MBTI คืออะไร มีอะไรบ้าง ? ชวนรู้จัก 16 บุคลิกภาพที่จะช่วยให้เข้าใจตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น !
ชวนเข้าใจ MBTI คืออะไร มีอะไรบ้าง บุคลิกภาพแบบเราทำงานยังไง เหมาะกับอาชีพแบบไหน มาเข้าใจตัวเรา และคนรอบข้างเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกัน
ปัจจุบันมีวิธีบริหารจิตใจอยู่หลายวิธี เพื่อที่จะให้คนเรามีสุขภาพใจที่ดีขึ้น ด้วยเพราะทุกวันนี้หลายคนต่างเผชิญกับความเครียด ความกดดัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหน้าที่การงาน ภาระความรับผิดชอบภายในครอบครัว หรือสถานการณ์บ้านเมืองสังคมที่ชวนให้เรารู้สึกวิตกกังวลและเกิดความเครียดขึ้นได้ หากไม่มีวิธีจัดการกับความคิดความรู้สึกเชิงลบที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ ก็อาจทำให้เรามีปัญหาในเรื่องสุขภาพใจตามมา ทั้งนี้ มีสิ่งที่เรียกว่า Mindfulness คือ การเจริญสติ ที่จะช่วยให้เรารู้สึกสงบ รู้เท่าทันอารมณ์ความคิดของตนเองและบริหารจัดการอารมณ์ความรู้สึกเชิงลบของตนเองได้ Mindfulness มีประโยชน์กับเราอย่างไร แล้วสามารถฝึกได้อย่างไรบ้าง ตาม DIYINSPIRENOW มาหาคำตอบพร้อมๆ กันได้ในบทความนี้เลยค่ะ
ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้า Mindfulness คือเครื่องมือที่ช่วยให้เราดำรงชีวิตอย่างมีสติและสมดุล นักวิทยาศาสตร์พบว่าการฝึก Mindfulness สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสมอง เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และควบคุมอารมณ์ ไม่เพียงแต่ในชีวิตประจำวัน Mindfulness ยังถูกนำไปใช้ในองค์กรชั้นนำและวงการกีฬาระดับโลกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและจัดการความกดดัน การฝึก Mindfulness ไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการหยุดพักและสังเกตลมหายใจของตัวเองเพียงไม่กี่นาทีต่อวัน ด้วยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ Mindfulness จะช่วยให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีความหมายและเข้าใจตนเองมากขึ้นในทุกๆ วัน
หากแปลตรงตัวตามความหมายสากล Mindfulness คือการฝึกสติ ในทางศาสนา โดยเฉพาะศาสนาพุทธ ชาวพุทธส่วนใหญ่คงจะเคยได้ยินคำว่า “การเจริญสติ” กันมาบ้าง และในทางจิตวิทยา สามารถเรียก Mindfulness ว่าเป็น “สติบำบัด” อันหมายถึงการฝึกตนเองให้มีสติอยู่กับตัวอยู่เสมอ เพื่อที่จะหยุดความคิดเชิงลบ หรือหยุดความคิดวิตกกังวล ความกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นต่างๆ Mindfulness เป็นหนึ่งในวิธีเลิกคิดลบที่จะทำให้เราสามารถควบคุมความคิดของตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่านหรือถลำลึกไปกับกระแสความคิดความวิตกกังวลที่กำลังเกิดขึ้นภายในจิตใจได้ การมีสติรู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ คิดอะไรอยู่ และความคิดนี้ ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของเราอย่างไร ทำให้เรารู้สึกไม่ดีหรือไม่ เมื่อเรามี Mindful คือ ใจจดจ่ออยู่กับความคิดของตัวเองมากขึ้น เราก็จะสามารถบริหารจัดการความคิด อารมณ์ และความรู้สึกของเราได้อย่างสมดุลมากขึ้นค่ะ
