X
agile mindset คือ, agile ตัวอย่าง

Agile Mindset คือ อะไร ? มารู้จัก ฝึกพัฒนาทั้งงาน และชีวิตส่วนตัวให้ดีขึ้นกัน !

Agile Mindset คือแนวคิดที่มุ่งเน้นความยืดหยุ่นและการปรับตัวในการทำงาน โดยให้ความสำคัญกับการเรียนรู้จากประสบการณ์และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง แนวคิดนี้ส่งเสริมให้ทีมงานกล้าทดลองสิ่งใหม่ๆ ยอมรับความผิดพลาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ และมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าเป็นสำคัญ การมีMindset นี้จะช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดนวัตกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน และในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะพาไปเข้าใจเรื่องนี้เพื่อปรับใช้ในชิวิตจริงกันค่ะ

Agile Mindset คือ อะไร ? ช่วยพัฒนาตัวเรา พัฒนางานเราได้อย่างไรบ้าง ?

agile_mindset คืออะไร, agile ตัวอย่าง
Image Credit : freepik.com

ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว การนำ Agile Mindset มาปรับใช้ในชีวิตส่วนตัวนั้นสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่ต่างจากการที่เราต้องปรับตัวและรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ในการทำงาน การมองชีวิตด้วยแนวคิดแบบ Agile จะช่วยให้เรารู้จักแบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นก้าวย่อยๆ พร้อมเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองจากผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละขั้น แทนที่จะยึดติดกับแผนการที่วางไว้อย่างตายตัว ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่องและมีความสุขกับการเติบโตในแบบที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

หนังสือ Find your Why คู่มือค้นหา “ทำไม” ที่แท้จริงของคุณ

Agile Mindset คืออะไร ?

Agile Mindset คือ ชุดความคิดและทัศนคติที่เน้นการปรับตัว ยืดหยุ่น และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง แทนที่จะยึดติดกับแผนหรือวิธีการเดิมๆ คนที่มี Mindset แบบนี้จะมองว่าความผิดพลาดและความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา พร้อมที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ และปรับเปลี่ยนแนวทางเมื่อพบว่าวิธีเดิมไม่ได้ผลดีที่สุด

หัวใจสำคัญของ Agile Mindset ประกอบด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงานเป็นทีมที่เน้นการสื่อสารและความร่วมมือ การแบ่งงานใหญ่เป็นชิ้นเล็กๆ ที่จัดการได้ และการพร้อมรับฟีดแบค (feedback) เพื่อปรับปรุงอยู่เสมอ แนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับการทำงานในทุกด้านและชีวิตส่วนตัว

สำหรับในการทำงาน วิธีคิดแบบนี้จะช่วยให้ทีมและองค์กรสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ในชีวิตส่วนตัว มันจะช่วยให้เรารับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยไม่ยึดติดกับแผนการที่วางไว้จนเกินไป และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในที่สุด

agile_mindset คืออะไร, agile ตัวอย่าง
Image Credit : freepik.com

ฝึกแล้วได้อะไร ?

การพัฒนา Agile Mindset เป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นปัจจุบัน เมื่อเราฝึกฝน และพัฒนา Mindset นี้อย่างต่อเนื่อง เราจะได้อะไร ลองมาดูกันค่ะ

  1. ความยืดหยุ่นและการปรับตัว : เราจะสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น มองเห็นโอกาสในทุกสถานการณ์ และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแผนงานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
  2. การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง : เรามองความผิดพลาดเป็นบทเรียนและโอกาสในการพัฒนา กล้าที่จะทดลองวิธีการใหม่ๆ และนำผลลัพธ์ที่ได้มาปรับปรุงการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
  3. การทำงานเป็นทีมที่ดีขึ้น : เราจะให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่เปิดกว้างและตรงไปตรงมามากขึ้น เน้นการทำงานร่วมกันแบบข้ามสายงาน และสร้างบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
  4. การส่งมอบคุณค่า : เราจะมุ่งเน้นการสร้างผลงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้จริง โดยเน้นการส่งมอบงานที่มีคุณค่าอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบก่อนส่งมอบ
  5. ประสิทธิภาพในการทำงาน : เราจะสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ดีขึ้น ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  6. ความเป็นผู้นำที่ดีขึ้น : เราจะพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำที่รู้จักรับฟัง เปิดโอกาสให้ทีมได้แสดงศักยภาพ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของทีมงาน

การพัฒนา Agile Mindset ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน แต่ต้องอาศัยการฝึกฝนและลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง คุณอาจเริ่มต้นจากการเลือกพัฒนาด้านที่คุณสนใจหรือเห็นว่าสำคัญที่สุดสำหรับคุณก่อนก็ได้ค่ะ

จะฝึก Agile Mindset ต้องทำยังไง ?

การฝึก Agile Mindset สามารถเริ่มได้จากการปรับเปลี่ยนมุมมองและพฤติกรรมทีละน้อย ลองมาดูขั้นตอนกันนะคะ

ขั้นที่ 1 : สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับความล้มเหลว

  • ฝึกมองความผิดพลาดเป็นโอกาสในการเรียนรู้
  • จดบันทึกบทเรียนจากความผิดพลาดทุกครั้ง
  • ถามตัวเองว่า “จากสิ่งที่เกิดขึ้น เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง?”

ขั้นที่ 2 : แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นก้าวย่อยๆ

  • เมื่อมีเป้าหมาย ให้แบ่งออกเป็นขั้นตอนเล็กๆ ที่ทำได้จริง
  • กำหนดระยะเวลาสั้นๆ สำหรับแต่ละขั้น เช่น 1-2 สัปดาห์
  • เริ่มลงมือทำทันทีโดยไม่รอให้แผนสมบูรณ์แบบ

ขั้นที่ 3 : ฝึกการรับ และให้ฟีดแบ็ค

  • ขอความเห็นจากคนรอบข้างอย่างสม่ำเสมอ
  • รับฟังโดยไม่ปกป้องตัวเอง
  • นำฟีดแบ็คมาปรับปรุงในรอบถัดไป

ขั้นที่ 4 : ฝึกการยืดหยุ่นของแผนงาน ไม่ยึดติดกับวิธีเดิมๆ

  • ทบทวนความคืบหน้าทุกสัปดาห์
  • พร้อมปรับเปลี่ยนแผนเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน
  • ไม่ยึดติดกับวิธีการเดิมๆ หากพบว่าไม่ได้ผล

ขั้นที่ 5 : สร้างวงจรการเรียนรู้ และพัฒนา

  • ตั้งเป้าหมายระยะสั้น
  • ลงมือทำ
  • ประเมินผล
  • ปรับปรุง
  • เริ่มวงจรใหม่

สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มจากเรื่องเล็กๆ ก่อน เช่น การจัดการงานประจำวัน หรือโปรเจ็กต์ส่วนตัวขนาดเล็ก แล้วค่อยๆ ขยายไปสู่เรื่องที่ใหญ่ขึ้น การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ Agile Mindset ค่อยๆ ฝังลึกเข้าไปในวิธีคิด และการทำงานของเราอย่างเป็นธรรมชาติ

Bewell โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า โต๊ะทำงานเพื่อสุขภาพ มอเตอร์ 2 ตัว ปรับความสูงได้ 4 ระดับ รับประกัน 5 ปี

agile_mindset คืออะไร, agile ตัวอย่าง
Image Credit : freepik.com

Agile Mindset ตัวอย่าง การฝึกกับการทำงาน

สถานการณ์ : ทีมของคุณได้รับมอบหมายให้พัฒนาแอปพลิเคชันตัวใหม่สำหรับลูกค้า

ขั้นตอนการฝึก :

