เดินทางคล่องตัวได้มากกว่าด้วย กระเป๋าเดินทาง American Tourister Argyle Spinner 68/25 EXP TSA
ชวนมาดู กระเป๋าเดินทาง american tourister มีดียังไงทำไมถึงต้องเลือกไว้เดินทาง ใครกำลังมองหา กระเป๋าเดินทาง ยี่ห้อไหนดี ห้ามพลาดเลยนะ
ถ้าพูดถึงการไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หมุดหมายยอดนิยมของใครหลายคนก็คงจะเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น หรือไม่ก็ไปทวีปอเมริกา ที่เที่ยวท็อปฮิตต่างๆ หรือเที่ยวยุโรปกันไปเลย และบางคนก็อาจจะมองข้ามการเที่ยวในแถบตะวันออกเฉียงไต้ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ลาว กัมพูชา และอื่นๆ ซึ่งก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิตไม่แพ้ทวีปอื่นๆ โดยเฉพาะเมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศเพื่อนบ้านเมืองพี่เมืองน้องของไทยเราเอง หรือถ้ามีเวลา จะเลยไปเมืองหลวงนครเวียงจันทน์ด้วยก็ได้เช่นกัน หากใครกำลังวางแผนจะไปเที่ยว หลวงพระบาง เวียงจันทน์ อยู่ละก็ มาตามรอยกันได้เลยค่ะ
ในประเทศลาวจะมีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 17 แขวงและ 1 นครหลวง ซึ่งก็คือ นครหลวงเวียงจันทน์ และหลวงพระบางก็เป็นแขวงหนึ่งในประเทศลาว หลวงพระบางได้ถูกยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ด้วยเพราะมีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเมืองเป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นเมืองเก่าแก่ของอาณาจักรล้านช้าง เมื่อราวปี พ.ศ. 1300 ขุนลอซึ่งเป็นกษัตริย์ของลาวได้ทรงแต่งตั้งเมืองนี้เป็นราชธานีชองอาณาจักรล้านช้าง และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “เมืองเชียงทอง” ต่อมาในสมัยพระโพธิสาวราชเจ้า พระองค์ได้อาราธนา “พระบาง” พระพุทธรูปเก่าแก่ซึ่งเคยประดิษฐานอยู่ที่เมืองเวียงคำขึ้นมาประดิษฐานอยู่ที่เมืองเชียงทองอันเป็นนครหลวง เมืองเชียงทองจึงถูกเรียกว่า “หลวงพระบาง” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเมืองหลวงของประเทศลาวคือ นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นทั้งเหมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศลาว เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง ทั้งพระธาตุหลวง ประตูชัยฯ และหอพระแก้ว ฯลฯ จึงนับได้ว่า ทั้งหลวงพระบาง เวียงจันทน์ เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และควรค่ากับการไปเยือนสักครั้งในชีวิต หากใครที่ชอบท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี พร้อมยลความงดงามทางธรรมชาติ ทั้งเมืองหลวงพระบางและเวียงจันทน์ อาจจะเป็นคำตอบของคุณก็ได้นะคะ
หากพูดถึงหลวงพระบาง ความคิดแรกที่แวบเข้ามาของแต่ละคนคืออะไรกันบ้างคะ ? สำหรับเราแล้ว หลวงพระบางมีหลากหลายแง่มุมให้ค้นหา มีทั้งความโรแมนติก ความสบายใจ เรียบง่ายแต่งดงาม อบอุ่นเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนที่ต้อนรับเราด้วยไมตรีจิตร แต่ก็มีบางแง่มุมที่แฝงไปด้วยการผจญภัยชวนตื่นตาตื่นใจเล็กๆ สำหรับการเดินทางไปหลวงพระบางครั้งแรกของเรา เป็น Road Trip ที่ไปกับครอบครัวใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นพาหนะหลักในการเดินทาง เข้าทางด่านพรมแดนห้วยโก๋น หวัดน่าน ซึ่งจะต้องไปทำเอกสารใบผ่านด่านสำหรับรถยนต์ที่กรมการขนส่ง สำหรับคนที่จะข้ามไปยังประเทศลาว ก็ต้องเตรียมพาสปอร์ตของตนเองให้เรียบร้อยเช่นเดียวกันค่ะ
