น้ำหอมมีกี่ประเภท ? พร้อมเรื่องราวน่ารู้ของน้ำหอม ไอเทมสุดฮิตของสาวๆ

สาวๆ รู้ไหมคะว่า น้ำหอมมีกี่ประเภท ? วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักน้ำหอมแบบฉบับละเอียดว่ากว่าจะมีน้ำหอมกลิ่นอโรมาอย่างที่เราใช้กันทุกวันนี้มีที่มาที่ไปยังไง มีส่วนผสม, กระบวนการผลิต และมีน้ำหอมประเภทไหนบ้าง แล้วทำไงถึงจะให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนาน เชื่อว่าสาวๆ คงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะ ? ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักกับน้ำหอมให้มากขึ้นกันเลยค่ะ

มาหาคำตอบกันว่า น้ำหอมมีกี่ประเภท ? รวมถึงเรื่องราวน่ารู้ต่างๆ

• ความเป็นมาของน้ำหอม

ถ้าจะพูดถึงความรู้เรื่องน้ำหอมเกี่ยวกับความเป็นมาแล้วหล่ะก็ เราก็ต้องย้อนไปไกลถึงยุคอียิปต์โบราณเลยหล่ะค่ะเพราะชาวอียิปต์คือต้นกำเนิดของน้ำหอมนั่นเอง โดยพวกเขาใช้กลิ่นต่างๆ ประกอบในการทำพิธีกรรม ตั้งแต่พิธีกรรมทางศาสนาไปจนถึงการเตรียมการฝังศพ รวมไปถึงการใช้กลิ่นกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้กลิ่นหอมต่างๆ ที่ผู้คนใช้ยังแสดงถึงสถานะทางสังคมได้ด้วย ซึ่งชนชั้นสูงที่ร่ำรวยของสังคมอียิปต์ทั้งชายและหญิงจะประดับประดาตัวเองด้วยกลิ่นหอมเหมือนดอกลิลลี่ 

ต่อมาชาวกรีกและโรมันเริ่มคุ้นเคยกับการใช้กลิ่นหอมต่างๆ จนเริ่มมองว่าเป็นศิลปะรูปแบบหนึ่ง นอกจากนี้นักโบราณคดีก็ยังได้ค้นพบโรงงานผลิตน้ำหอมที่อยู่ในช่วง 2,000 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ในสาธารณรัฐไซปรัส ซึ่งดูเหมือนโรงงานแห่งนี้จะเชี่ยวชาญในการผลิตกลิ่นอย่างผักชี, ลาเวนเดอร์ และโรสแมรี่ ความนิยมในการใช้น้ำหอมเริ่มแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างช้าๆ แต่ก็มีในระยะหนึ่งที่การใช้กลิ่นถูกสงวนไว้เพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเป็นหลัก หลังจากนั้นในปี 1190 ก็ได้เริ่มมีการผลิตน้ำหอมเพื่อวางขายครั้งแรกในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นในการผลิตน้ำหอมออกมาให้เราใช้กันจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

• ความรู้เรื่องน้ำหอมเกี่ยวกับส่วนผสมของน้ำหอม

สาวๆ สงสัยกันไหมคะว่าน้ำหอมที่เราใช้กันทำมาจากอะไร ? ส่วนผสมของน้ำหอมมีหลากหลายมากๆ เลยหล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ดอกไม้, หญ้า, เครื่องเทศ, ผลไม้, ไม้, รากไม้ เป็นต้น การนำพืชมาผลิตน้ำหอมจะต้องสกัดน้ำมันออกจากพืช แต่มีพืชเพียงประมาณ 2,000 ชนิดจาก 250,000 ชนิดที่รู้จักกันดีเท่านั้นที่มีน้ำมันหอมระเหย ดังนั้นจึงต้องใช้สารเคมีสังเคราะห์เพื่อสร้างกลิ่นที่ไม่ใช่น้ำมันซึ่งมาจากพืชขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้สารคัดหลั่งจากสัตว์,แอลกอฮอล์, ปิโตรเคมี, ถ่านหิน และน้ำมันดิน (coal tar) ยังถูกใช้ในการผลิตน้ำหอมด้วยเช่นกัน

•  กระบวนการผลิตน้ำหอม

สำหรับความรู้เรื่องน้ำหอมในกระบวนการผลิตนั้นประกอบไปด้วย 

•  การรวบรวม

โดยในขั้นตอนนี้นักเคมีน้ำหอมจะสร้างสารเคมีที่ให้กลิ่นซึ่งใช้ในน้ำหอมสังเคราะห์และจากนั้นจึงรวบรวมส่วนผสมของน้ำหอมไปที่ศูนย์การผลิตในห้องปฏิบัติการ 

•  การสกัด

การสกัดน้ำมันจากพืชทำได้โดยวิธีการต่างๆ ได้แก่ การกลั่นด้วยไอน้ำ, การสกัดด้วยตัวทำละลาย, การเพิ่มความชุ่มชื้น, การสกัดด้วยการหมัก และการสกัดด้วยการกดให้น้ำมันออกมาจากพืช

•  การผสมผสาน

เมื่อสกัดน้ำมันจากพืชออกมาแล้ว หลังจากนั้นก็จะผสมตามสูตรที่กำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญในสาขาซึ่งเรียกว่า “nose”  การผสมอาจต้องใช้ส่วนผสมมากถึง 800 ชนิดและใช้เวลาหลายปีในการพัฒนากลิ่นพิเศษกันเลยทีเดียว หลังจากสร้างกลิ่นของน้ำหอมแล้วก็จะนำไปผสมกับแอลกอฮอล์ต่อ

•  การปล่อยทิ้งไว้

น้ำหอมชั้นดีมักจะมีอายุหลายเดือนหรือหลายปีหลังจากผสม นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหยและน้ำหอมแต่ละชนิดมีโน้ต 3 แบบ ได้แก่ top notes ซึ่งจะมีกลิ่นเปรี้ยวหรือคล้ายส้ม,  central หรือ heart notes เป็นกลิ่นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เช่นดอกกุหลาบและดอกมะลิ และ base notes เป็นกลิ่นไม้

• น้ำหอมมีกี่ประเภท ?

