เจนเนอเรชั่น คืออะไร, เจนเนอเรชั่น ต่างๆ

เจนเนอเรชั่น คืออะไร ? ต่างกันที่ตรงไหน ? ชวนทำความเข้าใจ เพื่อให้ร่วมงานกับคนต่างวัยได้อย่างมีความสุข !

หลายๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่าเจนเนอเรชั่นกันมาบ้างแล้ว และได้มีการใช้แนวคิดการแบ่งเจนเนอเรชั่นอย่างหลากหลาย ในแง่ของการทำการตลาดนั้น การแบ่งช่วงอายุของกลุ่มเป้าหมายหรือที่เรียกว่า การแบ่งตามเจนเนอเรชั่น จะช่วยให้เข้าใจควมคิด ทัศนคติ และพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น และวางแผนการตลาดให้สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มคนช่วงวัยนั้นๆ ได้ และในแวดวงการจัดการทรัพยากรมนุษย์ การศึกษาเรื่องของเจนเนอเรชั่นนั้นมีความสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล รวมถึงการออกแบบการทำงานให้เหมาะสมกับคนแต่ละวัยในองค์กร แล้ว เจนเนอเรชั่น คืออะไร กันแน่ ? มีการแบ่งแต่ละช่วงเจนฯ อย่างไร ? แล้วจะทำงานร่วมกับคนต่างช่วงวัยอย่างไรให้ราบรื่นและมีความสุข ไปดูกันเลยค่ะ

เจนเนอเรชั่น คืออะไร ? แบ่งยังไง ?

เจนเนอเรชั่น คืออะไร, เจนเนอเรชั่น ต่างๆ
Image Credit : unsplash.com

เจนเนอเรชั่น (Generation) หมายถึง กลุ่มคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่มีช่วงอายุเดียวกัน และมีประสบการณ์จากการพบเจอเหตุการณ์สำคัญต่างๆ คล้ายกัน อยู่ในสภาพแวดล้อมสังคมที่มีความคล้ายคลึงกัน และองค์ประกอบดังกล่าว ก่อเกิดเป็นเอกลักษณ์ เป็นลักษณะเฉพาะของกลุ่มคนเจนเนอเรชั่นนั้นๆ ซึ่งรวมถึงการมีทัศนคติ มีพฤติกรรมที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย

ปัจจุบัน นิยมแบ่งเจนเนอเรชั่นตามช่วงปีเกิด โดยจะขอยกตัวอย่างเป็น 4 เจนเนอเรชั่นที่ยังมีชีวิตอยู่และยังอยู่ในสังคมการทำงาน คือ

  1. เจนเนอเรชั่น Baby Boomer ที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2489 – 2507 
  2. เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ หรือ Gen X  ที่เกิดในช่วงปี  พ.ศ. 2508 – 2522
  3. เจนเนอเรชั่นวาย หรือ Gen Y ที่เกิดในช่วงปี  พ.ศ. 2523 – 2540
  4. เจนเนอเรชั่นซี หรือ Gen Z ที่เกิดในช่วงปี  พ.ศ. 2541 – 2555

ทั้งนี้ แต่ละเจนเนอเรชั่นก็มีความคิด มีทัศนคติ มีค่านิยม และมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป เนื่องจากเติบโตมาในรูปแบบสังคมที่มีความแตกต่างกัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แล้วแต่ละเจนฯ จะมีความแตกต่างกันยังไง ไปดูกันเลย !

ชวนดู ! ความแตกต่างของคนแต่ละเจนเนอเรชั่น คืออะไรกันบ้างนะ ?

มาดูกันค่ะว่า แต่ละเจนเนอเรชั่น นอกจากจะมีอายุที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีลักษณะเด่นอย่างไร และมีนิสัย มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

[affegg id=4533]

• เจนเนอเรชั่น Baby Boomers หรือผู้ที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2489 – 2507

เจนเนอเรชั่น คืออะไร, เจนเนอเรชั่น ต่างๆ
Image Credit : unsplash.com

เจนเนอเรชั่น Baby Boomers ปัจจุบันคือผู้ที่มีอายุ 58 – 76 ปี ซึ่งเกิดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จากภาวะสงคราม ทำให้เกิดการสูญเสียประชากรเป็นอย่างมาก ดังนั้น ช่วงหลังสงครามจึงนิยมมีลูกหลายๆ คน ทำให้ช่วงนั้นมีอัตราการเกิดที่สูงมาก จึงเป็นที่มาของชื่อ Baby Boomers นั่นเอง ปัจจุบัน คนกลุ่มนี้เริ่มเกษียณอายุกันหมดแล้ว หรือกำลังทยอยเกษียณอายุ และส่วนใหญ่จะอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เนื่องจากมีอายุงานมานาน

ลักษณะนิสัยของคนเจนเนอเรชั่น Baby Boomers : ด้วยความที่เติบโตมาท่ามกลางยุคฟื้นฟูหลังการเกิดสงคราม จึงเห็นความลำบากของพ่อแม่ ความแร้นแค้นทางเศรษฐกิจ ทำให้คนเจนฯ นี้มีความอดทนสูง เป็นคนสู้งาน ทุ่มเทกับการทำงาน จงรักภักดีต่อองค์กร เคารพในกฎเกณฑ์และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แสวงหาความมั่นคงในงาน แต่มีข้อเสียคือ ทำงานหนักมากเกินไปจนกระทั่งบ้างาน และไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ ทำให้ไม่เกิดการพัฒนาตัวเอง

เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ หรือ Gen X  คือผู้ที่เกิดในช่วงปี  พ.ศ. 2508 – 2522

ปัจจุบันกลุ่มคนเจนฯ X มีอายุประมาณ 57 – 42 ปี เกิดในช่วงที่เศรษฐกิจของโลกเริ่มมีความมั่งคั่ง เป็นยุคที่วัฒนธรรมสมัยใหม่กำลังเฟื่องฟู เนื่องจากเป็นยุคที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกไปเป็นดิจิตอล คนเจนฯ นี้ จะไม่ชอบความเป็นทางการมากนัก และให้ความสำคัญกับสมดุลชีวิตส่วนตัวและการทำงาน

ลักษณะนิสัยของคนเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ : มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง  และมีความเป็นตัวของตัวเอง กล้าคิด กล้าทำ มีความมุ่งมั่น ยังคงมีความจงรักภักดีต่อองค์กร แต่ในขณะเดียวกันก็กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง มีความยืดหยุ่นมากกว่ากลุ่ม Baby Boomers และเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ได้

เจนเนอเรชั่นวาย หรือ Gen Y คือผู้ที่เกิดในช่วงปี  พ.ศ. 2523 – 2540

เจนเนอเรชั่น คืออะไร, เจนเนอเรชั่น ต่างๆ
Image Credit : unsplash.com

กลุ่มคนเจนวายฯ เรียกอีกอย่างว่า Millennials เป็นประชากรที่มีจำนวนมากที่สุดในองค์กร ปัจจุบันคนกลุ่มนี้มีอายุประมาณ 27 – 41 ปี เกิดในช่วงยุคที่มีความเป็นดิจิตอลและเป็นสังคมเทคโนโลยี เป็นยุค Globalization ที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งสภาพแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ การแมือง ทำให้มีความคิด ทัศนคติ และพฤติกรรมที่ค่อนข้างจะแตกต่างไปจากเจนฯ ก่อนๆ และเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการรักตัวเอง และชอบมีอิสระ ทั้งยังเป็นตัวของตัวเองสูงด้วย

ลักษณะนิสัยของคนเจนเนอเรชั่นวาย : เชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบความท้าทาย สามารถทำอะไรหลายอย่างได้ กล้าแสดงความคิดเห็น มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี มีความคิดสร้างสรรค์ มีความกระตือรือร้น ชอบทำงานเป็นทีม ให้ความสำคัญกับเพื่อนร่วมงาน และโฟกัสที่เป้าหมายของตนเอง มีความทะเยอทะยาน อยากประสบความสำเร็จ ต้องการการยอมรับ และต้องการจัดสรรเวลาให้มี Work – Life Balance และมีความจงรักภักดีต่อองค์กรต่ำ เพราะเป็นเจนฯ ที่เปลี่ยนงานบ่อย เนื่องจากต้องการความก้าวหน้าในงาน จริงพร้อมแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เสมอ

