การกินเจเป็นวิถีแห่งการดำเนินชีวิตที่ลึกซึ้งกว่าเพียงการเลือกอาหาร แต่สะท้อนถึงปรัชญา และความเชื่อที่มุ่งเน้นความเมตตาต่อสรรพชีวิต การกินเจไม่เพียงแต่ส่งเสริมสุขภาพกายผ่านการบริโภคพืชผัก แต่ยังช่วยขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์ เครื่องปรุงในอาหารจึงไม่ได้มีไว้เพื่อเติมแต่งรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างสมดุลทั้งทางกายและใจ สอดคล้องกับหลักธรรมและการฝึกฝนทางจิตวิญญาณ การเลือกเครื่องปรุงจึงเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง และในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะมานำเสนอการเลือกเครื่องปรุงเจให้ผู้อ่านที่กินเจได้รู้จักกัน เพื่อให้กินเจได้อย่างมีประโยชน์ต่อสุชภาพมากที่สุดกันค่ะ
เลือก เครื่องปรุงเจ วัตถุดิบเจ ยังไงดี ? รู้สักนิดก่อนกินเจ !
ก่อนอื่นเลยเรามาทบทวนข้อควรระวังของการกินเจกันก่อน เพราะอาหารเจนั้นอาจจะต่างจากเมนูมังสวิรัติง่ายๆ อยู่นะคะ การกินเจจะละเว้นทั้งเนื้อสัตว์และผักที่มีกลิ่นฉุน 5 อย่าง นั่นคือ กระเทียม หัวหอม (รวมถึง ต้นหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว และหอมหัวใหญ่) หลักเกียวหรือกระเทียมโทนจีน กุ้ยช่าย และใบยาสูบ (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับผักที่ไม่เจเพิ่มเติมได้อีกนะคะ) นอกจากนี้หากต้องการกินเจอย่างเคร่งครัดยังต้องสำรวมจิตใจ รักษากาย วาจา ใจ และพฤติกรรมให้อยู่ในศีลในระหว่างการกินเจด้วย เอาหล่ะ เรามาดูรายละเอียดเกันดีกว่าค่ะ เครื่องปรุงที่ใช้กับการกินเจ มีอะไรบ้าง
Bertolli Extra Light Tasting Olive Oil 500 ML. น้ำมันมะกอกปรุงอาหาร
เครื่องปรุงเจ มีอะไรบ้าง ?
- ซีอิ๊วขาว : เป็นเครื่องปรุงหลักในอาหารเจ ผลิตจากถั่วเหลืองหมักกับเกลือ ให้รสเค็มและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมใช้แทนน้ำปลาในอาหารเจ ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมและรสชาติอูมามิให้กับอาหาร
- ซอสถั่วเหลือง : มีลักษณะคล้ายซีอิ๊วขาวแต่มีความเข้มข้นมากกว่า ผลิตจากถั่วเหลืองหมักผสมกับธัญพืชอื่นๆ เช่น ข้าวสาลี ให้รสชาติเค็มลึกและมีกลิ่นหอมเข้มข้น เหมาะสำหรับการปรุงอาหารที่ต้องการรสชาติจัดจ้าน
- น้ำมันพืช : เป็นส่วนสำคัญในการประกอบอาหารเจ น้ำมันมะกอกเหมาะสำหรับอาหารเย็นหรือผัดที่ใช้ไฟอ่อน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองเหมาะกับการทอดหรือผัดที่ใช้ไฟแรง เนื่องจากทนความร้อนได้ดี และมีกลิ่นอ่อน
- เกลือ : เป็นเครื่องปรุงพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ในอาหารเจ นอกจากให้รสเค็มแล้ว ยังช่วยเพิ่มรสชาติของส่วนผสมอื่นๆ ให้โดดเด่นขึ้น เกลือสมุทรมักมีแร่ธาตุที่หลากหลายกว่าเกลือหิน ซึ่งอาจส่งผลต่อรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ
- น้ำตาล : ในอาหารเจมีหลากหลายประเภท แต่ละชนิดให้รสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกัน น้ำตาลทรายขาวให้ความหวานล้วน น้ำตาลทรายแดงมีกลิ่นหอมของธรรมชาติ ส่วนน้ำตาลมะพร้าวให้ความหวานพร้อมกลิ่นหอมเฉพาะตัว
