ออกแบบปฏิทิน ตั้งโต๊ะ ด้วยตัวเองยังไง ? แจกไอเดียทำตามง่าย ใช้ได้จริง !
ชวนมาดูไอเดีย ออกแบบปฏิทิน ตั้งโต๊ะ สวยๆ พร้อม how to ที่ทำตามได้ง่ายๆ ออกแบบเองได้ตามความคิดสร้างสรรค์ และการใช้งาน ใช้เองก็ได้ ให้คนอื่นก็ดี
สำหรับน้องๆ ในช่วงชั้นมัธยมปลายแล้ว เมื่อขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็ต้องเริ่มวางแผนที่จะเรียนต่อในระดับชั้นมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม ถ้าเป็นในไทยเราและต้องการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐ ก็จะต้องผ่านการสอบตรงหรือยื่น Admission เลือกคณะและมหาวิทยาลัยที่เรียนช่วงที่ยังไม่จบชั้นมันธยมหกเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนที่ต้องการเรียนมหาวิทยาลัยเปิดหรือมีแผนว่าอยากจะไปศึกษาต่อต่างประเทศ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเรียนในคณะไหนดี การมี Gap Year ก็อาจจะช่วยให้เราได้คำตอบกับตัวเองมากขึ้น แล้วการมี Gap Year คืออะไร ? ทำไมถึงช่วยในเรื่องการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยของเรา ไปดูกันเลยค่ะ
สำหรับในไทยเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับการมี Gap Year กันมากนัก เพราะระบบการศึกษาในประเทศไทยเป็นระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆ หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ต่อทันที แต่สำหรับต่างประเทศ อย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา หรือในยุโรปที่มีมหาวิทยาลัยเปิดมากมาย บางคนก็เลือกที่จะมี Gap Year กัน แล้ว Gap Year คืออะไร ? การมี Gap Year เป็นการหยุดพักการเรียนโดยประมาณ 1 ปีหลังจากจบชั้นมัธยมปลาย เพื่อเป็นการใช้เวลาไปกับด้านอื่นๆ ของชีวิตนอกเหนือไปจากการเข้าเรียนในสถาบันการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเป็นอาสาสมัคร หรือไปท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยมีแนวคิดคือ ให้นักเรียนได้หยุดพักจากการศึกษาเล่าเรียน และมีเวลาคิดไตร่ตรองถึงความต้องการของตัวเองจริงๆ ว่าอยากจะเรียนต่อในสายไหน หรืออยากจะทำอะไร ด้วยการออกไปหาประสบการณ์เพิ่มเติม เพราะสำหรับบางคนอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่า อยากจะเรียนต่อด้านไหนในระดับมหาวิทยาลัย การมี Gap Year จึงเป็นการใช้ช่วงเวลานี้เพื่อค้นหาตัวเอง และคิดทบทวนถึงสิ่งที่อยากจะต่อยอดทางการศึกษาในอนาคตนั่นเองค่ะ
Gap Year คืออะไรที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน และมีนักเรียนที่จบจาก High School ใช้เวลาหยุดพักก่อนเข้าศึกษาต่อมากขึ้น ในช่วงปี 2016 Malia Obama ลูกสาวของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ Barack Obama ก็ได้มีการประกาศว่า ตัวเองจะมี Gap Year ก่อนเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย หลังจากนั้น คำว่า “Gap Year” ก็ถูกค้นหาในกูเกิลอย่างล้นหลาม ทั้งนี้ Cathleen Sheils รองผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายให้คำปรึกษาวิทยาลัยที่ Solomon Admissions Counseling ในนิวยอร์กก็ให้ความเห็นว่า หากใช้ช่วงเวลาของการมี Gap Year อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้รู้แนวทางในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยได้อย่างแน่วแน่ชัดเจนมากขึ้น
ตอนนี้ก็ได้รู้ความหมายของ Gap Year กันไปแล้ว แม้ในไทยเราอาจจะยังไม่เป็นที่นิยมนัก แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ต้องการจะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยรัของรัฐ ที่จะต้องมีการสอบโควต้าหรือ Admission ในทันทีที่เรียนจบชั้นมัธยมปลาย และกำลังตัดสินใจว่าเราจะมี Gap Year ดีหรือไม่ ? ลองมาดูข้อดีของการมี Gap year กันค่ะ
