ไข้เลือดออกมีกี่ระยะ, ยุงลาย ไข้เลือดออก

ไข้เลือดออกมีกี่ระยะ ? รู้จักก่อน มีสิทธิ์หายได้เร็วกว่า

หน้าฝนเป็นฤดูที่นอกจากจะมาพร้อมความเย็นชุ่มฉ่ำแล้ว เรื่องของยุงลาย ไข้เลือดออกก็ตามติดมาให้เราปวดหัวได้ไม่แพ้กัน DIY INSPIRE NOW จึงอยากชวนสาวๆ มาอัปเดตความรู้รอบตัวกันสักนิด มาดูกันหน่อยว่า ไข้เลือดออกมีกี่ระยะ เพื่อให้สังเกตอาการตัวเองและไปทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที ให้เราดูแลตัวเองและคนใกล้ตัวได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัยจากโรคร้ายได้อย่างมั่นใจค่ะ

โรคไข้เลือดออก ภัยร้ายที่ทุกคนมองข้าม

ไข้เลือดออกมีกี่ระยะ, ยุงลาย ไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกเกิดจากไวรัสเดงกี (Dengue Virus) คือโรคที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งไวรัสเดงกีมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ โดยการติดเชื้อครั้งแรกจะมีอาการไม่รุนแรง แต่หากว่าเกิดติดเชื้อครั้งที่ 2 เป็นเชื้อต่างสายพันธุ์กับครั้งแรก อาการจะรุนแรงถึงขั้นมีเลือดออก ช็อก หรือเสียชีวิตในสุด โรคนี้จัดเป็นปัญหาสาธารณสุขในหลายประเทศทั่วโลก เราจะพบโรคไข้เลือดออกมากในประเทศที่มีเขตร้อนและเขตอบอุ่น ซึ่งประเทศไทยเองก็คือหนึ่งในประเทศที่พบภัยจากยุงลาย ไข้เลือดออกระบาดบ่อยๆ ในช่วงหน้าฝนค่ะ

[affegg id=2694]

ไข้เลือดออกมีกี่ระยะ ? รู้ไว้ก่อนให้ป้องกันและดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม

อาการของโรคไข้เลือดออกมีทั้งหมด 3 ระยะ

  1. ระยะไข้

สำหรับสาวๆ ที่สงสัยว่าไข้เลือดออกมีกี่ระยะ ระยะแรกคืออะไร คำตอบก็คือระยะไข้ค่ะ โดยระยะนี้จะมีเวลาของการแสดงอาการประมาณ 2 – 7 วัน อาการคือมีไข้สูงอย่างเฉียบพลัน ส่วนใหญ่ไข้สูง 38.5 องศาเซลเซียส ไปจนถึง 40 – 41 องศาเซลเซียส อาจมีอาการชักเกิดขึ้นได้ในเฉพาะเด็กที่เคยมีประวัติการชักมาก่อน และจะมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หน้าแดง มีผื่น มีอาการเลือดออกตามร่างกายโดยส่วนใหญ่จะพบตามผิวหนังเป็นหลัก หากพบว่าเรามีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อทำการรักษาจะดีที่สุด

ไข้เลือดออกมีกี่ระยะ, ยุงลาย ไข้เลือดออก

  1. ระยะวิกฤติ/ช็อก

ระยะนี้ไข้จะเริ่มลดลง 1 ใน 3 ของผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรง มีภาวะไหลเวียนโลหิตล้มเหลว มักเกิดพร้อมกับมีไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยจะซึม มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเบาแต่เร็ว ปวดบริเวณใต้ชายโครงขวา อาจมีเลือดออกง่าย อย่างเลือดกำเดาไหล ในรายที่รุนแรง จะมีความดันโลหิตต่ำ ช็อก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ระยะนี้กินเวลาประมาณ 24 – 48 ชั่วโมงเท่านั้น หากถามว่าไข้เลือดออกมีกี่ระยะ ระยะไหนเสี่ยงและอันตรายที่สุดก็คือระยะที่สองนี่เองค่ะ

  1. ระยะฟื้นตัว

ระยะนี้มีช่วงเวลาประมาณ 2 – 3 วัน อาการต่างๆ ของผู้ป่วยจะเริ่มดีขึ้น ฟื้นตัวค่อนข้างเร็วในผู้ป่วยที่ไม่เกิดอาการช็อก ส่วนผู้ป่วยช็อก ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยจะอยากรับประทานอาหาร ความดันโลหิตสูงขึ้น สำหรับคนที่สงสัยว่าไข้เลือดออกมีกี่ระยะ ระยะไหนที่อาการจะดีขึ้นก็คือช่วงฟื้นตัวหรือระยะที่ 3 นี่แหละค่ะ  

[affegg id=2695]

โรคไข้เลือดออก ติดต่อกันได้หรือไม่

ได้รู้ไปแล้วว่าไข้เลือดออกมีกี่ระยะ คราวนี้เราลองมาดูกันสักนิดว่าไข้เลือดออกติดต่อกันได้ไหม คำตอบก็คือโรคไข้เลือดออกติดต่อกันได้โดยมียุงลายเป็นตัวพาหะนำโรค ยุงลายตัวเมียจะดูดเลือดผู้ป่วยที่มีไวรัสเดงกี เชื้อของไวรัสเดงกีจะเข้าฟักตัวในกระเพาะของยุง เมื่อไวรัสมีจำนวนมากขึ้นจะออกมาจากเซลล์ผนังกระเพาะ และเดินทางมายังต่อมน้ำลาย และสามารถนำมาถ่ายทอดเชื้อไวรัสเดงกีให้คนที่ถูกกัดรายต่อไปได้

