวเรา การที่แมวทำแบบนี้ เพราะเจ้าเหมียวต้องการความอบอุ่น หรือชอบกลิ่นของเรา และรู้สึกปลอดภัยและพอใจเมื่อได้อยู่ใกล้ นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่แมวอาจปล่อยออกซิโตซิน หรือฮอร์โมนแห่งความรักที่ให้ความรู้สึกดีๆ เมื่อได้สัมผัสกับเจ้าของของมันนั่นเอง รู้แบบนี้แล้วก็ต้องยอมให้เจ้านายนอนทับตัวเราต่อไปค่ะ

DIYINSPIRENOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? ได้รู้แล้วว่าท่านอนแบบไหนบอกอะไรบ้าง ลองเอาไปสังเกตน้องแมวที่บ้านกัน หากดูแลเจ้านายของเราด้วยความรักและใส่ใจ เหล่าน้องแมวจะต้องมีความสุข และมีสุขภาพดีอย่างแน่นอนค่ะ ทาสแมวคนไหนลองแล้วเป็นยังไง มาคอมเมนต์แชร์ประสบการณ์กันบ้างนะคะ ♡