แผลร้อนในในคอ, แผลร้อนใน

แผลร้อนในในคอ เกิดจากอะไร ? เป็นร้อนในต้องทำยังไงให้หายไวๆ !

เคยไหมคะที่รู้สึกเจ็บบริเวณเหงือก ตามกระพุ้งแก้ม หรือในปาก และเมื่อส่องกระจกดูก็พบแผลเล็กๆ เป็นวงสีขาว ถ้าไปโดนตรงบริเวณแผลเข้าก็จะรู้สึกแสบ ซึ่งนั่นก็คืออาการร้อนในนั่นเอง อาการร้อนใน แม้ว่าจะไม่ได้อันตรายหรือก่อให้เกิดผลร้ายกับสุขภาพมากนัก แต่ก็เป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญใจให้กับเรา ยิ่งถ้าเป็น แผลร้อนในในคอ ด้วยแล้วนั้น จะกินหรือกลืนอาหารก็สุดแสนจะลำบาก ใครที่กำลังประสบกับอาการร้อนในต่างๆ โดยเฉพาะการเป็นร้อนในในคอ DIYINSPIRENOW จะพาไปดูกันว่าจะมีวิธีดูแลตัวเองยังไงบ้างให้อาการดีขึ้น แล้วเราจะป้องกันการเกิดร้อนในได้ยังไง ? ไปอ่านกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ

ชวนรู้จัก แผลร้อนในในคอ อาการยังไง รักษายังไงดี ?

Image Credit : canva.com-pro

ถ้าใครเคยเป็นร้อนใน ก็น่าจะทราบกันดีว่าการเป็นร้อนในนั้นสร้างความเจ็บปวดและความทรมานในการรับประทานอาหารเป็นอย่างมาก และถ้าเผลอกัดโดนแผลก็จะยิ่งสร้างความเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม โดยทั่วไปแล้ว ลักษณะของแผลร้อนในจะเป็นแผลขนาดเล็กและตื้น เป็นรูปกลมหรือรูปไข่ มีอาการบวมแดง สีของแผลจะเป็นสีเหลืองหรือขาว และล้อมรอบไปด้วยสีแดง มักจะเกิดที่บริเวณเนื้อเยื่อภายในช่องปาก เหงือก กระพุ้งแก้ม ลิ้น รวมถึงเป็นแผลร้อนในในคอได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งแผลแบบนี้ทำให้เกิดอาการเจ็บและแสบร้อน เมื่อมีการขยับช่องปากหรือกินอาหารเข้าไป แม้แต่ขณะกำลังพูดอยู่ก็สามารถสร้างความเจ็บปวดได้ ถึงจะไม่ได้เป็นอันตรายมากนัก แต่ก็สร้างความรำคาญใจให้กับคนที่เป็นอยู่มาก โดยปกติแล้ว อาการร้อนในจะหายได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์ และขนาดของแผลก็จะเล็กลง การเจ็บหรือแสบก็จะทุเลาลงด้วย แต่ถ้าหากมีอาการดังต่อไปนี้ อาจจะต้องทำการปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป เพราะเป็นอาการร้อนในที่มีความผิดปกติ โดยจะมีอาการคือ

  • แผลที่เกิดขึ้นมีจำนวนมากกว่าจุดเดียว และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าแผลเก่าจะไม่หาย
  • แผลที่เกิดขึ้นมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หรือลุกลามไปยังบริเวณอื่น
  • มีไข้สูง หรือต่อมน้ำเหลืองบวมร่วมด้วย
  • เป็นร้อนในอย่างต่อเนื่อง และอาการไม่ดีขึ้นภายในสองสัปดาห์ 
  • ผู้ที่มีปัญหา หรือมีอุปกรณ์ด้านทันตกรรมในช่องปากจนเป็นเหตุให้แผลหายช้า โดยเฉพาะในคนที่จัดฟัน ซึ่งมักจะเป็นร้อนในในปากเป็นประจำ อาจจะต้องทำการปรึกษาทันตแพทย์ประจำตัวเพื่อหาวิธีการป้องกันการเกิดร้อนในในปากจากอุปกรณ์ต่างๆ
แผ่นแปะแผลร้อนใน TIME ORAL ULCER PATCH 6 ชิ้น

อาการร้อนใน และ แผลร้อนในในคอ เกิดจากสาเหตุอะไร ?