การรักษาโรคไข้เลือดออกให้เหมาะสมกับอาการ

ไข้เลือดออกมีกี่ระยะ, ยุงลาย ไข้เลือดออก

ในปัจจุบันยังไม่มียาต้านเชื้อไวรัสเฉพาะสำหรับไวรัสเดงกี ซึ่งการรักษาโรคไข้เลือดออกจะรักษาแบบประคับประคองไปตามอาการ แพทย์ผู้รักษาจะต้องดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้เลือดออกอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะได้ผลดีเมื่อวินิจฉัยได้ถูกต้องตั้งแต่ระยะแรก ดังนั้นการที่เรารู้ว่าไข้เลือดออกมีกี่ระยะ ระยะแรกอาการอย่างไรจึงช่วยเพิ่มโอกาสรอดและโอกาสหายป่วยได้นั่นเองค่ะ 

  1. ในระยะไข้สูงควรใช้ยาพวกพาราเซตามอล ห้ามใช้ยาพวกแอสไพริน ไอบูโพรเฟน สเตรอย เพราะจะทำให้เกล็ดเลือดเสียการทำงานและระคายกระเพาะอาการทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น ไม่ควรกินสมุนไพรรักษาไข้หวัดเองหากยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์นะคะ 
  2. ให้สารน้ำชดเชย เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่มีไข้สูง เบื่ออาหาร อาเจียน ทำให้ขาดน้ำ และเกลือโซเดียม ควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำผลไม้หรือสารละลายผงน้ำตาลเกลือแร่ ในผู้ป่วยที่อาเจียน ควรให้ดื่มครั้งละน้อยๆ ดื่มบ่อยๆ 
  3. ควรติดตามดูอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอาการช็อก
  4. แพทย์จะตรวจเกร็ดเลือดดูปริมาณเกร็ดเลือดและความเข้มข้นของเลือดเป็นระยะ ถ้าปริมาณเกร็ดเลือดเริ่มลดลง และความเข้มข้นของเลือดสูงขึ้น แสดงว่าน้ำเลือดรั่วออกจากเส้นเลือด อาจมีอาการช็อกได้ จำเป็นต้องให้สารน้ำทดแทน

[affegg id=2696]

เราจะป้องกันโรคไข้เลือดออกได้อย่างไร ?

หากที่อยู่อาศัยเป็นพื้นที่โล่งและมีป่าดิบชื้น มีพื้นที่น้ำขัง เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด เสื้อแขนยาว เกงกางขายาว และนอนในมุ้ง ป้องกันไม่ให้ยุงกัด ไม่นำตัวเองไปอยู่ในสถานที่มืด อาการชื้น และเย็น สามารถใช้สารไล่ยุง ยากันยุงหลากหลายแบบ แบบมีควัน ไม่มีควัน ใช้จุดไล่ยุง เป็นแผ่น เป็นเนื้อครีม เป็นสเปรย์  ใช้ทาตามร่างกาย เสื้อผ้า รวมถึงทำตามวิธีล้างมือให้ถูกวิธีเพื่อลดโอกาสติดเชื้อไวรัสจากยุงด้วย

นอกจากนี้ควรกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น ปิดฝาถังน้ำ โอ่งน้ำ ที่ใช้กักเก็บน้ำให้มิดชิด ไม่ให้ยุงเข้าไปวางไข่ได้ หมั่นเปลี่ยนน้ำในแจกันดอกไม้สด ใส่น้ำส้มสายชูหรือเกลือในภาชนะรองตู้กับข้าว หากเลี้ยงต้นไม้ควรใช้ทรายมาเทรองกระถางต้นไม้ ทรายจะดูดซึมน้ำที่เกิดจากการรดน้ำต้นไม้ ควรเลี้ยงปลากินลูกน้ำในอ่างบัว หากมีแหล่งน้ำขังหรืออยู่ใกล้กับคลอง ควรติดต่อหาสำนักงานที่รับผิดชอบบริการฉีดพ่นสารเคมี เพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลายตามแหล่งที่อยู่อาศัยให้ยุงลายมีจำนวนลดลง จะได้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเดงกีที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคไข้เลือดออกค่ะ

Inspire Now ! : ปัญหายุงลาย ไข้เลือดออกระบาด เป็นปัญหาที่พบได้ทุกปีในประเทศไทย ดังนั้นอย่าลืมทำตามวิธีป้องกันยุงลายที่เราแนะนำไปและศึกษาให้เข้าใจว่าไข้เลือดออกมีกี่ระยะ ระยะแรกเริ่มอาการเป็นอย่างไร เพื่อให้สังเกตตัวเองและคนรอบข้างได้ จะได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที นอกจากนี้อย่าลืมซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายมาติดบ้านไว้บ้างเพื่อออกกำลังกายบ่อยๆ ร่างกายและภูมิคุ้มกันจะได้แข็งแรง ลดความเสี่ยงในการป่วยไข้ต่างๆ ด้วยนะคะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้คำตอบใช่ไหม ? ใครที่เคยมีประสบการณ์ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกหรือมีคนใกล้ชิดป่วย อยากมาแชร์วิธีดูแลป้องกันหรือตัวเองกับเรา คอมเมนต์พูดคุยกันได้เลยนะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mayoclinic.org, who.int

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW