พระพุทธทาสภิกขุ คำสอน, ธรรมะสอนใจคน

รวม พระพุทธทาสภิกขุ คําสอน ที่ไม่ใช่แค่ธรรมะในตำรา แต่คือคู่มือชีวิตที่ใช้ได้จริงทุกยุคสมัย

ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความไม่แน่นอน หลายคนอาจมองหาหลักยึดทางใจที่ไม่สั่นคลอนง่าย ๆ “คำสอนของพระพุทธทาสภิกขุ” คือหนึ่งในแนวทางที่ไม่เพียงเป็นธรรมะบนหน้ากระดาษ แต่คือเครื่องมือที่ช่วยให้เรากลับมาเข้าใจชีวิตอย่างแท้จริง ด้วยภาษาที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ท่านชวนให้เราตั้งคำถามกับตัวเองและมองโลกด้วยใจที่เบาสบาย และแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คำสอนของท่านก็ยังคงทันสมัยและใช้ได้จริงในทุกยุคทุกสมัย และในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะพาไปรู้จักคำสอนที่ปรับใช้ได้จริงกัน

เช็ก ! พระพุทธทาสภิกขุ คำสอน ที่ปลุกสติให้ใจสงบ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวายไม่หยุดนิ่ง !

พระพุทธทาสภิกขุ คือพระภิกษุผู้ไม่เพียงแค่เผยแผ่ธรรมะ แต่ยังแปลความธรรมะให้เข้าใจง่ายเหมือนสนทนากับเพื่อนคนหนึ่ง ท่านเน้นให้ธรรมะไม่ใช่แค่ของสูงส่งในวัดวา แต่คือสิ่งที่ควรใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ใจเราเบาลง เห็นโลกด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่เพียงตัดสิน คำสอนของท่านจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนเคร่งศาสนา แต่เหมาะกับทุกคนที่อยากใช้ชีวิตให้เรียบง่าย แต่มีความหมาย เรามาดูแต่ละคำสอน แล้วนำไปปรับใช้กันนะคะ

คำสอนพระพุทธทาสที่ยังคงทันสมัยในยุคปัจจุบัน

Image Credit : canva.com-pro

1. “ความสบายใจไม่ได้อยู่ที่การพยายามทำทุกสิ่งให้ได้ดั่งใจ แต่อยู่ที่การยอมรับว่า ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเรา”

คำคมธรรมะสอนใจคนข้างต้นนี้ ให้แง่คิดดีๆ เพื่อเตือนใจตัวเองเสมอว่า การที่เราพยายามทำทุกสิ่งให้เป็นไปตามที่ใจเราต้องการนั้น บางครั้งผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ได้ดั่งใจเราเสมอไปถึงแม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม แต่จงยอมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นและรู้จักปล่อยวางบ้างเพื่อความสุขและความสบายใจของตัวเราเอง

2. “ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไปหลังพายุผ่านพ้นไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ หลังผ่านปัญหาจะรู้ว่า ปัญหานั้นเล็กนิดเดียว”

ธรรมมะพระพุทธทาสนี้ สามารถสอนใจเราได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นคนเข้มแข็งมากขึ้น เมื่อชีวิตต้องเจอกับปัญหาต่างๆ มากมายที่ถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว บางครั้งเราต้องทำใจยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้น และพยายามหาทางแก้ไข ถ้าหากเราผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้ เราจะรู้สึกว่าปัญหาที่เจอมามันเล็กนิดเดียวเอง  ดังนั้นถ้าในอนาคตต้องเจอปัญหาที่หนักกว่านี้ยังไงเราก็ต้องผ่านมันไปได้ค่ะ

3. “อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องอาลัยอดีต ไม่ต้องพะวงอนาคต ขอแต่ทำหน้าที่ของตนอย่างถูกต้องในปัจจุบันก็เพียงพอแล้ว”

จากหลักธรรมะสอนใจคนของพระพุทธทาสข้างต้น ช่วยเตือนสติให้เรารู้จักใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงอดีตที่ผ่านมา เพราะเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ และไม่ต้องห่วงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่เราควรใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้มีความสุขที่สุดก็พอ แล้วอนาคตที่ดีก็จะตามมาเองค่ะ