เคยสังเกตกันไหมคะว่าทำไมน้ำหอมแต่ละขวดกลิ่นจะติดทนนานไม่เท่ากัน นั่นก็เป็นเพราะประเภทของน้ำหอมนั่นเอง ถ้าอยากรู้ว่าน้ำหอมมีกี่ประเภท มีน้ำหอมประเภทไหนที่เหมาะกับตัวเองบ้างก็มาดูกันเลยค่ะ

•       Eau Fraiche : เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งน้ำหอมประเภทนี้จะประกอบด้วยหัวน้ำหอมเพียง 1-2% เป็นประเภทน้ำหอมที่ติดทนน้อยที่สุด โดยน้ำหอมจะติดทนประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นกลิ่นก็จะเริ่มจาง
•       Eau de Cologne : สาวๆ คนไหนที่ต้องการน้ำหอมที่กลิ่นติดทนนานกว่าประเภทแรกสักหน่อย น้ำหอมในประเภทนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะประกอบด้วยหัวน้ำหอมประมาณ 2-4% และมีกลิ่นหอมติดทนประมาณ 2-3 ชั่วโมง
•      EDT หรือ Eau de Toilette : ถัดมาก็จะเป็นน้ำหอมที่ประกอบด้วยหัวน้ำหอม ประมาณ 5-15% และติดทนนาน 4-7 ชั่วโมง 
•      EDP หรือ Eau de Parfum : สำหรับสาวๆ คนไหนที่อยากได้น้ำหอมติดทนนานหล่ะก็ ต้องลองประเภทนี้เลยเพราะมีหัวน้ำหอม 10-20% และติดทนนานถึง 8 ชั่วโมง น้ำหอมประเภทนี้ก็ยังเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับทั้งแบรนด์น้ำหอมและลูกค้าอีกด้วยเพราะน้ำหอมผู้หญิงแนะนําส่วนใหญ่ก็เป็นน้ำหอมในประเภทนี้

•  ฉีดน้ำหอมยังไงให้ติดทนนาน ?

เมื่อเรารู้กันแล้วว่า น้ำหอมมีกี่ประเภท เราก็มาดูวิธีฉีดน้ำหอมให้ติดทนนานกัน สงสัยกันไหมว่าทำไมบางครั้งเวลาเราฉีดน้ำหอมแพงๆ ประเภทที่กลิ่นติดทนนานแต่แค่ไม่กี่ชั่วโมงกลิ่นน้ำหอมกลับจางหายไปหมดแล้ว นั่นก็อาจเป็นเพราะว่าการใช้น้ำหอมผิดวิธีนั่นเอง แล้วจะทำยังไงให้น้ำหอมติดนานนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ

•   อย่าถูน้ำหอมลงบนผิว

เชื่อว่าหลายคนคงเคยฉีดน้ำหอมลงบนข้อมือแล้วถูกันใช่ไหมคะ ? แต่ความจริงแล้วการที่เราถูน้ำหอมลงบนผิวจะทำให้เกิดการเสียดสี ซึ่งอาจทำให้กลิ่นน้ำหอมเปลี่ยนนั่นเอง

•  ฉีดน้ำหอมตรงจุดชีพจร

การฉีดน้ำหอมลงบนจุดชีพจรต่างๆ ได้แก่ ข้อมือ, ข้อพับแขน, ด้านล่างสะดือ, หลังหู และข้อพับขา จะช่วยกระจายกลิ่นของน้ำหอมได้ดีและติดทนนานยิ่งขึ้น

•  สถานที่เก็บน้ำหอมนั้นสำคัญ

เราไม่ควรเก็บน้ำหอมไว้ในที่ชื้นและโดนแสงแดดเพราะอาจทำให้องค์ประกอบของน้ำหอมเปลี่ยนได้ ดังนั้นจึงควรเก็บน้ำหอมในที่เย็น, มืด และแห้ง ซึ่งอาจจะวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งของสาวๆ ก็ได้ค่ะ

•  ฉีดน้ำหอมในอากาศแล้วเดินผ่าน

หลายคนคงเคยทำกันใช่ไหมหล่ะคะ ? การฉีดน้ำหอมในอากาศแล้วเดินผ่านจะทำให้น้ำหอมกระจายไปทั่วตัว นอกจากนี้ยังทำให้เสื้อผ้าของเรามีกลิ่นหอมอ่อนๆ อีกด้วย  

•  ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า

หากสาวๆ คนไหนอยากให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเดียวกับน้ำหอมที่เราฉีด ก็ลองฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าดูสิคะ กลิ่นน้ำหอมที่เราชอบจะได้ติดบนเสื้อผ้าไปทั้งวันเลย

DIY INSPIRE NOW ให้ไอเดียทำให้ฉันสวยขึ้นใช่ไหม ? ทำให้รู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับน้ำหอมรวมไปถึงได้รู้ว่าน้ำหอมมีกี่ประเภทด้วยใช่รึเปล่า ? แชร์น้ำหอมประเภทและกลิ่นที่ชอบกันมาเยอะๆ นะคะ 

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : madehow.com, ipsy.com, perfumedirect.com, perfume.com