mbti คืออะไร มีอะไรบ้าง

MBTI คืออะไร มีอะไรบ้าง ? ชวนรู้จัก 16 บุคลิกภาพที่จะช่วยให้เข้าใจตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น !

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนชอบอยู่คนเดียว แต่บางคนกลับชอบเข้าสังคม หรือบางคนคิดอย่างมีระเบียบ แต่บางคนกลับตามใจตัวเอง นอกจากแบบทดสอบ DISC ที่จะทำให้เข้าใจตัวเองและผู้อื่นมากขึ้นแล้ว MBTI ก็คืออีกหนึ่งแบบทดสอบบุคลิกภาพที่จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างได้ดีมากยิ่งขึ้น พอเข้าใจตัวเองมากขึ้น ก็จะทำให้เรารู้สึกเข้าใจคนอื่นได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ทั้งความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ดีขึ้นได้เพราะเราเข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกันได้มากขึ้น และในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะพาไปทำความเข้าใจกันว่า MBTI คืออะไร มีอะไรบ้าง ? และช่วยอะไรเราได้บ้าง

MBTI คืออะไร มีอะไรบ้าง ? แจกคู่มือฉบับเข้าใจง่าย ปรับใช้ได้ทันที !

Image Credit : canva.com-pro

หากเคยได้ยินคนพูดถึง หรือเห็นโพสที่เค้าแชร์กันด้วยตัวอักษรประมาณว่า INFJ, ENTP หรือ ISTJ แล้วสงสัยว่ามันหมายถึงอะไร ต้องลองมาทำความรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า MBTI หรือเครื่องมือวิเคราะห์บุคลิกภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก ซึ่งการได้รู้ว่าเรามีบุคลิกแบบไหนใน MBTI นั้น จะทำให้เรารู้ว่า ตัวเราเป็นยังไง เราจะพัฒนาตัวเองแบบไหน และทำให้เราเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้นด้วย เอาหล่ะ มาเริ่มกันเลย

ไขรหัสใจ 16 ไทป์ รู้ใจคน เข้าใจตนเอง (MBTI Test 16 Personalities)

MBTI คืออะไร ?

MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) เป็นแบบทดสอบบุคลิกภาพที่พัฒนาโดย Isabel Briggs Myers และ Katharine Cook Briggs โดยอ้างอิงจากแนวคิดของ Carl Jung นักจิตวิทยาชื่อดัง จุดประสงค์ของ MBTI คือช่วยให้แต่ละคนเข้าใจลักษณะนิสัย จุดแข็ง จุดอ่อน และวิธีที่เรามีปฏิสัมพันธ์กับโลกใบนี้ ช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น โดยการวิเคราะห์บุคลิกภาพออกเป็น 16 ประเภทที่แตกต่างกันไปตามการประเมินจาก 4 แกนหลัก

แล้วทำไม ถึงสำคัญ ?

MBTI ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น เช่น รูปแบบการตัดสินใจของเราเป็นอย่างไร ? ชอบการทำงานแบบไหน ? ชอบอยู่คนเดียวหรือเข้าสังคม ? เมื่อเข้าใจตัวเองแล้ว ก็จะช่วยให้เราเลือกงานที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพและพัฒนาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ดีขึ้น

4 แกนหลักที่สำคัญของ MBTI มีอะไรบ้าง ?

MBTI แบ่งบุคลิกภาพออกเป็น 16 แบบ โดยใช้ 4 แกนหลัก ซึ่งแต่ละแกนมี 2 ด้าน มาดูรายละเอียดกันนะคะ

1.พลังงานมาจากไหน ?

2. รับข้อมูลอย่างไร ?

  • S (Sensing) : เน้นรายละเอียด ใช้ประสาทสัมผัสและข้อเท็จจริง
  • N (Intuition) : มองภาพรวม ชอบคิดเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ

3. การตัดสินใจเป็นแบบไหน ?

  • T (Thinking) : ใช้เหตุผล วิเคราะห์อย่างมีหลักการ
  • F (Feeling) : ใช้ความรู้สึก ตัดสินใจโดยคำนึงถึงคนรอบข้าง

4. มีวิธีการใช้ชีวิตอย่างไร ?