- ซอสเห็ดหอม : เป็นเครื่องปรุงที่ให้รสชาติอูมามิอย่างเข้มข้น ผลิตจากการหมักเห็ดหอมกับเกลือและน้ำตาล ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมและรสชาติลึกให้กับอาหารเจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารประเภทต้มหรือตุ๋น
- ผงปรุงรส : ประกอบด้วยส่วนผสมจากพืชที่ไม่มีกลิ่นฉุน เช่น ผงรากผักชี ผงพริกไทย ผงขมิ้น และสมุนไพรอบแห้งอื่นๆ ที่ไม่ขัดกับหลักการของอาหารเจ บางสูตรอาจใช้ผงเห็ดหอมเพื่อเพิ่มรสชาติความกลมกล่อม
- พริกไทย : ถึงจะเป็นเครื่องเทศที่ให้ความเผ็ดร้อน และกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใช้ได้ทั้งแบบเม็ด และแบบป่น พริกไทยดำให้รสชาติเข้มข้นกว่าพริกไทยขาว
- ผงกะหรี่ : เป็นส่วนผสมของเครื่องเทศหลายชนิด เช่น ขมิ้น ยี่หร่า ลูกผักชี และพริกไทย ให้กลิ่นหอม และรสชาติเฉพาะตัว นิยมใช้ในการทำแกงกะหรี่เจ และอาหารเจสไตล์อินเดีย
- สมุนไพรสด เช่น ผักชี ขิง ข่า และตะไคร้ : เป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มกลิ่นหอม และรสชาติสดชื่นให้กับอาหารเจ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพอีกด้วย การใช้สมุนไพรสดจะให้กลิ่นและรสชาติที่เข้มข้นกว่าแบบแห้ง
วัตถุดิบเจ มีอะไรบ้าง ?
- เต้าหู้ : เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง อุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม และไอโซฟลาโวน มีหลายชนิดให้เลือกใช้ ทั้งแบบแข็ง อ่อน ทอด แผ่น และหลอด สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี เช่น ผัด ทอด นึ่ง ต้ม หรือย่าง นอกจากนี้ยังใช้ในการทำอาหารได้ทั้งคาวและหวาน ทำให้เต้าหู้เป็นวัตถุดิบที่มีความยืดหยุ่นสูงในการประกอบอาหารเจ
- เห็ด : เป็นแหล่งโปรตีน วิตามินดี และแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับผู้ทานอาหารเจ มีหลายชนิดให้เลือกใช้ เช่น เห็ดหอม นางฟ้า ออรินจิ เข็มทอง และชิเมจิ แต่ละชนิดมีรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถใช้แทนเนื้อสัตว์ได้ดี วิธีการปรุงเห็ดมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการผัด ต้ม ย่าง อบ หรือใช้เป็นส่วนประกอบในซุปและสตู ทำให้เห็ดเป็นวัตถุดิบที่มีความหลากหลายในการใช้งาน
- ถั่วต่างๆ : นับเป็นแหล่งโปรตีน ใยอาหาร และแร่ธาตุที่สำคัญในอาหารเจ มีหลากหลายชนิด เช่น ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเขียว และถั่วลันเตา แต่ละชนิดมีรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างกัน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายวิธี ทั้งการต้ม ผัด บด หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทำอาหารได้ทั้งคาวและหวาน ทำให้ถั่วเป็นวัตถุดิบที่มีความยืดหยุ่นสูงในการประกอบอาหารเจ
- ธัญพืช : เป็นแหล่งพลังงาน ใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญ มีหลายชนิดให้เลือกใช้ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ควินัว บาร์เลย์ และข้าวฟ่าง สามารถใช้เป็นอาหารหลักหรือส่วนประกอบในอาหารและขนมได้ วิธีการปรุงมีหลากหลาย ทั้งการหุง ต้ม อบ หรือแปรรูปเป็นแป้ง ธัญพืชแต่ละชนิดมีรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถสร้างความหลากหลายในอาหารเจได้เป็นอย่างดี
