เรื่องราวน่ารู้รวมไปถึง ประโยชน์กิมจิ เมนูที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ

กลับมาพบกันอีกครั้งกับการแปลภาษาอังกฤษจากสื่อต่างๆ ซึ่งคราวนี้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกิมจิและ ประโยชน์กิมจิ นั่นเอง กิมจิเป็นเมนูสุดฮิตของคนเกาหลีที่เรียกได้ว่าจะต้องกินเป็นเครื่องเคียงแทบทุกมื้อเลย ถ้าใครเคยดูซีรี่ย์เกาหลีรวมไปถึงหนังเกาหลีต่างๆ ก็จะเห็นว่าต้องมีกิมจิอยู่แทบทุกฉากที่เกี่ยวกับอาหารเลยหล่ะค่ะ กิมจินั้นทำมาจากผักดองเค็มโดยมักจะใช้ผักกาดขาวและหัวไชเท้าในการทำ มีความโดดเด่นจากน้ำพริกที่ทำจากพริกป่น กระเทียม ขิง พริกแดง น้ำตาล และน้ำปลา หลายคนคงรู้จักกิมจิกันอยู่แล้ว และวันนี้เราจะมาทำความรู้จักเรื่องต่างๆ ของกิมจิให้มากขึ้นกันค่ะ

เรื่องน่ารู้รวมถึง ประโยชน์กิมจิ เมนูสุดฮิตจากเกาหลี

ความเป็นมาของกิมจิ

ต้นกำเนิดของกิมจินั้นมีรากฐานมาจากภูมิปัญญาของชาวเกาหลีโบราณ โดยชาวเกาหลีโบราณได้คิดหาวิธีที่จะเก็บผักสดไว้กินแม้ในวันที่หนาวที่สุดของฤดูหนาว นั่นก็คือการทำกิมจิขึ้นมาเพื่อที่จะยืดอายุของผักให้สามารถเก็บไว้ได้นาน ซึ่งกิมจิในยุคโบราณทำจากผักใบเขียวและเกลือ หรือเกลือผสมกับแอลกอฮอล์ ต่อมาการทำกิมจิใส่หัวไชเท้าหั่นบางๆ ดองในน้ำเกลือได้รับความนิยมในช่วงปลายยุคของอาณาจักรรวมชิลลา (Unified Silla) และช่วงต้นของยุคโครยอ (Koryo) หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการใส่พริกไปในกิมจิอย่างทุกวันนี้ค่ะ

กิมจิกลายเป็นที่ชื่นชอบของนานาชาติ

ต้องบอกเลยว่าความนิยมของกิมจิไม่ได้มีแค่ในประเทศเกาหลีเท่านั้นเพราะตอนนี้กระแสของอาหารเกาหลีมาแรงจริงๆ โดยเราจะเห็นว่าในปัจจุบันนี้กิมจิหาซื้อได้ง่ายมาก ซึ่งมีวางขายในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันนั้นคนนิยมกินกิมจิมากเลยหล่ะค่ะ กิมจิเป็นที่นิยมอย่างมากในอเมริกา ฮาวาย เอเชียตะวันออกกลางยุโรป และในออสเตรเลีย นอกจากนี้ในญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงในเอเชียตะวันตกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็นิยมทำกิมจิกันโดยคนที่ทำกิมจิแต่ละคนจะทำกิมจิเฉลี่ยสิบถึงสิบห้ากิโลกรัมต่อปี ในเกาหลีใต้ก็มีการบริโภคกิมจิประมาณสี่ร้อยตันต่อปี เรียกได้ว่าความนิยมของกิมจินั้นไม่ธรรมดาเลยนะคะนั่นก็เพราะกิมจิมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเข้ากันได้ดีกับอาหารหลายๆอย่างและประโยชน์กิมจิก็มีมากมาย จึงไม่แปลกใจเลยที่คนจะนิยมกินกิมจิมากขึ้น

กิมจิกินกับอะไรดี ?

นอกจากประโยชน์กิมจิจะมีหลากหลายแล้ว ยังเป็นเมนูที่กินกับอะไรก็อร่อยอีกด้วย ไม่ว่าจะกินกับมาม่าเกาหลี, ข้าวยำเกาหลี, เนื้อย่าง, ไก่ทอดเกาหลี หรือกินเป็นเครื่องเคียงก็เข้ากันกับอาหารหลายๆ อย่างเลยหล่ะค่ะ แม้จะกินกับข้าวเปล่าก็อร่อยเมือนกัน และที่ฮิตสุดๆ ก็คงจะต้องเป็นเมนูซุปกิมจิซึ่งนิยมกินกับข้าวเปล่า ปกติแล้วซุปกิมจิก็จะมีชื่อเรียกที่หลากหลายขึ้นอยู่กับวัตถุดิบของซุป โดยเมนูซุปกิมจิที่เป็นที่นิยมก็คือเมนูซุปเต้าหู้อ่อน ซึ่งเป็นเมนูจากซีรี่ย์เกาหลีสุดฮิตเรื่อง Itaewon Class ที่ทำให้หลายๆ คนซื้อวัตถุดิบมาทำเมนูนี้จนทำให้กิมจิขาดตลาดกันไปช่วงนึงเลยหล่ะค่ะ

ประโยชน์กิมจิ ที่หลากหลาย

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้กิมจิได้รับความนิยมอย่างมากก็เป็นเพราะว่ากิมจิ ประโยชน์นั้นมีหลายอย่างเลย ถือได้ว่าเป็นเมนูเพื่อสุขภาพยอดฮิต ถึงขั้นได้รับการขนานนามให้เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อสุขภาพของโลกเลยค่ะ แน่นอนว่าประโยชน์ที่เห็นได้ชัดสุดๆ ของกิมจิคือ เป็นเมนูลดน้ำหนักเพราะกิมจินั้นมีคอเลสเตอรอลต่ำและยังมีแคลอรี่ต่ำอีกด้วย โดยกิมจิ 150 กรัมนั้นมี 40 แคลอรี่ ซึ่งเหมาะมากๆ สำหรับสาวๆ ที่กำลังลดน้ำหนักหรือคุมอาหาร กิมจิปริมาณ 100 กรัมนั้นมีวิตามินเอ 18% ที่ร่างกายต้องการต่อวันอีกต่างหาก

กิมจิ ประโยชน์ของเมนูนี้นั้นมีต่อร่างกายทั้งภายในและภายนอกเลยเพราะนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ประโยชน์กิมจิยังมีในเรื่องความงามอีกด้วย โดยกระเทียมในกิมจินั้นช่วยให้ผมและผิวมีสุขภาพแข็งแรงนั่นเอง สงสัยกันไหมคะว่าทำไมคนเกาหลีถึงได้ดูอ่อนกว่าวัย ? อาหารที่กินก็เป็นปัจจัยหนึ่ง เพราะในกิมจินั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย ยังไม่หมดแค่นี้นะคะสำหรับประโยชน์กิมจิเพราะว่ากิมจินั้นยังช่วยป้องกันการเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร (Peptic ulcer) ได้ด้วย นั่นก็เพราะกิมจิมีสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคแผลในกระเพาะอาหารนั่นเอง กิมจินอกจากจะเป็นเครื่องเคียงสุดฮิตแสนอร่อยกินทีไรก็ไม่เบื่อแล้วยังมีประโยชน์หลากหลายขนาดนี้ เหมาะมากๆ เลยที่จะเป็นอีกหนึ่งเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับสาวๆ ที่รักสุขภาพทั้งหลาย

DIY INSPIRE NOW ให้ฉันตามเทรนด์อาหารสุขภาพได้ไม่ยากใช่ไหม ? มาแชร์สูตรอาหารเกาหลีจานโปรดกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสูตรซุปกิมจิ สูตรไก่เกาหลี สูตรข้าวยำเกาหลี หรือจะเป็นสูตรอาหารเมนูอื่นๆ ที่สาวๆ ชอบก็แชร์กันมาเยอะๆ นะคะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : theculturetrip.com, asian-recipe.com, bibigo.com, seoul.com

Feature Image Credit : freepik.com/jcomp