เจนเนอเรชั่นซี หรือ Gen Z คือผู้ที่เกิดในช่วงปี  พ.ศ. 2541 – 2555

คนเจนฯ ซี ถือเป็นน้องเล็กขององค์กร ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กจบใหม่หรือกำลังศึกษาอยู่ มีอายุน้อยกว่า 26 ปี เป็นผู้ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี จึงสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว ถูกเลี้ยงดูอย่างดีจากพ่อแม่เจนฯ Y และ เจนฯ X ทำให้คนกลุ่มนี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก และเปิดกว้างความหลากหลาย และเลือกทำในสิ่งที่ชอบเป็นหลัก ชอบความสะดวกสบาย สะดวก รวดเร็ว เนื่องจากเติบโตมาในสภาพสังคมที่มีการใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตซึ่งมีความสะดวกรวดเร็ว

ลักษณะนิสัยของคนเจนเนอเรชั่นซี : มีความคิดสร้างสรรค์ มีความเป็นอิสระสูง กล้าแสดงออก ตัดสินใจทำอะไรอย่างรวดเร็ว มีความรู้รอบตัว สามารถปรับตัวได้เร็ว มีการเปิดกว้างทางความคิด ไม่แบ่งแยก และสุขภาพจิต คือเรื่องที่คนเจนฯนี้ให้ความสำคัญ ทั้งยังสนใจในเรื่องการเมือง สิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียม และแสวงหาความมั่นคงในชีวิตมาก จึงอาจเลือกทำงานที่มีค่าตอบแทนสูงมากกว่าเลือกทำในสิ่งที่ชอบ

[affegg id=4534]

จะทำงานร่วมกับคนต่างเจนเนอเรชั่น ต่างๆ อย่างไรให้ใจเป็นสุข

เจนเนอเรชั่น คืออะไร, เจนเนอเรชั่น ต่างๆ
Image Credit : unsplash.com

จากข้างต้นจะเห็นว่าเจนเนอเรชั่น คืออะไรที่มีความแตกต่างกันทั้งด้านความคิด ทัศนคติ ลักษณะนิสัย และมีสไตล์การทำงานที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งแต่ละองค์กรนั้นก็ประกอบไปด้วยกลุ่มคนเจนเนอเรชั่น ต่างๆ มากมาย ซึ่งถ้าหากไม่เข้าใจในความแตกต่างของกันและกัน และไม่ปรับตัวเข้าหากัน ก็อาจจะให้ทำงานไม่มีความสุข และเกิดความขัดแย้งในการทำงานได้ แล้ววิธีการทำงานร่วมกับคนแต่ละเจนเนอเรชั่น คืออะไร ? ไปดูกันเลยค่ะ

1. เคารพซึ่งกันและกัน

การเคารพซึ่งกันและกัน ไม่จำเป็นว่า ผู้ที่มีอายุน้อยกว่าจะต้องเคารพผู้ที่มีอายุมากกว่าเพียงอย่างเดียว เพราะไม่สำคัญว่าบุคคลนั้นจะอายุเท่าไหร่ หรือมีประสบการณ์ในที่ทำงานกี่ปี ก็สมควรได้รับการเคารพด้วยกันทั้งนั้น ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง หากเป็นผู้เริ่มงานใหม่ ก็เคารพในความสามารถและความเชี่ยวชาญของคนที่มีอายุงานมากกว่า และคนที่มีอายุงานมากกว่า ก็เคารพในศักยภาพและความรู้ความสามารถใหม่ๆ ของคนรุ่นใหม่ เมื่อมีความเคารพซึ่งกันและกัน ก็จะทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น และกุญแจสำคัญของการสร้างความเคารพต่อกันคือ การยอมรับในความแตกต่างของแต่ละคน และเข้าใจในความแตกต่างนั้นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการขัดแย้งน้อยลงด้วย

2. มีความยืดหยุ่นและปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับคนแต่ละช่วงวัย

หากเราเป็นหัวหน้างาน การรับรู้ถึงความแตกต่างของแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญมาก เพื่อที่จะได้มีทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และมอบหมายงานให้สอดคล้องกับพนักงานแต่ละเจนฯ เช่น เจนฯ วายชอบการมีอิสระ และต้องการทราบเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้น การบอกเพียงเป้าหมายที่ต้องการและให้พนักงานเจนฯ วายไปออกแบบการทำงานเอง ก็อาจจะทำให้มีผลงานดีกว่าการบอกวิธีการโดยละเอียด หรือการทำงานกับคนเจนฯ ซีที่ต้องการความกระชับ ชัดเจน รวดเร็ว การสั่งงานที่มีรายละเอียดมากๆ ก็อาจทำให้คนเจนนี้เกิดความเบื่อหน่ายได้ เป็นต้น