ช่วงเวลาของการเรียนในชั้นมัธยมปลายนั้น เราก็ต้องให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นหลัก บางคนอาจจะอยากทำงานเสริมหรืองาน Part time ที่เกี่ยวข้องกับคณะที่อยากเรียนต่อ แต่ก็ไม่ได้มีเวลามากพอ เช่น อยากลองมีประสบการณ์ด้านการออกแบบเสื้อผ้าเพื่อที่จะตัดสินใจได้ว่า จะเรียนสายแฟชั่นดีหรือไม่ การใช้ช่วงเวลา Gap Year เพื่อลองทำงานที่อยากทำ ก็จะช่วยให้เรามีประสบการณ์จากการทำงานจริง และทำให้เรามีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่มากขึ้น ได้รู้ว่าสิ่งที่เราจะเลือกเรียนต่อนั้น เป็นสิ่งที่เหมาะกับเราจริงๆ หรือไม่ สอดคล้องกับเป้าหมาย ความต้องการ และทักษะความสามารถของเรามากน้อยขนาดไหน เพราะการสมัครเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าจะเปลี่ยนคณะหรือเปลี่ยนสายที่เรียนได้ตามใจ การมีประสบการณ์จากการทำงานที่เกี่ยวข้องก่อน ก็จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างรอบครอบมากขึ้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงชีวิตของการเป็นนักเรียนนั้น ทุกๆ คนก็ต่างเคร่งเครียดไปกับการเรียนอย่างหนักหน่วง เราใช้เวลาในการเรียนหนังสือตั้งแต่อายุประมาณ 4 ขวบ ไปจนถึง 18 ปี ซึ่งอาจทำให้เราไม่ได้ใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ อย่างเช่นการทำกิจกรรมนอกรั้วโรงเรียน การค้นหางานอดิเรกที่ชอบหรือสิ่งที่สนใจเพิ่มเติม และบางคนอาจถึงขั้นหมดไฟในการเรียนได้ การหยุดพักจากการเรียนหรือการมี Gap Year คืออะไรที่จะช่วยชาร์ตพลังของเราได้ และทำให้เรามองเห็นความต้องการของตัวเองมากขึ้นว่า เราอยากจะศึกษาเพิ่มเติมในคณะใดหรือเส้นทางใด เพราะบางครั้งการเลือกคณะที่เรียนต่อด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยว ไม่อยากเรียน แต่ก็ต้องเลือกเพราะกรอบเวลาที่กำหนด ก็อาจทำให้เราเลือกสิ่งที่ไม่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของตัวเองก็เป็นได้
ช่วงเวลาของการมี Gap Year คือช่วงเวลาแห่งการค้นหาตัวเอง การออกไปท่องเที่ยว ไปทำกิจกรรมอื่นๆ ไปเป็นอาสาสมัคร หรือไปทำงาน Part time จะทำให้เราได้มองเห็นโอกาสต่างๆ มากขึ้นนอกเหนือจากการใช้ชีวิตอยู่ในห้องเรียน ทำให้เราได้เห็นว่ามีงานหรือมีอาชีพอื่นๆ อีกมากมายที่อยู่นอกเหนือความสนใจของเรา เป็นการเปิดโลกให้กว้างขึ้น ได้เห็นโอกาสในชีวิตมากขึ้น เพราะยังมีสิ่งที่ให้ได้เรียนรู้ให้ได้สัมผัสนอกเหนือไปจากตำราเรียนอีกมากมาย ทำให้เรามีมุมมองเกี่ยวกับการเรียนต่อที่เปลี่ยนแปลงไป และอาจค้นพบสิ่งที่ใช่มากขึ้นก็ได้ ทั้งยังเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิตอีกด้วย
เมื่อเราได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต เราก็จะได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ มากขึ้นด้วย จากบางคนใช้เวลาช่วง Gap Year ไปกับการทำงานพิเศษ แน่นอนว่าจะต้องได้เรียนรู้ทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานนั้นๆ เพิ่มเติมอย่างแน่นอน ทั้งยังได้เรียนรู้การเข้าสังคม ได้ฝึกทักษะการอยู่ร่วมกับคนหลากหลายเจนเนอเรชั่น ซึ่งทักษะการอยู่ร่วมกับคนที่แตกต่างกันนั้น เป็นที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน หากไปเป็นอาสาสมัครโครงการต่างๆ เช่น โครงการครูอาสาในพื้นที่ห่างไกล หรือการช่วยเหลือผู้สูงอายุในบ้านพักคนชรา เชื่อว่าจะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ในชีวิตที่อยู่นอกเหนือรั้วสถานศึกษาอย่างแน่นอน และถ้าใครเลือกที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ ก็จะได้ทักษะการเอาตัวรอดในต่างแดน การดูแลตัวเองในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เรามีการเรียนรู้และเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีมุมมองใหม่ๆ ในชีวิตมากขึ้น และอาจส่งผลดีต่อการเลือกเส้นทางการเรียนต่อของตัวเองก็ได้นะคะ
