โสดตลอดชีวิต, Marriage Strike

อยาก โสดตลอดชีวิต (Marriage Strike) ต้องวางแผนยังไง ? ชวนดูวิธีวางแผนชีวิต-การเงิน กัน !

มีใครยังโสดอยู่บ้างคะ ? โสดในที่นี้หมายถึง ไม่ได้มีแฟนหรือคนรัก ยังไม่ได้แต่งงาน รวมถึงบางคนที่ไม่ได้ต้องการแต่งงานสร้างครอบครัวในอนาคต การเพิ่มขึ้นของคนโสดเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก องค์การสหประชาชาติรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่าทั่วโลกมีผู้ที่เข้าสู่วัย 40 ปลายๆ โดยที่ยังไม่แต่งงานจำนวนเพิ่มขึ้น รวมถึงอายุที่แต่งงานครั้งแรกก็เพิ่มขึ้นด้วย และยังพบว่า ตั้งแต่ปี 1993 มีคนเป็นโสดมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บางคนก็อาจจะวางแผนเป็นโสดตลอดไป เพราะคิดว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ลำบากอะไร แต่ถ้าอยากเป็นโสดไปตลอดก็ต้องวางแผนชีวิตเอาไว้ในอนาคตด้วยเหมือนกัน ทั้งเรื่องเงิน เรืองไลฟ์สไตล์ อยาก โสดไปตลอดต้องวางแผนชีวิตยังไง ไปดูกันเลยค่ะ

ชวนคนอยาก โสดตลอดชีวิต มาวางแผนชีวิต และการเงินกัน !

โสดตลอดชีวิต, Marriage Strike
Image Credit : canva.com-pro

สำหรับคนที่อยากโสดไปตลอดชีวิตนั้น อาจด้วยเพราะเสน่ห์ของชีวิตโสดที่ไม่ต้องคาดหวังกับการแต่งงาน ปัจจุบันในหลายๆ คนก็ไม่ได้ยึดติดว่าการแต่งงานหรือมีลูกคือชีวิตที่สมบูรณ์แบบเหมือนสมัยก่อน การเก็บข้อมูลสำรวจในสมัยนี้ยังแสดงให้เห็นว่าคนโสดมักมีความสุข และสนุกกับชีวิต โดยเฉพาะในช่วงอายุ 40 ถึง 85 ปี ผู้ที่ครองตัวเป็นโสดจะมีความพึงพอใจในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ มีทัศนคติเชิงบวกอย่างมาก สามารถโสดอย่างมีความสุข และเป็นโสดตลอดชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้หญิง ซึ่งตรงกันข้ามกับความคิดของคนส่วนใหญ่ที่ว่าคนโสดจะเหงา เศร้าและลำบาก แต่จากการเก็บข้อมูลแล้ว พบว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะประเทศที่ทำได้ดีมากๆ อย่างสหรัฐอเมริกา สมาคมจิตวิทยาอเมริกันรายงานการศึกษาเมื่อปี 2016 ว่าคนโสดมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจเองได้ชัดเจน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตด้านพัฒนาการทางจิตใจมากกว่าคนที่แต่งงาน ตามเอกสารของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐปี 2022 พบมีคนโสดเป็นสัดส่วนเกือบ 50/50  นั่นคือ มีชาวอเมริกันที่แต่งงานแล้ว 135.9 ล้านคน และผู้ที่ไม่เคยแต่งงาน เป็นม่าย หรือหย่าร้าง 130.3 ล้านคน