4. “เคล็ดลับความสุข คือ รู้จักปลง รู้จักปลด รู้จักปล่อยวาง รู้จักไม่ยึดมั่นถือมั่น มันจึงจะทำให้มีความสุขอยู่บนโลกนี้ได้”

เป็นอีกหนึ่งธรรมะพระพุทธทาสที่ช่วยเตือนใจเราให้มีสติในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อย่าไปยึดติดกับเรื่องที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ไม่สบายใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาหรือในปัจจุบัน และอนาคตที่คาดหวังไว้ ถ้าเรารู้จักปล่อยวาง ปลงกับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น สุดท้ายแล้วชีวิตเราก็จะมีแต่ความสุขตลอดไปค่ะ

5. “ชีวิตเราก็เหมือนกับตุ่มน้ำ สามารถจะเติมน้ำใหม่ๆ ลงไปได้ ถ้าน้ำเก่ามันสกปรกไม่ดี ก็เทออกหรือไขออกเสีย และเติมน้ำใหม่ๆ ที่ดีลงไปก็เป็นตุ่มน้ำที่มีน้ำดีๆ”

จากบทธรรมะพระพุทธทาสภิกขุ คำสอนนี้ ให้ข้อคิดสอนใจเราว่า ถ้าเราอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เราต้องรู้จักปลดปล่อยเรื่องไม่ดีที่ทำให้เป็นทุกข์ออกจากชีวิตเราไป และเลือกเก็บแต่เรื่องดีๆ ที่ทำให้ชีวิตมีความสุขก็พอ ไม่เช่นนั้นชีวิตของเราก็จะมีแต่ความเหนื่อยล้า ท้อแท้ หาความสุขไม่เจอสักที

6. “การโกรธคนอื่นเขา ก็เท่ากับว่าเราจุดไฟเผาตัวเองเสียก่อนแล้วตั้งนาน”

ข้อคิดดีๆ ที่ได้จากการอ่านคำสอนข้อนี้ก็คือ เมื่อเรากำลังโกรธคนอื่น ไม่ว่าเขาจะทำให้เราโกรธด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม  นั่นแสดงว่าจิตใจของเรากำลังสร้างอารมณ์ฉุนเฉียว โมโหร้ายออกมาก่อนเสมอแล้วค่อยไปโกรธคนอื่นอีกที บางครั้งอารมณ์โกรธของเราไม่ได้กระทบต่อจิตใจของบุคคลนั้นด้วยซ้ำ แต่เป็นตัวเราเองที่รู้สึกเป็นทุกข์ ไม่มีความสุขอยู่ฝ่ายเดียว ดังนั้นเราต้องหา “วิธี ระงับอารมณ์โกรธ” เพื่อให้ตัวเองได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และคนรอบข้างก็มีความสุขเช่นกัน

Image Credit : canva.com-pro

7. “ไม่มีสิ่งใดเลยที่จำเป็นต้องไปยึด ไปถือ ไปแบกมันเอาไว้ ให้มันเหนื่อย ให้มันหนัก สุดท้ายก็เอาอะไรไปไม่ได้อยู่ดี”

คติธรรมท่านพุทธทาสภิกขุ คำสอนนี้ช่วยเตือนใจเรา เมื่อต้องแบกรับภาระหรือปัญหาต่างๆ มากมายไว้กับตัวเอง นอกจากจะทำให้ชีวิตไม่ความสุขแล้ว ยังทำให้รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าและสิ้นหวังอีกด้วย ดังนั้นถ้าอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เราอย่าไปยึดติดกับปัญหาที่เกิดขึ้นและปล่อยวางเรื่องที่ทำให้เป็นทุกข์ เพราะเมื่อเราจากโลกนี้ไปก็ไม่สามารถเอาอะไรไปได้อยู่ดี นอกจากความดีของเราเอง

8. “ไม่รู้ ไม่ชี้ เสียบ้าง เรื่องไม่เป็นเรื่องก็อย่าเอามาเป็นเรื่อง อย่าวิตกกังวล อาลัยอาวรณ์กันมาก”