อีกหนึ่งข้อดีของการมี Gap Year คือ เราสามารถทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องรบกวนทางบ้าน บางคนอาจมีสิ่งของที่อยากได้ แต่การได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนในทุกๆ วันอาจทำให้มีเงินเก็บไม่มากพอ หรือบางคนอยากไปท่องเที่ยวต่างประเทศหรือมีทริปยาวๆ สักครั้งในชีวิตก่อนที่จะต้องไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยอย่างเข้มข้นเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี Gap Year คืออะไรที่สามารถทำให้เรามีเวลาไปทำงานเพื่อเก็บเงินได้ นอกจากจะได้เก็บเงินแล้ว ยังได้ประสบการณ์จากการทำงานอีกด้วย จากนั้นก็ทำตามเป้าหมายได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของที่อยากได้ เตรียมตัวออกเดินทาง หรือจะเก็บเงินไว้เพื่อเป็นเงินสำรอง ในกรณีที่เราต้องใช้เงินกะทันหันก็ได้เหมือนกันนะ
ซื้อประกันท่องเที่ยว อุ่นใจ ทุกการเดินทาง
แม้ว่าการมี Gap Year จะมีข้อดีหลายอย่าง หลักๆ คือการมีเวลาเพิ่มเติมในการออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อค้นหาตัวเอง ทั้งนี้ การมี Gap Year ก็อาจมีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกัน ข้อเสียของการมี Gap Year คืออะไรนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
เมื่อเราใช้เวลาในช่วงการมี Gap Year เป็นเวลา 1 ปี เพื่อไปทำสิ่งต่างๆ บางคนอาจจะไปทำงาน บางคนไปทำกิจกรรมอาสาสมัคร ไปท่องเที่ยว หรือไปใช้ชีวิตอื่นๆ ซึ่งก็อาจทำให้รู้สึกไม่อยากกลับมานั่งเรียนในห้องเรียนเหมือนเดิม หรือนิสัยการเรียนของเราอาจจะเปลี่ยนไป เช่น เบื่อการนั่งฟังแลกเชอร์จากอาจารย์เพราะคิดว่ามีอะไรที่น่าสนใจมากกว่านี้ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ชอบการเล่าเรียนหรืออยากเรียนต่อในมหาวิทยาลัยสักเท่าไหร่ อาจจะต้องพิจารณาการมี Gap Year ของตัวเองว่า การมี Gap Year คือสิ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้เราได้มีแนวทางการศึกษาต่อเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ หรือเป็นสิ่งที่ทำให้เราละทิ้งความตั้งใจในการศึกษาต่อของตัวเองไป
บางครั้งการมี Gap Year อาจทำให้เรารู้สึกตามหลังเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันในเรื่องของการเรียน เช่น เพื่อนๆ แต่ละคนได้ที่เรียนในมหาวิทยาลัยกันหมดแล้ว แต่เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเรียนต่อในคณะไหนดี หรือเราอาจจะกลายเป็นรุ่นน้องของเพื่อนก็ได้ ทั้งนี้ ถ้าคิดว่าเราไม่ได้กังวลกับตรงนี้มากเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร เพราะปัจจุบัน มีผู้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วยอายุที่หลากหลาย บางสถาบันเปิดหลักสูตรการเรียนรู้ตลอดชีวิต คือ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งอาจเป็นในรูปแบบของการเรียนออนไลน์ หรือเป็นคอร์สที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปสมัครเรียน ถ้าเราไม่ได้คิดมากในส่วนนี้ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาค่ะ
