ปี 2567 ลอยกระทงวันที่เท่าไร ? มารู้จักประวัติวันลอยกระทงให้มากขึ้นกัน !
ลอยกระทงวันที่เท่าไหร่ ชวนลอยกระทงให้สนุก และเข้าถึงประเพณีไทยมากขึ้นด้วยการเข้าใจประวัติความเป็นมา มาเรียนรู้ เข้าใจ และสนุกกับเทศกาลนี้กัน
หลายๆ คนที่ทำงานออฟฟิศทั้งหลาย มักจะมีอาการตาล้า ตาพร่ามัว จากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์มากเกินไปในแต่ละวัน แถมบางครั้งยังหอบงานกลับมาทำต่อที่บ้าน ทำให้ใช้สายตาตลอดทั้งวันแทบไม่ได้พักกันเลย ย่อมส่งผลที่ไม่ดีต่อดวงตาคู่สวยของคุณ เพราะการจ้องจอตลอดทั้งวันนั้น อาจทำให้สายตาเสื่อมได้ รวมไปถึงผู้สูงอายุที่สายตาเริ่มเสื่อมลงตามวัยที่ต้องเริ่มดูแล เพราะฉะนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตา และเพื่อเป็นแนวทางการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ซึ่งในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะพาไปรู้จักกับ ผัก และผลไม้บํารุงสายตา ที่กินแล้วดีต่องดวงตากันค่ะว่าจะมีอะไรบ้าง
ผักและผลไม้บำรุงสายตามีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพดวงตาของเรา โดยอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ ตัวอย่างที่โดดเด่นได้แก่ แครอท ซึ่งมีเบต้าแคโรทีนสูง ผักใบเขียวเข้มอย่างผักโขมและคะน้า รวมถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่อุดมด้วยแอนโทไซยานิน การกินอาหารเหล่านี้เป็นประจำ ไม่เพียงช่วยบำรุงสายตา แต่ยังส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของร่างกายอีกด้วย ลองมาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
เรียกว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผลไม้บำรุงสายตา นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการมองเห็น ลองมาดูกันว่ามีผลไม้อะไรบ้างที่ช่วยบำรุงสายตาได้ดี มาดูกันค่ะ
ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ เช่น สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และโกจิเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน มีสีสันสดใสสวยงาม เป็นแหล่งของวิตามินซี วิตามินเอ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงจัดว่าเป็นผักผลไม้บํารุงสายตาโดยตรง เพราะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตา ต้อกระจก ต้อหิน และต้อลมได้ ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ดวงตาถูกทำลาย ป้องกันการอ่อนล้าจากการใช้สายตาหนัก และทำให้สายตาสามารถทํางานได้ดีขึ้นในที่มืดอีกด้วย สามารถนำมากินสดๆ หรือนำมาทำเป็นสมูธตี้สุดอร่อยชื่นใจ
ส้มและผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆ เช่น เลมอน อุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินอี ที่เป็นกุญแจสำคัญสำหรับสุขภาพดวงตา ซึ่งวิตามินที่พบมากในผักและผลไม้สดนั้นมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดในดวงตามีความแข็งแรง สามารถป้องกันต้อกระจกได้ดี ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ที่ช่วยป้องกันความเสียหายของดวงตาที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของอายุได้อีกด้วย ซึ่งผลไม้อย่างส้มนั้นสามารถกินผลสดหรือนำมาคั้นเป็นน้ำส้มก็ได้เช่นกัน อร่อยด้วย ดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ
อะโวคาโด ผลไม้บํารุงสายตาพร่ามัว ที่อุดมไปด้วยสารอาหารอย่าง ลูทีน เบต้าแคโรทีน วิตามินบี 6 และวิตามินซี จึงช่วยบำรุงสายตา ชะลอความเสื่อมของดวงตา และป้องกันสายตาฝ้าฟางได้ สำหรับสาวๆ ที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ควรหามากินเป็นประจำ เพราะช่วยดูแลดวงตาของเราให้สดใสขึ้น แถมยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีไขมันดีที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย และมีน้ำตาลน้อย ต่างจากผลไม้ทั่วๆ ไป ซึ่งน้ำตาลในผลไม้แต่ละชนิดนั้นก็จะแตกต่างกัน ทำให้สาวๆ สามารถกินได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของน้ำตาลเลยค่ะ สามารถนำมากินสดๆ ได้เลยไม่ต้องผ่านการปรุง จะกินคู่กับโยเกิร์ตหรือสลัดก็ดี หรือจะเอามาปั่นเป็นสมูธตี้ก็ดีต่อใจ
