เทคนิคการออมเงิน, วิธีออมเงิน มนุษย์เงินเดือน

15 วิธีออมเงิน มนุษย์เงินเดือน ให้มีเงินเก็บแบบไม่ลำบาก ! (พร้อมทิปส์สู่อิสรภาพทางการเงิน)

เคยสงสัยไหมว่าทำไมเงินเดือนออกทีไร เงินก็หายวับไปทุกเดือน? ถ้าคุณอยากเริ่มต้นออมเงินแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง หรือพยายามเก็บแล้วแต่ก็ยังไม่สำเร็จ ก็คงถึงเวลาต้องเปลี่ยนวิธีแล้วหรือเปล่า ? ในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะชวนไปดูเทคนิคออมเงินฉบับมนุษย์เงินเดือนปี 2025 ที่ช่วยให้คุณมีเงินเก็บแบบไม่ต้องฝืน พร้อมแนวทางที่ทำได้จริงกันค่ะ

ชวนคนทำงาน มาดูวิธีออมเงิน มนุษย์เงินเดือน ที่ใช้ได้จริงกัน !

มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจรู้สึกว่าเงินเดือนที่ได้รับแต่ละเดือนหมดไปไวเกินไป จนแทบไม่มีเหลือเก็บ แต่การออมเงินไม่ใช่เรื่องยากถ้าหากว่าเราวางแผนให้ดีและมีวินัยทางการเงิน และในปี 2025 นี้ คนที่ออมเงินก็ยังต้องปรับให้ทันกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นและโอกาสการลงทุนที่เปลี่ยนแปลง หลายคนยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เราลองมาดูกันว่า มีเทคนิคอะไรบ้างที่ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนออมเงินได้ง่ายขึ้นแถมนำไปใช้ได้จริงกันค่ะ

เก็บเงินให้ดี มีใช้ในระยะยาว เก็บเงินกับช่องทางที่น่าเชื่อถือกัน !

มนุษย์เงินเดือน ออมเงินยังไงดี ? ในยุคนี้ ให้ไม่ลำบาก !

1. กำหนดเป้าหมายการออมเงิน

ลองตั้งเป้าหมายการออมที่ชัดเจน เช่น ออมเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือเพื่อการเกษียณ เมื่อมีเป้าหมายจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจและสามารถจัดลำดับความสำคัญทางการเงินได้ง่ายขึ้น (ลองทำความเข้าใจการตั้งเป้าหมาย แบบ SMART Goals เพิ่มเติมอีกก็ได้นะคะ นอกจากจะใช้กับการออมได้แล้ว ยังใช้กับการตั้งเป้าหมายอื่นๆ ของเราได้ดีด้วยค่ะ)

2. ใช้กฎ 50/30/20 (หรือปรับเป็น 40/30/30)

กฎ 50/30/20 คือกฎการจัดการการเงินส่วนบุคคลที่แนะนำให้แบ่งรายได้ออกเป็นสามส่วนหลักๆ เพื่อใช้ในการบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเป็น

  1. 50% สำหรับ ค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าบ้าน, ค่าอาหาร, ค่าขนส่ง, ค่าประกันสุขภาพ เป็นต้น
  2. 30% สำหรับ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว หรือ ความต้องการส่วนตัว เช่น ค่าเดินทางท่องเที่ยว, ความบันเทิง, การซื้อสินค้าหรูหรา เป็นต้น
  3. 20% สำหรับ การออมเงินและการลงทุน เช่น การฝากเงิน, การลงทุนในกองทุน, หรือการชำระหนี้

การใช้กฎนี้จะช่วยให้การบริหารการเงินมีความสมดุล และสามารถออมเงินได้ในระยะยาวมากขึ้น (อ่านเรื่องกฎ 50/30/20 เพิ่มเติมพร้อมตัวอย่างได้อีกนะคะ) หรืออาจปรับเป็น 40/30/30 แบบนี้ก็ได้เช่นกัน หากต้องการออมให้ได้มากขึ้น สามารถปรับลดสัดส่วนการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและเพิ่มเงินออมแทน ลองปรับดูได้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรานะคะ

  • 40% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าที่พัก ค่าน้ำ-ไฟ ค่าอาหาร
  • 30% ใช้เพื่อความบันเทิง เช่น ท่องเที่ยว ซื้อของที่ชอบ
  • 30% ออมและลงทุน เช่น ฝากออมทรัพย์ กองทุนรวม หุ้น

3. หักเงินออมก่อนใช้

การที่คุณตั้งใจจะออมเงินก่อนที่จะใช้จ่ายในสิ่งอื่นๆ ทุกเดือน เช่น ก่อนที่คุณจะใช้เงินไปกับสิ่งต่าง ๆ คุณจะหักเงินที่ต้องการเก็บไว้ (ออม) ออกจากรายได้หรือบัญชีในแต่ละเดือน เพื่อให้มีเงินออมโดยอัตโนมัติ เป็นอีกวิธีที่ดีหากต้องการเก็บออม ซึ่งแน่นอนว่าคุณสามารถจัดสรรสัดส่วนการหักเงินเพื่อออมได้อย่างอิสระ ลองดูนะคะ

Image Credit : canva.com-pro

4. ใช้บัญชีแยกสำหรับออมเงิน

แยกบัญชีออมเงินออกจากบัญชีที่ใช้จ่ายประจำ เพื่อป้องกันการเผลอนำเงินออมไปใช้ และเลือกบัญชีที่ให้ดอกเบี้ยสูง เช่น ฝากประจำหรือบัญชีดิจิทัล

5. ใช้แอปพลิเคชันช่วยจัดการเงิน

ดาวน์โหลดแอปช่วยบริหารเงิน เช่น SET Happy Money, Wallet Story หรือแอปของธนาคารที่มีฟีเจอร์วิเคราะห์การใช้จ่ายและตั้งเป้าหมายออมเงิน (ลองดูไอเดียแอปจัดการเงินที่เราแนะนำเพิ่มเติมได้อีกนะคะ)

6. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

จดบันทึกค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน และดูว่ามีรายการไหนที่สามารถลดหรือยกเลิกได้ เช่น ค่าสมาชิกที่ไม่ได้ใช้ ค่ากาแฟแพง ๆ หรือค่าอาหารเดลิเวอรี่ที่สามารถทำเองได้

Inspire Tips : เรามีวิธีออมเงิน มนุษย์เงินเดือน ที่ใช้บ่อยๆ มาแชร์กันค่ะ

  1. ใช้แอปจัดการเงิน สะดวก เพราะอยู่ในมือถือตลอด ใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ
  2. ใช้วิธีจดบันทึกแบบ Bullet Journal (BUJO) นอกจากเราจะใช้แอปซึ่งอยู่กับตัวตลอดแล้ว เราทำบันทึกในสมุดไว้ด้วยค่ะ เอาไว้ดูภาพรวมรายเดือน รายปี เปรียบเทียบกัน นอกจากจะ tracking การเงินแล้ว เรายัง tracking เรื่องอื่นๆ ที่อยากพัฒนาได้ด้วยค่ะ

7. หารายได้เสริมจากแพลตฟอร์มออนไลน์

ใช้เวลาว่างหารายได้เสริมจากงานออนไลน์ เช่น ขายของใน TikTok Shop รับจ้างฟรีแลนซ์ ทำคอร์สออนไลน์ หรือสร้างคอนเทนต์ที่สร้างรายได้

Inspire Tips : ใครอยากเรียนรู้การทำคอนเทนต์ การทำเว็บไซต์ เพื่อเป็นช่องทาง เป็นความรู้ไว้ต่อยอด ตั้งแต่ Mindset วิธีการทำต่างๆ ทักมาปรึกษา DIYINSPIRENOW ได้เลยนะคะ หรือลองดูรายละเอียดคอร์สเรียนก่อนได้เลยค่ะ

ใช้บัตรเครดิตให้เป็น หมุนเงินได้ แถมได้ pint แลกสิทธิพิเศษมากมาย

8. ลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าเงินออม

ใครที่ออมเป็นประจำอยู่แล้ว เงินที่ออมไว้ก็ควรนำไปลงทุนให้เกิดดอกผล เช่น กองทุนรวม หุ้น ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ อาจเริ่มจากการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำก่อน ศึกษาข้อมูลให้ดี แล้วเปลี่ยนเงินออมให้เป็น passive income กันค่ะ (ใครสนใจเรื่องนี้ ลองทำความเข้าใจวิธีเปิดพอร์ตหุ้น พอร์ตกองทุน แบบ step by step กันต่อได้นะคะ)

9. ออมเงินกับทอง

การออมทองเป็นอีกหนึ่งวิธีออมเงินที่มนุษย์เงินเดือนนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากทองคำมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา และเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการซื้อทองแท่ง ทองรูปพรรณ หรือการออมผ่านแอปพลิเคชันที่ให้บริการเก็บทองแบบดิจิทัล ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันนะคะ

1. การซื้อทองที่ร้านทอง
  • ทองแท่ง : สามารถซื้อได้ในร้านทองทั่วไป โดยมักจะมีราคาตามน้ำหนักและราคาทองคำในตลาดโลก ซึ่งไม่ต้องเสียค่าบริการในการเก็บรักษา
  • ทองรูปพรรณ : หากซื้อทองรูปพรรณ (เช่น สร้อยคอ, แหวน, กำไล) จะมีค่าทำ และดีไซน์เพิ่มเข้ามา ราคาทองรูปพรรณจึงมักจะสูงกว่าทองแท่งในราคาต่อกรัม
  • ข้อดี : สามารถจับต้องและมีมูลค่าทางกายภาพ ติดตัวไปไหนมาไหนได้
  • ข้อด้อย : ต้องระวัง ดูแลรักษาทองให้ปลอดภัย รวมทั้งอาจมีค่าใช้จ่ายในการขายทองรูปพรรณ เช่น ค่าบล็อก หรือค่าธรรมเนียมในการขายคืน
2. การออมทองผ่านแอปพลิเคชัน (ทองดิจิทัล)
  • ลักษณะการออม : มีหลายแอปพลิเคชันที่ให้บริการออมทองแบบดิจิทัล ซึ่งเป็นการซื้อทองแบบหน่วยย่อย ค่อยๆ สะสมเงินออม เหมือนฝากธนาคาร แต่เป็นการฝากเพื่อซื้อออมทองแทน หรือใครมีเงินก้อนก็สามารถซื้อเป็นบาทเต้มได้ สามารถสะสมหรือขายได้ง่าย โดยไม่ต้องเก็บทองจริง
  • ข้อดี
    • สะดวก : สามารถซื้อขายทองได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน และไม่ต้องห่วงเรื่องการเก็บรักษา
    • ไม่มีขั้นต่ำ : สามารถเริ่มต้นออมทองได้โดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก
    • ติดตามง่าย : สามารถดูความเคลื่อนไหวของราคาทองและติดตามการออมได้ตลอดเวลา
    • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา : ไม่ต้องห่วงเรื่องการดูแลทองเหมือนการซื้อทองที่ร้าน
  • ข้อด้อย
    • ไม่มีทองกายภาพ : เนื่องจากเป็นการซื้อแบบดิจิตอล ระบบก็จะอ้างอิงเป็นตัวเลข จึงไม่มีทองจริงไว้ให้เราเก็บค่ะ
    • ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียม : บางแอปอาจมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหรือค่าบริการที่เกี่ยวข้อง
  • แอปปลิเคชั่นแนะนำ : Gold Now, MTS Gold, YLG Gold Saving, Ausiris, GCAP Gold เป็นต้น

10. ตั้งระบบตัดบัญชีอัตโนมัติ

หากตั้งใจว่าจะเก็บออมแน่วแน่ และไม่อยากใช้เวลาไปกับการคิดว่าจะแบ่งเก็บเท่าไหร่ในเดือนนี้ดี ลองสมัครบริการตัดบัญชีอัตโนมัติไปยังกองทุนรวม หุ้น หรือบัญชีออมเงิน เพื่อให้การออมเป็นไปอย่างสม่ำเสมอในแต่ละเดือน โดยไม่ต้องทำการจ่ายเงินด้วยตัวเองทุกครั้ง วิธีนี้ก็จะช่วยฝึกวินัยการออม และไม่ลังเลเสียดายในเรื่องการออมของแต่ละเดือนได้ค่ะ

Image Credit : canva.com-pro

11. ซื้อประกันชีวิตหรือประกันสะสมทรัพย์

อีกหนึ่งวิธีออมเงิน มนุษย์เงินเดือนที่เวิร์คมากๆ คือการออมเงินกับประกันชีวิตค่ะ ลองเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับตัวคุณ เช่น ประกันชีวิตที่มีเงินคืน หรือประกันสะสมทรัพย์ที่ช่วยออมเงินพร้อมรับผลตอบแทนในอนาคต นอกจากจะได้ออมเงินแล้ว ยังได้การคุ้มครองชีวิตและผลประโยชน์อื่นๆ เพื่อการวางแผนเกษียณ หรือเป้าหมายชีวิตอื่นๆ ด้วยค่ะ

12. ตั้งเป้าหมายระยะสั้น และระยะยาว

การตั้งเป้าหมายเพื่อออมเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือนเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการจัดการการเงินให้ดีขึ้น และเพิ่มความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ลองตั้งเป้าระยะสั้น และยาว เพื่อเป็นการจูงใจให้มีเป้าหมายออมเงินกันนะคะ

  • เป้าหมายระยะสั้น เช่น ออมเงินเพื่อเที่ยวต่างประเทศ หรือซื้ออุปกรณ์ไอทีใหม่
  • เป้าหมายระยะยาว เช่น ออมเงินเพื่อซื้อบ้าน ลงทุนเพื่อเกษียณ หรือสร้างรายได้แบบ Passive Income

13. มีวินัย และปรับปรุงแผนการเงินอย่างต่อเนื่อง

ลองทบทวนแผนการเงินทุก 3-6 เดือน ปรับเป้าหมายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น ปรับเพิ่มเงินออม หรือลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของเรา ก็จะทำให้เราออมเงินได้อย่างสนุก และไม่เครียดจนเกินไปค่ะ

14. ออมเงินในรูปแบบสลากออมทรัพย์ดิจิทัล

การซื้อสลากออมทรัพย์ที่มีดอกเบี้ย และลุ้นรางวัล เช่น สลากออมสินดิจิทัล หรือ สลาก ธ.ก.ส. ซึ่งสามารถซื้อง่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร ก็เป็นวิธีสนุกสำหรับคนชอบลุ้นรางวัล แถมยังปลอดภัย เงินต้นก็ยังอยู่ครบ แถมถ้าโชคดีก็ได้รางวัลด้วยค่ะ

15. ซื้อสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าในอนาคต

การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโต เช่น หุ้นเทคโนโลยี ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำมาสร้างรายได้เสริมในระยะยาวก็เป็นวิธีออมเงินที่ดีเหมือนกันสำหรับคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้เยอะหน่อย และมีเงินเย็นสำหรับลงทุนเยอะ ใครสนใจวิธีนี้ ลองศึกษาเพิ่มเติมก่อนที่จะลงทุนนะคะ เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน และแต่ละคนก็รับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากันนั่นเองค่ะ

เป็นมนุษย์เงินเดือน อยากมีอิสรภาพทางการเงิน ต้องทำยังไง ?

Image Credit : canva.com-pro

การมีอิสรภาพทางการเงินนอกจากการออมเงิน ยังต้องทำสิ่งอื่นๆ ด้วย เพื่อให้การเงินของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ลองมาดูคำแนะนำกันนะคะ

1. สร้างแหล่งรายได้หลายทาง

การพึ่งพารายได้จากแหล่งเดียวอาจมีความเสี่ยงหากเกิดปัญหาขึ้นในที่ทำงานหรือธุรกิจ ดังนั้นให้ลองคิดหาวิธีเพิ่มรายได้เสริม เช่น ทำงานออนไลน์, การลงทุน, เปิดธุรกิจขนาดเล็ก หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือหุ้นเพื่อสร้างรายได้จากผลตอบแทน

2. เรียนรู้การลงทุน

การออมเงินเองไม่เพียงพอที่จะทำให้มีอิสรภาพทางการเงิน ดังนั้นคุณต้องเริ่มเรียนรู้การลงทุนเพื่อให้เงินทำงานให้คุณ โดยเริ่มจากการศึกษากองทุนรวม, หุ้น, หรือพันธบัตร ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนดีกว่าเงินฝากธนาคาร เช่น กองทุนที่มีการเติบโตในระยะยาว หรือเรียนรู้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

3. ลดหนี้สิน และบริหารจัดการค่าใช้จ่าย

ให้ชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน เช่น หนี้บัตรเครดิต แล้วตั้งงบประมาณ และวางแผนการใช้จ่ายเพื่อไม่ให้ค่าใช้จ่ายเกินรายได้

4. สร้างแผนการเงินระยะยาว

กำหนดเป้าหมายการเงินระยะยาว เช่น การเกษียณที่มีเงินพอใช้ หรือการซื้อบ้านโดยไม่พึ่งพาการกู้ยืมจากธนาคาร เริ่มคิดเรื่องการเกษียณตั้งแต่ตอนนี้เพื่อเตรียมเงินสำหรับอนาคต และสร้างแผนการลงทุนเพื่อให้คุณมีเงินที่เพียงพอในระยะยาว

5. พัฒนาทักษะ และความรู้ใหม่

การมีทักษะที่หลากหลายจะช่วยให้คุณมีโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้น ลองฝึกฝนทักษะการเงิน เช่น การวิเคราะห์การลงทุน หรือการจัดการเงินส่วนบุคคล พัฒนาทักษะในด้านที่มีแนวโน้มในการสร้างรายได้ เช่น การตลาดออนไลน์, การเขียนโปรแกรม, หรือการออกแบบเว็บไซต์ หรือทักษะอื่นๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดในอนาคต เป็นต้นค่ะ

ลงทุนกับสุขภาพ ไปกับประกันสุขภาพ โรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ

Inspire Now ! : นอกไปจากการออมเงินแล้วนั้น อย่าลืมแบ่งปันและเป็นผู้ให้ให้กับคนอื่นบ้างนะคะ โดยอาจจะแบ่งรายได้มาเป็นเงินบริจาค 5% เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หรือช่วยองค์กรสาธารณะต่างๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์ สิ่งแวดล้อม การศึกษา เป็นต้น ซึ่งจะบริจาคเงินที่ไหนดีนั้น ก็เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีออมเงินมนุษย์เงินเดือนที่เราเอามาฝากกัน สามารถทำตามได้จริง ได้เงินเก็บจริง แถมยังฝึกให้เรามีความอดทนและตั้งใจอีกด้วย เงินที่ออมได้นอกจากจะเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือเป็นเงินเก็บสำหรับท่องโลกแล้วนั้น เรายังแบ่งเงินออมที่มีมาทำประโยชน์และช่วยเหลือสังคมได้อีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะออมเพื่ออะไร เราก็ได้ประโยชน์จากการออมนั่นเอง

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? ใครมีวิธีการออมเงินแบบไหนกันบ้าง มาคอมเมนต์บอกวิธีกันบ้างนะคะ ♡

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW