ปัญหาหนึ่งของเรื่องของความสวยความงามบนใบหน้าที่สาวๆ ต้องพบเจอ นอกจากการเขียนคิ้วยังไงให้สวยแล้วนั้นก็คือ ขนตาสั้น หรือขนตาน้อยมาก เวลาจะแต่งหน้าแต่ละครั้งก็ต้องใช้มาสคาร่างัดขนตาขึ้นมา หรือต้องติดขนตาปลอมช่วย ทำให้หลายๆ คนเริ่มมองหานวัตกรรมที่จะมาช่วยแก้ปัญหาให้เราตรงนี้ นั่นก็คือ การต่อขนตาค่ะ ซึ่งปัจจุบันการต่อขนตาเป็นที่ฮิตมากสำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาในเรื่องนี้ วันนี้ DIY INSPIRE NOW จึงมีเรื่องราวเกี่ยวกับการ ต่อขนตามีกี่แบบ และต่อแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา มาฝากสาวๆ กันค่ะ
Image Credit : turnbeautiful.co.uk
ก่อนที่เราจะไปรู้ถึงว่าต่อขนตามีกี่แบบนั้น มาทำความรู้จักกับประโยชน์ของขนตาของเรากันก่อนดีกว่าค่ะ ขนตาของคนเรานั้น มีหน้าที่ในการป้องกันฝุ่นละอองและเหงื่อไม่ให้เข้าตาของเรา เป็นการปกป้องดวงตาไม่ให้ระคายเคือง นอกจากนี้ การมีขนตาที่เรียงยาวและสวยงาม ยังทำให้ดวงตาของเรากลมโตขึ้น ทำให้สาวๆ ที่ขนตาสั้นหรือขนตาน้อย สนใจที่จะทำการต่อขนตากัน เพราะการต่อขนตาแบบธรรมชาติจะช่วยให้ใบหน้าของเราดูสวยขึ้นนั่นเองค่ะ
[affegg id=487]
Image Credit : revelationshairsalon.com
Image Credit : magiclash.com.sg
เป็นการต่อขนตาแบบธรรมชาติที่สุด เพราะจะเป็นการสร้างขนตาที่ยาวขึ้น และหนาขึ้นแบบดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้มาสคาร่าเลย โดยจะต่อขนตาแบบเรียงเส้น และต่อขนตาปลอมเส้นเดียวเข้ากับขนตาธรรมชาติแต่ละเส้น เป็นแบบ 1 : 1 เหมาะสำหรับคนที่มีดวงตาเล็ก และขนตาสั้น หรือขนตาทิ่มลง สามารถใช้เพื่อเพิ่มความยาวของขนตาที่มีอยู่ให้ยาวและหนากว่าเดิม ช่วยเพิ่มเส้นขนตาให้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนเป็นขนตาจริงของเรา และช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งนอกจากการต่อขนตาแล้วการใช้ครีมลดรอยคล้ำใต้ตาก็ช่วยให้ดวงตาสดใสขึ้นได้ด้วยเหมือนกันนะ
[affegg id=488]
Image Credit : pinterest/amzn.to
เส้นของขนตาที่ต่อจะบางกว่าแบบ Classic แต่หนากว่าแบบ Volume และต่อแบบขนตาปลอม 2 เส้นเข้ากับขนตาธรรมชาติ 1 เส้นของเรา และสามารถเพิ่มความหนาได้ตามต้องการ การต่อแบบนี้จะทำให้ขนตาดูดกกว่าแบบ Classic เล็กน้อย และทำให้ตาดูหวานขึ้นด้วย เป็นการต่อขนตาแบบธรรมชาติที่เหมาะกับคนที่อยากให้ใบหน้าดูสวยหวานขึ้นค่ะ
Image Credit : byrdie.com
เป็นการต่อขนตาที่จะทำให้ขนตาดูฟูและเต็มที่สุด โดยใช้ขนตาปลอม 1 ช่อ ซึ่งจะมีประมาณ 3-5 เส้น ต่อขนตาธรรมชาติ 1 เส้น เส้นขนตาที่ใช้จะบางกว่าแบบ Classic และ 2D แต่ว่าจะใช้หลายๆ ช่อ แบบนี้จะทำให้ขนตาฟูและหนา เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องขนตาที่บางและต้องการให้ขนตาดูฟูขึ้น และคนที่อยากมีขนตาเต็มๆ เหมือนใส่ขนตาปลอมแบบธรรมชาติ สาวๆ ที่แต่งหน้าเป็นประจำ อยากมีขนตาแน่น ก็จะเหมาะกับแบบนี้ค่ะ
[affegg id=489]
Image Credit : luxelashbeautybar.com
เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์ Classic และแบบ Volume โดยเป็นการสลับระหว่างขนตาทั้งสองแบบ เพื่อสร้างลุคที่เต็มอิ่ม ช่วยให้เส้นขนตาดูฟูขึ้น หนาขึ้น และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการลุคที่ดูโดดเด่น เหมาะกับคนที่อยากให้ขนตาดูเต็มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่อยากไปถึงแบบ Volume สไตล์นี้จะทำให้ดวงตาคมชัด และขนตาฟุ้ง ดูดวงตาสวยคมยิ่งขึ้นค่ะ
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าการต่อขนตามีกี่แบบนั้น ควรรู้ถึงการเตรียมตัวก่อนไปต่อขนตากันด้วยนะคะ ซึ่งก่อนที่เราจะไปทำนั้น ไม่ควรแต่งหน้าไป โดยเฉพาะบริเวณดวงตา ไม่ควรใช้อายไลน์เนอร์ อายแชโดว์ และมาสคาร่าใดๆ ซึ่งการต่อขนตาจะใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วแต่ประเภทของขนตาและสไตล์ที่เลือก หากเราเลือกแบบหนามาก เช่น แบบ Volume ก็อาจจะใช้เวลานานกว่าประมาณ 2 ถึง 2 ชั่วโมงครึ่งค่ะ และหลังจากต่อขนตาเสร็จแล้ว อย่าลืมดูแลรักษาความสะอาดด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองได้ และระวังอย่าให้ขนตาโดนน้ำหลังจากทำประมาณ 24 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงการเปิดน้ำจากฝักบัวรดใส่หน้า เพราะอาจทำให้ขนตาที่ต่อมาหลุดได้ง่าย ระวังอย่าขยี้ตาแรงด้วยนะคะ เพราะอาจทำให้ขนตาจริงของเราหลุดออกมาด้วยได้ และสุดท้าย อย่าลืมหมั่นไปเติมขนตาปลอมทุกๆ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้ขนตายังมีความหนาอย่างที่ต้องการค่ะ
| Inspire Now ! : สาวๆ ที่ไปต่อขนตามานั้น อาจจะมีข้อสงสัยว่าสามารถแต่งหน้าได้ไหม เรายังสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติค่ะ ทั้งเขียนอายไลเนอร์และทาอายแชโดว์ แต่ควรหลีกเลี่ยงการดัดขนตาหรือปัดมาสคาร่า เพราะอาจทำให้ขนตาจริงหลุดร่วงง่ายได้ และทุกครั้งหลังแต่งหน้า อย่าลืมทาครีมกันแดดคุมมัน เพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดด้วยนะคะ สาวๆ ก็ได้รู้กันไปแล้วนะคะว่าการต่อขนตามีกี่แบบ ใครที่มีขนตาสั้น หรือต้องการมีขนตาฟูสวย ก็สามารถใช้วิธีต่อขนตาเหล่านี้ช่วยได้ค่ะ แต่ก่อนจะตัดสินใจไปทำ อย่าลืมเลือกสถานที่ที่เชื่อถือและไว้ใจได้ด้วยนะคะ เพื่อมั่นใจได้ในมาตรฐานและความสะอาด จะได้ทำออกมาสวยและปลอดภัยด้วยค่ะ |
|---|
DIY INSPIRE NOW ให้ไอเดียทำให้ฉันมีดวงตาที่ดูสวยขึ้นใช่ไหม ? สาวๆ ที่ไปต่อขนตากันมาแล้ว อย่าลืมมาบอกเล่าให้เราฟังกันด้วยนะคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : beautygarde.com, bunnybeautyboutique.com, gowabi.com
รู้จักไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าโชคลาภ จีน เทพที่คนทำธุรกิจนิยมบูชา ควรไหว้เวลาไหน เตรียมไหว้ที่บ้านช่วงตรุษจีนยังไง พร้อมแนะนำพิกัดไหว้ในกรุงเทพฯ
กระดาษไหว้เจ้ามีอะไรบ้าง แลือก และไหว้อย่างไรให้ถูกต้องตามแบบประเพณีดั้งเดิม พร้อมคำแนะนำในการเผากระดาษไหว้เจ้าให้ลดการทำร้ายสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
ชวนมาดู ของตกแต่งตรุษจีน ที่นอกจากจะสวยแล้วยังมีความหมายดีๆ ที่จะเสริมสิริมงคล เสริมความเฮง ความโชคดีให้กับทุกคนในเทศกาลปีใหม่จีนอีกด้วย