กีวี่ อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อสุขภาพดวงตา มากไปด้วยวิตามินซีที่มีประโยชน์อย่างมากต่อดวงตา ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย และยังมีสารลูทีน ซีแซนทีน ที่ดีต่อดวงตา ช่วยปกป้องดวงตาของเราจากรังสียูวีอีกด้วย กีวี่เป็นผลไม้ที่มีรสอร่อย หวานอมเปรี้ยวสดชื่น นอกจากกินสดๆ แล้ว ยังสามารถเอามาทำสมูธตี้ หรือแช่เป็นไอศกรีมช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
แคนตาลูปเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพดวงตา มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ ซึ่งวิตามินเอนี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้มองเห็นได้ดีในที่มืดและรักษาความชุ่มชื้นของดวงตา นอกจากนี้ แคนตาลูปยังมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยปกป้องเลนส์ตาและส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนในดวงตา อีกทั้งยังมีลูทีน และซีแซนทินที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าอันตราย รวมถึงวิตามินบี2 และโพแทสเซียมที่ช่วยบำรุงสุขภาพตาโดยรวม การกินแคนตาลูปเป็นประจำจึงเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพดวงตา แต่ว่าต้องเลือกดีๆ นะคะ ควรเลือกที่เป็นออแกนิค เนื่องจากแคนตาลูปเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องปลูกด้วยสารเคมีนั่นเองค่ะ
ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมในการบำรุงสายตา ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะแอนโทไซยานินที่ให้สีแดงสดใส และวิตามินซี สารเหล่านี้ช่วยปกป้องเซลล์ตาจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระและแสงแดด นอกจากนี้ ทับทิมยังมีส่วนช่วยในการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของจอประสาทตา การกินทับทิมเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคตาต่างๆ เช่น ต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม ทำให้ทับทิมเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพดวงตาในระยะยาว
มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพดวงตา ด้วยปริมาณวิตามินเอสูง ซึ่งจำเป็นสำหรับการมองเห็นในที่แสงน้อยและการรักษาความชุ่มชื้นของดวงตา มะม่วงยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ลูทีน และซีแซนทิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ตาจากความเสียหาย และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคตาเสื่อมที่เกี่ยวกับอายุ นอกจากนี้ วิตามินซีในมะม่วงยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งสำคัญต่อโครงสร้างของดวงตา การกินมะม่วงเป็นประจำจึงเป็นวิธีที่ง่ายในการดูแลสุขภาพตาของคุณ แถมอร่อยด้วยค่ะ
มะละกอเป็นผลไม้ที่มีวิตามินเอ และวิตามินซีสูง มะละกอช่วยในการบำรุงและปกป้องดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิตามินเอช่วยในการมองเห็นโดยเฉพาะในที่มืด และป้องกันอาการตาแห้ง ในขณะที่วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ตาและสนับสนุนการสร้างคอลลาเจนในดวงตา นอกจากนี้ มะละกอยังมีลูทีน และซีแซนทินที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมอีกด้วยค่ะ
สตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีปริมาณวิตามินซีสูง สตรอว์เบอร์รี่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในดวงตาและปกป้องเลนส์ตาจากความเสียหาย นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะแอนโทไซยานิน และฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อม สตรอว์เบอร์รี่ยังมีลูทีนและซีแซนทินในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งช่วยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาค่ะ