ปรากฎการณ์คนโสดมีจำนวนมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงนั้น เกิดสิ่งที่เรียกว่า Marriage Strike ทั่วโลก กล่าวคือ ในผู้หญิงที่จบปริญญาตรีขึ้นไป มีแนวโน้มจะโสดและแต่งงานช้าลง เพราะระดับการศึกษาที่สูงขึ้นทำให้ได้รับค่าจ้างในตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น หากต้องแต่งงานและลาคลอดลูก ก็จะมีต้นทุนค่าเสียโอกาสมากขึ้นนั่นเอง แม้แต่ในประเทศไทยเองก็มีจำนวนผู้หญิงโสดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ไม่ใช่แค่แต่งงานช้าลงเท่านั้น แต่มีแนวโน้มว่าจะ “อยู่เป็นโสดตลอดชีวิต” อีกด้วย ก่อนที่จะไปดูแนวทางการวางแผนจัดการชีวิต จัดการการเงินของคนโสดว่าควรมีการวางแผนอย่างไรดี เรามาดูข้อดีข้อเสียของการเป็นโสดกันก่อนเลยค่ะ

Image Not Found
หนังสือThe Psychology of Money : จิตวิทยาว่าด้วยเงิน

Marriage Strike คืออะไรกันแน่ ?

โสดตลอดชีวิต, Marriage Strike
Image Credit : canva.com-pro

Marriage Strike เป็นการประท้วงทางสังคมโดยการปฏิเสธการแต่งงาน พบได้ทั้งในฝ่ายชายและหญิง โดยมีเหตุผลดังนี้

  1. ความกังวลด้านกฎหมาย : ผู้ชายกังวลเรื่องการแบ่งทรัพย์สินและค่าเลี้ยงดูหลังหย่า ส่วนผู้หญิงกังวลเรื่องความไม่เท่าเทียมในการคุ้มครองสิทธิและการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม
  2. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ : ทั้งสองฝ่ายกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการแต่งงาน การผ่อนบ้าน ภาระหนี้สิน และค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร
  3. ความกดดันทางสังคม : ผู้ชายกังวลเรื่องความคาดหวังให้เป็นผู้นำครอบครัว ส่วนผู้หญิงกังวลเรื่องการถูกคาดหวังให้ดูแลบ้านและครอบครัวควบคู่กับการทำงาน
  4. ความก้าวหน้าทางอาชีพ : ทั้งสองฝ่ายต้องการมุ่งเน้นการพัฒนาตนเอง และความก้าวหน้าในอาชีพมากกว่าการแต่งงาน
  5. อิสรภาพส่วนบุคคล : ต้องการอิสระในการใช้ชีวิต ไม่ต้องการผูกมัดหรือรับผิดชอบชีวิตของผู้อื่น
  6. ประสบการณ์ด้านลบ : ทั้งจากครอบครัวเดิมหรือความสัมพันธ์ในอดีต ทำให้เกิดความกลัวและไม่เชื่อมั่นในสถาบันการแต่งงาน
  7. การเปลี่ยนแปลงค่านิยม : สังคมยอมรับการอยู่เป็นโสดมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องแต่งงานเพื่อให้ได้รับการยอมรับเหมือนในอดีต
  8. ความไม่พร้อมทางจิตใจ : ความกังวลเรื่องความรับผิดชอบ ภาระทางอารมณ์ และการปรับตัวเข้าหากัน
  9. ทางเลือกในการใช้ชีวิต : มีรูปแบบความสัมพันธ์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การอยู่ด้วยกันโดยไม่แต่งงาน หรือการมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด
  10. ปัญหาด้านสุขภาพจิต : ความเครียด และความกดดันจากการต้องรับผิดชอบครอบครัว รวมถึงการรักษาสมดุลระหว่างงานและชีวิตครอบครัว

ข้อดี และข้อเสียทางการเงินของคนโสด

โสดตลอดชีวิต, Marriage Strike
Image Credit : canva.com-pro

สิ่งที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Marriage Strike อาจมีสาเหตุบางส่วนมาจากคนโสดมีอิสระในการใช้ชีวิต สามารถตัดสินใจเรื่องการเงินของตัวเองได้อย่างเต็มที่  อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการโสดตลอดชีวิตจึงต้องวางแผนและระมัดระวังการใช้จ่ายอย่างดี อาจต้องให้ความสำคัญกับการออมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อวางแผนเกษียณ หรือเป้าหมายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถใหม่ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจำพวกการไปฮันนีมูน การออกเดทวันครบรอบ การซื้อของขวัญให้คู่รัก ค่าใช้จ่ายลูกและครอบครัว เป็นต้น นอกจากนี้การเป็นโสดยังอาจทำให้มีเวลามากขึ้นในการหารายได้เสริมอีกด้วย