เมื่อข้ามด่านมาแล้ว จะใช้เวลาขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ระยะทางรวมประมาณร้อยกว่ากิโลเมตร ตามเส้นทางเมืองเงิน เมืองหงสา แขวงไชยะบูลี ระยะทางคดเคี้ยวเลี้ยวซ้ายขวา ขึ้นเขาลงเขาแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดทาง หากพ้นจากเมืองหงสามาแล้ว จะไม่มีปั๊มน้ำมันหรือห้องน้ำแต่อย่างใด แนะนำว่าให้เข้าห้องน้ำมาให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่าค่ะ และเส้นทางนี้ จะไปสิ้นสุดที่บ้านเชียงแมน เมืองจอมเพชร แขวงหลวงพระบาง ซึ่งเราจะต้องข้ามแม่น้ำโขงเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง บอกกันสักนิดว่า ระยะทางร้อยกว่ากิโลเมตรนั้น ถนนหนทางเป็นถนนลาดยางสภาพดีผสมปนเปไปกับถนนลูกรังในแต่ละจุด แต่ที่แน่นอนคือขึ้นเขาลงเขาไปตลอดทาง หากใครอยากมาหลวงพระบางด้วยรถยนต์ส่วนตัว อาจจะต้องเชียวชาญในการขับรถสักหน่อย และประเทศลาวเองใช้รถพวงมาลัยซ้าย ขับรถชิดเลนขวา ใครมาครั้งแรกก็อาจจะเกิดความสับสนนิดหน่อย ต้องขับอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยค่ะ
เมื่อมาถึงยังที่ข้ามฝั่งน้ำโขง ซึ่งเรียกว่า “บั๊ก” เราจะต้องเอารถข้ามน้ำโขงไปโดยการขึ้นบั๊ก เป็นแพใหญ่ที่ใช้เคลื่อนยานพาหนะและผู้คนที่ต้องการข้ามฝั่งไปมา ซึ่งบั๊กนี้จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เช้าไปจนถึงค่ำ ประมาณหกโมงเย็น และจะต้องเสียค่าบริการ โดยปกติแล้วสามารถใช้เงินไทยในลาวได้ หรือใครจะแลกเงินกีบมาก่อนก็ได้เหมือนกันค่ะ
สิ่งแรกที่เราประทับใจในหลวงพระบางคือ ภูเขาค่ะ เรามองเห็นภูเขาในขณะที่กำลังขึ้นบั๊กข้ามแม่น้ำโขงไป ภูเขาที่หลวงพระบางเป็นภูเขาไม่สูงมาก ไม่เหมือนกับภูเขาสูงในเชียงใหม่บ้านเรา แต่เป็นภูเขาเตี้ยๆ มีรูปทรงแปลกตาและทอดยาวไป เมื่อมองดูจากมุมนี้ก็ให้ความรู้สึกสวยแปลกตาอย่างบอกไม่ถูก นอกจากนี้ เราก็จะสามารถมองเห็น “พระธาตุภูสี” พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบางได้ด้วยเช่นกัน เป็น First Impresstion ความประทับใจแรกที่ชวนตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อมาถึงหลวงพระบางก็เป็นเวลาช่วงเย็นแล้ว จึงวางแผนกันว่าจะพักผ่อนในค่ำคืนนี้ให้เต็มที่ และเริ่มต้นเช้าวันแรกด้วยการเดินเที่ยวในเมือง หลวงพระบาง ที่เที่ยวนั้นมีหลากหลายมากเลยค่ะ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติอย่างน้ำตกตาดกวางสี น้ำตกตาดแส้ หรือจะเป็นการเดินเที่ยววัดเชียงทอง พระบรมราชวัง (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ) พระธาตุภูสี นั่งเล่นในคาเฟ่สวยๆ ชิคๆ หรือจะเดินเล่นถ่ายรูปชิลๆ ในเมืองก็ยังได้ เราจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามมาเลยค่ะ
เริ่มต้นกันที่แรก ณ พระบรมราชวัง ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ซึ่งเมื่อคราวที่ประเทศลาวยังปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ สถานที่แห่งนี้เป็นที่พำนักของกษัตริย์ราชวงศ์ลาว ปัจจุบันแปรเปลี่ยนเป็นพิพิธพัณฑ์แห่งชาติให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมพระราชวัง ภายในอาคารจัดแสดงรูปภาพ ข้าวของเครื่องใช้ ฉลองพระองค์ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของเมืองหลวงพระบาง ไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือ ท้องพระโรงที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีหลากสีสัน งดงามตระการตาเป็นอย่างยิ่ง
เสียดายที่ในพิพิธภัณฑ์ห้ามถ่ายภาพเด็ดขาด จึงไม่ได้มีภาพความงดงามนั้นมาให้ทุกคนได้เห็นกัน แนะนำว่าต้องไปให้ได้เลยค่ะ แล้วก็ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่อนุญาตให้ใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้นเข้าไปด้านใน ถ้าวางแผนจะมาเดินเที่ยวสถานที่สำคัญในเมือง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัดหรือสถานที่สำคัญทางศาสนา ก็ควรแต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อยเตรียมพร้อมไว้จะดีกว่า จะได้เที่ยวสนุก และไปได้ทุกที่ค่ะ
สถานที่ต่อมา ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปหลวงพระบาง เวียงจันทน์เลยก็ว่าได้ ซึ่งก็คือ วัดเชียงทองนั่นเองค่ะ วัดเชียงทอง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างตอนเหนืออันมีความงดงามวิจิตรตระการตา จนได้รับการขนานนามว่าเป็นอัญมณีของศิลปะล้านช้างเลยทีเดียว ถ้าใครอยากชมความงามทางสถาปัตยกรรมโบราณที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ต้องห้ามพลาดมาที่วัดเชียงทองเลยค่ะ มีจุดที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนจะต้องมาถ่ายรูปก็คือ หน้าต่างบนอุโบสถที่ประดับด้วยกระจกสี ซึ่งกระจกสีประดับอุโบสถแห่งนี้ มีความคล้ายคลึงกับการตกแต่งในท้องพระโรงราชวังเลยเดียว เป็นการประดับประดาตกแต่งด้วยกระจกสีที่ถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของชนชาวลาวอย่างเป็นเอกลักษณ์ เป็นอีกไฮไลท์หนึ่งที่ต้องห้ามหลาดเมื่อมายังหลวงพระบางค่ะ
เมื่อเดินเที่ยวช่วงเช้าเรียบร้อยแล้ว ตอนเที่ยงอยากให้แวะมารับประทาน “เฝอ” หรือก๋วยเตี๋ยวสไตล์หลวงพระบาง เป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ที่มีน้ำซุปกลมกล่อม ใส่หมูกรอบ หมูยอ โรยด้วยหอมเจียวและต้นหอม ผักชี ซึ่งเราขอบอกว่า เป็นเฝอลาวที่อร่อยกลมกล่อมมากๆ จนอยากกลับไปกินอีกครั้งเลยค่ะ เสร็จจากการกินอาหารเที่ยงแล้ว ก็แวะดื่มกาแฟยามบ่ายที่ร้านกาแฟ “สีหนุก” ซึ่งเป็นร้านกาแฟขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งในหลวงพระบาง เราสั่งอเมริกาโนเย็นไม่ใส่น้ำตาล ถือว่ารสชาติดีตามมาตรฐานกาแฟคุณภาพดี เมนูอื่นๆ ก็มีให้เลือกมากมาย ถ้าใครมีโอกาสได้มาหลวงพระบาง ก็อย่าลืมมาแวะกินกาแฟร้านนี้นะคะ
เมื่อเติมคาเฟอีนยามบ่ายกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาสัย ถ้าใครชอบสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมโบราณ จะสนุกกับการถ่ายรูปเหมือนกับเราอย่างแน่นอนค่ะ เดินถ่ายรูปเพลินจนลืมร้อน ลืมความเหนื่อยไปเลย ตึกรามบ้านช่องในเมืองหลวงพระบางเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลที่ยังคงอนุรักษ์ความงดงามไว้ดังเดิม ให้กลิ่นอายเมืองโบราณที่ผสมผสานไปกับความทันสมัยในปัจจุบัน แล้วถ้าใครอยากเดินดูของฝาก ก็มีร้านขายของฝากท้องถิ่นที่น่าสนใจอยู่หลายร้านเลยทีเดียว ทั้งถุงผ้า โปสการ์ด ผ้าทอมือ และของตกแต่งบ้านกระจุกกระจิกหลายอย่าง และถ้าใครเริ่มเมื่อย จะนั่งรถสองแถวเที่ยวเล่นรอบเมืองรับลมเย็นๆ ก็ได้เหมือนกันค่ะ
LocknLock แก้วน้ำสแตนเลสเก็บอุณหภูมิ Shake it! Bottle Pro Stainless ความจุ 650ml รุ่น LHC4276
เมื่อถึงช่วงเย็น ก็ได้เวลาขึ้นพระธาตุพูสี พูสี มีความหมายว่า ภูเขาของพระฤาษี เดิมเคยชื่อว่า “ภูสรวง” ตามตำนานเล่าว่า บนยอดเขาแห่งนี้มีฤาษีอาศัยอยู่ ชาวบ้านจึงเรียกว่าภูฤาษี หรือภูษีมาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็มีนักโบราณคดีบางคนเชื่อว่าภูษี อาจหมายถึง พูสีซึ่งเป็นศรีของเมืองหลวงพระบางก็เป็นได้
พระธาตุพุสี เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในหลวงพระบางเองเดินทางมากราบไหว้สักการะตลอดทั้งปี นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางศาสนาแล้ว บนยอดพระธาตุพูสียังเป็นจุดชมวิวเมืองหลวงพระบางได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมขึ้นมายังพระธาตุแห่งนี้ในช่วงเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งแสงสีทองในช่วงใกล้พลบค่ำจะสาดส่องมายังเมืองหลวงพระบางในยามเย็น เป็นภาพที่งดงามตรึงตาตรึงใจเอามากๆ ค่ะ เรายังแอบคิดเลยว่า หากได้มาชมวิวเมืองหลวงพระบางในยามพระอาทิตย์ตกดินกับคนรัก ก็คงจะโรแมนติกเอามากๆ เลยทีเดียว
ทั้งนี้ ขอบอกไว้ก่อนว่าต้องกะเวลาให้ดี เพราะต้องเดินขึ้นลงบันไดทั้งหมด 328 ขั้น ถ้ามาในช่วงพลบค่ำหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ฟ้าจะเริ่มมืด ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายขณะเดินลงบันไดได้ เพราะบันไดค่อนข้างชันเลยทีเดียวค่ะ ถ้ามองไม่ค่อยเห็นก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้นะคะ สำหรับเรากะเวลาอย่างพอดี ได้ถ่ายรูปวิวเมืองหลวงพระบางแบบ 360 องศาได้อย่างจุใจ พร้อมชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปได้อย่างพอเหมาะพอดี และเดินลงบันไดพระธาตุได้ทันเวลาโดยที่ฟ้าไม่มืดไปเสียก่อน เป็นการจบวันสำหรับการเที่ยวในเมืองอย่างดงามแล้วก็สมบูรณ์แบบมากๆ ค่ะ
หากใครได้มายังเมืองหลวงพระบาง แนะนำว่าควรจะไปตักบาตรข้าวเหนียวดูสักครั้ง ซึ่งเป็นประเพณีที่ชาวหลวงพระบางทำกันมาอย่างยาวนาน และปฏบัติกันเป็นประจำในทุกๆ เช้า สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็ได้เรียนรู้วิธีชีวิตของคนท้องถิ่นไปด้วยในขณะเดียวกัน การตักบาตรข้าวเหนียวนั้น จะต้องตื่นเช้าและรอพระมาบิณบาตรประมาณตีห้าครึ่งถึงหกโมงเช้า ซึ่งจะมีพระมาบิณบาตรเป็นร้อยๆ รูปเลยทีเดียวค่ะ และผู้ที่จะใส่บาตรก้จะนั่งเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบเพื่อรอใส่บาตรพระ เราสามารถถวายข้าวเหนียว ขนม น้ำดื่ม และปัจจัยอื่นๆ ให้กับพระสงฆ์ได้เช่นกัน เป็นประเพณีที่ถือเป็นอัตลักษณ์ของหลวงพระบาง และจะต้องมาที่หลวงพระบางเท่านั้น
