แจก 5 สูตรของหวานไม่ใส่กะทิ ทำกินได้ง่ายๆ ในครอบครัว

ขนมหวานของไทยนั้นขึ้นชื่อมากในเรื่องของความหอม หวาน และอร่อย ด้วยเพราะส่วนมากมีส่วนผสมของกะทิ ที่ให้รสชาติเค็มๆ มันๆ และทำให้ขนมมีความอร่อยเป็นเอกลักษณ์ อย่างเช่น เมนูมะพร้าวกะทิ ที่หลายคนชื่นชอบ แต่ก็ยังมีขนมอีกหลายอย่างที่ไม่มีส่วนผสมของกะทิแต่อร่อยไม่แพ้กัน ใครที่ชอบของหวานนั้นวันนี้เรามีสูตร ของหวานไม่ใส่กะทิ 5 สูตรด้วยกัน มาแนะนำให้ทุกคนไปทำกินกันในครอบครัวได้เลยค่ะ

ของหวานไม่ใส่กะทิ 5 สูตรอร่อยง่ายๆ สไตล์ขนมไทย

1. เฉาก๊วยนมสด

ของหวานไม่ใส่กะทิสูตรแรกที่เราอยากแนะนำ เพราะทำง่ายมากๆ และใช้วัตถุดิบน้อย นั่นคือ เฉาก๊วยนมสด เหมาะเป็นของหวานหน้าร้อนอย่างมาก เพราะช่วยให้รู้สึกสดชื่น และยังได้ประโยชน์ทั้งจากนมสดและเฉาก๊วยอีกด้วยค่ะ เมนูนี้หากใครอยากเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ ลงไปด้วยก็ได้ เช่น ธัญพืชอย่าง ลูกเดือย แปะก๊วย ก็จะช่วยเพิ่มประโยชน์มากยิ่งขึ้น

วัตถุดิบ :

1. เฉาก๊วยสำเร็จรูปหั่น 1 ถ้วย
2. นมข้นจืด 250 มิลลิลิตร
3. น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา
4. น้ำเชื่อมคาราเมล 4 ช้อนชา
5. น้ำแข็ง

วิธีทำ :

1. ผสมนมสดกับน้ำเชื่อมคาราเมลเข้าด้วยกัน
2. ตักน้ำแข็งใส่ถ้วย และใส่เฉาก๊วยลงไป
3. เทนมสดที่ทำไว้ลงไป แล้วโรยหน้าด้วยน้ำตาลทรายแดง

2. มะยงชิดลอยแก้ว

หนึ่งในสูตรขนมไทยดับร้อน ที่เหมาะกับหน้าร้อนนี้มากๆ แถมยังเป็นของหวานไม่ใส่กะทิอีกด้วย มะยงชิดลอยแก้ว ผลไม้หน้าร้อนที่มาในรสชาติหวานอมเปรี้ยว กินแล้วให้ความสดชื่นอย่างมาก เสิร์ฟในน้ำแข็งให้หวานเย็นชื่นใจไปอีก ใครที่ชื่นชอบมะยงชิด ต้องลองมาทำเมนูนี้กันค่ะ

วัตถุดิบ :

1. มะยงชิด 10 ลูก
2. น้ำเปล่า 2 ถ้วย
3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
4. เกลือ ½ ช้อนชา
5. ใบเตย 4-5 ใบ
6. น้ำแข็ง

วิธีทำ :

1. ปอกเปลือกมะยงชิด แล้วคว้านเอาเมล็ดออก
2. ตั้งหม้อใส่น้ำแล้วต้มให้เดือด จากนั้นใส่ใบเตยลงไป ตามด้วยเกลือและน้ำตาลทราย คนเล็กน้อยให้น้ำตาลละลายแล้วปิดไฟ พักไว้ให้เย็น
3. ใส่น้ำแข็งและมะยงชิดลงในถ้วย จากนั้นราดด้วยน้ำเชื่อมที่ทำไว้

3. ฟักทองเชื่อม

ถ้าใครชอบเมนูฟักทอง ของหวานแล้วนั้น มาลองทำเมนูฟักทองเชื่อมนี้กัน หวานอร่อยแบบไม่มีกะทิ เพราะเราสามารถกินเป็นของหวานไม่ใส่กะทิได้ค่ะ แถมฟักทองยังมีประโยชน์มากมายเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดีอีกด้วย

วัตถุดิบ :

1. ฟักทอง 500 กรัม
2. น้ำตาลทราย 200 กรัม
3. น้ำเปล่า 480 มิลลิลิตร
4. น้ำมะนาว 10 มิลลิลิตร
5. น้ำปูนใส

วิธีทำ :

1. ปอกเปลือกฟักทองและหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นแช่น้ำปูนใสประมาณ 30 นาที แล้วนำมาล้างน้ำ สะเด็ดน้ำพักไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และน้ำมะนาว ใช้ไฟปานกลางและคนจนน้ำตาลทรายละลาย
3. ใส่ฟักทองลงไป และเชื่อมจนกว่าฟักทองจะสุก ฉ่ำใส เป็นเงา ตักใส่จานเสิร์ฟ หากใครอยากราดกะทิก็ได้นะคะ

4. สาคูแคนตาลูปนมสด

มาที่ของหวานไม่ใส่กะทิสูตรต่อมา สาคูแคนตาลูปนมสดค่ะ เป็นสูตรขนมไทยที่อร่อย ทำไม่ยาก แถมยังคลายร้อนชื่นใจอีกด้วย แนะนำให้นำแคนตาลูปไปแช่เย็นก่อนนำมาทำ รับรองฟินกว่าเดิมแน่นอน เรามาดูวิธีทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบ :

1. สาคู 1 ถ้วย
2. แคนตาลูป ½ ลูก
3. นมสด 1 ถ้วย
4. นมข้นจืด ½ ถ้วยตวง
5. เกลือ ½ ช้อนชา
6. น้ำตาลทราย 8 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำเปล่า 3/4 ถ้วย

วิธีทำ :

1. คว้านแคนตาลูปให้เป็นลูกกลมๆ แล้วแช่ตู้เย็นเตรียมไว้ก่อน
2. นำหม้อตั้งไฟใส่นมสด นมข้นจืด น้ำตาลทราย และเกลือ และคนจนส่วนผสมละลายเข้ากันดี จากนั้นพักไว้ให้เย็น และนำไปแช่ตู้เย็น
3. นำหม้อตั้งไฟอีกครั้ง ใส่น้ำเปล่าลงไปต้มให้เดือด จากนั้นใส่สาคูลงไปแล้วต้มจนสาคูสุกดี แล้วนำสาคูที่สุกแล้วไปล้างผ่านน้ำให้เมือกออกหมด แล้วแช่ในน้ำเย็นพักไว้
4. เมื่อจะเสิร์ฟให้ตักสาคูใส่ถ้วย ราดด้วยนมสดที่แช่ตู้เตรียมไว้ และตามด้วยแคนตาลูปแช่เย็น

5. มะพร้าวอ่อนแก้ว

ขนมหวานแบบไทยๆ ที่ดับร้อนได้เป็นอย่างดี มะพร้าวอ่อนแก้ว ที่กินแล้วเย็นชื่นใจอย่างมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบของหวานแบบไม่ใส่กะทิ เพราะเมนูนี้ปลอดกะทิ 100% มาดูสูตรขนมไทยสูตรนี้กันเลยค่ะ

วัตถุดิบ :

1. มะพร้าวอ่อนหั่นเส้น 150 กรัม
2. ขนุนหั่นเส้น 50 กรัม
3. สีผสมอาหารสีเขียว ¼ ช้อนชา
4. แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
5. น้ำเปล่า 2 ถ้วย
6. น้ำเชื่อมสำหรับราดขนม  
7. น้ำเปล่าสำหรับต้ม     
8. น้ำแข็งป่นเล็กน้อย

วิธีทำ :

1. ผสมน้ำเปล่า 2 ถ้วยกับสีผสมอาหารและคนให้เข้ากัน จากนั้นนำมะพร้าวอ่อนลงไปแช่ไว้จนสีติดเนื้อมะพร้าว
2. จากนั้นนำเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคลุกกับแป้งมันสำปะหลังจนทั่ว และร่อนแป้งส่วนที่เกินออก
3. ตั้งหม้อต้มน้ำเปล่า พอน้ำเดือดใส่เนื้อมะพร้าวลงไปต้มจนสุก และตักขึ้นแช่น้ำเย็น พักไว้
4. เมื่อต้องการเสิร์ฟ ให้ใส่เนื้อมะพร้าวแก้วลงในถ้วย ตามด้วยเนื้อขนุน ใส่น้ำแข็งป่น และราดด้วยน้ำเชื่อม

Inspire Now ! : สำหรับคนที่ชอบกินของหวานแต่กลัวอ้วน หรือจำเป็นต้องจำกัดปริมาณไขมัน การเลือกกินของหวานไม่ใส่กะทิแทนนั้นก็จะช่วยลดไขมันได้ค่ะ แต่ต้องระวังเพราะขึ้นชื่อว่าของหวาน ก็ยังมีความหวานจากน้ำตาลอยู่มาก หากเราทำกินเองก็สามารถลดปริมาณของน้ำตาลลงได้ เพื่อไม่ทำร้ายสุขภาพค่ะ แต่ถ้าใครชอบกินของหวานแบบมีกะทิ ก็มีวิธีทำข้าวเหนียวมูนในเว็บไซต์ของเรา ที่สามารถไปลองทำกันได้นะคะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้ไอเดียของกินใช่ไหม ? ของหวานเมนูไหนเป็นเมนูโปรดของเพื่อนๆ กันบ้างคะ มาแบ่งปันกับเราได้เลย ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : xn--q3cp7eza.net