  • J (Judging): มีระเบียบ วางแผนล่วงหน้า
  • P (Perceiving): ยืดหยุ่น ปรับตัวตามสถานการณ์

เมื่อเรารู้จักตัวเองและเห็นลักษณะเฉพาะของตัวเองจากทั้ง 4 แกนนี้แล้ว เราก็สามารถเข้าใจว่าบุคลิกภาพของเรามีลักษณะเฉพาะอย่างไร เราจะพัฒนาตัวเองได้อย่างไรบ้าง เช่น การเลือกงานหรือการเลือกวิธีทำงานที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ลองมาดูรายละเอียดในเรื่องนี้กันอีกค่ะ

Image Credit : canva.com-pro

16 บุคลิกภาพของ MBTI มีอะไรบ้าง ?

เมื่อหยิบแกนหลักของ MBTI ทั้ง 4 แกนมารวมกันแล้ว เราจะได้ทั้งหมด 16 บุคลิกภาพ มาดูกันค่ะว่าคุณเป็นแบบไหน ?

1. ISTJ (The Logistician)

ลักษณะ : ISTJ มักเป็นคนที่มีกฎระเบียบสูง ทำงานอย่างมีระเบียบและชัดเจน พวกเขามีความรับผิดชอบและมั่นคงในสิ่งที่ทำ มีความเชื่อมั่นในวิธีการที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล มักทำงานแบบไม่หวือหวา แต่มีความสม่ำเสมอในการทำสิ่งต่างๆ
ตัวอย่างคนดัง : อดีตประธานาธิบดีจอร์จ วอร์ชิงตัน และนักธุรกิจชื่อดังอย่าง Warren Buffett เป็นตัวอย่างของบุคคลที่มีบุคลิกภาพ ISTJ
งานที่เหมาะสม : ISTJ จะเหมาะกับงานที่ต้องการความระมัดระวังและความสามารถในการบริหารจัดการระเบียบ เช่น การบัญชี การจัดการโครงการ หรือการบริหารงานภาครัฐ

2. ISFJ (The Defender)

ลักษณะ : ISFJ เป็นคนที่มีความอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อ พวกเขามักจะคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นและใส่ใจรายละเอียดได้ดี พวกเขาชอบทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นและมักจะเป็นผู้ช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ตัวอย่างคนดัง : Mother Teresa , นักแสดง Bollywood Aishwarya Rai Bachchan
งานที่เหมาะสม : งานที่เหมาะกับ ISFJ เช่น งานที่ต้องดูแลผู้คนหรือช่วยเหลือ เช่น พยาบาล นักจิตวิทยา หรือครู

3. INFJ (The Advocate)

ลักษณะ : INFJ เป็นบุคคลที่มีอุดมการณ์สูง พวกเขามีความเชื่อมั่นในค่านิยมของตัวเองและมักจะตั้งเป้าหมายในการช่วยเหลือคนอื่น พวกเขามักจะเป็นผู้ที่มองเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นและมีความลึกซึ้งในความคิด
ตัวอย่างคนดัง : นักเขียนอย่าง J.K. Rowling และ Mahatma Gandhi เป็นตัวอย่างของ INFJ ที่มีอุดมการณ์ชัดเจน
งานที่เหมาะสม : INFJ เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความเข้าใจลึกซึ้งและสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ เช่น นักจิตวิทยา นักเขียน หรือผู้ให้คำปรึกษา

4. INTJ (The Architect)

ลักษณะ : INTJ เป็นคนที่มีความคิดมุ่งมั่นและคำนึงถึงอนาคต พวกเขาชอบใช้ความคิดเชิงกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาและมีความมั่นใจในตัวเอง พวกเขามักจะมองภาพรวมและสามารถวางแผนระยะยาวได้ดี
ตัวอย่างคนดัง : Elon Musk และ Friedrich Nietzsche เป็นตัวอย่างของ INTJ ที่มีความคิดเชิงลึกและทิศทางที่ชัดเจน
งานที่เหมาะสม : INTJ เหมาะกับงานที่ต้องใช้ทักษะการวิเคราะห์และการวางแผน เช่น นักวิทยาศาสตร์ ผู้บริหาร หรือที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์

5. ISTP (The Virtuoso)

ลักษณะ : ISTP เป็นคนที่ชอบการลงมือทำและการแก้ปัญหาในทันที พวกเขามีทักษะในการใช้งานเครื่องมือและเครื่องจักรได้ดี รวมถึงชอบงานที่ท้าทายและทำงานได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างคนดัง : Clint Eastwood และ Bear Grylls เป็นตัวอย่างของ ISTP ที่ชอบการแก้ปัญหาผ่านการลงมือทำ
งานที่เหมาะสม : งานที่เหมาะสมกับ ISTP คือ งานที่ต้องใช้ทักษะทางเทคนิคหรือการแก้ปัญหาฉับไว เช่น ช่างเทคนิค นักวิศวกร หรือผู้พัฒนาเทคโนโลยี