หลังจากใส่บาตรเสร็จแล้ว แนะนำให้ไปเดินเล่นในตลาดเช้า ซึ่งเป็นตลาดที่คนในท้องที่จะเอาของพื้นบ้านมาวางขายกัน บ้างก็เป็นของป่า หรือเป็นผลหมากรากไม้แปลกๆ ที่เราเองก็ไม่ค่อยรู้จัก นักท่องเที่ยวอย่างเราก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะปูน้ำจืดที่ถูกมัดรวมกันไว้ด้วยตอก หรือจะเป็นพืชพรรณแปลกๆ บางชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถ้าใครอยากสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง ต้องลองมาเดินเล่นในตลาดเช้าดูค่ะ
ที่หลวงพระบาง มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งหนึ่งที่ถ้าใครมาทริปหลวงพระบาง เวียงจันทน์ จะต้องมาเที่ยวให้ได้ ซึ่งก็คือน้ำตกตาดกวางสีนั่นเองค่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองหลวงพระบาง อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปประมาณ 32 กิโลเมตร น้ำตกตาดกวางสี หรือน้ำตกตาดกวางซี เป็นน้ำตกหินปูนขนาด 4 ชั้น ความสูงโดยรวมอยู่ที่ 75 เมตร น้ำตกแห่งนี้มีความพิเศษคือ สีของน้ำจะเป็นสีฟ้าอมเขียวมองดูแล้วคล้ายกับสระมรกตในป่าหิมพานต์เลยทีเดียว บรรยากาศโดยรอบห้อมลอมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี เป็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่งดงามมากๆ ชวนให้รู้สึกว่าหลุดเข้ามาอยู่ในวรรณคดีไทยยังไงยังงั้น
สำหรับวิธีการมาถึงน้ำตกชั้นสุดท้ายที่เป็นไฮไลท์นั้น เลือกได้ว่าจะเดินเท้าขึ้นมาเรื่อยๆ หรือจะนั่งรถกอล์ฟที่ทางน้ำตกมีให้บริการก็ได้เล่นกัน สำหรับเราอยากถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เลยเลือกที่จะเดินเท้าขึ้นไป ซึ่งไม่ได้เดินยากแต่อย่างใด เดินไปถ่ายรูปไปเพลินๆ ก็ถึงน้ำตกชั้นสุดท้ายแล้วค่ะ ดูในภาพอาจดูเล็ก แต่ความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกตาดกวางสีนั้น ยิ่งใหญ่เสียจนเราตะลึงไปเลยทีเดียว ด้วยเพราะตัวเองไม่เคยเห็นน้ำตกที่ใหญ่แล้วก็มีน้ำสีสวยขนาดนี้มาก่อน เสียงดังซ่าๆ ของแรงน้ำตกดังกระหึ่มจนต้องพูดคุยกันเสียงดัง และแม้จะอยู่ไกลๆ ละอองน้ำก็กระเซ็นซ่านมาสัมผัสผิวกาย แรงของน้ำทำให้เกิดลมพัดปะทะตัวจนทำให้รู้สึกหนาว เสียงดังก้องของน้ำตกทำให้เราตกอยู่ในภวังค์ ชั่วขณะหนึ่งเรารู้สึกต้องมนต์สะกดของภาพตรงหน้า และอยากให้เวลาหยุดอยู่แค่นั้น
การเห็นความยิ่งใหญ๋อลังการของน้ำตกตาดกวางสีครั้งแรก มันเป็น Magic Moment ที่ทำให้เรารู้สึกว่า ธรรมชาติช่างยิ่งใหญ่และมีพลังมากเหลือเกิน อยากจะอยู่ตรงนี้ไปนานๆ อยากเก็บภาพความงาม อยากเก็บความรู้สึกสดชื่น อยากเก็บความประทับใจไว้กับตัวให้ได้มากที่สุด สำหรับเราแล้ว น้ำตกตาดกวางสี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในหลวงพระบางที่ต้องมาให้ได้เลยล่ะค่ะ ถ้าใครมาแบบ Road Trip เหมือนเรา ก็ขับรถมาเที่ยวได้สบาย แต่ถ้าใครนั่งเครื่องมายังหลวงพระบาง อาจจะต้องถามที่พักว่ามีบริการรถตู้หรือรถรับส่งของทางโรงแรมบริการรับส่งแขกมายังน้ำตกตาดกวางสีหรือไม่ เพราะถ้าจะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับมาเอง ก็อาจจะต้องขับมอเตอร์ไซค์เก่งๆ หน่อย เพราะระยะทางมาจากในเมืองค่อนข้างไกล แล้วก็มีขับขึ้นเขาด้วยค่ะ อย่างไรก็ควรปลอดภัยไว้ก่อนนะคะ
สำหรับเมืองหลวงพระบาง ถ้าใครมาครั้งแรก เราก็แนะนำว่าควรไปสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นแลนมาร์คของเมืองนี้ เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกับเมืองหลวงพระบางอย่างเต็มที่ ทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างพระบรมราชวัง วัดเชียงทอง ชมพระอาทิตย์ตกดินที่พระธาตุภูสี หรือจะเป็นการไปเที่ยวธรรมชาติอย่างการมาน้ำตกตาดกวางสี ซึ่งเราขอย้ำอีกครั้งว่าต้องมาให้ได้นะคะ แล้วก็ยังมีคาเฟ่พูนสุกที่อยู่ระหว่างทางไปน้ำตกตาดกวางสี เป็นคาเฟ่ท่ามกลางบรรยากาศทุ่งนาเขียวขจี มีอาหารทั้งคาวหวาน เป็นอาหารท้องถิ่นรสชาติอร่อยถูกปากที่ต้องชิมให้ได้ หรือจะไปเดินเล่นชิมกาแฟในเมืองชิลๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ อย่าลืมตื่นเช้าไปตักบาตรข้าวเหนียว พร้อมเดินเล่นที่ตลาดเช้ากันด้วยนะคะ เพียงเท่านี้ ก็เป็นการมาเที่ยวหลวงพระบางในแบบฉบับที่จะทำให้คุณรู้จักหลวงพระบางได้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วค่ะ
ใครที่มีเวลาเหลือเฟือ หรือวางแผนจะมาเที่ยวที่ประเทศลาวทั้งหลวงพระบาง เวียงจันทน์ ก็สามารถมายังเวียงจันทน์ได้ด้วยการนั่งรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดแล้วก็รวดเร็วที่สุด ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ราคาตั๋วประมาณ 900 บาท สามารถไปซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่สถานีรถไฟความเร็วสูง หรือจะซื้อที่จุดบริการจำหน่ายตั๋วในเมืองก็ได้เช่นกัน เราแนะนำว่าควรจองล่วงหน้าหรือซื้อตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 2 – 3 วันจะดีกว่านะคะ หากไปซื้อตั๋วในวันเดินทาง ส่วนใหญ่แล้วจะตั๋วเต็ม เพราะฉะนั้น หากใครวางแผนจะไปเวียงจันทน์ด้วยรถไฟความเร็วสูง ก็ต้องวางแผนการเดินทางเอาไว้นิดนึงค่ะ
และถ้าใครอยากจะขับรถจากหลวงพระบางไปเวียงจันทน์ ต้องมีความชำนาญทางมากๆ เพราะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวสูงชันไปตลอดทาง เดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง โดยจะต้องผ่านภูเก้าหลัก วังเวียง หากใครไม่มีปัญหาเรื่องการขับรถ และอยากขับรถดูวิวภูเขาสวยๆ ไปตลอดทาง หรือวางแผนอยากค้างคืนที่วังเวียงด้วย จะขับรถไปก็ได้เช่นกันค่ะ
swishnavy กระเป๋าเดินทางล้อลาก รุ่น CARRY-ALL 18 นิ้ว วัสดุ PC 100% และ ABS แข็งแรง น้ำหนักเบา
สำหรับเราแล้ว อยากลองนั่งรถไฟความเร็วสูงดู ประกอบกับมีเพื่อนคนลาวที่รู้จักกันมานานอาสาเป็นธุระเรื่องซื้อตั๋วให้ ทำให้ได้ตั๋วมาครอบครองและได้นั่งรถไฟความเร็วสูงสมใจ ขอบอกว่าสะดวกสบายมากๆ ค่ะ สถานีรถไฟเพิ่งสร้างใหม่ มีความทันสมัยหรูหรา สะอาดสะอ้าน ที่นั่งนั่งได้สบาย ดูวิวภูเขาสวยๆ ไปได้ตลอดทาง เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปห้องโดยสารมาเพราะว่าคนแน่นเหลือเกิน แต่ถ้าจะให้แนะนำแล้ว หากใครอยากจะลองนั่งรถไฟความเร็วสูงดูละก็ ต้องขอบอกว่าสะดวกสบายแล้วก็ปลอดภัยมากๆ ค่ะ
เมื่อมาถึงยังเวียงจันทน์ แลนด์มาร์คแห่งแรกที่ทุกคนจะต้องไปถ่ายรูปให้ได้ก็คือ ประตูชัย หรือปะตูไซ เพราะถ้าไม่ได้มาถ่ายรูปที่นี่ ก็เหมือนมาไม่ถึงเวียงจันทน์ เหมือนมาเชียงใหม่แล้วต้องไปดอยสุเทพ อะไรแบบนั้น ว่ากันว่า ปะตูไซมีความเป็นมาอย่างยาวนาน ปะตูไซ สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบในการประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส และเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน สำหรับสดุดีแก่ทหารลาวที่เสียชีวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองด้วย
“ไซ” (ໄຊ) มาจากภาษาสันสกฤตคำว่า “ชยะ” หมายถึง “ชนะ” ดังนั้น จึงเปรียบเหมือนเป็นสถานที่ที่แสดงถึงชัยชนะนั้นเอง นอกจากนี้ ปะตูไซยังถูกเรียกว่าเป็น “อาร์กเดอทรียงฟ์” แห่งเวียงจันทน์ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับ Arc de Triomphe ในปารีส ประเทศฝรั่งเศสนั่นเองค่ะ ในส่วนของลายปูนปั้นด้านบน ด้านหน้า ด้านข้าง เป็นศิลปะแบบลาว ด้านบนทำเป็นอาคารห้ายอด ตามหลักการปกครองประเทศตามพุทธศาสนา ได้แก่ พันธมิตร, การผ่อนปรนยืดหยุ่น, ความซื่อสัตย์, การให้เกียรติ และความรุ่งเรือง
ถ้าเราเข้าไปในประตูชัย เราจะมองเห็นการตกแต่งเพดานด้วยรูปภาพของเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีภาพเขียนเรื่องรามายณะประกอบกับการตกแต่งด้วยศิลปะแบบลาว ทราบหรือไม่ว่า เราสามารถเดินเข้ามาที่ประตูชัย แล้วก็เดินขึ้นบันไดมาชมวิวชั้นบนได้ด้วยนะคะ ซึ่งจะต้องขึ้นบันไดมาทั้งหมด 7 ชั้น แต่ก็ไม่ได้เหนื่อยมากเท่าไหร่ ถ้ามีเวลาก็อยากให้ขึ้นมานะคะ จะได้มองเห็นเมืองเวียงจันทน์ในมุมสูง แล้วก็ได้เห็นสำนักงานนายกรัฐมนตรีที่อยู่ใกล้ๆ กันเลยค่ะ
หากมองจากมุมสูง จะเห็นว่านครหลวงเวียงจันทน์มีความเป็นเมืองมากกว่าหลวงพระบางมาก มีจำนวนรถราวิ่งกันขวักไขว่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด อาจเทียบได้กับเชียงใหม่ – กรุงเทพฯ ในประเทศไทย แต่ถ้าเทียบกันแล้ว เวียงจันทน์วุ่นวายน้อยกว่ากรุงเทพมากค่ะ เดินทางได้ง่าย เพราะก็มีรถสองแถวบริการเช่นเดียวกับที่หลวงพระบาง จะไปไหนก็บอกได้ ส่วนใหญ่แล้วภาษาลาวพูดคล้ายๆ ภาษาเหนือ ปนภาษาอีสานบ้านเรา สามารถเข้าใจได้ง่าย สื่อสารกันได้ง่าย ไม่ต้องกลัวว่าจะเที่ยวไม่สนุกเลยค่ะ
Skechers สเก็ตเชอร์ส รองเท้าผู้หญิง รองเท้าผ้าใบ SKECHERS Street Uno Spread The Love Shoes
หากมาทริปหลวงพระบาง เวียงจันทน์ สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่เราอยากจะแนะนำให้ไปก็คือ “วัดสีสะเกด” เป็นวัดหลวงที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าไชยเษฐาธิราช ซึ่งพระองค์ทรงสร้างพระพุทธรูปทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่ประดิษฐานไว้รอบระเบียงและในอุโบสถไว้นับแสนๆ องค์ วัดแห่งนี้จึงมีอีกชื่อว่า “วัดแสน” นั่นเองค่ะ สิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดในวัดแห่งนี้ก็คือ ภาพเขียนสีภายในอุโบสถค่ะ มีความเก่าแก่และงดงามมากจริงๆ เป็นจิตรกรรมภาพวาดศิลปะแบบลาว ลายเส้นมีความนิ่มนวลอ่อนช้อยแม้ภาพเขียนจะดูเลือนลางหายไปบางส่วนบ้างตามกาลเวลา แต่ความวิจิตรงดงามยังคงปรากฏให้เห็น และเช่นเคย ภายในอุโบสถเค้าห้ามถ่ายรูปค่ะ เราเลยได้แต่บันทึกความสวยงามนั้นไว้ในความทรงจำเท่านั้น ใครได้มีโอกาสมายังเวียงจันทน์ แล้วชื่นชอบในเรื่องของศิลปะหรือภาพวาดจิตรกรรมตามผนัง แนะนำว่าต้องมาชมภาพเขียนในอุโบสถวัดนี้ให้ได้นะคะ งดงามจนตราตรึงอยู่ในใจ อยากไปเห็นกับตาอีกสักครั้งเลยค่ะ
สถานที่สำคัญที่สุดท้าย หากมายังเวียงจันทน์ ก็คือวัดพระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี ปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ สถานที่นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างของประเทศลาว ตราแผ่นดินของลาวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ มีรูปพระธาตุหลวงเป็นภาพประธานในดวงตราอีกด้วยนะคะ
องค์พระธาตุมีสีทองอร่ามงามตา มีความสูงประมาณ 45 เมตร มีลักษณะคล้ายดอกบัวตูม อันหมายถึงสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า และพระธาตุองค์ใหญ่ถูกล้อมรอบไปด้วยพระธาตุองค์เล็กที่ผู้สร้างได้นำทองคำมาหล่อเป็นรูปพระธาตุถึง 30 องค์ด้วยกัน เรียกได้ว่า ทองอร่ามงามตาไปทั้งหมดทั้งมวลเลยล่ะค่ะ ใครที่เป็นสายบุญ จะมาไหว้พระขอพรที่พระธาตุแห่งนี้ก็ได้เช่นกัน ภายในพระธาตุยังมีการจัดวางรูปวาดทางประวัติศาสตร์ และองค์พระพุธรูปเก่าแก่โบราณให้ได้ชมกันอีกด้วยค่ะ
ที่นครหลวงเวียงจันทน์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ทั้งหอพระแก้ว พระธาตุดำ อาคารรัฐสภา หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลาว วัดศรีเมือง สวนพระ และอื่นๆ อีกมากมาย เสียแต่ว่าเราเวลาน้อย มีเวลามาเที่ยวเวียงจันทน์เพียง 1 วันเท่านั้น แล้วก็จะต้องนั่งรถไฟความเร็วสูงกลับไปยังหลวงพระบาง เพื่อขับรถส่วนตัวกลับไปยังประเทศไทย โดยย้อนสู่เส้นทางเดิมไปยังด่านห้วยโก๋น จังหวัดน่าน และมุ่งเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ รับรองว่าถ้ามีโอกาสได้มาเวียงจันทน์อีกสักครั้ง จะต้องไม่พลาดสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ในนครหลวงเวียงจันทน์นี้อย่างแน่นอนค่ะ
Inspire Now ! : ทริปหลวงพระบาง เวียงจันทน์ของเราในครั้งนี้ ทำให้เราประทับใจประเทศลาวเอามากๆ ทั้งคนหลวงพระบางและคนเวียงจันทน์มีความน่ารัก เป็นกันเอง ด้วยภาษาที่มีความคล้ายคลึงกัน ทำให้สื่อสารกันเข้าใจง่าย ภาษาในการสื่อสารจึงไม่ใช่อุปสรรคในการมาเที่ยวลาวแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นประเทศที่คนไทยมาเที่ยวกันเยอะ โดยเฉพาะเมืองหลวงพระบาง ที่เที่ยวมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเที่ยวชิลๆ เดินเล่นถ่ายรูปในเมือง เที่ยวธรรมชาติ หรืออยากจะศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณีก็ได้ทั้งนั้น เป็นเมืองเล็กๆ ที่น่ารัก เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ จะไปเที่ยวคนเดียวก็ยังได้ หากต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย อย่าลืมนึกถึงหลวงพระบางนะคะ |
---|
DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? มีใครอยากไปเที่ยวหลวงพระบาง เวียงจันทน์กันบ้างไหมคะ หากไปในช่วงฤดูหนาว หรือช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศจะดีมากๆ ใครที่ยังไม่เคยไป อยากให้ลองไปดูสักครั้งนะคะ แล้วคุณจะตกหลุมรักหลวงพระบางเหมือนกับเราอย่างแน่นอนค่ะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mgronline.com, pptvhd36.com
ชวนมาดู กระเป๋าเดินทาง american tourister มีดียังไงทำไมถึงต้องเลือกไว้เดินทาง ใครกำลังมองหา กระเป๋าเดินทาง ยี่ห้อไหนดี ห้ามพลาดเลยนะ
ชวนเที่ยว สามพันโบก อุบลราชธานี แกรนด์แคนยอนลุ่มน้ำโขงไทย สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพแบบใด มีไฮไลท์จุดไหนบ้าง