รู้จัก หลักสัปปุริสธรรม 7 ในชีวิตประจำวัน อยากเป็นคนดี มีความสุข ชีวิตรุ่งเรืองต้องฝึก !
การใช้ หลักสัปปุริสธรรม 7 ในชีวิตประจำวัน ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ยังไง ใครอยากเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นคนที่มีความสุข ชีวิตรุ่งเรื่องขึ้น อยากให้ลองฝึกกันค่ะ
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นโรคที่เราได้ยินกันมานาน และพบได้ในหลายๆ คน น้อยคนนักที่จะเข้าใจว่ามันเกิดจากอะไร รวมถึงรู้ว่ามีอันตรายอย่างไรบ้าง เพื่อการดูแลตนเอง และเป็นแนวทางการดูแลผู้สูงอายุด้วย วันนี้ DIY INSPIRE NOW จึงมีเรื่องราวเกี่ยวกับโรคนี้มาฝากกัน ว่า สาเหตุน้ำในหูไม่เท่ากัน อาการที่พบ วิธีรักษาและป้องกันนั้น มีอะไรบ้างค่ะ
Image Credit : thairath.co.th
เคยไหม ? ที่จู่ๆ ก็มีอาการปวดศีรษะ บ้านหมุน ขึ้นมากะทันหัน ซึ่งอาการดังกล่าวนี้คือหนึ่งในสาเหตุน้ำในหูไม่เท่ากันที่พบได้บ่อยๆ โรคนี้มีอันตรายหรือไม่ เกิดกับใครได้บ้าง เรามาทำความรู้จักให้มากกว่าเดิมกัน
น้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s Disease) หรือเรียกอีกอย่างว่า โรคมีเนีย เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน โดยมีน้ำภายในหูชั้นในที่มากผิดปกติ ที่อาจเกิดจากการดูดซึมของน้ำภายในหูไม่ดี ทำให้ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ประสาท ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัวและการได้ยิน เมื่อเซลล์ดังกล่าวทำงานผิดปกติจึงเกิดอาการเช่น วิงเวียนศีรษะ หูอื้อ สูญเสียการได้ยิน รู้สึกถึงแรงดันภายในหู เป็นต้น โดยอาการจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และเกิดขึ้นในหูข้างใดข้างหนึ่ง
[affegg id=3232]
อาการที่พบ มักเกิดขึ้นที่หูข้างใดข้างหนึ่งแบบกะทันหัน และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในบางคนอาจมีอาการนานเป็นชั่วโมง และจากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ อีก ได้แก่ จะมีอาการวิงเวียนศีรษะแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนนั้นจะเป็นความรู้สึกที่ว่าสิ่งต่างๆ รอบตัวหมุน ที่ไม่ใช่แค่อาการมึนงง แต่จะค่อนข้างรุนแรงกว่า ทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นยืนหรือทรงตัวได้ ต้องนอนนิ่งๆ หลับตา รวมถึงอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก มักเป็นนาน 2-3 ชั่วโมง และเป็นๆ หายๆ ในบางรายจะมีอาการทางหู เช่น หูอื้อ เสียงดังในหู ซึ่งอาการเวียนศีรษะนั้นแม้จะไม่ได้รุนแรง แต่เป็นอาการที่รบกวนผู้ที่เป็นมากที่สุด เพราะไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ต้องนอนพักทันที นอกจากนี้ยังพบว่าอาจสูญเสียการทรงตัวหรือมีอาการเซร่วมด้วย
หลายคนเข้าใจว่าโรคนี้จะพบได้ในผู้สูงอายุเป็นส่วนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วโรคนี้ไม่ได้พบแค่ในคนสูงอายุเท่านั้น เพราะสามารถพบได้ในคนอายุตั้งแต่ 30-60 ปี และพบได้ทั้งชายและหญิง โดยมากแล้วอาการมักจะเริ่มเมื่ออายุ 30 ปี เพราะฉะนั้น หากยังอยู่ในวัยคนหนุ่มสาวก็มีโอกาสที่จะเป็นได้เช่นกัน
[affegg id=3233]
การรักษาโรคนี้นั้น สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยยา การบำบัด การฉีดยา และการผ่าตัด โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ยาที่แพทย์จะจ่ายให้เพื่อทำการรักษานั้น จะเป็นการรักษาตามอาการ เช่น
การบำบัดเป็นการรักษาอีกทางหนึ่ง ที่บางรายอาจมีอาการที่ดีขึ้นได้จากการรักษาด้วยวิธีดังนี้
[affegg id=3234]
การฉีดยาเป็นอีกวิธีในการรักษา โดยยาที่นิยมใช้ในการรักษามี 2 ชนิด คือ
การรักษาด้วยวิธีนี้จะใช้ในการรักษาผู้ที่รักษาด้วยวิธีอื่นๆ ข้างต้นแล้วไม่ตอบสนอง โดยมีหลายวิธี ดังนี้
เนื่องจากอาการของโรคนี้นั้นมักเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากมีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น วิธีการป้องกันจึงสามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ การทำกิจกรรมผาดโผน หรือขับขี่รถยนต์และยานพาหนะอื่นๆ นอกจากนี้การดูแลสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ สามารถป้องกันอาการได้ด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา และกาแฟ รวมถึงงดการสูบบุหรี่ด้วย ก็จะช่วยป้องกันอาการของโรคได้ค่ะ
Inspire Now ! : ได้รู้ถึง สาเหตุน้ำในหูไม่เท่ากัน ไปแล้วนะคะ ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพของเรากันด้วย โดยนอกจากจะป้องกันตนเองจากวิธีที่เราแนะนำไปแล้ว ยังควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีส่วนผสมของเกลือและผงชูรสอีกด้วย รวมถึงควรดื่มน้ำทุกวันให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือประมาณ 6-8 แก้ว และหากพบว่ามีอาการวิงเวียนศีรษะแบบกะทันหัน ให้รีบนั่งพักทันที และควรมียาแก้วิงเวียนติดบ้านไว้เสมอ การดูแลตัวเองไม่ใช่แค่ให้ปลอดภัยจากโรคนี้เท่านั้น เพราะยังช่วยให้ห่างไกลจากอาการต่อมทอนซิลอักเสบได้อีกด้วย เพราะเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้ทุกเพศและทุกวัย และเป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวเราเช่นเดียวกันค่ะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้ไอเดียสุขภาพใช่หรือไม่ ? ใครมีวิธีดูแลและป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคน้ำในหูไม่เท่ากันบ้าง มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : pobpad.com, vichaiyut.com, si.mahidol.ac.th
การใช้ หลักสัปปุริสธรรม 7 ในชีวิตประจำวัน ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ยังไง ใครอยากเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นคนที่มีความสุข ชีวิตรุ่งเรื่องขึ้น อยากให้ลองฝึกกันค่ะ
ใครกำลังวุ่นวายใจ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการงาน การเงิน ความรัก ความสัมพันธ์ ลองมาดูธรรมะของ พระพุทธทาสภิกขุ คำสอนดีๆ ที่ใช้เรียนรู้ได้ทั้งชีวิต
จะปล่อยวางยังไงให้ใจเป็นสุข ชวนเช็ก วิธีปล่อยวาง ทำแล้วได้อะไร ความเข้าใจผิดที่ทำให้เราปล่อยไม่ได้ มาเข้าใจเพื่อฝึกให้เรามีความสุขมากขึ้นกัน