6. ISFP (The Adventurer)

ลักษณะ : ISFP เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และรักอิสระ พวกเขาชอบทำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและความงาม และสามารถรับรู้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ดี
ตัวอย่างคนดัง : นักออกแบบแฟชั่น เช่น Coco Chanel และนักดนตรี Bob Dylan เป็นตัวอย่างของ ISFP
งานที่เหมาะสม : ISFP มักจะเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น การออกแบบแฟชั่น งานศิลปะ หรือการถ่ายภาพ

7. INFP (The Mediator)

ลักษณะ : INFP เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และมองโลกในแง่ดี พวกเขามักจะมีความเชื่อมั่นในค่านิยมของตัวเองและพยายามหาความหมายในชีวิต
ตัวอย่างคนดัง : William Shakespeare และ Princess Diana เป็นตัวอย่างของ INFP ที่มีอุดมการณ์และใส่ใจคนอื่น
งานที่เหมาะสม : INFP เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการช่วยเหลือผู้อื่น เช่น นักเขียน ผู้บำเพ็ญประโยชน์ หรือที่ปรึกษา

8. INTP (The Logician)

ลักษณะ : INTP เป็นนักคิดที่ชอบวิเคราะห์และหาเหตุผลเบื้องหลังสิ่งต่างๆ พวกเขามักจะสนใจในวิทยาศาสตร์และตรรกะ และชอบงานที่ท้าทายให้ใช้ความคิดในการแก้ปัญหา
ตัวอย่างคนดัง : Albert Einstein และ Charles Darwin เป็นตัวอย่างของ INTP ที่มีความคิดลึกซึ้งและชอบค้นคว้า
งานที่เหมาะสม : INTP เหมาะกับงานที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ หรือที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์

9. ESTP (The Entrepreneur)

ลักษณะ : ESTP เป็นคนที่กระตือรือร้นและชอบความท้าทาย พวกเขามักจะชอบลงมือทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นทันที
ตัวอย่างคนดัง : Donald Trump และ Winston Churchill เป็นตัวอย่างของ ESTP ที่มีความกล้าหาญและชอบการลงมือทำ
งานที่เหมาะสม : ESTP เหมาะกับงานที่ต้องการการตัดสินใจเร็วและการแก้ปัญหาฉับไว เช่น นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ หรือผู้จัดการ

10. ESFP (The Entertainer)

ลักษณะ : ESFP เป็นคนที่รักการเข้าสังคมและมักจะมีความร่าเริง พวกเขาชอบทำให้ผู้อื่นมีความสุขและมักจะเป็นศูนย์กลางของความสนใจในงานสังคม
ตัวอย่างคนดัง : Marilyn Monroe และ Robin Williams เป็นตัวอย่างของ ESFP ที่มีความสามารถในการทำให้คนรอบข้างมีความสุข
งานที่เหมาะสม : ESFP เหมาะกับงานที่ต้องใช้ทักษะการแสดงออก เช่น นักแสดง นักร้อง หรือพิธีกร

คาวามิ อุจิมัทฉะ พรีเมียม 100%

11. ENFP (The Campaigner)

ลักษณะ : ENFP เป็นคนที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ พวกเขาชอบการทำงานร่วมกับผู้อื่นและสามารถกระตุ้นให้คนรอบข้างมีแรงบันดาลใจ
ตัวอย่างคนดัง : Ellen DeGeneres และ Walt Disney เป็นตัวอย่างของ ENFP ที่มีความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ
งานที่เหมาะสม : ENFP เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการกระตุ้นแรงบันดาลใจ เช่น นักเขียน ผู้สร้างสรรค์ หรือที่ปรึกษาด้านการตลาด

12. ENTP (The Debater)

ลักษณะ : ENTP ชอบท้าทายและค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการแก้ปัญหา พวกเขามักจะมีไหวพริบและชอบการอภิปรายเพื่อค้นหาความจริง
ตัวอย่างคนดัง : Richard Branson หรือ Walt Disney เป็นตัวอย่างของคนที่มีลักษณะชอบท้าทายและคิดนอกกรอบ
งานที่เหมาะสม : ENTP เหมาะกับงานที่ต้องใช้การคิดอย่างลึกซึ้งและสามารถเจรจาต่อรองได้ดี เช่น นักกฎหมาย นักธุรกิจ หรือที่ปรึกษากลยุทธ์