แต่ในทางกลับกัน คนโสดมีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงทางการเงินมากกว่าคนมีคู่ Pew Research Center พบว่า 37 เปอร์เซ็นต์ของคนโสดมีความเสี่ยงทางการเงิน ขณะที่คนมีคู่ครองมีเพียง 26 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ด้วยศักยภาพในการหารายได้สองคน การรวมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น เงินดาวน์บ้าน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ รวมถึงการหารค่าจ่ายอื่นๆ จึงอาจช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้มากกว่า และอีกด้านที่คนโสดเสียเปรียบก็คือ ในเรื่องของภาษี คู่สามีภรรยาจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น ค่าลดหย่อนคู่สมรสและบุตร และอาจมีเงินบริจาคเพื่อการกุศลมากขึ้น หรือนำเงินมาลงทุนในกองทุนที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้มากขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีต่างๆ มากมายที่คนโสดสามารถนำไปใช้ในการจัดการการเงินเพื่อประโยชน์ในการบรรลุเป้าหมายการเงินส่วนบุคคล มาดูเคล็ดลับที่น่านำไปใช้กันเลยค่ะ

แนวทางวางแผนคนโสด พร้อมรับปรากฏการณ์ Marriage Strike โสดแบบมีความสุขต้องทำอย่างไร มาดูกัน !

โสดตลอดชีวิต, Marriage Strike
Image Credit : canva.com-pro

1. กำหนดงบประมาณโดยมีเป้าหมายในใจ

แม้ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวในการจัดทำงบประมาณ แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีแผนการเงินที่รัดกุม การเป็นโสดตลอดชีวิตต้องพึ่งพาการเงินของตัวเองให้อยู่รอดอย่างมีความสุข จึงต้องมีการควบคุมค่าใช้จ่ายและจัดทำงบประมาณที่ช่วยบริหารจัดการการเงินได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นรายจ่ายประจำเดือน ค่าเช่าบ้าน ค่าสาธารณูปโภค การกำหนดงบประมาณจะช่วยเสริมสร้างนิสัยการออม และสามารถสร้างความมั่นคงให้ชีวิตได้ในอนาคต

2. ปลดหนี้ พร้อมตั้งเป้าว่าจะไม่มีหนี้อื่นนอกจากผ่อนบ้านผ่อนรถ

สถานะโสดมักมีภาระทางการเงินน้อยกว่าคนที่มีครอบครัว จึงสามารถชำระหนี้ได้อย่างเต็มที่ ถ้ายังมีหนี้เงินกู้เรียน หนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่ออื่นๆ ซึ่งจะกลายเป็นภาระมากขึ้น อย่ารีรอที่จะตั้งเป้าหมายให้หนี้กลายเป็นศูนย์ ใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นในแต่ละเดือนด้วยบัญชีเงินสดและใช้บัตรเครดิตให้น้อยที่สุด ยกเว้นการใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยว หรือการซื้อสิ่งของสำคัญอื่นๆ เพื่อรับคะแนนสะสมบัตรและแลกรับเงินคืน แต่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือ การปลดหนี้ให้เร็วที่สุดและไม่สร้างหนี้ใหม่

Image Not Found
หนังสือ เส้นทางสู่อิสรภาพการเงินอย่างแท้จริง

3. สร้างกองทุนฉุกเฉินที่มั่นคง

Marriage Strike ทำให้คนเป็นโสดและอยู่คนเดียว และเมื่อเป็นโสด รายได้ทั้งหมดมาจากตัวเราเพียงคนเดียว เมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้นจะขอความช่วยเหลือจากใคร?  การออมเงินในส่วนกองทุนฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่สูญเสียรายได้อย่างกะทันหัน (เช่น จากการตกงาน การเจ็บป่วย ) โดยตั้งเป้าหมายให้มีกองทุนฉุกเฉินที่ครอบคลุมค่าครองชีพอย่างน้อย 3 –  6 เดือน อย่าลืมคำนึงถึงค่าเช่า  ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ให้ครบถ้วน

4. หารายได้เสริม

การเป็นโสดตลอดชีวิตมักจะมีเวลาว่างอย่างเต็มที่และมีเวลาเป็นของตัวเองเสมอ และสามารถเอาเวลานี้ไปทำสิ่งที่หลงใหลและชื่นชอบได้อย่างเต็มที่  ไม่แน่ว่าสิ่งเหล่านั้นอาจกลายเป็นรายได้เสริม มีหลายอาชีพเสริมที่สร้างรายได้และมาพร้อมความสนุกสนาน ทั้งยังได้พัฒนาตัวเองไปในตัว เช่น การทำเพจ ทำคลิป reels รีวิวท่องเที่ยวแบบคนโสด เขียนหนังสือ สะสมและขายงานศิลปะ รับงานเก็บข้อมูลหรือช่วยงานวิจัย หรือทำอาหาร เป็นต้น

5. หาใครสักคนมาเป็นที่ปรึกษา

อยากจะโสดก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องอยู่คนเดียว คิดคนเดียวเสมอไป อาจจะมี Partner ที่เป็นเพื่อนหรือเป็นคนในครอบครัวมาเป็นที่ปรึกษาในชีวิต เป็นเพื่อนคู่คิดในเรื่องการงานการเงิน หรือตัดสินใจมีที่ปรึกษาการเงินมืออาชีพส่วนตัว เพื่อให้เราสามารถวางแผนชีวิตและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับการไปเดินช็อปปิ้ง เล่นกีฬา หรือออกกำลังกาย การมีเพื่อนหรือมีโค้ชส่วนตัว จะช่วยให้สนุกมากขึ้นและช่วยให้ทำได้ตามเป้าหมายได้ดีขึ้นด้วย

โสดตลอดชีวิต, Marriage Strike
Image Credit : canva.com-pro

6. วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวที่ประหยัดกว่า

การเดินทางคนเดียวก็สามารถประหยัดได้มากกว่าด้วยตารางเวลาที่ยืดหยุ่น สามารถจองตั๋วเครื่องบินหรือทัวร์ที่ถูกกว่าได้โดยไม่ต้องรอใคร เที่ยวบินก็ใช้สายการบินราคาประหยัดได้ตามใจชอบ สำหรับเรื่องที่พัก ก็สามารถเลือกโฮสเทลและ Airbnb ที่มีราคาย่อมเยา แถมยังได้โอกาสพบเจอผู้คนใหม่ๆ เพียงแค่ต้องวางแผนงบประมาณสำหรับการเดินทางล่วงหน้า และหลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิตให้มากที่สุด เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วค่าธรรมเนียมการแปลงบัตรเครดิตจะสูงกว่าบัตรเดบิต หรืออาจใช้บัตรเครดิตที่ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างประเทศ ซื้ออาหารบางมื้อจากร้านสะดวกซื้อแทนการรับทานอาหารร้านอาหาร สนุกกับสถานที่ท่องเที่ยวฟรี เช่น พิพิธภัณฑ์และสวนสาธารณะแทนการทำกิจกรรมราคาแพง เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็สามารถเซฟค่าใช้จ่ายได้เยอะแล้วค่ะ