แผลร้อนในในคอ, แผลร้อนใน
Image Credit : freepik.com

แผลร้อนในเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า อาการร้อนในเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ แต่อาจมีความสัมพันธ์กับภูมิต้านทานร่างกายของเรา และอาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ด้วย เพราะพบว่าหากมีคนในครอบครัวเป็น ก็จะมีโอกาสในการเป็นได้ประมาณ 30 – 40% ทั้งนี้ อาจเกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในปาก, มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย, มีอาการแพ้อาหาร, ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง, แพ้สารบางชนิดในยาสีฟัน, สูบบุหรี่ หรือขาดวิตามินและแร่ธาตุ เป็นต้น ทั้งนี้ สิ่งแวดล้อมหรือพฤติกรรมต่างๆ ก็มีส่วนกระตุ้นทำให้เกิดแผลร้อนในในคอได้เช่นกัน ดังนี้

  1. ความเครียด หรือความกังวล ไม่ว่าจะเป็นจากการเรียน การทำงาน หรือเรื่องส่วนตัวต่างๆ ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการเป็นร้อนในได้
  2. พักผ่อนไม่เพียงพอ สำหรับคนที่ชอบนอนดึกหรือนอนน้อย มีโอกาสที่จะเป็นร้อนในได้
  3. เกิดแผลในปาก หากมีอาการเจ็บภายในช่องปาก ที่อาจเกิดจากการกัดกระพุ้งแก้มขณะเคี้ยวอาหาร หรือถูกแปรงสีฟันกระแทก ก็อาจส่งผลให้เป็นร้อนในตามมา
  4. อาหารที่กิน เนื่องจากอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน เช่น ของทอด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารรสจัดต่างๆ ทั้งเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หรือหวานจัด ก็ล้วนแล้วแต่กระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้
  5. การมีประจำเดือนของผู้หญิง ก็เป็นสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดร้อนในได้เช่นกัน เพราะอาการร้อนในสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้หญิงด้วยนั่นเองค่ะ (อ่านเพิ่มเติม ยาคุมปรับฮอร์โมน)

มีวิธีการดูแลรักษาอาการร้อนในด้วยตัวเองได้อย่างไรบ้าง ?

แผลร้อนในในคอ, แผลร้อนใน
Image credit : freepik.com

การรักษาแผลร้อนในในคอและในปากนั้น มีหลายวิธีด้วยกัน ดังนี้

  1. บ้วนปากด้วยน้ำเกลือประมาณวันละ 2 – 3 ครั้ง เพราะน้ำเกลือสามารถช่วยรักษาแผลร้อนในได้ และยังช่วยลดแบคทีเรียในปากอีกด้วย สามารถทำได้โดยผสมน้ำสะอาด 1 แก้ว กับเกลือ 1 ช้อนชา กลั้วปากเบาๆ ทุกวัน ทำติดต่อกันไปจนกว่าแผลจะหายหรือทุเลาลง 
  2. รับประทานยาแก้ปวด เมื่อมีอาการปวดแผลมากจนทนไม่ไหว หรือทำให้รับประทานอาหารลำบาก ทั้งนี้ ยาแก้ปวดเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดบ้านเอาไว้ เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดต่างๆ ได้หลากหลายกลุ่มอาการเลยค่ะ 
  3. ใช้ยาป้ายที่บริเวณแผลวันละ 3 – 4 ครั้ง จนกว่าแผลจะหาย
  4. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด และของร้อนต่างๆ เพื่อลดอาการอักเสบของแผล และเพื่อให้แผลร้อนในหายได้เร็วขึ้น
  5. หากมีอาการปวดมาก ให้ดื่มนม กินโยเกิร์ต หรือไอศกรีม ความเย็นของอาหารจะสามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากการเป็นร้อนในได้ค่ะ
  6. ดื่มน้ำสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น มีพืชพรรณหลายชนิดที่มีฤทธิ์เย็นซึ่งจะช่วยรักษาอาการร้อนในได้ เช่น ใบบัวบก มะระขี้นก ว่านรางจืด แตงกวา ผักกาดขาว หัวไชเท้า เก๊กฮวย รากบัว หล่อฮังก๊วย เป็นต้น การดื่มน้ำสมุนไพรต่างๆ เหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการร้อนในได้ ทั้งนี้ ควรดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาล หรือใส่น้ำตาลน้อยๆ เพื่อให้พอดื่มง่ายขึ้น เพราะถ้าใส่น้ำตาลมากเกินไป จะยิ่งทำให้เป็นแผลนะคะ
ดอยคำ น้ำเก๊กฮวย สูตรโบราณ 1,000 มล. (3 กล่อง)

เราจะป้องกันการเกิดร้อนในได้อย่างไร ?

แผลร้อนในในคอ, แผลร้อนใน
Image Credit : freepik.com

เราสามารถปรับพฤติกรรมตนเองเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดแผลร้อนในได้ ไม่ว่าจะเป็นร้อนในในปาก หรือแผลร้อนในในคอก็ตาม ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  1. ดูแลสุขอนามัยในช่องปากด้วยการแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดร้อนในได้ 
  2. รับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัดที่ทำให้เกิดการระคายเคือง รวมถึงอาหารที่มีฤทธิ์ร้อนต่างๆ เช่น กระเทียม หอม ขิง ทุเรียน ลำไย เป็นต้น
  3. รับประทานผักผลไม้เป็นประจำเพื่อเพิ่มวิตามินที่จำเป็นให้กับร่างกาย 
  4. ดื่มน้ำมากๆ ในแต่ละวัน อย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร หรือประมาณ 6 – 8 แก้ว
  5. พยายามผ่อนคลายความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะการนอนหลับ เพราะการนอนน้อยทำให้ร่างกายของเรามีภูมิต้านทานต่ำลง หากใครมีปัญหาด้านการนอนหลับ อาจใช้วิธีทำให้นอนหลับสบายวิธีต่างๆ เช่น การนอนสมาธิ การฟังเพลงผ่อนคลาย ร่วมกับการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีภูมิต้านทานโรค
น้ำตาลหล่อฮั่งก๊วยเสริมน้ำตาลอิริทริทอล สีทอง 0 แคล ✔ คีโต ขนาด 200กรัม ตรา RAIWAN
Inspire Now ! : ถ้าใครที่เป็นร้อนในบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นร้อนในในปากหรือเป็นแผลร้อนในในคอก็ตาม ก็คงจะได้วิธีการดูแลตัวเองในขณะที่เป็นร้อนในกันแล้ว และถ้าใครไม่อยากเป็นร้อนในบ่อยๆ ก็ต้องดูแลตัวเองโดยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน หรือมีความหวาน มัน ซึ่งเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้ง่ายขึ้น ในแต่ละวันควรดื่มน้ำมากๆ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ และรักษาสุขอนามัยในช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการป้องกันการเกิดร้อนในได้แล้วค่ะ

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันได้คำตอบใช่ไหม ? ตอนนี้ก็ทราบกันแล้วว่าร้อนในเกิดจากอะไร พร้อมวิธีการดูแลตัวเองให้หายจากการเป็นร้อนในโดยเร็ว ถ้าใครมีเคล็ดลับการรักษาร้อนในให้หายไวขึ้น ก็มาคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ ♡

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW