team building คือ, team work คือ

Team Building คือ อะไร ? จะสร้างทีมยังไงให้เป็น Team Work !

หนึ่งในความสำเร็จของแบรนด์ธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ ก็คือ การมีทีมที่ดี เพราะการมีทีมที่ดีนั้นหมายถึง การที่พนักงานแต่ละคนมีความร่วมมือร่วมใจ และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อเกิดเป็นผลงานที่พาให้องค์กรเติบโตก้าวหน้า และการมี Team Work จะยิ่งทำให้บรรยากาศในการทำงานมีความสนุกสนาน เต็มไปด้วยพลังงานดีๆ และพนักงานต่างทำงานด้วยความกระตือรือร้น เพราะมีเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าทีมที่คอยให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งการมี Team Work นั้นเกิดจากการสร้างทีมอย่างแข็งแกร่ง แล้ววิธีการสร้างทีมหรือทำ Team Building คือ อะไร ? จะทำอย่างไรให้สามารถฟอร์มทีมที่มีคุณภาพได้ ไปดูกันเลย !

Team Building คือ อะไร ? ชวนรู้จักวิธีการสร้างทีม ให้เป็นทีมที่มีคุณภาพ !

team building คือ, team work คือ
Image Credit : unsplash.com

การมีทีมที่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง! เพราะการที่สมาชิกในทีมมีความเป็น Team Work คือสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี มีเคมีที่ตรงกัน มีความเข้าใจกัน ก็จะเกิดความสามัคคีกัน และมีการร่วมมือกันเป็นอย่างดี ทำให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งการจะมีทีมที่ดีได้ ก็ต้องผ่านกระบวนการสร้างทีม หรือ Team Building คือการทำให้ทำให้สมาชิกในทีมมีความสนิทสนมกลมเกลียว มีความเหนียวแน่นกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นเฟ้นระหว่างสมาชิกในทีม เพื่อให้มองเห็นเป้าหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และมีความสามัคคีกัน ร่วมมือร่วมใจกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำได้โดยการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เช่น การฝึกอบรมทักษะต่างๆ การทำกิจกรรมสันทนาการ การละลายพฤติกรรม การมีประสบการณ์ร่วมกัน เป็นต้น แล้วเราจะมีวิธีสร้างทีมอย่างไร ให้กลายเป็นทีมที่มีคุณภาพ ไปดูกันเลยค่ะ !

[affegg id=4563]

วิธีการสร้างทีม ให้เป็น Team Work ที่เหนียวแน่น ! ทำได้อย่างไร ไปดูกัน

แน่นอนว่าแต่ละองค์กร ต้องการทีมที่ดี ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพาองค์กรให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการได้ แต่การมีทีมที่ดีนั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมี Team Building หรือมีการสร้างทีมมาก่อน แล้วเราจะสร้างทีมอย่างไรให้เป็นTeam Work ที่ใครๆ ก็ต้องชื่นชม ไปดูกันเลยค่ะ

1. สร้างความเข้าใจที่ตรงกันในทีม

team building คือ, team work คือ
Image Credit : unsplash.com

อันดับแรกเลยคือ ต้องให้สมาชิกของทีมแต่ละคนเข้าใจถึงเป้าหมายหรือจุดประสงค์ของทีมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเป็นการกำหนดทิศทางการกระทำของสมาชิกแต่ละทีมว่า ควรจะมี Action ในทิศทางไหนที่จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการได้ เช่น เป้าหมายของทีมคือ การเพิ่มยอดขาย สมาชิกในทีมแต่ละคนก็จะมุ่งทำสิ่งที่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ ทำให้ทีมสามารถบรรลุเป้าหมายได้ หากไม่กำหนดเป้าหมายของทีม ก็จะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างสะเปะสะปะ ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะทำให้เกิดความสำเร็จได้ยาก และยังทำให้ทีมไม่มีความสามัคคีกันด้วย

2. กำหนดบทบาทของสมาชิกแต่ละคนอย่างชัดเจน

สิ่งสำคัญของการทำ Team Building คือ การมอบหมายงานและความรับผิดชอบของงานแต่ละส่วนให้กับสมาชิกของทีมแต่ละคนตามความสามารถและถนัดของแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้มากกว่าการไม่กำหนดบทบาทหน้าที่ และปล่อยให้สมาชิกในทีมทำงานอย่างไม่เป็นระบบ หรือไม่รู้หน้าที่ของตัวเอง ก็จะทำให้งานเกิดความล่าช้า เกิดการทำงานที่ผิดพลาด ซ้ำซ้อน หรือหลุดหายไปในบางจุด การกำหนดบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน และตรงตามความถนัดของพนักงาน จะส่งผลดีทั้งต่อองค์กร และต่อตัวพนักงานเอง เพราะจะทำให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุข งานออกมามีคุณภาพ และองค์กรก็มีผลงานที่ดีตามมาด้วย

3. สร้างความสัมพันธ์ภายในทีม

การจะทำให้คนในทีมมีความสนิทสนมกัน ทำงานเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็ต้องสร้างความเชื่อมโยงหรือการสร้าง Connection ระหว่างกัน เช่น การออกไปทำกิจกรรมร่วมกัน การรับประทานอาหารร่วมกัน หรือการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันในเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องงาน ก็จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากขึ้น ทั้งนี้ ต้องอยู่บนพื้นฐานของการเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีความห่วงใยต่อกันอย่างจริงใจ และไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันจนเกินไปจนทำให้เกิดความอึดอัด หรือเกิดการลามปามกัน ไม่เกรงใจกัน ซึ่งก็จะทำให้ความสัมพันธ์ในทีมแย่ลงได้

[affegg id=4564]

4. ยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกัน

team building คือ, team work คือ
Image Credit : unsplash.com

การสร้าง Team Work ที่ดี นอกจากจะต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีมที่ดีต่อกันแล้ว การยอมรับความแตกต่าง ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้มี  Team Building คือมีการสร้างทีมที่ดีได้เช่นกัน เพราะในบางองค์กร โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ จะมีพนักงานอยู่หลากหลายเจนเนอเรชั่น (อ่านเพิ่มเติม เจนเนอเรชั่น คืออะไร) มีอยู่หลายช่วงอายุ ตั้งแต่ระดับรุ่นใหญ่ไปจนถึงพนักงานจบใหม่ และในบางทีมก็อาจจะมีพนักงานหลายช่วงวัยด้วยกัน การยอมรับความแตกต่างระหว่างกัน รับฟังกันโดยปราศจากอคติ และปฏิบัติต่อกันด้วยพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน ก็จะทำให้ทีมมีความสามัคคี และทำงานร่วมกันได้อย่างสบายใจมากขึ้นค่ะ

5. สร้างแรงจูงใจในทางบวก

การสร้างแรงจูงใจทางบวก เช่น การให้รางวัล ให้โบนัส  หรือการกล่าวคำชม จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการลงโทษหรือการว่ากล่าวตำหนิ และการสร้างแรงจูงใจด้วยรางวัลต่างๆ จะเป็นการกระตุ้นให้สมาชิกในทีมมีความกระตือรือร้นที่จะทำงานให้สำเร็จ และสามารถบรรลุเป้าหมายของทีมได้ในที่สุด นอกจากนี้ การไม่ลงโทษ ยังเป็นการสร้างความเชื่อใจและความซื่อสัตย์ในระหว่างทีมอีกด้วย เพราะบางครั้งพนักงานอาจปกปิดความผิดหรือโยนความผิดให้คนอื่นเพราะกลัวจะถูกทำโทษ ซึ่งนั่นจะทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข และยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง กลับกัน ผู้นำทีมที่มีทักษะของผู้นำที่ดี ก็จะช่วยหาทางออกและแก้ไขปัญหาร่วมกัน และไม่กล่าวโทษหรือตำหนิพนักงานให้เกิดความรู้สึกอับอาย ซึ่งจะทำให้สมาชิกในทีมเกิดความเชื่อใจผู้นำทีม และทำให้ทีมยิ่งมีความเป็น Team Work คือ มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

6. เฉลิมฉลองทั้งความสำเร็จและล้มเหลว

team building คือ, team work คือ
Image Credit : unsplash.com

การสร้าง Team Building คือการสร้างทีมที่มีคุณภาพ และสิ่งที่ทำให้ทีมมีคุณภาพ ไม่ใช่แค่ความสำเร็จของงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความล้มเหลวที่เกิดขึ้นด้วย เพราะความล้มเหลวหรือความผิดพลาด จะทำให้สมาชิกในทีมได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา นำไปสู่การหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้ ทีมที่มี ทักษะ Resilience คือ สามารถล้มแล้วลุกได้ไว ก็จะสามารถก้าวข้ามความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ และเกิดการเรียนรู้ เกิดการเติบโต และกลายเป็นทีมที่มีคุณภาพ ซึ่งถ้าหากหัวหน้าทีมมีทัศนคติต่อความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในทิศทางบวก และนำพาให้ทีมสามารถสู้ต่อไปได้ ก็จะกลายเป็น Team Work ที่มีความเหนียวแน่นและแน่นแฟ้น และเป็นทีมที่ใครหลายๆ คนจะต้องอิจฉาอย่างแน่นอน

7. มีการสื่อสารระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการทำ Team Building คือการสื่อสารภายในทีม ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นสิ่งที่มีอยู่ในทุกๆ ขั้นตอนของการสร้างทีมเลยทีเดียว เพราะการสื่อสารทำให้เรารับรู้ว่าสมาชิกในทีมแต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไร ต้องการอะไร หรืออยากให้ทีมปรังปรุงอะไร ซึ่งการไม่สื่อสารกัน ก็อาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าแต่ละคนต้องการอะไร มีปัญหาอะไรในการทำงานหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้ทำงานแบบไม่มีความสุข หรือต่างคนต่างทำ ไม่ไปในทางเดียวกัน ทำให้ทีมบรรลุเป้าหมายได้ยากมากขึ้น ทั้งนี้ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในทีมมากขึ้น และการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจ จะทำให้มีบรรยากาศการทำงานที่ดีมากขึ้นกว่าการนิ่งเงียบ ไม่พูดคุยกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความอึดอัดและกระทบกับการทำงานได้ค่ะ

และนี่ก็เป็น 7 วิธีการทำ Team Building คือการสร้างทีมอย่างมีคุณภาพ อันจะทำให้ทีมประสบความสำเร็จ และบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการได้ และในความเป็น Team Work ที่ดี ย่อมจะต้องได้รับความร่วมมือจากสมาชิกในทีมทุกๆ คน ไม่สามารถหนักไปยังคนใดคนหนึ่งได้ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานเป็นทีมคือ การมีความฉลาดทางอารมณ์ เพราะการมีความฉลาดทางอารมณ์และการมีทักษะการเข้าสังคม รวมถึงความสามารถในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น จะทำให้สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้อย่างราบรื่น และทำให้ทีมมีความปรองดองสามัคคีกันได้ในที่สุด

[affegg id=4565]

Inspire Now ! : ทักษะการทำงานเป็นทีม เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน และการจะมีความเป็น Team Work คือ มีการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ต้องมี Team Building หรือมีการสร้างทีมที่ดี ซึ่งทุกตำแหน่งในทีม ไม่ว่าจะเป็นผู้นำทีม หรือสมาชิกในทีมแต่ละคน ล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะทำให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายและมีการเติบโตก้าวหน้าต่อไปได้ ดังนั้นแล้ว การมีทีมที่ดี จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จตามที่ต้องการได้ในที่สุด

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? รู้วิธีการฟอร์มทีมแบบมีคุณภาพแล้ว ลองเอาไปปรับใช้กับการทำงานดูนะคะ เพื่อที่จะได้ทำงานแบบแฮปปี้มากขึ้น งานสำเร็จมากขึ้น ได้ผลยังไง มาคอมเมนต์บอกกันด้วยนะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mindtools.com, liveabout.com, masterclass.com, upwork.com

Featured Image Credit : unsplash.com/Hannah Busing

Facebook Comments

ฝันอยากเดินทางท่องโลกให้ได้มากที่สุด สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิทยา รักการอ่านหนังสือ ชอบถ่ายรูป หลงใหลแมวและกาแฟ