ลูกพลับ หนึ่งในผลไม้บํารุงสายตาพร่ามัว เพราะมีวิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพตาโดยเฉพาะ ลูกพลับหนึ่งลูกนั้นมีวิตามินเอสูงถึง 55% ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน วิตามินเอจะไปช่วยสนับสนุนการทำงานของเยื่อบุตาขาวและกระจกตา ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดต้อกระจก สายตาฝ้าฟาง และปัญหาสายตาอื่นๆ ที่มีต้นเหตุมาจากแสงหน้าจอ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ หรือใช้สมาร์ทโฟนบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี 6 ลูทีน และซีแซนทีน ที่ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของดวงตาทั้งสิ้น สามารถกินได้ทั้งแบบสดและแบบแห้ง ซึ่งลูกพลับแห้งนั้นมีวิตามินเอมากกว่าลูกพลับสดถึง 3 เท่าเลยหล่ะค่ะ
การเพิ่มผลไม้เหล่านี้ในอาหารประจำวันจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพตาได้อย่างดี แต่ที่สำคัญคือการกินอาหารให้หลากหลายและสมดุล ร่วมกับการดูแลสุขภาพตาด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การพักสายตาเป็นระยะ และการตรวจตาประจำปีค่ะ
ผักหลายชนิดอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการบำรุงและปกป้องดวงตา เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี สังกะสี และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างลูทีนและซีแซนทีน สารเหล่านี้ช่วยป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตา ลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจก และช่วยให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้น เรามาดูกันต่อค่ะว่ามีผักชนิดไหนกันบ้าง
ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม กวางตุ้ง ตำลึง จัดว่าเป็นหนึ่งในผักผลไม้บํารุงสายตา และเป็น Superfood เนื่องจากมีวิตามิน สารอาหาร และแร่ธาตุที่สำคัญมากมายที่ดีต่อสุขภาพดวงตาอย่างยิ่ง อุดมไปด้วยลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างหนึ่ง และเป็นแหล่งวิตามินซีที่เป็นมิตรต่อดวงตาอีกด้วย ช่วยลดความเสื่อมของจอประสาทตาและการเกิดต้อกระจกได้ ซึ่งสารอาหารอย่างลูทีนและซีแซนทีนนั้น ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จะได้รับจากอาหารเท่านั้น อย่างเช่น ผักคะน้า 100 กรัมจะมีลูทีนมากถึง 11.4 มิลลิกรัม ซึ่งเพียงพอต่อร่างกายที่ต้องการคือ 10 มิลลิกรัมต่อวัน สามารถนำมาปรุงอาหารเป็นผัดผัก หรือใส่ในต้มจับฉ่ายก็ดี ส่วนผักใบเขียวอื่นๆ นำมากินเป็นสลัดผักได้
แครอทเป็นผักที่รู้จักกันดีว่าดีต่อสุขภาพดวงตาอย่างมาก เพราะแครอทมีวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน และลูทีน ที่ช่วยบำรุงดวงตาและยังสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อที่ดวงตาได้อีกด้วย ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ดวงตาถูกทำลายจากแสงแดดและรังสีอันตรายต่างๆ ป้องกันโรคตาบอดกลางคืน และทำให้ดวงตาของเราสดใสอยู่เสมอ เป็นผักผลไม้บํารุงสายตาที่มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งสุขภาพดวงตาและสุขภาพกายในด้านอื่นๆ แครอทเป็นอาหารที่กินง่าย สามารถนำมาปรุงได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน รวมทั้งยังกินสดๆ เป็นผักสลัดได้ หรือจะเอามาทำขนมอร่อยๆ อย่างมัฟฟินแครอท แพนเค้กแครอท ก็ได้เช่นกัน
พริกหวานมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อดวงตา โดยเฉพาะพริกหวานสีแดง เหลือง และส้ม ซึ่งมีปริมาณวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนสูง วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเลนส์ตาจากความเสียหาย ในขณะที่เบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งมีความสำคัญต่อการมองเห็นในที่มืดและการรักษาสุขภาพของกระจกตา นอกจากนี้ พริกหวานยังมีลูทีนและซีแซนทีน สารเหล่านี้ช่วยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายและลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม การรับประทานพริกหวานเป็นประจำจึงสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพตาและป้องกันปัญหาสายตาในระยะยาวได้
บร็อคโคลี่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีความสำคัญต่อจอประสาทตา สารทั้งสองช่วยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย ป้องกันความเสียหายจากรังสีอัลตราไวโอเลต และลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวกับอายุ นอกจากนี้ บร็อคโคลี่ยังมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในการสร้างคอลลาเจนที่จำเป็นสำหรับโครงสร้างของตา และวิตามินอีที่ช่วยป้องกันเซลล์ตาจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ
ฟักทองเป็นผักที่มีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพดวงตา เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีนซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ วิตามินเอมีบทบาทสำคัญในการรักษาการทำงานของเรตินาและช่วยให้มองเห็นได้ดีในที่มืด นอกจากนี้ ฟักทองยังมีลูทีนและซีแซนทีนสูง ซึ่งช่วยป้องกันดวงตาจากแสงที่เป็นอันตรายและลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม สารต้านอนุมูลอิสระในฟักทองยังช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ตาอีกด้วย
มะเขือเทศมีสารไลโคปีนในปริมาณสูง ซึ่งไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยปกป้องดวงตาจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดและลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม นอกจากนี้ มะเขือเทศยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินเอ ซึ่งช่วยในการบำรุงเยื่อบุตาและรักษาสุขภาพของกระจกตา ดังนั้นการกินมะเขือเทศเป็นประจำ ทั้งสด และปรุงสุก สามารถช่วยเสริมสร้างการป้องกันโรคตาต่างๆ และรักษาการมองเห็นที่ดีได้ในระยะยาวนั่นเองค่ะ
กะหล่ำปลีช่วยบำรุงสายตาได้จริง แม้จะไม่โดดเด่นเท่าผักบางชนิด แต่ก็มีคุณประโยชน์ที่น่าสนใจ กะหล่ำปลีอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเลนส์ตาและหลอดเลือดเล็กๆ ในดวงตาจากความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีวิตามินเค และสารประกอบกำมะถันที่เรียกว่าซัลโฟราเฟน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคตาที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น ต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม แม้จะไม่มีลูทีนและซีแซนทีนในปริมาณสูงเท่าผักใบเขียวเข้ม แต่การรับประทานกะหล่ำปลีเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่หลากหลายก็สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพตาโดยรวมได้
ผักโขมมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาได้จริง เพราะว่ามีลูทีน และซีแซนทิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีความสำคัญต่อสุขภาพตา สารเหล่านี้สะสมอยู่ในจอประสาทตาและช่วยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ นอกจากนี้ ผักโขมยังมีวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอีสูง ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาและป้องกันดวงตาจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ การกินผักโขมเป็นประจำเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุลจึงสามารถส่งเสริมสุขภาพตาในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงว่าการบำรุงสายตาที่ดีนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ไม่ใช่เพียงแค่การรับประทานผักโขมเพียงอย่างเดียว
คะน้าก็เป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพตาเช่นกัน โดยมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับผักโขมในแง่ของการบำรุงสายตา คะน้าอุดมไปด้วยวิตามินเอในรูปของเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ วิตามินเอมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการมองเห็นในที่มืดและการรักษาสุขภาพของกระจกตา นอกจากนี้ คะน้ายังมีลูทีนและซีแซนทินเช่นเดียวกับผักโขม แม้จะมีในปริมาณที่น้อยกว่า สารเหล่านี้ช่วยปกป้องจอประสาทตาจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดและลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม คะน้ายังมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในการสร้างคอลลาเจนที่จำเป็นสำหรับโครงสร้างของดวงตา การกินคะน้าเป็นประจำจึงสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพตาได้อย่างดี ทั้งนี้ การกินผักหลากหลายชนิด รวมทั้งผักโขมและคะน้า จะช่วยให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพตาอย่างครบถ้วนมากขึ้น
ขึ้นฉ่ายก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพตาเช่นกัน แม้จะไม่โดดเด่นเท่าผักโขมหรือคะน้า แต่ก็มีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงสายตาได้ ขึ้นฉ่ายมีวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพตา โดยเฉพาะวิตามินเอที่จำเป็นสำหรับการมองเห็นในที่มืดและการรักษาความชุ่มชื้นของดวงตา นอกจากนี้ ขึ้นฉ่ายยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างลูทีนและซีแซนทิน แม้จะมีในปริมาณที่น้อยกว่าผักใบเขียวเข้มอื่นๆ สารเหล่านี้ช่วยปกป้องเซลล์ตาจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดและมลภาวะ และมีแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียมที่ช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย รวมถึงในดวงตา ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อหิน แม้ว่าขึ้นฉ่ายจะไม่ได้มีชื่อเสียงในด้านการบำรุงสายตาเท่ากับผักชนิดอื่น แต่การรวมขึ้นฉ่ายเข้าไปในอาหารที่หลากหลายก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพตาโดยรวมได้ ดังนั้นการกินผักหลากชนิดจะช่วยให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพตาอย่างครบถ้วนมากขึ้นนั่นเองค่ะ
Inspire Now ! : นอกไปจากผัก และผลไม้บํารุงสายตาเหล่านี้แล้วนั้น ยังมีอาหารชนิดอื่นๆ ที่ดีต่อสุขภาพดวงตาของเราอีกด้วยนะคะ อย่างเช่น ปลา โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่เป็นอาหารที่ดีสำหรับสุขภาพตา เพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยในการพัฒนาการมองเห็น และช่วยป้องกันตาแห้งได้อีกด้วย รวมถึงธัญพืชดีๆ อย่างอัลมอนด์ที่ดีต่อสุขภาพตา เพราะมีวิตามินอีที่ช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ และป้องกันต้อกระจกได้อีกด้วย ซึ่งธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพร่างกายอื่นๆ นั้น มีอีกมายมาย อย่างสรรพคุณงาดำที่ดีต่อสุขภาพมากๆ ก็เป็นอีกหนึ่งอาหารที่ดีต่อร่างกายค่ะ |
---|
DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันได้ไอเดียสุขภาพใช่ไหม ? ใครมีเคล็ดลับอะไรดีๆ ในการดูแลสุขภาพตา อย่าลืมมาแบ่งปันกันในคอมเมนต์นะคะ
ลอยกระทงวันที่เท่าไหร่ ชวนลอยกระทงให้สนุก และเข้าถึงประเพณีไทยมากขึ้นด้วยการเข้าใจประวัติความเป็นมา มาเรียนรู้ เข้าใจ และสนุกกับเทศกาลนี้กัน
ผลไม้น้ำตาลสูงมีอะไรบ้าง ชวนรู้จักน้ำตาลในผลไม้เทียบกับน้ำตาลเติมแต่ง พร้อมแนะนำผลไม้ 10 อย่างที่ควรกินให้น้อยเพื่อสุขภาพที่ดี และคนเป็นเบาหวานควรเลี่ยง
คนกินเจแฮปปี้ เพราะเรามีร้านอาหารเจ เยาวราช ที่ทั้งอร่อย ทั้งราคาดี เดินทางสะดวก แถมเปิดตลอดทั้งปีมาฝากกัน ถูกใจทั้งคนที่กินตามเทศกาล และกินเป็นประจำแน่นอน