ธรรมะสอนใจคนเรื่องนี้ ช่วยเตือนสติของเราว่าอย่าเป็นคนวิตกวังกลมากเกินไป บางเรื่องก็ไม่ควรเก็บเอาใส่ใจ หรือคิดมากจนทำให้ตัวเองไม่มีความสุข เรื่องไหนทำให้เกิดความทุกข์ใจ ไม่สบายใจก็ควรปล่อยผ่านไปบ้าง ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์คิดถึงเรื่องนั้นอีก หากเราทำตามคำสอนธรรมะพระพุทธทาสข้างต้นนี้ได้ตลอดช่วงชีวิตนี้ก็จะพบแต่ความสุขแน่นอนค่ะ

9. “ถ้าตัวเองไม่พาตัวเองไปดีแล้ว ก็ไม่มีผู้อื่นใดจะสามารถนำตนไปได้ดีอย่างแน่นอน”

คำสอนธรรมะพระพุทธทาสนี้ เตือนใจเราให้รู้ว่า ถ้าอยากมีชีวติที่ดี มีความสุข และประสบความสำเร็จไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อันดับแรกต้องเริ่มรู้จักที่จะพัฒนาตนเอง ต้องรู้จักคิดให้เป็น มองโลกในแง่บวก และลงมือปฏิบัติจริง ทำแล้วตัวเรารู้สึกสบายใจ อย่าไปหวังพึ่งพาคนอื่น เพราะไม่มีใครที่จะสามารถช่วยให้เรามีชีวติที่ดี และมีความสุขได้นอกจากตัวเราเอง

10. “อันตรายที่สุด คือ การคาดหวัง”

หลักคำสอนนี้ช่วยเตือนใจเรา เพื่อให้รู้ว่าการคาดหวังเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่กลับอันตรายกับตัวเองที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการคาดหวังกับตำแหน่งหน้าที่การงาน ความรัก หรือ เรื่องต่างๆ ที่จะทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ เมื่อคาดหวังมากก็ยิ่งสร้างความกดดันให้กับตัวเราเอง และเมื่อผิดหวังก็ยิ่งสร้างความทุกข์ ความเสียใจให้กับตัวเราเองเช่นกัน

11. “เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่ เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว อย่างมัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเลย ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง”

ธรรมะพระพุทธทาสภิกขุ คำสอนนี้กำลังชวนให้เรามี “ทัศนคติที่เป็นธรรม” กับมนุษย์ด้วยกัน มนุษย์ทุกคนมีทั้งด้านดีและไม่ดี ไม่มีใครสมบูรณ์แบบเหมือนในนิยาย การมัวมองแต่ข้อเสียของคนอื่น ทำให้เราทุกข์และไม่เห็นคุณค่าที่เขามี ท่านจึงแนะนำให้ “ฝึกมองด้านดี” และเลือกเก็บไว้ในใจ เฉพาะสิ่งที่ “มีคุณค่า” เพื่อไม่ให้ใจเราติดอยู่กับความโกรธ ความไม่พอใจ หรืออคติ

12. “คนเราทุกวันนี้ดิ้นรนไขว่คว้าหาสิ่งที่ไม่มี และสุดท้ายทุกคนก็จะได้ในสิ่งเดียวกันคือไม่ได้อะไรเลย”

คำสอนนี้ของท่านพุทธทาสภิกขุ เปรียบเหมือนกระจกที่สะท้อนชีวิตผู้คนในโลกยุคใหม่ได้อย่างเจ็บลึก พวกเราต่างไขว่คว้าหาสิ่งที่ยังไม่มี รถใหม่ บ้านใหม่ ชื่อเสียง ความสำเร็จ หรือแม้แต่ความรักในฝัน แต่ท่านชวนให้เราหยุดและตั้งคำถามว่า “เราวิ่งตามสิ่งเหล่านี้เพราะอะไร ?” และ “มันเติมเต็มเราจริงหรือ ? ” เพราะเมื่อชีวิตจบลง สิ่งที่เราเก็บไว้ไม่ได้เลยก็คือ สิ่งนอกตัวทั้งหมด ทั้งทรัพย์สิน อำนาจ หรือความสำเร็จทางโลก สิ่งที่เหลือจริง ๆ คือ “คุณภาพใจ” ว่าเราเคยรัก เคยให้อภัย เคยเข้าใจ เคยสงบได้แค่ไหน ดังนั้น ถ้าชีวิตจะรีบวิ่งไปหาบางสิ่ง ก็ขอให้เป็น สติ ความเมตตา และการเข้าใจธรรมชาติของชีวิต แทน

7 วิธีปรับใช้คำสอนของท่านพุทธทาสในชีวิตประจำวัน

Image Credit : canva.com-pro

  1. ฝึกมองเห็น “ดี” ในคนอื่น แม้เขาจะไม่สมบูรณ์แบบ : ไม่มีใครดี 100% หรือแย่ 100% การเลือกมองด้านดีจะช่วยให้เราอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างเข้าใจ ไม่ติดอคติ และใจเย็นมากขึ้น
  2. มีสติ รู้ตัว ไม่ปล่อยให้ใจหลงไปตามอารมณ์ : ท่านพุทธทาสเน้นให้เรา “ตื่น” อยู่กับปัจจุบัน ใช้ปัญญาไตร่ตรอง ไม่ด่วนโกรธ ด่วนรัก หรือด่วนตัดสิน เพราะอารมณ์คือแหล่งของทุกข์
  3. ไม่แบกโลกไว้ทั้งใบ ปล่อยสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ : เมื่อเจอปัญหา ไม่จำเป็นต้องเก็บทุกเรื่องมาเครียด ให้รู้ว่าอะไรคือหน้าที่เรา และอะไรคือสิ่งที่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
  4. ทำดีเพราะดี ไม่ใช่หวังผลตอบแทน : การทำดีไม่ต้องรอใครเห็นหรือชื่นชม เพราะคุณค่าที่แท้จริงอยู่ที่ใจที่ตั้งมั่นและความสุขจากการได้ให้
  5. ลดอัตตา ไม่ยึดตน ไม่หลงตัวเอง : ท่านพุทธทาสสอนเรื่อง “อนัตตา” ว่าทุกอย่างไม่ใช่ของเราแม้กระทั่งตัวตน การลดการยึดมั่นถือมั่น จะช่วยให้เรามีความสัมพันธ์ที่เบาสบายขึ้นทั้งกับตัวเองและผู้อื่น
  6. ไม่ต้องไขว่คว้าทุกอย่าง แค่พอดีและรู้เพียงพอ : การดิ้นรนหาสิ่งที่ไม่มีอยู่ตลอด ทำให้ใจเหนื่อยเปล่า ท่านเตือนให้เรารู้จักคำว่า “พอ” และหาความสุขจากสิ่งที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน
  7. นำธรรมะมาใช้ผ่าน “หน้าที่” ในชีวิต ไม่ใช่แค่ในวัด : ไม่ต้องรอให้มีเวลาว่างหรือไปปฏิบัติธรรมที่ไหนไกล เพราะ “การปฏิบัติธรรม” เริ่มได้จากการเป็นลูกที่ดี เพื่อนที่ดี เจ้านายที่ดี และเป็นคนที่ไม่เบียดเบียนใคร

จองทริปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ กับ Klook

Inspire Now ! : เมื่อชีวิตต้องเจอกับปัญหา ความวุ่นวายใจ เราต้องรู้จักยอมรับ เข้าใจ ปล่อยวางปัญหาที่ทำให้เกิดความทุกข์ ทำจิตใจให้สงบ แล้วเดินหน้าต่อไป เพราะไม่ว่ามนุษย์คนไหน ก็มีวันที่ชีวิตจะต้องพบกับปัญหา และความสุข วนไป หน้าที่ของเราจริงๆ ไม่ใช่การโทษโชคชะตา ไม่ใช่การทำตัวให้เป็นเหยื่อ แต่คือการทำความเข้าใจ ยอมรับ และเรียนรู้ชีวิตที่เป็นอยู่นี้ด้วยการมองโลกตามความเป็นจริงนั่นเอง

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนที่ดีกว่าใช่ไหม? ธรรมะพระพุทธทาสภิกขุ คำสอนไหน ช่วยเตือนใจให้คุณมีสติในใช้ชีวิตกันบ้าง มาคอมเมนต์แบ่งปันประสบการณ์กับเรากันบ้างนะคะ ♡

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW