ข้อดี ข้อเสีย ของการกินเจ, กินเจ 2567

ข้อดี ข้อเสีย ของการกินเจ คืออะไร ? มากินด้วยความเข้าใจ แล้วอิ่มบุญ อิ่มใจกัน !

เข้าสู่เทศกาลกินเจ 2567 กันแล้ว ตลอดทั้ง 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 – 11 ตุลาคมนี้ ผู้อ่านคงจะได้เห็นร้านอาหารหลายร้านเสิร์ฟเมนูเจ นอกจากนี้ร้านที่ขายอาหารเจอยู่แล้วก็คงคึกคักไม่น้อย โดยเฉพาะในย่านชาวไทยเชื้อสายจีนอย่างเยาวราชไปจนถึงชุมชนชาวจีนในอีกหลายๆ จังหวัด เช่น จันทบุรี ตรัง สงขลา หรือภูเก็ต ก็คึกคักมากขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ แต่สาวๆ เคยรู้ไหมคะว่า ข้อดี ข้อเสีย ของการกินเจ คืออะไร ในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะขอชวนมาทำความเข้าใจประโยชน์ของการกินเจให้มากขึ้นกันค่ะ 

การกินเจ คืออะไร? เรากินเจเพื่ออะไร ลองมาเรียนรู้ แล้วเริ่มกินเพื่อสุขภาพกัน !

Image Credit : canva.com-pro

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า “เจ” กันก่อนดีกว่า คำว่า เจ ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนานิกายมหายานว่า อุโบสถ ซึ่งชาวไทยนำมาใช้เพื่อเสื่อถึงการกินอาหารก่อนเที่ยงวันตามความเชื่อเรื่องอุโบสถศีล นอกจากนี้เนื่องจากชาวพุทธนิกายมหายานจะไม่กินเนื้อสัตว์ระหว่างถืออุโบสถศีลหรือศีล 8 ด้วยเหตุนี้จึงกลายมาเป็นการกินเจ หรือไม่กินเนื้อสัตว์ในที่สุด นอกจากการไม่กินเนื้อสัตว์แล้ว ในระหว่างกินเจหรือตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ – 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนยังต้องรักษากาย วาจา และใจให้บริสุทธิ์ เป็นการถือศีลและประพฤติตนให้อยู่ในศีลธรรมไปพร้อมกัน เทศกาลนี้จึงกลายมาเป็นการถือศีลกินเจอย่างที่เราคุ่นเคยกันในที่สุดนั่นเองค่ะ (สำหรับใครที่สนใจประวัติความเป็นมาของการกินเจ อ่านเพิ่มเติมได้อีกนะคะ) เอาหล่ะพร้อมไปทำความเข้าใจประโยชน์ของการกินเจแล้วหรือยังคะ ?

ถั่วเลนทิล แดง ออร์แกนิค 500 กรัม

จุดประสงค์ของการกินเจ คืออะไร ?

  1. กินเจเพื่อสุขภาพ : อาหารเจเป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ รสไม่จัด ไม่มีผักกลิ่นฉุน จึงดีต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย ช่วยปรับสมดุล ทำให้สุขภาพดี ถือเป็นหนึ่งในข้อดีของการกินเจ
  2. กินเจด้วยความมีเมตตา : การกินเจเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ละเว้นจากการเอาชีวิตสัตว์ การกินเนื้อ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ ถือเป็นช่วงเวลาดีที่เราจะได้กินอาหารด้วยจิตที่มีเมตตา  
  3. กินเจเพื่อเว้นกรรม : คนไทยเราเชื่อว่าการฆ่าเป็นการสร้างกรรม แม้จะมีความจำเป็นอย่างกินกินเป็นอาหารหรือไม่ได้ลงมือฆ่าเองก็เป็นการสร้างกรรม ดังนั้นการกินเจจึงเป็นการเว้นกรรม ไม่เห็นแก่ความอร่อยในช่วงสั้นๆ เพื่อลด ละ เลิก การเอาชีวิตของสัตว์อื่น

กินเจ มีข้อดี อะไรบ้าง ?

