รวมที่สุดของการ์ตูนวอลดิสนีย์ – Pixar ที่ได้แง่คิดมากกว่าการเป็นการ์ตูน

พิกซาร์ (Pixar) คือหนึ่งในค่ายหนังอนิเมชั่นที่ดีที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดค่ายหนึ่งของโลก เพราะอนิเมชั่นแต่ละเรื่องของเขานั้นทั้งสนุก มีสาระ และมีคติสอนใจแฝงอยู่อย่างแนบเนียน ดูแล้วได้ความบันเทิงครบรส ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ดูสนุก นอกจากนี้ การ์ตูนวอลดิสนีย์ – Pixar เรื่องล่าสุดอย่าง Soul ยังได้รับรีวิวเป็นเสียงเดียวกันว่าดีงาม กินใจ ให้ข้อคิดและแรงบันดาลใจดีๆ อีกด้วย เพราะฉะนั้น DIY INSPIRE NOW จึงขอชวนสาวๆ ไปตามเก็บอนิเมชั่นน้ำดีจาก Disney การ์ตูนพิกซาร์เรื่องไหนน่าสนใจ ให้แง่คิด และได้แรงบันดาลใจแบบที่เราไม่ควรพลาดอีกบ้าง ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการอ่านการ์ตูนเกาหลีแปลแล้วหล่ะก็ ลองหยิบอนิเมชั่นดีๆ จากพิกซาร์มาดูในวันหยุดกันได้เลย

รวม 7 การ์ตูนวอลดิสนีย์ – Pixar ดูแล้วได้แง่คิด สร้างแรงบันดาลใจ ให้เราได้อะไรมากกว่าความบันเทิง

1. Toy Story (1995)

เมื่อพูดถึงที่สุดของค่าย Disney การ์ตูนพิกซาร์อย่าง Toy Story ก็ต้องเป็นหนึ่งในเรื่องที่หลายคนนึกถึง เพราะนี่คืออนิเมชั่นเรื่องแรกของดิสีนย์ – พิกซาร์ แถมยังเป็นอนิเมชั่นที่สนุกและประทับใจใครหลายคนแบบไม่รู้ลืม ด้วยเรื่องราวที่เล่าผ่านสายตาและมุมมองของ วู้ดดี ตุ๊กตานายอำเภอหนุ่มที่เป็นของเล่นตัวโปรดของ แอนดี้ แต่แล้ววันหนึ่งความรักที่เขาเคยได้รับกลับกลายเป็นของ บัซ ไลท์เยียร์ ตุ๊กตานักบินอวกาศสุดเท่ การชิงดีชิงเด่นระหว่างทั้งคู่จึงเริ่มขึ้น แต่มันกลับทำให้พวกเขาและเพื่อนๆ ต้องไปผจญภัยไกลบ้านและต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางกลับมาหาแอนดี้ให้ได้ กลายเป็นความเชื่อใจและมิตรภาพที่เรียกได้ว่า “เพื่อนแท้” นอกจากนี้ยังแฝงมุมมองการเติบโตจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ เมื่อโตขึ้นของเล่นชิ้นโปรดอาจกลายเป็นแค่ตุ๊กตาตั้งโชว์ แต่ไม่ว่าอย่างไรความสนุกที่เราเคยได้รับจากพวกเขาก็จะอยู่ในใจเราเสมอค่ะ

ความยาว : 1 ชั่วโมง 21 นาที

2. Monster, Inc. (2001)

ใครจะเปลี่ยนสัตว์ประหลาดให้ดูน่ารักและน่าสนใจได้ถ้าไม่ใช่ Disney การ์ตูนเปี่ยมจินตนาการอย่าง Monster, Inc. จะพาเราไปสำรวจโลกหลังตู้เสื้อผ้าที่เราเคยหวาดกลัวว่าจะมีตัวอะไรโผล่มาหลอกยามค่ำคืน ที่นี่คือโลกของสัตว์ประหลาด พวกเขาใช้ชีวิต กิน นอน เที่ยวเล่น และทำงานไม่ต่างจากเรา แต่พลังงานที่พวกเขาใช้มาจาก “เสียงกรีดร้อง” เพราะฉะนั้นพนักงานของบริษัทรับจ้างหลอนจึงเปรียบเหมือนดาราดังของโลกนี้ และเบอร์หนึ่งของบริษัทก็คือ ซัลลี่ สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ขนปุยที่มีคู่หูอย่าง ไมค์ สัตว์ประหลาดตาเดียวนั่นเอง แต่แล้ววันหนึ่งเกิดมีเด็กน้อยหลงเข้ามาในโลกของสัตว์ประหลาด ซัลลี่และไมค์ต้องพาเธอกลับบ้านให้ได้โดยที่พวกเขาต้องหลบการตามล่าจากเจ้าหน้าที่ไปด้วยเพราะเด็กถือเป็นสิ่งต้องห้ามของโลกนี้ เกิดเป็นเรื่องราวมิตรภาพและความผูกพันสุดประทับใจที่จะทำให้เราได้เห็นว่าบางครั้งความกลัวก็เป็นเพียงความเชื่อ แต่เมื่อเราได้สัมผัสกับสิ่งนั้นจริงๆ มันอาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ทำให้เรารู้ว่าต้องไม่ตัดสินคนอื่นแค่เพราะคำพูดที่ได้ยินมานั่นเองค่ะ 

ความยาว : 1 ชั่วโมง 32 นาที

[affegg id=2673]

