บัตรเครดิตค้ำประกันเงินฝาก อีกทางเลือกของคนทำบัตรเครดิตไม่ผ่าน !

ในยุคปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาเป็นสังคมไร้เงินสดแทบจะเต็มตัวทำให้บัตรเครดิตได้กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งไม่แพ้บัตรเดบิต เพราะสะดวกในการใช้รูดจับจ่ายซื้อของ แต่สำหรับบางคนการทำบัตรเครดิตอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก ด้วยเพราะไม่มีสลิปเงินเดือน หรือยังศึกษาอยู่ เช่น คนที่มีอาชีพอิสระ เป็นฟรีแลนซ์ หรือพ่อค้าแม่ขาย ที่อาจเคยทำบัตรเครดิตไม่ผ่าน หากคุณคือบุคคลในกลุ่มนี้และต้องการมีบัตรเครดิตสักใบเพื่อใช้จ่าย และใช้บริการ payoneer รับเงินผ่านบัญชีนั้น เรามีอีกวิธีมาแนะนำคือ บัตรเครดิตค้ำประกันเงินฝาก ค่ะ

บัตรเครดิตค้ำประกันเงินฝาก คืออะไร ? ใครบ้างที่ทำได้ ?

บัตรเครดิตค้ำประกันเงินฝาก คือบัตรเครดิตที่สมัครโดยการเปิดบัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำ เพื่อใช้ในการค้ำประกันการใช้บัตรเครดิต โดยจำเป็นต้องมีเงินจำนวนหนึ่งตามที่แต่ละธนาคารกำหนด แทนการยื่นเอกสารแสดงรายได้อย่างสลิปเงินเดือน จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ทำอาชีพอิสระ ไม่ว่าจะฟรีแลนซ์ พ่อค้า แม่ค้า หรืออาชีพอื่นๆ ที่ไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอน ไม่มีเอกสารแสดงรายได้ แต่สามารถทำบัตรเครดิตนี้ได้ เพียงมีเงินก้อนจำนวนหนึ่งค้ำประกันไว้กับธนาคารนั่นเอง หมดปัญหาการทำบัตรเครดิตไม่ผ่านเลยหล่ะค่ะ

อยากสมัครบัตรเครดิตค้ำประกันเงินฝาก ต้องทำยังไง ?

การสมัครบัตรเครดิตค้ำประกันเงินฝากนั้น สามารถสมัครได้ที่ธนาคารและสถาบันการเงินได้เหมือนบัตรเครดิตทั่วไป และใช้เอกสารเพียง สำเนาบัตรประชาชน และสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นๆ แล้วกรอกใบสมัครบัตรเครดิต พร้อมเอกสารหนังสือยินยอมมอบเงินฝากเป็นประกันหนี้ของตนเอง สำหรับคนที่ยังไม่มีบัญชีเงินฝากประจำ ก็สามารถสมัครและฝากเงินเข้าบัญชีทุกๆ เดือนด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันตามระยะเวลา โดยแต่ละธนาคารจะมีข้อกำหนดวงเงินในบัญชีขั้นต่ำเอาไว้ เริ่มที่ 15,000-21,000 บาท หรือบางธนาคารที่มีบัตรเครดิตค้ำประกันเงินฝากสำหรับนิสิต นักศึกษา ก็กำหนดวงเงินในบัญชีแบบออมทรัพย์ไว้ที่ขั้นต่ำ 10,000 บาท

เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการเป็นเจ้าของบัตรเครดิตประเภทนี้ ก็ต้องเริ่มจากมีบัญชีเงินฝากประจำก่อน อย่างเช่น ธนาคารที่คุณต้องการสมัครบัตร กำหนดขั้นต่ำของวงเงินในบัญชีไว้ที่ 15,000 บาท คุณจะต้องออมเงินเข้าบัญชีฝากประจำทุกเดือนให้ได้เท่ากับขั้นต่ำคือ 15,000 บาทนั่นเอง โดยหากเปิดบัญชีไว้ที่ 3,000 บาท ก็ต้องฝากเงินเป็นจำนวน 3,000 บาทไปเรื่อยๆ จนครบระยะเวลา ก็จะสามารถนำบัญชีเงินฝากนี้ไปค้ำประกันบัตรเครดิตได้ ซึ่งทางธนาคารจะใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติเป็นระยะเวลาประมาณ 10-15 วัน ซึ่งจะใช้เวลาในการอนุมัตินานกว่าเมื่อเทียบกับการทำบัตรเครดิตแบบแสดงรายได้ และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว เราก็จะมีบัตรเครดิตค้ำประกันเงินฝากที่นำไปรูดใช้จ่ายได้เหมือนกับบัตรเครดิตทั่วไป ในวงเงินบัตรที่ตายตัว ซึ่งวงเงินนั้นก็คือเท่ากับจำนวนเงินฝากในบัญชี เช่น หากคุณยื่นสมัครบัตรเครดิตด้วยจำนวนเงินฝากในบัญชี 30,000 บาท ก็จะได้วงเงิน 100% คือ ใช้จ่ายได้ไม่เกิน 30,000 บาท และไม่สามารถขอเพิ่มวงเงินฉุกเฉินได้ รวมถึงจะไม่ได้รับการเพิ่มวงเงินในอนาคตเหมือนอย่างกับบัตรเครดิตทั่วไป จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาวินัยทางการเงิน หรือจำกัดการใช้เงินของตัวเองไปในตัวด้วยค่ะ

ในส่วนของการใช้งานบัตรเครดิตประเภทนี้ สามารถใช้รูดก่อน จ่ายทีหลัง และมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยเหมือนกับบัตรเครดิตทั่วไปเลยค่ะ รวมถึงเมื่อถึงรอบบิลและเราจ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้ธนาคารเช่นเดียวกัน และยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ คะแนนสะสม เครดิตเงินคืน และอื่นๆ ที่มีในบัตรแต่ละใบได้ รวมถึงหลายๆ ธนาคารมักจะฟรีค่าธรรมเนียมในปีแรก ส่วนปีถัดๆ ไปก็จะมีค่าธรรมเนียมบัตรตามเงื่อนไขต่างๆ

คุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา

สำหรับบัตรเครดิตค้ำประกันเงินฝากนั้น ธนาคารและสถาบันการเงินจะมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้

1. ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือบางธนาคารก็ต้องมีอายุระหว่าง 20-65 ปี หรือ 20-80 ปี
2. มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท ต่อเดือนขึ้นไป และบางธนาคารระบุว่าต้องมีอายุงานขั้นต่ำ 4 เดือน หรือบางแห่ง 3-6 เดือนขึ้นไป
3. ธนาคารบางแห่งระบุว่าผู้มีรายได้ประจำ พนักงานบริษัท และข้าราชการ ก็สามารถสมัครได้4. บางธนาคาร เช่น ธนาคารกรุงศรีฯ ก็มีหลักเกณฑ์บัตรเครดิตสำหรับนักศึกษาด้วย เพียงมีอายุ 20-25 ปี และมีสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่มีเงินฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท

หากคุณสมบัติไม่ตรงตามหลักเกณฑ์พิจารณา ก็ไม่สามารถยื่นสมัครบัตรเครดิตนี้ได้ ส่วนการพิจารณาอนุมัตินั้นก็ขึ้นอยู่กับธนาคารต่างๆ โดยทั่วไปแล้วหากเอกสารครบถ้วนเรียบร้อยตามข้อกำหนด ไม่มีประวัติติดเครดิตบูโร รวมถึงมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ก็มักจะผ่านการอนุมัติได้โดยง่ายค่ะ แต่หากว่าไม่ผ่านอนุมัติ ก็จะมีอีกทางเลือกคือ สมัครบัตรเสริมจากบุคคลในครอบครัวที่มีบัตรเครดิตอยู่แล้วค่ะ

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? นอกจากการใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันแล้วนั้น อย่าลืมออมเงินกันไว้สำรองในการใช้จ่ายด้วยนะคะ หรือถ้าใครสนใจออมทอง สามารถศึกษาวิธีการออมทองจากเว็บไซต์ของเราได้เลยค่ะ ♡

อ้างางอิงข้อมูลบางส่วนจาก : k-dit.com, krungsri.com, moneyhub.in.th, ktc.co.th

Featured Image Credit : freepik.com