  1. สุขภาพดีขึ้น : อาหารเจมักมีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลต่ำ แต่อุดมด้วยใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ การบริโภคผักและธัญพืชเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวานชนิดที่ 2 นอกจากนี้ อาหารเจยังมีแคลอรีต่ำกว่าอาหารที่มีเนื้อสัตว์ ทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น
  2. ดีต่อสิ่งแวดล้อม : การผลิตเนื้อสัตว์ต้องใช้ทรัพยากรมากมาย ทั้งน้ำ ที่ดิน และพลังงาน อีกทั้งยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูง การลดการบริโภคเนื้อสัตว์จึงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังช่วยลดมลพิษจากของเสียที่เกิดจากฟาร์มปศุสัตว์
  3. ใจสงบ มีสติ : การกินเจเป็นการฝึกสมาธิและการควบคุมตนเองรูปแบบหนึ่ง หลายคนบอกว่ารู้สึกสงบและมีสติมากขึ้นระหว่างช่วงกินเจ และการเลือกอาหารอย่างมีสติยังช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างร่างกาย และจิตใจอีกด้วย
  4. มีเมตตา ลดการเบียดเบียน : การกินเจสอดคล้องกับหลักอหิงสา หรือการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต ผู้ที่กินเจด้วยเหตุผลนี้มักรู้สึกว่าได้แสดงความเมตตาต่อสัตว์แ ละลดการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่อาจทำให้สัตว์ทุกข์ทรมาน
  5. ระบบขับถ่ายดีขึ้น : เนื่องจากอาหารเจส่วนใหญ่เป็นผัก การกินอาหารเจจึงช่วยปรับการทำงานของระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น
  6. ได้สัมผัสความอร่อยตามธรรมชาติ : ใครที่ชอบรสชาติอาหารแบบปรุงแต่งน้อยหรือคนที่กินคลีนอยู่แล้วน่าจะถูกใจ เพราะข้อดีของการกินเจการได้สัมผัสความอร่อยจากรสชาติวัตถุดิบ เพราะการปรุงอาหารเจจะเน้นปรุงให้รสอ่อนที่สุด บางคนอาจจะปลูกผักกินเอง (ลองดูวิธีการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เพิ่มเติมได้อีกนะคะ) และทำอาหารเอง ก็ยิ่งมั่นใจในความสดสะอาดของวัตถุดิบมากขึ้นด้วย
  7. อิ่มบุญ อิ่มใจ : ตลอดช่วงเทศกาลเราจะได้กินอาหารอย่างอิ่มบุญ อิ่มใจ สบายใจ เพราะได้ละเว้นเนื้อสัตว์ ละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อม 
น้ำตาลหล่อฮั่งก๊วยเสริมน้ำตาลอิริทริทอล สีทอง 0 แคล ขนาด 200 กรัม ตรา RAIWAN

ข้อควรระวังในการกินเจ มีอะไรบ้าง ?

Image Credit : canva.com-pro

การกินเจนั้นเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพหากว่าทำอย่างถูกวิธี แต่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อวางแผนอาหารที่เหมาะสม ลองมาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันนะคะ

  1. เรื่องสารอาหาร : การกินเจอาจทำให้เราขาดสารอาหารบางอย่างได้ โดยเฉพาะโปรตีน วิตามินบี 12 เหล็ก และแคลเซียม ซึ่งมักพบในเนื้อสัตว์ นม และไข่ เราต้องระวังเป็นพิเศษและหาทางทดแทน เช่น กินถั่วหลากหลายชนิด เต้าหู้ ผักใบเขียวเข้ม และอาจต้องกินวิตามินเสริมด้วย โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ที่แทบไม่มีในพืชเลย
  2. ระวังเรื่องคาร์บ : อาหารเจส่วนใหญ่มักจะเน้นแป้งและธัญพืช ทำให้เรากินคาร์โบไฮเดรตเยอะเกินไปได้ง่าย ๆ แนะนำให้เลือกกินข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต หรือธัญพืชไม่ขัดสี แทนที่จะเป็นแป้งขาวล้วน ๆ และควรกินผักให้เยอะ ๆ ด้วยนะคะ
  3. เรื่องรสชาติ : เพื่อให้อาหารเจอร่อย บางครั้งทางร้านก็ปรุงรสจัดมาก ทั้งเค็มและหวาน ต้องระวังนะคะ โดยเฉพาะอาหารเจสำเร็จรูปหรือเนื้อเทียม มักจะมีโซเดียมสูงมาก ลองปรุงอาหารด้วยตัวเอง ใส่เครื่องเทศ และสมุนไพรแทนการใส่เกลือหรือน้ำตาลเยอะๆ ดีกว่า
  4. ระวังเรื่องการแพ้อาหาร : ถ้าเรามีอาการแพ้อาหารบางอย่างอยู่แล้ว เช่น แพ้ถั่ว หรือแพ้กลูเตน ต้องระวังเป็นพิเศษเวลากินเจ เพราะอาหารเจมักใช้ถั่ว และธัญพืชทดแทนเนื้อสัตว์จึงต้องอ่านฉลากให้ดี หรือถ้าไปกินข้างนอกก็ต้องบอกคนขายให้ชัดเจน
  5. อาการไม่สบายท้อง : ช่วงแรกๆ ที่เปลี่ยนมากินเจ อาจจะรู้สึกท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสียได้ เพราะเรากินผัก และใยอาหารเยอะขึ้นทันที ร่างกายยังไม่ชิน แนะนำให้ค่อยๆ ปรับ อย่าเปลี่ยนแบบหักดิบ และอย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ ด้วยนะคะ
  6. หิวบ่อยกว่าเดิม : อาหารเจส่วนใหญ่ให้พลังงานน้อยกว่าอาหารทั่วไป ทำให้เราอาจรู้สึกหิวเร็วกว่าปกติ ถ้ารู้สึกแบบนี้ลองแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ หลายๆ มื้อ และเพิ่มอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้ ถั่ว หรือเมล็ดทานตะวัน
  7. อาหารแปรรูป : ระวังอาหารเจแปรรูปด้วยนะคะ โดยเฉพาะพวกเนื้อเทียมหรือชีสเทียม เพราะบางทีจะมีไขมัน หรือเกลือสูงมากๆ พยายามกินอาหารที่ปรุงเองจากวัตถุดิบสดๆ จะดีกว่า
  8. อย่าเข้าใจผิด : บางคนคิดว่าอะไรที่เป็นเจก็ต้องดีต่อสุขภาพไปหมด จริงๆ ไม่ใช่นะ มันก็มีขนมหวานเจ อาหารทอดเจ ที่ให้แคลอรี่สูงเหมือนกัน ต้องเลือกกินให้สมดุล
  9. ระวังผลกระทบกับยา : สำหรับคนที่กินยาประจำ การเปลี่ยนมากินเจอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยาได้ โดยเฉพาะยาบางตัวที่ต้องกินพร้อมอาหารที่มีไขมัน หรือยาที่อาจทำปฏิกิริยากับผักบางชนิด ควรปรึกษาหมอก่อนนะคะ

การกินเจนั้นเป็นการกินอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบคล้ายกับการกินมังสวิรัติ แต่อาหารเจมีข้อควรระวังคือ ต้องละเว้นผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ประเภทด้วย นั่นคือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน) กุยช่าย และใบยาสูบ นอกจากนี้ยังต้องละเว้นสิ่งเสพติดทุกชนิดและประพฤติตนให้บรสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจหรือการถือศีลร่วมด้วยจึงจะเป็นการถือศีลกินเจที่ถูกต้อง อาจเริ่มจากการฟังเพลงบรรเลงนั่งสมาธิและสงบใจของเราเป็นประจำร่วมด้วยก็ได้

เด็กสมบูรณ์ซอสเห็ดหอม 800 กรัม

Inspire Now ! : ถึงแม้จะมี ข้อดีของการกินเจ หลายอย่าง แต่ก็อย่าลืมเลือกกินอาหารเจที่สด สะอาด ปรุงสุกใหม่ และกินโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละมื้อด้วยนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นร่างกายของเราอาจขาดสารอาหารที่จำเป็นอย่างกรดอะมิโนและโปรตีนมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ ส่วนใครที่กลัวว่าจะได้รับสารอาหารไม่ครบ ลองวางแผนเมนูในแต่ละวันผ่าน แอพ planner น่ารักๆ ก็ช่วยเตือนความจำได้ดีแถมยังไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอกินของมันหรือกินแป้งมากไปช่วงเทศกาลเจด้วย 

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าใช่ไหม ? ใครมีประสบการณ์กินเจยังไงบ้าง กินแล้วดีกับสุขภาพจริงมั้ย มาคอมเมนต์พูดคุยกันนะคะ ♡

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW