ปัญหาหนึ่งของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีประจำเดือน คือการที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ทั้งประจำเดือนมามากเกินไป มาน้อยเกินไป หรือประจำเดือนขาดหายไปโดยที่ไม่ได้มีการตั้งครรภ์ หรือที่เรียกว่าประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฮอร์โมนไม่สมดุล หรือการกินยาเลื่อนประจำเดือนแล้วเกิดผลข้างเคียง การคุมกำเนิดที่มีผลต่อการตกไข่ มีความผิดปกติภายในมดลูก มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป หรือการมีภาวะเครียดสะสม และเพื่อการปรับระดับฮอร์โมนให้กลับมาสมดุล นอกจากปรับพฤติกรรมต่างๆ แล้ว เราจะกินยาคุมแบบไหนดี เพื่อปรับฮอร์โมนให้เป็นปกติ และจะเลือก ยาคุมปรับฮอร์โมน ประจําเดือน ยี่ห้อไหนดีนั้น ในบทความนี้ DIYINSPIRENOW มีมาแนะนำพร้อมวิธีการกินที่ถูกต้องมาฝากกันค่ะ
ยาคุมปรับฮอร์โมน ประจําเดือน มาไม่ปกติ ยี่ห้อไหนดี ? ช่วยลดสิว บรรเทา PMS ได้
ยาปรับฮอร์โมนที่เราพูดถึงกันนั้น ก็คือยาคุมกำเนิดนั่นเองค่ะ โดยถูกพัฒนาขึ้นใหม่ให้มีส่วนประกอบของฮอร์โมน 2 ชนิด คือ Ethinyl Estradiol (EE) ที่ทำหน้าคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน และ Progestin ที่ทำหน้าที่เหมือนฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน มีคุณสมบัติหลักคือ มีฤทธิ์ในการคุมกำเนิดและมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย ทั้งยังช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้ประจำเดือนมาปกติได้นั่นเอง นอกจากนี้ ยาปรับฮอร์โมนรุ่นใหม่ๆ ยังช่วยลดสิว ลดความมันของผิวหนังและเส้นผม ช่วยบรรเทาอาการ PMS ในช่วงก่อนหรือมีประจำเดือนได้อีกด้วย และยาคุมปรับฮอร์โมน ประจำเดือนยี่ห้อไหนดีนั้น มาดูกันเลย
Ammeltz Yoko Yoko Heat Patch GOLD – Period Pain
1. Diane – 35
ยาคุมปรับฮอร์โมน ประจำเดือนมาไม่ปกติยี่ห้อไดแอน คงเป็นยี่ห้อที่หลายคนนึกถึงเป็นยี่ห้อแรกๆ ยาคุมไดแอนเป็นยาคุมกำเนิดในรูปแบบยาเม็ดผสมและเป็นยาสำหรับรักษาสิว มาในรูปแบบแผง 21 เม็ด เป็นยาคุมปรับฮอร์โมน EE35c ที่มีฮอร์โมนรวมปกติ ตัวยาประกอบด้วยไซโพรทีโรน อะซิเตท 2 มิลลิกรัม และเอธินิล เอสตราไดออล (EE) 0.035 มิลลิกรัม เหมาะกับคนที่มีปัญหาฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ เพราะตัวยาจะช่วยยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย และช่วยปรับฮอร์โมนแอนโดรเจนในเพศหญิง เหมาะสำหรับใช้คุมกำเนิดและใช้ในการรักษาสิว และโรคที่เกี่ยวข้องกับต่อมไขมันอักเสบ
2. YAZ
ถ้ามองหายาคุมปรับฮอร์โมน ประจำเดือนยี่ห้อไหนดี แนะนำยี่ห้อยาซ นอกจากจะใช้สำหรับป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้ว ยังใช้เพื่อปรับฮอร์โมนได้อีกด้วย ช่วยลดอาการบวมน้ำเมื่อน้ำหนักขึ้น และช่วยลดอาการปวดประจำเดือน สามารถใช้แทนยาแก้ปวดประจำเดือนได้ มาในรูปแบบแผงละ 28 เม็ด มีตัวยาดรอสไพรีโนน 3 มิลลิกรัม และ EE 0.03 มิลลิกรัมเท่ากันทุกเม็ด เป็นยาคุมปรับฮอร์โมน EE20d ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มกินยาคุม รวมถึงยังช่วยลดสิวและรักษาสิวได้อีกด้วย
3. Yasmin
ยาคุมยาสมิน เป็นยาคุมแบบแผง 21 เม็ด และเป็นยาคุมปรับฮอร์โมน EE30d ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ เพราะมีตัวยาดรอสไพรีโนน 3 มิลลิกรัม และ EE 0.03 มิลลิกรัม ด้วยตัวยาที่มีความคล้ายคลึงกับฮอร์โมนธรรมชาติมาก จึงช่วยลดอาการบวมน้ำจากการกินยาคุม ถ้ากำลังมองหายาคุมปรับฮอร์โมน ลดสิว ยาคุมยาสมินเป็นอีกหนึ่งชนิดของยาคุมที่หลายคนเลือกใช้ เพราะเริ่มกินได้ง่าย และสามารถคุมกำเนิดป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่กินเม็ดแรกโดยไม่ต้องรอ 7 วัน ทั้งยังช่วยปรับฮอร์โมน ลดอาการปวดประจำเดือน และการเกิดสิวด้วย
4. Minidoz