  1. เริ่มจากการแบ่งงานใหญ่เป็นชิ้นเล็กๆ แทนที่จะวางแผนทั้งโครงการในครั้งเดียว ให้แบ่งเป็นฟีเจอร์ย่อยๆ เช่น แบ่งเป็น ระบบล็อกอิน, หน้าโปรไฟล์ผู้ใช้, ระบบค้นหา
  2. ตั้งเป้าหมายระยะสั้น เช่น กำหนดว่าใน 2 สัปดาห์นี้จะทำฟีเจอร์ไหนให้เสร็จ โฟกัสทำทีละส่วน ไม่ต้องกังวลเรื่องงานในอนาคตมากเกินไป
  3. รับฟีดแบ็คบ่อยๆ ทุกสัปดาห์ให้นำงานที่ทำไปให้ลูกค้าดู ถามความเห็นทีมงานทุกวันว่าติดปัญหาอะไรไหม แล้วปรับแผนตามฟีดแบคที่ได้รับทันที
  4. ยอมรับการเปลี่ยนแปลง หากลูกค้าขอเปลี่ยนฟีเจอร์ ให้มองว่าเป็นโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น และไม่ยึดติดกับแผนเดิม พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์
  5. เรียนรู้จากความผิดพลาด หลังจบแต่ละช่วงงาน ให้ประชุมทีมพูดคุยว่าอะไรทำได้ดี อะไรควรปรับปรุง แล้วนำบทเรียนไปใช้ในงานช่วงต่อไป
  6. สื่อสารแบบเปิดกว้าง โดยจัดประชุมทีมสั้นๆ ทุกเช้า แชร์ความคืบหน้า และปัญหา ใครเจอปัญหาให้บอกทันที ไม่ต้องรอให้ปัญหาลุกลาม

ตัวอย่างการฝึกกับในชีวิตส่วนตัว

สถานการณ์ : ตั้งเป้าพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเอง เพื่อใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน

ขั้นตอนการฝึก :

  1. แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นชิ้นเล็กๆ แทนที่จะตั้งเป้า “พูดภาษาอังกฤษให้เก่ง” ซึ่งวัดผลยาก ให้แบ่งเป็นฝึกฟัง ฝึกพูด ฝึกอ่าน ฝึกเขียน แยกเป็นทักษะย่อยๆ
  2. ตั้งเป้าหมายระยะสั้นที่วัดผลได้ เช่น สัปดาห์นี้จะดูซีรีส์ภาษาอังกฤษไม่เปิดซับ 1 ตอนต่อวัน ฝึกพูดกับตัวเองในกระจก 15 นาทีทุกเช้า หรืออ่านบทความภาษาอังกฤษ 1 บทความต่อวัน
  3. ทดลองและปรับเปลี่ยน ลองวิธีการเรียนหลายๆ แบบ เช่น แอพเรียนภาษา ดูยูทูป จับคู่สนทนา แล้วสังเกตว่าวิธีไหนได้ผลดีกับตัวเอง ถ้าวิธีไหนไม่เวิร์ค ก็เปลี่ยนวิธีใหม่ ไม่ยึดติด
  4. เก็บข้อมูลและประเมินผล เช่น จดบันทึกคำศัพท์ใหม่ที่เรียนรู้ทุกวัน อัดเสียงตัวเองพูดทุกเดือน เพื่อดูพัฒนาการ ทำแบบทดสอบเล็กๆ เพื่อวัดความก้าวหน้า
  5. ยืดหยุ่นในแต่สถานการณ์ เช่น วันไหนเหนื่อยมาก อาจเปลี่ยนจากฝึกพูดเป็นดูซีรีส์แทน ถ้ามีโอกาสคุยกับชาวต่างชาติ ก็ฉวยโอกาสฝึกทันที โดยปรับตารางเรียนให้เข้ากับชีวิตประจำวัน
  6. เรียนรู้จากความผิดพลาด ถึงจะพูดผิดไวยากรณ์ก็ไม่เป็นไร จดไว้แล้วแก้ไขในครั้งหน้า ออกเสียงผิด ก็ถือเป็นโอกาสได้เรียนรู้ เพราะทุกความผิดพลาดคือบทเรียน ไม่ใช่ความล้มเหลว
agile_mindset คืออะไร, agileตัวอย่าง
Image Credit : freepik.com

คำแนะนำอื่นๆ ในการฝึก Agile Mindset

การฝึกพัฒนาวิธีคิดของเรานั้น ต้องอาศัยความต่อเนื่อง ฝึกบ่อยๆ ใช้บ่อยๆ เพราะแค่เข้าใจอย่างเดียว อาจไม่สามารถเปลี่ยนวิธีคิดของเราได้ ลองมาดูคำแนะนำกันนะคะ

  1. ฝึกการตั้งคำถามกับสิ่งที่เป็นอยู่เสมอ (Question the Status Quo) : แทนที่จะยอมรับว่า “เราทำแบบนี้มาตลอด” ลองถามตัวเองว่า “มีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม?” หรือ “ทำไมเราถึงทำแบบนี้?” การตั้งคำถามจะช่วยให้เรามองเห็นโอกาสในการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง
  2. มองความล้มเหลวเป็นข้อมูล : เมื่อเกิดความผิดพลาด แทนที่จะรู้สึกแย่ ให้มองว่านี่คือข้อมูลที่มีค่า ลองวิเคราะห์ว่าเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง และจะปรับปรุงอย่างไรในครั้งต่อไป
  3. ฝึกทำงานแบบ T-shaped skills : คือการมีความเชี่ยวชาญลึกในด้านหลักของตัวเอง (แนวตั้งของตัว T) พร้อมกับมีความรู้พื้นฐานในด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (แนวนอนของตัว T) ซึ่งจะช่วยให้เราทำงานข้ามสายงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. สร้างวินัยในการทำ Retrospective ส่วนตัว : ลองจัดเวลาทุกสัปดาห์เพื่อทบทวนว่าสิ่งไหนที่เราทำได้ดี สิ่งไหนที่ควรปรับปรุง และวางแผนการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
  5. ฝึกการรับฟังอย่างตื่นตัว (Active Listening) : ในการประชุมหรือพูดคุยกับทีม พยายามฟังอย่างตั้งใจโดยไม่ด่วนตัดสินหรือคิดคำตอบ เพื่อเข้าใจมุมมองของผู้อื่นอย่างแท้จริง
เก้าอี้ญี่ปุ่น ปรับได้ 6 ระดับ

Inspire Now ! : “เริ่มเล็ก ทำบ่อย ปรับเร็ว” คือหัวใจหลักของ Agile Mindset ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ทันที แบ่งงานเป็นนเป้าหมายย่อยๆ ฝึกตั้งคำถาม รับฟีดแบค และปรับให้เร็ว “ทำน้อยที่สุดที่จะพิสูจน์ได้ว่าใช่หรือไม่” แทนที่จะทุ่มเททำทั้งหมดแล้วค่อยมาดูผล ใช้ได้ไม่ว่าจะกับงานที่คุณทำอยู่ หรือเป็นเรื่องส่วนตัวที่คุณอยากพัฒนา แล้วคุณจะพบว่า ทั้งประสิทธิภาพในการทำงาน และบรรยากาศในการทำงานร่วมกับทีมจะดีขึ้นจริงๆ ค่ะ

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าใช่ไหม ? ใครที่กำลังหาวิธีพัฒนาตนเอง สามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปฝึกกันได้นะคะ นอกจากจะส่งผลกับตัวเองแล้ว ยังส่งผลต่อเพื่อนในทีมและองค์กรของเราด้วย ได้ผลยังไง แวะมาคอมเมนต์แชร์กับเรากันด้วยนะคะ

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW