Pomodoro Technique คืออะไร ? ใช้ยังไง ? ช่วยเราจัดการเวลาได้จริงหรือ ?! (มีแอปแนะนำ)

คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับเทคนิคโพโมโดโร กันบ้างไหมคะ ? เห็นมีมะเขือเทศ แต่ว่าเทคนิคนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการทำซอสมะเขือเทศแต่อย่างใด Pomodoro Technique คือ การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีหลายคนนำเอาเทคนิคนี้ไปใช้กันเพื่อจัดเวลาการทำงานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานเล็กๆ อย่างการอ่านหนังสือ การบริหารงานใหญ่ ที่ต้องใช้ความคิด และกินเวลายาวนาน หรือการใช้เวลาไปกับการคุยกับตัวเองอย่างการตั้งเป้าหมายชีวิตก็สามารถใช้ได้ ซึ่งในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะพาไปทำความรู้จักกันค่ะว่าเทคนิคนี้จะช่วยให้เราจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพยังไง ตามมาดูกันค่ะ

Pomodoro Technique คืออะไร ? ใช้แล้วดีต่อชีวิตยังไง ?!

Pomodoro Technique คือเทคนิคการบริหารเวลาที่คิดค้นโดย Francesco Cirillo เขาคิดค้นเทคนิคโพโมโดโร ขณะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งเค้าได้พัฒนาเทคนิคนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวในการพยายามจัดการเวลาและเพิ่มสมาธิในการเรียน สำหรับชื่อ โพโมโดโร นั้นมาจากนาฬิกาจับเวลารูปมะเขือเทศ ในภาษาอิตาลีแปลว่ามะเขือเทศ ที่เขาใช้ในตอนเริ่มพัฒนาเทคนิคนี้ และปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือบริหารเวลาที่มีชื่อเสียงและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก

รู้จัก Francesco Cirillo

Francesco Cirillo เป็นผู้ประกอบการ และนักคิดชาวอิตาลี ที่มีชื่อเสียงในวงการเทคโนโลยีและการบริหารเวลา เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากการคิดค้น Pomodoro Technique คือวิธีการบริหารเวลาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก Cirillo พัฒนาเทคนิคนี้ขณะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายเพื่อหาวิธีทำงานให้สำเร็จมากขึ้นในเวลาที่น้อยลง

ตลอดอาชีพการงานที่ยาวนานกว่า 20 ปี ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ Cirillo ได้สั่งสมประสบการณ์อันหลากหลาย ทั้งในบริษัท startup บริษัทข้ามชาติ และการเป็นที่ปรึกษาอิสระ เขาได้เป็นพี่เลี้ยงให้กับมืออาชีพ นักพัฒนา ผู้จัดการ และทีมซอฟต์แวร์นับพันคน โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงผลิตภาพและประสิทธิภาพ ด้วยการค้นหาวิธีที่จะให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นด้วยเวลาและความพยายามที่น้อยลง

ปัจจุบัน Cirillo ดำรงตำแหน่ง CEO และผู้ก่อตั้ง Combinant Dynamics ซึ่งเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ตั้งอยู่ในดูไบ บริษัทของเขาทำงานร่วมกับบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง นอกจากนี้ Cirillo ยังเป็นนักเขียนที่มีผลงานหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับเทคนิคโพโมโดโร และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมทั้งเป็นวิทยากรที่ได้รับเชิญให้บรรยายเกี่ยวกับการบริหารเวลาและการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานทั่วโลก

ผลงานและแนวคิดของ Cirillo ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อวิธีการที่ผู้คนจัดการเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่การบริหารเวลาและการมีสมาธิกลายเป็นทักษะที่สำคัญยิ่งขึ้น

Pomodoro Technique เหมาะกับใครบ้าง ?

เทคนิคโพโมโดโร เป็นวิธีการบริหารเวลาที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับใช้ได้กับหลากหลายบุคคลและหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและจัดการเวลาให้ดีขึ้น เช่น

1. นักเรียน นักศึกษา พนักงานออฟฟิศ สามารถใช้เทคนิคนี้ในการอ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือเตรียมตัวสอบ โดยช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับการเรียนได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ทำงานออฟฟิศหรือทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานก็สามารถใช้โพโมโดโรเพื่อแบ่งงานเป็นช่วงๆ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานได้
2. นักเขียน นักแปล หรือผู้ที่ต้องสร้างสรรค์งานที่ต้องใช้สมาธิสูงก็สามารถใช้เทคนิคนี้เพื่อรักษาแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ โดยการทำงานเป็นช่วงสั้นๆ แล้วพัก ช่วยให้สมองได้ฟื้นฟูและกลับมามีความคิดใหม่ๆ
3. ผู้ประกอบการหรือผู้บริหาร ที่มีงานหลากหลาย และต้องจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ก็สามารถใช้เทคนิคนี้ในการจัดลำดับความสำคัญของงาน
4. ผู้ที่มักมีปัญหาในการเริ่มต้นทำงานหรือผัดวันประกันพรุ่ง ก็อาจพบว่าการแบ่งงานเป็นช่วงสั้นๆ 25 นาทีนั้นจะช่วยให้เริ่มต้นทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะดูเป็นเป้าหมายที่จับต้องได้และไม่กดดันจนเกินไป

เทคนิค Pomodoro ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?