3. หลีกเลี่ยงการเหมารวม

ถึงแม้ว่ากลุ่มคนแต่ละเจนเนอเรชั่น คืออะไรที่มีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย แต่การเหมารวมว่า คนกลุ่มเจนฯ วาย เป็นพวกไม่มีความอดทน ก็อาจทำให้เกิดความขัดแย้งได้ หรือในทางกลับกัน หากมีการเหมารวมกลุ่ม Baby Boomers ว่าไม่มีความยืดหยุ่นและดื้อรั้น ก็อาจทำให้เกิดความขัดแย้งได้เช่นกัน เพราะแต่ละคนก็มีความแตกต่าง ดังนั้น การไม่พูดเหมารวม และให้คำแนะนำเป็นรายบุคคล อาจทำให้เกิดการเปิดใจรับฟังโดยปราศจากอคติมากขึ้น

4. เรียนรู้จากกันและกัน

เจนเนอเรชั่น คืออะไร, เจนเนอเรชั่น ต่างๆ
Image Credit : unsplash.com

แต่ละเจนเนอเรชั่น คืออะไรที่มีเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นในแต่ละเจนฯ และมีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน  อาทิ คนกลุ่มเจนฯ Baby Boomers และ เจนฯ เอ็กซ์ มีชั่วโมงบินในการทำงานสูง มีประสบการณ์หลากหลาย ก็อาจจะแบ่งปันประสบสบการณ์และสิ่งที่ได้เจอจากการทำงานให้กับพนักงานที่อายุงานยังน้อย ในขณะเดียวกัน พนักงานใหม่ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นเจนฯ วายหรือเจนฯ ซี ก็อาจจะแชร์ข้อมูลความรู้ในเรื่องของการใช้เทคโนโลยี ซึ่งการส่งเสริมซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดการเติบโตและประสบความสำเร็จได้

5. พยายามหาจุดร่วมที่ตรงกัน

ขึ้นชื่อว่าเจนเนอเรชั่นต่างกันแล้ว ดังนั้น จะต้องมีความคิดเห็น มีทัศนคติที่ต่างกันบ้างไม่มากก็น้อย ส่งผลให้การทำงานร่วมกันมีความขัดแย้ง เนื่องจากคิดเห็นต่างกับอีกฝ่าย และงานไม่อาจเดินหน้าได้ถ้ายังไม่สามารถตกลงกันได้ จึงควรหาจุดร่วมที่มีความคิดเห็นตรงกัน หรือใกล้เคียงกันมากที่สุด โดยการเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน และให้แต่ละฝ่ายเสนอความคิดเห็นออกมาอยากเต็มที่ จากนั้นมาดูจุดตรงกลางหรือจุดร่วมว่า มีเรื่องไหนบ้างที่คิดเหมือนกัน เพื่อที่จะได้สามารถทำงานร่วมกันและทำให้งานเดินหน้าได้

[affegg id=4535]

Inspire Now ! : เจนเนอเรชั่น ต่างๆ ก็ล้วนมีลักษณะเด่นแต่ละเจนฯ เป็นของตัวเอง รวมถึงวิถีการดำรงชีวิต และรูปแบบการทำงานที่มีความแตกต่างกันด้วย การทำงานร่วมกับคนต่างเจนเนอเรชั่นได้อย่างมีความสุข สิ่งสำคัญคือ การยอมรับและเข้าใจความแตกต่างของคนแต่ละช่วงวัย และเคารพคนแต่ละวัยอย่างเท่าเทียมกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน จึงจะทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น และทำงานได้อย่างมีความสุขค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? รู้ถึงความแตกต่างของคนแต่ละช่วงวัยแล้ว สามารถนำเอาวิธีการปรับตัวในการทำงานร่วมกับคนต่างๆ ไปปรับใช้ได้นะคะ หรือใครมีวิธีทำงานกับคนต่างเจนฯ ยังไงให้มีความสุข คอมเมนต์บอกกันได้เลยนะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : beresfordresearch.com, shrm.org, mindtools.com

Featured Image Credit : unsplash.com/Tyler Nix

Facebook Comments

ฝันอยากเดินทางท่องโลกให้ได้มากที่สุด สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิทยา รักการอ่านหนังสือ ชอบถ่ายรูป หลงใหลแมวและกาแฟ