ยาคุมมินิดอซ เป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำมาก เพราะมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำเพียง 0.015 มิลลิกรัม ด้วยเพราะฮอร์โมนต่ำจึงช่วยลดอาการข้างเคียงของยาคุมได้ เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ และถ้าอยากกินยาคุมปรับฮอร์โมน ประจำเดือนมาไม่ปกติที่กินแล้วน้ำหนักไม่ขึ้น ก็แนะนำมินิดอซเลยค่ะ เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มกินครั้งแรก มาแบบแผง 28 เม็ด ทำให้กินง่ายไม่ต้องกลัวลืม ทั้งยังช่วยควบคุมอาการก่อนมีประจำเดือน ลดอาการปวดประจำเดือน และยังปรับฮอร์โมนทำให้จำนวนวันของการมีประจำเดือนน้อยลง เหมาะกับคนที่ประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือประจำเดือนมาติดต่อกันนานมากกว่า 7 วัน
5. Mercilon
สำหรับคนที่ต้องการคุมกำเนิด และไม่รู้ว่าจะเลือกกินยาคุมแบบไหนดี แนะนำให้เลือกแบบแผง 28 เม็ด เพื่อจะได้ไม่ลืมกินยา ซึ่งยาคุมยี่ห้อเมอซิลอนนั้นมีทั้งแบบแผง 21 และ 28 เม็ดให้เลือก ซึ่งทั้งสองแบบจะมีตัวยาเหมือนกันคือเดสโซเจสเทรล 3 มิลลิกรัม และ EE 0.02 มิลลิกรัม เป็นยาคุมกำเนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำมากอีกยี่ห้อ จึงเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มกินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เพราะผลข้างเคียงจะน้อย นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการประจำเดือนมาไม่ตรงตามเวลา หรือประจำเดือนมากะปริบกะปรอยด้วยค่ะ
Vistra Evening Primrose Oil 1000 mg
6. PREME
นอกจากยาคุมพรีมจะเป็นยาคุมแผงแบบ 21 เม็ดแล้ว ยังมีแบบ 28 เม็ดให้เลือกด้วย ตัวยาจะเหมือนกับ Diane – 35 คือมีไซโพรทีโรน อะซิเตท 2 มิลลิกรัม และ EE 0.035 มิลลิกรัม จึงทำให้มีสรรพคุณที่ใกล้เคียงกันมาก ช่วยรักษาสิวและลดการเกิดสิวได้ดี เพราะช่วยลดฮอร์โมนเพศชายและลดอาการหน้ามัน เหมาะสำหรับกินเพื่อคุมกำเนิด หรือเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาสิว แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยกินยาคุมมาก่อน ไม่แนะนำให้ใช้ยี่ห้อนี้เพราะผลข้างเคียงเยอะ เนื่องจากเป็นยาคุมที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงกว่ายี่ห้ออื่นๆ จึงอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้มากขึ้นด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และถ้าใครมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วยก็สามารถกินยาพาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการข้างเคียงได้ค่ะ
7. Synfonia
ยาคุมกำเนิดซินโฟเนียเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนต่ำ เพราะมี EE 0.02 มิลลิกรัม มาในรูปแบบแผง 28 เม็ด และประกอบด้วยตัวยาดรอสไพรีโนน 3 มิลลิกรัม เป็นสูตรที่รักษากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน หรือ PMS ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์แปรปรวน อารมณ์หงุดหงิด หรือตัวบวม คัดตึงหน้าอก รวมถึงลดการเกิดสิวและช่วยรักษาสิวได้ดี ทั้งยังมีผลข้างเคียงต่ำด้วย เหมาะมากกับคนที่เพิ่งเริ่มกินยาคุมค่ะ
8. Belara
ยาคุมปรับฮอร์โมน ลดสิวยี่ห้อ Belara เป็นยาคุมจำนวน 21 เม็ด ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนในระดับต่ำ เพราะมี EE 0.03 มิลลิกรัมและมี Progestin 2 มิลลิกรัม เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวฮอร์โมน สิวอักเสบ ผิวพรรณไม่สดใส ซึ่งยาคุมตัวนี้ จะช่วยทำให้หน้ามันน้อยลง ช่วยให้สิวไม่ขึ้น และไม่ทำให้ตัวบวมด้วย และที่สำคัญ สามารถช่วยบรรเทาอาการ PMS ช่วงก่อนมีประจำเดือนได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารหงุดหงิด อารมณ์เหวี่ยง พุงป่อง ปวดท้อง เจ็บหน้าอก ซึ่งยาตัวนี้จะช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายให้มีความสมดุลมากขึ้น และยังทำให้ผิวพรรณดูสดใสอีกด้วย
9. Dafine 35