3. Finding Nemo (2003)

ถ้าจะตามหาหนังในการ์ตูนวอลดิสนีย์ – พิกซาร์ที่ประทับใจที่สุดอีกเรื่องหลายคนก็คงยกให้ Finding Nemo เป็นหนึ่งในดวงใจ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าปลาน้อย นีโม่ เกิดพลัดหลงกับผู้เป็นพ่อ มาร์ลิน พ่อของเขาจึงออกเดินทางตามหาลูกชายโดยมีเจ้าปลาขี้ลืมอย่าง ดอร์รี่ มาเป็นเพื่อนร่วมทาง เป็นการ์ตูนที่ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความรักระหว่างครอบครัว เพื่อน ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกที่ประทับใจและยังให้แง่คิดดีๆ กับเราหลายอย่าง นอกจากนี้ยังแฝงประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมทางทะเลอีกด้วยนะ

ความยาว : 1 ชั่วโมง 40 นาที

4. The Incredibles (2004)

การ์ตูนวอลดิสนีย์ – พิกซาร์ที่หน้าฉากเป็นเรื่องราวแอคชั่นของฮีโร่ที่ต่อสู้กับเหล่าวายร้ายเพื่อผดุงความยุติธรรม แต่จริงๆ แล้วแฝงประเด็นครอบครัว การเติบโตและการเปลี่ยนผ่านของช่วงวัยเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน เล่าเรื่องราวของครอบครัวอดีตซูเปอร์ฮีโร่ที่พยายามทิ้งอดีตและใช้ชีวิตแบบทั่วไป แต่เมื่อมีวายร้ายสุดโฉดที่กุมชะตาโลกอยู่ในมือพวกเขาจึงต้องกลัวมาสวมชุดฮีโร่และออกปฏิบัติการอีกครั้งโดยต้องร่วมมือกันทั้งครอบครัวรวมถึงเพื่อนๆ ฮีโร่รุ่นเก่าด้วย ใครชอบการ์ตูนญี่ปุ่น netflix แนวฮีโร่ต้องลองดูเรื่องนี้นะคะ

ความยาว : 1 ชั่วโมง 55 นาที

[affegg id=2675]

5. Ratatouille (2007)

เป็นกการ์ตูนวอลดิสนีย์ – พิกซาร์ภาพสวย เพลงเพราะ ที่บอกเล่าเรื่องราวความฝันอันยิ่งใหญ่ของ เรมี่ หนูตัวเล็กที่ฝันอยากเป็นพ่อครัว มันได้มาพบกับ ลิงกวินี่ เด็กในครัวที่ไม่มีฝีมือทำอาหารให้เป็นคนปรุงอาหารแทนจนอาหารแต่ละเมนูออกมาอร่อยถูกปากนักชิม แต่แล้ววันหนึ่งความจริงก็เปิดเผยว่าพ่อครัวตัวจริงเป็นหนู!! ถือเป็นการ์ตูนที่ดูแล้วมีความดราม่าแอบแฝงอยู่บางๆ แต่ก็จบได้อย่างประทับใจและอบอุ่นหัวใจ แฝงด้วยแง่คิดอย่างการไม่ตัดสินคนอื่น การกล้าที่จะฝันและการทำทุกอย่างเพื่อตามความฝันของเราค่ะ

ความยาว : 1 ชั่วโมง 51 นาที

6. Wall-E (2008)

อนิเมชั่นที่ประทับใจใครหลายคนที่สุดอีกเรื่องอย่าง Wall-E เล่าเรื่องราวของโลกในอนาคตที่โลกของเราถูกทิ้งร้าง มนุษย์อพยพไปอยู่ในอวกาศเหลือเพียงหุ่นยนต์เก็บขยะอย่างวอลล์-อีถูกทิ้งเอาไว้ แต่วันหนึ่งวอลล์-อีก็ได้พบกับ อีฟ หุ่นสาวสุดไฮเทค เขาตกหลุมรักเธอทันที การผจญภัยของพวกเขาเริ่มต้นขึ้น วอลล์-อีได้ค้นพบว่าทำไมมนุษย์ต้องอพยพไปอยู่ในอวกาศและแท้จริงแล้วตัวเขาเองก็มีความสำคัญแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อนด้วย เป็นอนิเมชั่นน่ารักที่เล่าเรื่องปัญหาการติดเทคโนโลยีและโลกร้อนออกมาได้สนุก ให้เราได้ฉุกคิดอะไรหลายอย่างเลยหล่ะ

ความยาว : 1 ชั่วโมง 38 นาที

[affegg id=2674]

7. Up (2009)

ปิดท้ายกันที่การ์ตูนวอลดิสนีย์ – พิกซาร์ที่ทำให้ใครหลายคนเสียน้ำตาได้ตั้งแต่สิบนาทีแรกอย่าง Up เรื่องราวของ คาร์ล  เฟรดิกเซ่น คุณปู่วัยหลังเกษียณที่สูญเสียภรรยาสุดที่รักไปแต่แล้ววันหนึ่งเขากลับลุกออกมาทำตามฝันโดยการปรับเปลี่ยนบ้านให้ลอยได้โดยการใช้ลูกโป่งหลากสีสัน การเดินทางของเขามีเด็กน้อยลูกเสืออย่าง เควิน ติดไปด้วย ซึ่งการเดินทางครั้งนี้นอกจากจะทำให้คุณปู่ได้เติมเต็มความฝันของตัวเองแล้ว เขายังได้เรียนรู้ที่จะเปิดใจรับมิตรภาพครั้งใหม่อีกด้วย

ความยาว : 1 ชั่วโมง 36 นาที

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? ใครมีการ์ตูนดิสนีย์ – พิกซาร์ที่คุณชอบ มาแชร์เรื่องโปรดกับเราได้เลยนะคะ ♡

Image Credit : imdb.com

Featured Image Credit : hipwallpaper.com

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : vulture.com, editorial.rottentomatoes.com