ในช่วงรอยต่อระหว่างการเรียนในชั้นระดับมัธยมปลายและการเข้ามหาวิทยาลัย ในคนที่เรียนต่อทันทีโดยไม่มี Gap Year นั้น ก็อาจจะมีแรงจูงใจและมีไฟในการเรียนอย่างเต็มที่ เพราะมีความต่อเนื่องกัน แต่สำหรับคนที่หยุดพักจากการเรียนไป 1 ปี อาจทำให้รู้สึกว่า ไม่มีแรงจูงใจในการเรียนต่อเท่าไหร่นัก และอาจเกิดความขี้เกียจที่จะเข้าศึกษาต่อได้ ทั้งนี้ ก็มีการศึกษาว่า คนที่มี Gap Year โดยส่วนใหญ่แล้ว ประมาณ 90% ก็กลับมาศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ดังนั้น อาจเป็นส่วนน้อยที่จะรู้สึกว่าไม่มีแรงจูงใจในการเรียนจนถึงขั้นตัดสินใจไม่ศึกษาต่อ แต่ถ้าเราวางแผนกับตัวเองไว้แล้วว่า ยังไงก็จะต้องเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ก็ไม่น่ากังวลอะไรค่ะ
สำหรับคนที่ใช้เวลา Gap Year ไปกับการท่องเที่ยวต่างประเทศหรือแม้แต่ในประเทศก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายในจำนวนไม่น้อย ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องไปคุยกับผู้ปกครองให้เข้าใจตรงกันว่า เราอาจจะต้องใช้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นการออกเดินทางค้นหาตัวเอง (ในกรณีที่ไม่มีเงินเก็บเป็นของตัวเองเพียงพอ) ผู้ปกครองบางคนก็อาจจะเข้าใจ แต่บางคนก็อาจจะไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วย ซึ่งต้องแล้วแต่บริบททางบ้านของแต่ละคนด้วยว่ามีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้ ต้องไตร่ตรองให้ดีว่า ค่าใช้จ่ายที่เสียไปนั้น จะก่อให้เกิดประโยชน์ในชีวิตของเราจริงๆ เพราะเราเสียทั้งเวลา เสียทั้งเม็ดเงิน หากใช้ไปอย่างไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้การมี Gap Year ของเราสูญเปล่าได้
Inspire Now ! : หากตัดสินใจจะมี Gap Year สิ่งที่ต้องทำเลยก็คือ เราจะต้องมีการวางแผนว่า เราจะใช้ช่วงเวลาหยุดพักนี้สำหรับการทำอะไร การตัดสินใจเว้นว่างจากเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยโดยที่ไม่ได้มีการวางแผนให้ถี่ถ้วนอาจทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หรือพลาดโอกาสสำคัญทางการศึกษาไป ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจมี Gap Year ต้องคิดทบทวนให้ดีว่า การหยุดพักของเรา ก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเราจริงๆ หรือไม่ ทำให้เราได้มีประสบการณ์มากขึ้น ได้เรียนรู้ชีวิตมากขึ้น ได้มองหาโอกาสใหม่ๆ มากขึ้นเพื่อใช้สำหรับการเลือกศึกษาต่อจริงๆ ใช่ไหม เพราะถ้าไม่เป็นไปตามนั้น ก็อาจทำให้เราเสียเวลาไปเต็มๆ 1 ปี ทั้งนี้ ไม่อาจบอกได้ว่า Gap Year เหมาะกับทุกคนหรือไม่ การมี Gap Year คือสิ่งที่แต่ละคนจะต้องวิเคราะห์ตัดสินใจโดยอิงจากตัวเองเป็นหลัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดถูกแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสมและความพร้อมนั่นเองค่ะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้ไอเดียในการค้นหาตัวเองใช่ไหม ? Gap Year คืออะไร ? ก็ได้รู้กันไปเรียบร้อย Gap Year มีความจำเป็นหรือไม่ ? อันนี้ไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน ใครมีประสบการณ์การมี Gap Year หรือมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง มาเล่าให้ฟังได้นะคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : gapyearassociation.org, usnews.com, post.edu
Featured Image Credit : freepik.com/freepic.diller
ชวนมาดูไอเดีย ออกแบบปฏิทิน ตั้งโต๊ะ สวยๆ พร้อม how to ที่ทำตามได้ง่ายๆ ออกแบบเองได้ตามความคิดสร้างสรรค์ และการใช้งาน ใช้เองก็ได้ ให้คนอื่นก็ดี
เกษียณแล้ว ทำอะไรดี แนะนำ อาชีพหลังเกษียณ พร้อมคำแนะนำในการเลือก ให้คุณได้ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข และรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง
ชวนดูวิธี โสดอย่างมีความสุข เอาใจสาวโสดทั้งที่ตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ พร้อมแชร์นิยาม โสด หมายถึง อะไร พร้อมวิธีพัฬฒนาตัวเองที่ทำได้จริง