13. ESTJ (The Executive)

ลักษณะ : ESTJ เป็นคนที่มักจะมีระเบียบและรักการบริหาร พวกเขาชอบทำสิ่งต่างๆ ตามแผนและชัดเจน
ตัวอย่างคนดัง : Margaret Thatcher และ George Washington เป็นตัวอย่างของ ESTJ ที่มีความเป็นผู้นำและระเบียบ
งานที่เหมาะสม : ESTJ เหมาะกับงานที่ต้องการการจัดการและการบริหาร เช่น ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ หรือที่ปรึกษาด้านธุรกิจ

14. ESFJ (The Consul)

ลักษณะ : ESFJ เป็นคนที่อบอุ่นและดูแลผู้อื่น พวกเขามักจะเป็นผู้ที่ทำให้ทีมงานมีความสุขและสะดวกสบาย
ตัวอย่างคนดัง : Taylor Swift และ Jennifer Lopez เป็นตัวอย่างของ ESFJ ที่มีความสามารถในการดูแลและสร้างความสัมพันธ์
งานที่เหมาะสม : ESFJ เหมาะกับงานที่ต้องให้ความใส่ใจและดูแลคนอื่น เช่น ครู พยาบาล หรือผู้จัดกิจกรรม

15. ENFJ (The Protagonist)

ลักษณะ : ENFJ เป็นผู้นำที่มีแรงบันดาลใจและสามารถทำให้คนรอบข้างรู้สึกดี พวกเขามีทักษะในการสร้างแรงบันดาลใจและมีความเข้าใจในผู้อื่น
ตัวอย่างคนดัง : Barack Obama และ Oprah Winfrey เป็นตัวอย่างของ ENFJ ที่มีความสามารถในการเป็นผู้นำ
งานที่เหมาะสม : ENFJ เหมาะกับงานที่ต้องการการบริหารและสร้างแรงบันดาลใจ เช่น ผู้นำที่ปรึกษา หรือผู้ให้คำปรึกษาด้านชีวิต

16. ENTJ (The Commander)

ลักษณะ : ENTJ เป็นคนที่ชัดเจนในการวางแผนและมีความสามารถในการตัดสินใจ พวกเขาชอบความท้าทายและมักจะมีทักษะในการเป็นผู้นำ
ตัวอย่างคนดัง : Angela Merkel และ Steve Jobs เป็นตัวอย่างของ ENTJ ที่มุ่งมั่นและท้าทายตลอดเวลา
งานที่เหมาะสม : ENTJ เหมาะกับงานที่ต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็วและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เช่น ผู้บริหาร นักกลยุทธ์ หรือผู้นำองค์กร

MBTI ช่วยอะไรเราได้บ้าง ? มาดูตัวอย่างเพิ่มเติมกัน !

1. ช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง

MBTI ช่วยให้เรารู้จักตัวเองในเชิงลึกมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าใจว่าทำไมเราถึงเลือกที่จะทำบางอย่างในแบบที่เราทำ ตัวอย่างเช่น คนที่เป็น INTP อาจชอบการคิดวิเคราะห์ และมองหาความหมายในสิ่งต่างๆ มากกว่าการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ตายตัว และนั่นอาจทำให้เราเข้าใจได้ว่า เราไม่ได้เลือกสิ่งเหล่านี้เพราะว่าไม่พยายาม แต่เป็นเพราะบุคลิกภาพของเราที่ชอบการวิเคราะห์และหาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ

นอกจากนี้ MBTI ยังช่วยให้เรารู้ถึงจุดแข็งของตัวเอง เช่น คนที่เป็น ENFJ อาจมีทักษะในการสื่อสารและการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น ซึ่งอาจเป็นจุดแข็งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการทำงานด้านที่เกี่ยวข้องกับการดูแลคนหรือการเป็นผู้นำ เมื่อเข้าใจจุดแข็งเหล่านี้แล้ว เราก็สามารถนำมันไปใช้ในการตัดสินใจต่างๆ ในชีวิต เช่น การพัฒนาทักษะเพิ่มเติม หรือการเลือกงานที่สอดคล้องกับความถนัดได้ เป็นต้น

2. ช่วยให้เราเข้าใจผู้อื่น

การเข้าใจตัวเองเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่ง MBTI ยังช่วยให้เรามีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับคนรอบข้างด้วย เมื่อเรารู้ว่าบุคลิกภาพของคนอื่นเป็นอย่างไร เราจะเข้าใจมุมมองและวิธีการคิดที่ต่างจากเรา ซึ่งจะช่วยปรับการสื่อสารและความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำงานกับคนที่เป็น ISTJ ซึ่งมักให้ความสำคัญกับระเบียบและการทำงานอย่างมีขั้นตอน หากเรารู้ว่าเขาชอบทำงานตามแผนและไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน เราก็สามารถสื่อสารกับเขาได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น เช่น การเตรียมข้อมูลล่วงหน้าและให้เวลาในการตัดสินใจแทนที่จะเร่งเค้าให้ตัดสินใจเร็วเกินไป

ในทางกลับกัน ถ้าคุณทำงานกับคนที่เป็น ENFP ซึ่งชอบการเปลี่ยนแปลงและการทำงานที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ การเข้าใจลักษณะเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถให้พื้นที่ในการคิดและแสดงออกได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเครียดและทำให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. เลือกอาชีพที่เหมาะสม

การรู้จักตัวเองผ่าน MBTI ไม่เพียงแค่ช่วยให้เราเข้าใจการทำงานของตัวเอง แต่ยังช่วยให้เรารู้ว่าอาชีพไหนที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพของเรามากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น คนที่เป็น ENTP ซึ่งมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบหาความท้าทาย และมักสนใจในเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ๆ เหมาะกับงานที่ต้องการไอเดียใหม่ๆ และการคิดนอกกรอบ เช่น งานในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือการทำงานในด้านการตลาดที่ต้องคิดแคมเปญใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งลักษณะนี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถต่อยอดและสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่คนอื่นไม่เคยนึกถึงมาก่อน

อีกตัวอย่างคือ ISFP ซึ่งเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และชอบงานที่สามารถแสดงออกได้อย่างอิสระ คนที่เป็น ISFP มักจะชอบทำงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะหรือการสร้างสรรค์ เช่น การออกแบบแฟชั่น การถ่ายภาพ หรือการทำงานในด้านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะการทำงานเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้เต็มที่ และรู้สึกเติมเต็มในทุก ๆ วัน

ดังนั้นการเข้าใจบุคลิกภาพของตัวเองจาก MBTI จะช่วยให้เราสามารถเลือกอาชีพที่ไม่เพียงแต่เหมาะสมกับตัวเรา แต่ยังทำให้เรามีความสุขในการทำงานและพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่องนั่นเองค่ะ

Image Credit : canva.com-pro

รู้ MBTI ของตัวเองแล้ว จะพัฒนาตัวเองยังไงดี ?

เมื่อคุณรู้ MBTI ของตัวเองแล้วก็สามารถพัฒนาตัวเองได้โดยการใช้ข้อมูลจากแบบทดสอบนี้เพื่อเสริมสร้างจุดแข็งและพัฒนาจุดอ่อนต่างๆ ให้ดีขึ้นค่ะ ลองมาดูคำแนะนำเพิ่มเติมกันนะคะ

1. เข้าใจ และยอมรับตัวเอง

  • ยอมรับความแตกต่าง : ความแตกต่างของแต่ละประเภทบุคลิกภาพคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นคนที่มีเอกลักษณ์ ควรยอมรับจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง และไม่เปรียบเทียบกับผู้อื่นมากเกินไป
  • รับฟังความรู้สึกของตัวเอง : การรู้จักและเข้าใจตัวเองเป็นขั้นตอนแรกของการพัฒนาตัวเอง โดยการมองหาวิธีการทำให้เรารู้สึกดีในทุกๆ วัน

2. เสริมสร้างจุดแข็ง

  • ใช้จุดแข็งให้เต็มที่ : หากคุณรู้ว่าตัวเองมีจุดแข็งในด้านใด เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการเป็นผู้นำ หรือทักษะในการทำงานเป็นทีม ก็ให้พยายามพัฒนาและใช้งานจุดแข็งเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดในงานและชีวิตประจำวัน
  • ตั้งเป้าหมายตามจุดแข็ง : ถ้าคุณเป็นคนที่มีกลยุทธ์ดี (เช่น ENTJ) ให้ลองใช้ความสามารถนี้ในการวางแผนระยะยาวให้ชัดเจน หรือถ้าคุณเป็นคนที่รักการช่วยเหลือผู้อื่น (เช่น ESFJ) ให้ลองทำงานที่ดูแลคนรอบข้าง