รู้หรือไม่ว่า การฝึก Mindfulness คือกระบวนการที่มีประโยชน์ในเชิงอื่นๆ นอกเหนือไปจากการบริหารจิตใจเพื่อการมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ในบริษัทระดับโลกอย่าง Google, Apple, Nike, eBay และอื่นๆ ก็ได้มีการนำเอาการฝึก Mindfulness มาใช้กับพนักงานในองค์กรเพื่อเป็นแนวทางในการบริหารทรัพยากรบุคคล อย่าง Google ได้นำเอาศาสตร์ Mindfulness มาใช้กับพนักงานตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน ผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า “Search Inside Youself” ซึ่งทางกูเกิลเชื่อว่า การฝึกสติจะช่วยพัฒนา Emotional Intelligence หรือความฉลาดทางอารมณ์ของพนักงานได้ ส่งผลทำให้ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี มีรายงานว่า การฝึก Mindfulness ทำให้พนักงานมีความอดทนมากขึ้น รับฟังได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย นอกจากนี้ ในบริษัท Apple ก็มีนโยบายให้พนักงานสามารถนั่งสมาธิหรือเล่นโยคะได้เป็นเวลา 30 นาที หรืออย่างบริษัท Nike ก็ได้มีการจัดห้องไว้ให้พนักงานได้พักผ่อน ทำสมาธิ ฝึกโยคะ เพื่อเป็นการฝึกเจริญสติ หรือฝึกการมี Mindful คือ ใจจดจ่ออยู่กับความคิด ประสาทสัมผัส การกำหนดลมหายใจ เพื่อเพิ่มสมาธิและผ่อนคลายความเครียดให้กับตัวเอง อันจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยค่ะ
ในเชิงจิตวิทยาและสุขภาพจิตนั้น การทำ Mindfulness หรือ “สติบำบัด” ได้รับความนิยมสำหรับการทำการบำบัดรูปแบบหนึ่งเพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการบำบัดมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น แต่สำหรับบุคคลทั่วไป ก็สามารถฝึกสติผ่านการทำ Mindfulness เพื่อให้มีอารมณ์แจ่มใสมากขึ้น มีสติอยู่กับปัจจุบัน ทั้งยังเป็นการประเมินตรวจสอบความคิดความรู้สึกตัวเอง เพื่อสังเกตความคิดความวิตกกังวลที่อาจเกิดขึ้น และทำให้เรารู้สึกไม่ดีได้ ซึ่งประโยชน์ของการฝึก Mindfulness มีดังนี้ค่ะ
ได้มีการศึกษาในผู้ที่ทำการเจริญสติเป็นเวลา 40 วัน พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสมองอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งยังมีแนวโน้มจะมีภาวะซึมเศร้าต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้ฝึกการเจริญสติอีกด้วย นอกจากนี้ มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่ทำการฝึกสติหรือฝึกการทำสมาธิในระยะยาว มีอัตราการสูญเสียเนื้อเยื่อสมองลดน้อยลง โดยเฉพาะในส่วนของการควบคุมอารมณ์ ด้านการรู้คิด และการประมวลผลของระบบประสาท
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การทำ Mindfulness คือการฝึกสติ เพื่อการมีสติรู้ตัวของตัวเอง ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ทำให้เราสามารถตรวจสอบความคิดเชิงลบ ความเครียดความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นกับตนเองได้ เมื่อเราสังเกตและรู้เท่าทันความคิด อารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอง ไม่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความคิดความรู้สึกเชิงลบที่เกิดขึ้น ก็จะทำให้เราเกิดความวิตกกังวลน้อยลง รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น สามารถจัดการกับความคิดความรู้สึกของตนเองได้ และเมื่อความเครียดลดลง ก็ส่งผลต่อสุขภาพกาย อาการปวดหัว ปวดท้องอันเนื่องมาจากความเครียดก็จะหายไป เมื่อฮอร์โมนความเครียดในร่างกายลดน้อยลง ก็ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของเรา ทำให้มีสุขภาพกายที่ดีตามมานั่นเองค่ะ
การเจริญสติ หรือการฝึกสติ ทำให้เรามีสติรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ คิดอะไรอยู่ หรือกำลังรู้สึกอย่างไร เนื่องจากเป็นการ “กลับมาอยู่กับตัวเอง” ไม่ใจลอย ไม่คิดฟุ้งซ่าน เมื่อเราจดจ่ออยู่กับตัวเอง เราก็จะเกิดการตรัะหนักรู้ในตนเองว่ากำลังทำอะไร กำลังมีความคิดแบบไหน รู้สึกอย่างไร กำลังจะแสดงพฤติกรรมอะไรออกไป เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งเมื่อเรามีสติรู้ตัวเองแล้ว ก็จะส่งผลดีในด้านการบริหารจัดการตัวเองทั้งในแง่ความคิด อารมณ์ และการกระทำนั่นเองค่ะ
การฝึก Mindfulness ทำให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองมากขึ้น ใครที่มีปัญหาด้านการแสดงอารมณ์ หรือควบคุมอารมณ์ตนเองได้ไม่ดีนัก การฝึกสติจะช่วยให้เราสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และควบคุมการแสดงออกทางอารมณ์ที่อาจไม่เหมาะสมได้ เช่น เมื่อรู้ตัวว่ากำลังโกรธ หงุดหงิด ไม่พอใจ ก็อาจขอตัวออกจากสถานการณ์นั้นๆ ก่อนที่จะมีการปะทะทางอารมณ์เกิดขึ้น
การฝึก Mindfulness จะช่วยให้เรามีการตระหนักรู้ในตนเองมากขึ้น รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเองมากขึ้น และมีความฉลาดทางอารมณ์เพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ส่งผลให้เรากับคนรอบข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัว ความสัมพันธ์กับคนรัก หรือความสัมพันธ์กับคนในที่ทำงาน เพราะเมื่อเรามีการฝึกสติ เราก็จะมีการควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น และแสดงออกได้อย่างเหมาะสม ทั้งคำพูด การสื่อสาร การกระทำ ทำให้เกิดความขัดแย้งน้อยลง และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นตามมา
หากใครอยากจะฝึก Mindfulness หรือการเจริญสตินั้น สามารถเริ่มได้ง่ายๆ จากการฝึกทำสมาธิอย่างการจดจ่ออยู่กับลมหายใจตัวเอง หรือจดจ่ออยู่กับกิจกรรมฝึกสมาธิต่างๆ คำว่า Mindful คือ การจดจ่อ การตั้งใจ การมุ่งความสนใจไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในผู้ที่กำลังเริ่มต้น การนั่งสมาธิให้จิตนิ่งหรือการนอนสมาธิ ก็เป็นวิธีการฝึก Mindfulness ได้เป็นอย่างดี การจดจ่ออยู่กับลมหายใจตัวเอง รู้สึกถึงลมหายใจเข้า ลมหายใจออก สังเกตร่างกายตนเองในขณะหายใจ อย่างการกระเพื่อมขึ้นของหน้าอกหรือบริเวณหน้าท้อง เมื่อเราสามารถจดจ่ออยู่กับลมหายใจของตัวเองได้แล้ว เราก็จะมีสติอยู่กับตัวเอง สามารถโฟกัสกับความรู้สึก อารมณ์ ความคิดของตัวเองได้มากขึ้น
และในขณะที่นั่งสังเกตลมหายใจเข้าออกของตัวเอง ก็ให้สัมผัสถึงเก้าอี้ที่เรานั่ง พื้นที่เราเหยียบ อุณหภูมิรอบกายว่าเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร หากใครไม่ชอบการนั่งสมาธิ จะเปลี่ยนมาเป็นการเดินสมาธิด้วยการเดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน พื้นหญ้า เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงความรู้สึกในขณะที่เหยียบย่ำพื้น รู้ตัวในขณะก้าวเดิน และจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจของตัวเอง ไม่คิดฟุ้งซ่านขณะฝึกสติ ก็จะทำให้เราสามารถจดจ่ออยู่กับตัวเองได้มากขึ้น ส่งผลให้เรามีสติรู้ตัวมากขึ้น และมี Mindfulness เพื่อผลลัพธ์ที่ดีทั้งในแง่ของร่างกาย จิตใจ อันจะส่งผลให้มีชีวิตที่ดีแบบองค์รวมได้นั่นเองค่ะ
เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ เช่น ฝึกวันละ 5-10 นาที และค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้น ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าระยะเวลายาวนาน หาสถานที่เงียบสงบและเวลาที่เหมาะสมสำหรับการฝึก แต่จำไว้ว่าการทำ Mindfulness สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องรอสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบ ลองใช้แอปพลิเคชัน หรือเสียงนำทางช่วยในการฝึกหากรู้สึกว่าทำเองยาก แต่อย่าพึ่งพาจนเกินไป พยายามฝึกด้วยตนเองบ้าง
ระหว่างฝึก หากมีความคิดหรือความรู้สึกแทรกเข้ามา ไม่ต้องพยายามผลักไสหรือต่อต้าน เพียงรับรู้แล้วปล่อยผ่านไป กลับมาโฟกัสที่ลมหายใจหรือสิ่งที่กำลังทำอยู่ อย่าคาดหวังผลลัพธ์เร็วเกินไป การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา บางครั้งอาจรู้สึกไม่สงบหรือหงุดหงิด นี่เป็นเรื่องปกติ เพียงสังเกตความรู้สึกโดยไม่ตัดสิน
ข้อควรระวัง : สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มฝึก Mindfulness อย่างจริงจัง เพราะในบางกรณีอาจกระตุ้นอาการบางอย่างได้ ระวังการใช้ Mindfulness เป็นวิธีหลีกเลี่ยงปัญหา แทนที่จะเผชิญหน้าและแก้ไข และสุดท้าย อย่าใช้ Mindfulness เป็นเครื่องมือตัดสินหรือวิพากษ์วิจารณ์ตนเองหรือผู้อื่นนะคะ
Inspire Now ! : อาจกล่าวได้ว่า Mindfulness คือการฝึกให้มีสติรู้ตัวอยู่กับตัวเอง รู้เท่าทันความคิด อารมณ์ ความรู้สึก และการกระทำของตนเอง เพื่อให้สามารถจัดการกับความคิดความรู้สึกของตนเองได้ อันจะส่งผลต่อการมีสุขภาพจิตที่ดี ทำให้เราสามารถคลายความเครียด คลายความกังวล ไม่ไหลไม่ตามความรู้สึกคิดลบที่เกิดขึ้น รู้เท่าทันอารมณ์ความคิดของตัวเอง เพื่อที่จะจัดการได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ การฝึกสติยังส่งผลในแง่ของสุขภาพกายอย่างการปรับปรุงสุขภาพสมองของเราอีกด้วย สำหรับใครที่อยากจะฝึกการเจริญสติ ก็สามารถทำได้ด้วยการเริ่มฝึกทำสมาธิในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เกิดการจดจ่ออยู่ตัวเองมากขึ้น และเราก็จะมีสติรู้ตัวในการทำสิ่งต่างๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินชีวิตของเรานั่นเองค่ะ |
---|
DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? ใครฝึก Mindfulness หรือฝึกการเจริญสติแล้ว เป็นยังไงกันบ้าง มาคอมเมนต์แชร์กันนะคะ ♡
ชวนเข้าใจ MBTI คืออะไร มีอะไรบ้าง บุคลิกภาพแบบเราทำงานยังไง เหมาะกับอาชีพแบบไหน มาเข้าใจตัวเรา และคนรอบข้างเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกัน
ชวนรู้จัก วิธีพัฒนาตนเอง แบบยั่งยืนด้วยการปรับ 8 Mindset พร้อมวิธีการฝึกที่ใช้ได้จริงที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
ชวนมารู้จักกับการ Self Compassion คือ การเมตตาต่อตัวเอง ฝึกแล้วดีกับชีวิตยังไง อยากมีความสุขได้ด้วยตัวเองต้องทำยังไง มาเข้าใจและฝึกไปด้วยกัน