- ผักใบเขียว : อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ มีหลายชนิดให้เลือกใช้ เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักโขม และผักกวางตุ้ง สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายวิธี ทั้งการผัด ลวก ต้ม นึ่ง หรือรับประทานสด นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารจานหลัก สลัด หรือนำมาทำเป็นน้ำผักปั่น ผักใบเขียวแต่ละชนิดมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ช่วยเพิ่มสีสันและคุณค่าทางโภชนาการให้กับอาหารเจได้เป็นอย่างดี
สาหร่ายวากาเมะอบแห้งแบบยาว (WAKAME DRIED SEAWEED) ขนาด 200 กรัม/แพ็ค
6. โปรตีนเกษตร : เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากถั่วเหลือง มีลักษณะและเนื้อสัมผัสคล้ายเนื้อสัตว์ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ มีทั้งแบบชิ้นและแบบบด อุดมไปด้วยโปรตีนและใยอาหาร แต่มีไขมันต่ำ ก่อนนำมาปรุงอาหาร ควรแช่น้ำเพื่อให้คืนรูปก่อน จากนั้นสามารถนำไปผัด ทอด หรือใส่ในแกงได้ โปรตีนเกษตรสามารถดูดซับรสชาติของเครื่องปรุงได้ดี ทำให้สามารถปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งอาหารไทยและนานาชาติ
7. สาหร่ายทะเล : เป็นแหล่งไอโอดีน วิตามิน และแร่ธาตุจากทะเลที่สำคัญ มีหลายชนิดให้เลือกใช้ เช่น วากาเมะ โนริ คอมบุ และสไปรูลินา แต่ละชนิดมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน สามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหารได้หลากหลาย ทั้งในซุป สลัด โรยข้าว หรือใช้ห่อข้าว (ซูชิ) สาหร่ายทะเลมีรสชาติเค็มตามธรรมชาติ และช่วยเพิ่มรสอูมามิในอาหาร ทำให้ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับอาหารเจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้เป็นวัตถุดิบที่นิยมใช้ในอาหารเจ
8. ผลไม้แห้ง : เป็นแหล่งพลังงาน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ มีหลากหลายชนิด เช่น ลูกเกด อินทผลัม พรุน และมะม่วงแห้ง สามารถกินเป็นขนมทานเล่น หรือใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและขนมได้ ผลไม้แห้งช่วยเพิ่มรสหวานและความหอมในอาหาร ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มรสชาติให้กับอาหารเจโดยไม่ต้องใช้น้ำตาลมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีอายุการเก็บรักษานาน ทำให้สะดวกในการใช้งานและสามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน
9. แป้งต่างๆ : เป็นวัตถุดิบหลักในการทำขนมและอาหารคาวหลายชนิด มีหลากหลายประเภท เช่น แป้งข้าวเจ้า แป้งถั่วเขียว แป้งสาลี และแป้งมันสำปะหลัง แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เหมาะกับการทำอาหารต่างประเภทกัน เช่น แป้งข้าวเจ้าเหมาะสำหรับทำขนมไทย แป้งสาลีเหมาะสำหรับทำขนมอบ สามารถผสมแป้งหลายชนิดเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีแป้งทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน เช่น แป้งข้าวโพด หรือแป้งอัลมอนด์ ทำให้สามารถปรับใช้ในการทำอาหารเจได้อย่างหลากหลายและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันได้
10. เต้าเจี้ยว : เป็นวัตถุดิบสำคัญในอาหารเจ ทำจากถั่วเหลืองหมักกับเกลือ มีลักษณะเป็นเม็ดถั่วเหลืองสีน้ำตาลเข้ม มีทั้งแบบแห้ง และแบบเปียก รสชาติเค็ม มีความอูมามิ และกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมใช้ปรุงรสแทนกะปิในอาหารเจ เช่น ใช้ในการผัดผัก ทำน้ำจิ้ม หรือหมักเต้าหู้ เต้าเจี้ยวอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินบี และแร่ธาตุต่างๆ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กินอาหารเจ หรือมังสวิรัติในการปรุงอาหารให้มีรสชาติใกล้เคียงกับอาหารทั่วไป
คำแนะนำในการปรุงอาหารเจ
การใช้เครื่องปรุงในอาหารเจมีข้อควรระวังและวิธีการเฉพาะที่ควรปฏิบัติตามเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการของการกินเจ ดังนี้ค่ะ
- เริ่มต้นด้วยการเลือกเครื่องปรุงที่ไม่ใช้เนื้อสัตว์ ซึ่งหมายความว่าควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์ เช่น น้ำปลา หรือน้ำซุปที่ทำจากกระดูกสัตว์ แนะนำให้เลือกใช้ซอสถั่วเหลืองที่ทำจากถั่วเหลือง 100% หรือซอสเห็ด ซึ่งมีรสชาติคล้ายกับน้ำปลาแต่ทำจากพืช
- สำหรับเครื่องปรุงจากพืช สามารถใช้ซอสถั่วเหลือง มิโซะ และซอสเห็ด ซึ่งมีรสชาติเข้มข้นและช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับอาหาร นอกจากนี้ น้ำส้มสายชูจากข้าวหรือน้ำส้มสายชูที่ไม่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ใช้ได้ค่ะ
- การเติมรสชาติด้วยสมุนไพร และเครื่องเทศถือเป็นวิธีที่ดีในการทำให้อาหารเจมีรสชาติหลากหลาย เช่น ขิงให้รสชาติเผ็ดร้อน ตะไคร้เพิ่มความสดชื่น และใบมะกรูดจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอม ส่วนพริกสามารถใช้ได้ทั้งพริกสดและพริกแห้งตามความชอบ
- ในเรื่องของผงชูรส ควรระวังในการเลือกใช้ ให้เลือกชนิดที่ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ ส่วนการเลือกน้ำมันควรเลือก น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว หรือ น้ำมันถั่วเหลือง จะช่วยให้การปรุงอาหารเจให้มีรสชาติที่ดี และดีต่อสุขภาพ
- นอกจากนี้ การตรวจเช็กฉลากผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเป็นสิ่งสำคัญ ควรเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนผสมที่มาจากสัตว์ ควรอ่านรายละเอียดให้ละเอียดก่อนที่จะเลือกซื้อ เลือกใช้ในการปรุงอาหารค่ะ
- สุดท้าย การปรุงรสควรเริ่มจากการใส่เครื่องปรุงในปริมาณน้อยๆ เช่น 1-2 ช้อนโต๊ะ แล้วชิมรสชาติ ปรับเพิ่มหรือลดตามความชอบ เพื่อให้ได้รสชาติที่ลงตัวและเหมาะสม ไม่ควรปรุงให้จัดจ้านจนเกินไป
น้ำตาลหล่อฮั่งก๊วยเสริมน้ำตาลอิริทริทอล สีทอง ขนาด 200กรัม ตรา RAIWAN
Inspire Now ! : เครื่องปรุงในอาหารเจควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มาจากสัตว์ เช่น ซอสถั่วเหลือง มิโซะ และซอสเห็ด ซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติได้ดี การใช้สมุนไพร และเครื่องเทศจะทำให้อาหารมีกลิ่นหอม และรสชาติหลากหลาย ควรหลีกเลี่ยงผงชูรสที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์ ผักที่ไม่เจต่างๆ และตรวจเช็กฉลากของเครื่องปรุงสำเร็จรูปเพื่อความสบายใจในการกินเจอย่างเคร่งครัด |
---|
DIYINSPIRENOW ให้ฉันตามเทรนด์อาหารสุขภาพได้ไม่ยากใช่ไหม ? ช่วงกินเลือกใช้เครื่องปรุงแบบไหนกัน ลองมาคอมเมนต์แชร์เครื่องปรุงที่ใช้ เมนูที่ทำกับเราได้เลยนะคะ ♡