แม้ว่าจะมีประโยชน์ และช่วยให้หลายๆ คนมีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีขึ้นแต่ เทคนิคโพโมโดโร อาจไม่เหมาะกับทุกคนหรือทุกสถานการณ์ ผู้ที่ทำงานที่ต้องการความต่อเนื่องสูง เช่น นักดนตรีที่กำลังซ้อมเพลง หรือนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังทำการทดลองที่ละเอียดอ่อน อาจพบว่าการหยุดพักทุก 25 นาทีเป็นการรบกวนมากกว่าช่วย ในกรณีเช่นนี้ อาจต้องปรับการบริหารเวลาให้เหมาะสมกับลักษณะงานของตน เช่น ยืดเวลาทำงานให้นานขึ้นหรือปรับรูปแบบการพัก

นอกจากนี้ ผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องตอบสนองต่อเหตุการณ์แบบทันที เช่น พนักงานบริการลูกค้า หรือแพทย์ในห้องฉุกเฉิน อาจไม่สามารถยึดติดกับรูปแบบการทำงานกับโพโมโดโรได้ เนื่องจากลักษณะงานที่ไม่สามารถคาดเดาได้และต้องพร้อมรับมือกับสถานการณ์ตลอดเวลา หรือในผู้ที่มีช่วงความสนใจและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นเวลานานโดยไม่ต้องพัก อาจพบว่าการหยุดพักบ่อยๆ ทำให้เสียจังหวะการทำงานและลดประสิทธิภาพลงได้ บางคนอาจรู้สึกว่าการทำงานตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดทำให้รู้สึกกดดันและเครียดมากกว่าช่วยให้ผ่อนคลาย ดังนั้นการใช้ Pomodoro Technique จึงต้องใช้ให้เหมาะกับลักษณะงานของตนด้วยค่ะ

วิธีการใช้ Pomodoro คือยังไง ?

เทคนิคนี้เป็นวิธีการบริหารเวลาที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย เริ่มต้นด้วยการเลือกงานที่ต้องการทำ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนรายงาน การอ่านหนังสือ หรือการทำงานใดๆ ที่ต้องการสมาธิ จากนั้นตั้งนาฬิกาจับเวลา 25 นาที ซึ่งเรียกว่าหนึ่ง “Pomodoro” ในช่วงเวลานี้ ต้องทุ่มเทสมาธิทั้งหมดให้กับงานที่เลือกไว้ โดยพยายามขจัดสิ่งรบกวนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ อีเมล หรือสิ่งรบกวนอื่นๆ

เมื่อครบ 25 นาที เสียงนาฬิกาจะดังขึ้น ให้หยุดทำงานทันทีและพัก 5-10 นาที ในช่วงพักนี้ คุณควรลุกจากที่นั่ง ยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ หรือทำกิจกรรมผ่อนคลายสั้นๆ เพื่อให้สมองได้ฟื้นฟูและเตรียมพร้อมสำหรับช่วงทำงานถัดไป

หลังจากพัก 5 นาที ให้เริ่มต้นโพโมโดโรใหม่อีกครั้ง โดยทำซ้ำขั้นตอนเดิม ทำงาน 25 นาที แล้วพัก 5-10 นาที สลับกันไป เมื่อทำครบ 4 รอบ (หรือ 4 Pomodoros) ให้พักยาวขึ้นประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้สมองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

สิ่งสำคัญของเทคนิคนี้คือการรักษาวินัยในการทำงานอย่างตั้งใจในช่วง 25 นาที และพักจริงๆ ในช่วงพัก การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความเหนื่อยล้า และช่วยให้จัดการเวลาได้ดีขึ้น

คุณสามารถใช้นาฬิกาจับเวลาทั่วไป หรือเลือกใช้แอปพลิเคชันสำหรับ Pomodoro โดยเฉพาะก็ได้ แอปเหล่านี้มักมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การติดตามจำนวนโพโมโดโรที่ทำได้ในแต่ละวัน หรือการบันทึกงานที่ทำ ซึ่งอาจช่วยให้คุณติดตามความก้าวหน้าและปรับปรุงการทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ใช้ Pomodoro Technique แล้วดีต่อชีวิตยังไง ?

การใช้เทคนิคนี้ ส่งผลดีต่อชีวิตในหลายด้าน เริ่มจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเรียน เนื่องจากเทคนิคนี้ช่วยให้เรามีสมาธิจดจ่อกับงานในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้สามารถจัดการกับงานที่ยากหรือน่าเบื่อได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผลงานมีคุณภาพสูงขึ้นและเสร็จเร็วขึ้น นอกจากนี้โพโมโดโรยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลเกี่ยวกับงาน เพราะเมื่อเราแบ่งงานใหญ่ออกเป็นส่วนย่อยๆ ที่จัดการได้ง่ายขึ้นแล้ว ก็ทำให้รู้สึกว่างานไม่กดดันเกินไป และมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น แถมการมีช่วงพักสั้นๆ สม่ำเสมอ ยังช่วยป้องกันอาการเหนื่อยล้าและหมดไฟในการทำงานได้

ในแง่ของสุขภาพ การใช้ Pomodoro นั้น ช่วยให้เราไม่นั่งทำงานนานเกินไป ได้มีโอกาสลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ่อยๆ ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ลดความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากการนั่งนานๆ และช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ อีกทั้งเทคนิคนี้ยังช่วยเรื่องการบริหารเวลา ทำให้เราเข้าใจว่า เราใช้เวลาไปกับงานต่างๆ มากน้อยเพียงใด นำไปสู่การวางแผนและจัดลำดับความสำคัญของงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้มีเวลาว่างมากขึ้นสำหรับกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิต เช่น งานอดิเรก การพักผ่อน หรือการใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง

ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยฝึกวินัยในตัวเอง และความสม่ำเสมอในการทำงาน ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆ ของชีวิตได้ เช่น การออกกำลังกาย หรือการฝึกฝนทักษะใหม่ๆ จึงกล่าวได้ว่าการใช้ Pomodoro Technique อย่างสม่ำเสมอสามารถนำไปสู่การมีชีวิตที่สมดุลมากขึ้น มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น มีความเครียดน้อยลง สุขภาพดีขึ้น และมีเวลาสำหรับสิ่งที่สำคัญในชีวิตมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้คุณภาพชีวิตโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เห็นด้วยมั้ยคะ ?

แอป Pomodoro น่าใช้ มีอะไรบ้าง ?

แอปพลิเคชันสำหรับโพโมโดโรมีหลากหลายให้เลือกใช้ ซึ่งในบทความนี้เราจะขอแนะนำ 5 แอป ที่ใช้งานง่าย เหมาะกับการทำ Pomodoro ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งบน iOS และ Android มาดูกันค่ะว่ามีแอปไหนถูกใจคุณบ้าง

1. Forest : แอปนี้มีแนวคิดที่น่าสนใจ คือการปลูกต้นไม้เสมือนในระหว่างช่วงทำโพโมโดโร ช่วยสร้างแรงจูงใจและความรู้สึกสนุกในการทำงาน
2. Focus To-Do – Pomodoro & Tracks : รวมฟีเจอร์ตัวจับเวลา โพโมโดโรให้เข้ากับการจัดการงาน ช่วยให้คุณสามารถวางแผนและติดตามความคืบหน้าของงานได้
3. Focus@Will : แอปนี้รวมเทคนิคโพโมโดโร เข้ากับเพลงที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มสมาธิโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำงานพร้อมฟังเพลง
4. Pomodoro Timer : แอปนี้มี UI ที่เรียบง่าย แต่ยังคงมีความสวยงามและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่ครบถ้วนสำหรับการใช้เทคนิคนี้ แต่ไม่ต้องการความซับซ้อนมากเกินไป
5. Minimalist Pomodoro : เป็นอีกหนึ่งแอปที่น่าสนใจ หน้าตาดูเรียบง่ายมาก อาจมีเพียงตัวเลขนับถอยหลังและสัญลักษณ์แสดงจำนวนรอบเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดการรบกวนจากเทคโนโลยีให้น้อยที่สุด และต้องการมุ่งเน้นไปที่งานโดยตรง เรียกว่า Minimal สมชื่อเลยค่ะ

แต่ละแอปมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน คุณอาจต้องทดลองใช้หลายๆ แอปเพื่อหาแอปที่เหมาะกับรูปแบบการทำงานของคุณมากที่สุด สิ่งสำคัญคือการเลือกแอปที่ใช้งานง่าย ไม่รบกวนสมาธิ และมีฟีเจอร์ที่ตรงกับความต้องการของคุณนั่นเองค่ะ

Inspire Now ! : การใช้ Pomodoro Technique เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการเวลาก็จริงแต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรคำนึงถึง ควรเลือกงานที่เหมาะสมกับช่วงเวลาโพโมโดโร เพราะงานบางอย่างอาจต้องการเวลามากกว่าหรือน้อยกว่า 25 นาที ดังนั้นการแบ่งงานให้พอดีกับช่วงเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ การหยุดพักจริงๆ เมื่อครบกำหนดเวลาก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการพักจะช่วยให้สมองได้ผ่อนคลายและเตรียมพร้อมสำหรับช่วงการทำงานถัดไป อย่างไรก็ตาม ควรระวังไม่ให้การพักกลายเป็นการเสียสมาธิที่ยาวนานเกินไป และการใช้เทคนิคนี้อย่างเคร่งครัดเกินไปอาจทำให้เกิดความเครียดได้ จึงควรปรับใช้ให้ยืดหยุ่นตามความเหมาะสมของแต่ละคน และลักษณะงานนั่นเองค่ะ

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าใช่ไหม ? มีใครลองใช้ Pomodoro Technique แล้ว มีวินัยในตัวเองมากขึ้นหรือเปล่า ? มาคอมเมนต์แชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันบ้างนะ ♡