7. ลดภาระภาษี

ไม่ว่าจะแต่งงานหรือเป็นโสด  ก็ควรมีการวางแผนภาษีให้ควบคู่ไปกับการวางแผนการเงิน และศึกษาวิธีการลดหย่อนภาษีเพื่อประโยชน์ต่อตนเอง คนแต่งงานมีค่าลดหย่อนคู่สมรสและบุตรมาช่วย ส่วนคนโสดตลอดชีวิตก็อย่าละเลยที่จะลงทุนในสิ่งที่ช่วยลดภาระภาษีได้ เช่น การซื้อกองทุน RMF SSF และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการจ่ายเบี้ยประกัน เป็นต้น

8. มีประกันที่เพียงพอ

การทำประกันยังเป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ฯลฯ แต่ความจริงแล้ว ประกันคือสิ่งจำเป็นและเป็นสิ่งแรกที่ควรเตรียมพร้อมสำหรับ Marriage Strike เพื่อคุ้มครองเงินเก็บเงินลงทุนจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ประกันสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน ยิ่งหากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคบางอย่างหรือหากมีความเสี่ยงเป็นโรคในอนาคต การเจ็บป่วยคือค่าใช้จ่ายและยังทำให้เราขาดรายได้อีกด้วย และถึงแม้จะเป็นคนโสด หากเจ็บป่วยขึ้นมา พ่อแม่พี่น้องของเราก็ยังต้องดูแลเรา ค่ารักษา ค่าโรงพยาบาล และหนี้สินอื่นๆ ก็จะตกอยู่กับผู้ที่เรารัก  ประกันชีวิตและประกันสุขภาพอื่นๆ จึงไม่ใช่สิ่งไร้สาระของคนโสดเลยค่ะ

9. เริ่มใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้น

จะโสดอย่างเป็นสุขได้อย่างแท้จริงต้องเริ่มจากการมีความสุขในทุกๆ วัน และโสดอย่างมีความสุขในทุกช่วงเวลา อย่าตกอยู่ในความคิดที่ว่า “สักวัน ฉันจะมีความสุขมากขึ้น ทำสิ่งที่สนุกมากขึ้น หรือไปเที่ยวมากขึ้น ถ้า…” จงใช้ชีวิตอยู่เพื่อวันนี้ อย่ายึดติดกับเงื่อนไขมากมาย และกระตุ้นตัวเองให้เปิดรับความสุข  ส่งเสริมสุขภาพให้ดีมากขึ้นทั้งกายและใจ ในช่วงเวลาปัจจุบันและในทุกๆ วัน

Image Not Found
หนังสือ รู้อย่างนี้ มีเงิน 1,000,000 ตั้งนานแล้ว

Inspire Now ! : ปัจจุบันจำนวนคนโสดตลอดชีวิตมีเพิ่มขึ้น และมีความจำเป็นมากที่ต้องตระหนักถึงการบริหารจัดการเงินของตนเองเพื่อเตรียมตัวโสดในระยะยาว เพราะคนโสดต้องรับผิดชอบทางการเงินทั้งหมดของตัวเองและเตรียมตัวอยู่คนเดียว จึงต้องวางแผนการลงทุนและเก็บออมให้รัดกุม มีกฎทองของคนโสดที่ประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 3 ประการ คือ มีประกันสุขภาพที่เพียงพอ มีกองทุนฉุกเฉินสำหรับตัวเอง และมีการวางแผนเกษียณที่รอบคอบ ยิ่งเริ่มวางแผนเกษียณเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เปรียบมากเท่านั้น และองค์ประกอบทั้งสามประการมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน มีผลกระทบต่อกันเหมือนโดมิโน จึงต้องวางรากฐานที่ดี เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ในอนาคต

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? มีใครเตรียมตัวโสดในระยะยาวบ้างคะ ? วางแผนชีวิตเอาไว้ยังไงบ้าง มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : nerdwallet.com, bankrate.com, thaipublica.org, economictimes.indiatimes.com

Facebook Comments

แพทย์เวชศาสตร์ความงาม ผู้หลงไหลการพัฒนาตัวเอง ชอบแบ่งปันประสบการณ์ รักการอ่านและการท่องเที่ยว