3. พัฒนาจุดอ่อน

  • พัฒนาในด้านที่ไม่ถนัด : หากคุณเป็นคนที่ชอบทำงานคนเดียวและไม่ชอบการพูดคุยกับคนอื่นมากนัก (เช่น INTJ หรือ ISTJ) ลองฝึกทักษะการสื่อสารกับผู้อื่นบ่อยขึ้น หรือถ้าคุณเป็นคนที่มักจะทำงานเร็วโดยไม่คิดรอบคอบ (เช่น ESTP) ก็อาจจะต้องพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และวางแผนให้มากขึ้น
  • พยายามปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ : เช่น ถ้าคุณมีลักษณะเป็น ISFP และชอบความเป็นส่วนตัวมาก อาจต้องพยายามปรับตัวในการทำงานเป็นทีมมากขึ้น เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น

4. เรียนรู้จากผู้อื่น

  • ลองทำความเข้าใจ MBTI ของคนอื่น : เข้าใจประเภทบุคลิกภาพของเพื่อนร่วมงาน หรือคนในครอบครัว จะช่วยให้คุณปรับตัวได้ง่ายขึ้นและเข้าใจการทำงานของคนอื่นๆ ได้ดีขึ้น เช่น ถ้าคุณเป็น INFJ (ที่ชอบความสงบ) และทำงานกับ ESTP (ที่ชอบการกระตุ้นและทำงานรวดเร็ว) คุณก็จะสามารถปรับตัวให้ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น

5. ใช้ MBTI เป็นเครื่องมือในการเลือกอาชีพ

  • เลือกงานที่เหมาะสม : การรู้จักประเภทบุคลิกของตัวเองจะช่วยให้คุณเลือกงานที่เหมาะสมกับความสามารถและทักษะของตัวเอง เช่น ถ้าคุณเป็น ENFP ที่ชอบงานที่มีความหลากหลายและเสี่ยงภัย คุณอาจจะเลือกงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น หรือการทำงานที่ต้องการการคิดใหม่ๆ เช่น การตลาด หรือการออกแบบคอนเทนต์

6. ปรับทัศนคติต่อการพัฒนาตัวเอง

  • เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง : แม้ว่าคุณจะมีบุคลิกภาพแบบใดก็ตาม อย่าลืมว่า MBTI ไม่ใช่สิ่งที่คงที่ตลอดไป บุคลิกภาพสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามประสบการณ์และการเรียนรู้ใหม่ๆ ดังนั้น คุณควรเปิดใจรับการปรับปรุงและพัฒนาตัวเองตามสถานการณ์
  • มองหาความสมดุล : บางครั้งเราอาจจะต้องหาจุดสมดุลระหว่างจุดแข็งและจุดอ่อน เช่น ถ้าคุณเป็น INTP (นักคิด) คุณอาจต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง และมุ่งมั่นพัฒนาทักษะการสื่อสารให้ดีขึ้น

7. สื่อสาร และทำงานร่วมกับคนที่แตกต่าง

  • ใช้ MBTI ในการทำงานร่วมกัน : หากคุณเข้าใจตัวเองและผู้อื่นตาม MBTI ก็จะทำให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความเข้าใจนี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น

Bewell โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า โต๊ะทำงานเพื่อสุขภาพ

Inspire Now ! : MBTI เป็นแบบทดสอบบุคลิกภาพที่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น ผ่านการจำแนกบุคลิกภาพเป็น 16 ประเภท โดยอ้างอิงจาก 4 แกนหลัก แม้ว่าจะไม่สามารถบอกทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเราได้ แต่ก็เป็นแนวทางที่ดีในการพัฒนาตัวเองและความสัมพันธ์กับผู้อื่น สำหรับใครที่สนใจ MBTI ลองไปทำแบบทดสอบกันได้นะคะ มีภาษาไทยด้วย ส่วนใครที่สนใจแบบทดสอบเกี่ยวกับการค้นหาตัวเองอื่นๆ ลองคลิกอ่านเพิ่มเติมได้เลย

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันอยากพัฒนาตัวเองใช่ไหม ? ส่วนตัวเราเป็น INFJ มีใครได้เหมือนกันบ้างมั้ย ส่วนใครได้ MBTI แบบไหน มาคอมเมนต์แชร์กันบ้างนะคะ ♡

Facebook Comments

คนชอบเขียนที่ไม่ค่อยอยู่นิ่ง หลงรักดอกไม้ โดยเฉพาะไฮเดรนเยีย สนใจการพัฒนาตัวเองและใจเต้นทุกครั้งเมื่อได้ออกเดินทาง