ยาคุมตัวนี้ เป็นยาคุมชนิด 21 เม็ด โดยแต่ละเม็ดจะมีฮอร์โมน EE 0.035 มิลลิกรัม ช่วยให้ใบหน้าผลิตความมันได้น้อยลง ลดการเกิดสิวฮอร์โมน และสามารถรักษาสิวชนิดรุนแรงที่ดื้อยาได้ และไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงอย่างคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ บวมน้ำ หรือทำให้เกิดฝ้า ทั้งนี้ ยังเหมาะกับคนที่มีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติ ทำให้มีขนตามร่างกายเยอะ มีผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง และเป็นสิวง่าย ซึ่งยาตัวนี้ เป็นยาคุมปรับฮอร์โมน ลดสิว ที่จะช่วยให้เป็นสิวน้อยลง และมีผิวที่เรียบเนียนขึ้นด้วยค่ะ
10. Clarenz 28
ยาคุม : Clarenz เป็นยาคุมชนิด 28 เม็ด มีตัวยาเจสโทดีน 0.075 มิลลิกรัม และ EE 0.02 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่ามีฮอร์โมนต่ำมาก จึงก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้น้อย และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยกินยาคุมมาก่อน ทั้งนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการ PMS ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบวมน้ำ พุงป่อง หงุดหงิดง่าย ปวดท้อง ปวดเมื่อยเนื้อตัว ซึ่งยาคุมตัวนี้จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นได้ และยังไม่ทำให้หน้ามัน ไม่ทำให้สิวขึ้นด้วยค่ะ
วิธีการกินยาคุมปรับฮอร์โมน ประจำเดือนให้ถูกต้อง ควรกินอย่างไร ?
• ยาปรับฮอร์โมนแบบ 21 เม็ด
สามารถเริ่มกินยาในตำแหน่งใดของยาบนแผงก็ได้ แต่ต้องให้ตรงกับวันที่กิน เช่น กินวันจันทร์เป็นวันแรก และควรกินอย่างต่อเนื่องในเวลาเดียวกันทุกวัน คือวันละ 1 เม็ดก่อนนอน ยาเม็ดแรกให้เริ่มกินในวันแรกของการมีประจำเดือน หรือประจำเดือนมาวันที่ 2 – 5 ก็ได้ และกินไปตามลำดับลูกศรจนครบทั้ง 21 เม็ด จากนั้นเว้นช่วงไม่ต้องกิน 7 วัน แล้วถึงเริ่มกินแผงใหม่
• ยาปรับฮอร์โมนแบบ 28 เม็ด
ยาคุมแบบนี้ให้ผลในการคุมกำเนิดเช่นเดียวกับแบบ 21 เม็ด และเหมาะสำหรับคนชอบลืม เพราะต้องกินยาติดต่อกันทุกวันและเวลาเดิม โดยกินวันละ 1 เม็ด เริ่มกินเม็ดแรกในวันแรกที่มีประจำเดือน และกินไปจนครบ 28 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วก็สามารถเริ่มแผงใหม่ในวันถัดไปได้ทันทีโดยไม่ต้องเว้นช่วง ซึ่งใน 28 เม็ดนั้น จะมีตัวยาฮอร์โมนเพียง 21 เม็ด และมีเม็ดแป้งอีก 7 เม็ด
Thermaplast แผ่นประคบร้อนลดอาการปวดประจำเดือน บรรจุ 5 ชิ้น/กล่อง (ร้อนนาน 12 ชม.)
Inspire Now ! : สาวๆ ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติที่สาเหตุมาจากฮอร์โมนผิดปกตินั้น สามารถกินยาคุมเพื่อปรับฮอร์โมนให้สมดุลได้ รวมถึงใครที่อยากรักษาสิว หรือลดหน้ามันจากการที่มีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป การใช้ยาคุมกำเนิดก็ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เช่นกัน และวิธีการกินนั้นควรเริ่มจากยาคุมหรือยาปรับฮอร์โมนยี่ห้อที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ เช่น ยาคุม EE20d เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หลังจากเริ่มกินไป 3 – 5 แผงแล้วจึงค่อยเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อที่มีฮอร์โมน EE สูงขึ้น เช่น ยาคุม EE30d หรือ EE35c ที่มีฤทธิ์ปรับฮอร์โมนเพศชาย เพื่อจะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายของเราสมดุลยิ่งขึ้น แต่ยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำนั้นจะไม่เหมาะสำหรับที่ต้องการกินยาคุมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เพราะหากลืมกินยาเพียงเม็ดเดียวก็จะเสี่ยงกับการตั้งครรภ์ได้ ทั้งนี้ แนะนำว่าควรปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ก่อนซื้อมากินด้วยนะคะ |
---|
DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันได้คำตอบใช่ไหม ? ใครที่มีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือเป็นสิว มีประสบการณ์ยังไงบ้าง มาคอมเมนต์เล่าแบ่งปันกันได้เลยนะคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : pharmacy.mahidol.ac.th, paolohospital.com, medthai.com
Featured Image Credit : freepik.com/jcomp