สาเหตุของโรคอ้วนคืออะไร ? อันตรายมั้ย รักษายังไง ดูแลตัวเองยังไงได้บ้าง

ไม่ว่าใครก็อยากมีรูปร่างเพรียวสวยสมส่วน แต่ก็อาจมีบางครั้งที่เราเผลอตามใจปากและขาดการออกกำลังกายจนทำให้มีไขมันสะสมในร่างกาย แต่ถ้ายังทำพฤติกรรมเหล่านี้ต่อไปรู้หรือเปล่าว่าสาวๆ อาจเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้นะคะ โรคอ้วนไม่ใช่แค่ความอ้วนธรรมดาเพราะมีอันตรายร้ายแรงมากกว่าที่คิด ลองตาม DIY INSPIRE NOW ไปดูกันว่าโรคอ้วน สาเหตุเกิดจากอะไร เมื่อรู้ สาเหตุของโรคอ้วน แล้วจะมีวิธีป้องกันหรือรักษาอย่างไรบ้าง

โรคอ้วนคืออะไร ? มารู้จัก สาเหตุของโรคอ้วน อาการ และวิธีป้องกันกันดีกว่า

โรคอ้วน (Obesity) คือ ภาวะที่ร่างกายเกิดการสะสมไขมันผิดปกติจนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ทำกิจกรรมต่างๆ ลำบากขึ้น นอนกรน ปวดข้อเข่า ข้อเท้าและหลัง เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง หอบหืด เบาหวาน หรือโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังมีโรคร้ายอื่นที่อาจเกิดขึ้นหากเราเป็นโรคอ้วนอย่างมะเร็งลำไส้อีกด้วย

• รู้ได้อย่างไรว่าเราเสี่ยงเป็นโรคอ้วน

การกำหนดผู้ที่มีภาวะอ้วนนั้นมีเกณฑ์มาตรฐานสากลอยู่ค่ะ นั่นคือการหาค่าดัชนีมวลกายหรือ BMI (Body Mass Index) ผู้ที่เข้าข่ายว่ามีภาวะอ้วนก็คือผู้ที่มีค่า BMI อยู่ที่ 30 ขึ้นไป แต่นอกจากนี้หากใครมีค่า BMI ระหว่าง 25-29 ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มมีน้ำหนักเกินซึ่งเสี่ยงเกิดโรคอ้วนได้เช่นกัน เราสามารถหาค่า BMI ได้โดยใช้น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงที่วัดเป็นเมตรยกกำลังสอง สามารถใช้สูตรนี้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ตัวอย่างเช่น

สูตรคำนวณ BMI = ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตร)2 หากเราน้ำหนัก 60 กิโลกรัม สูง 155 ซม. วิธีคำนวณก็คือ ดัชนีมวลกาย (BMI) = 60 / (1.55)*2 เพราะฉะนั้นค่า BMI ของเราจึงเท่ากับ 25.39 ซึ่งอยู่ในกลุ่มมีน้ำหนักเกินค่ะ

• อาการของโรคอ้วน

โรคอ้วนเป็นภาวะของไขมันสะสมในร่างกายมากเกินผิดปกติ ทำให้อยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน ไขมันสะสมบริเวณรอบเอว ต้นขา สะโพก และต้นแขน นอนกรน เหนื่อยง่าย หายใจหอบ ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันลำบาก กินมากไปจนแน่นท้องหรือกินไม่เป็นเวลาจนเจ็บท้องกระเพาะ เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง ปวดตามข้อและหลัง เป็นที่มาของโรคร้ายอื่นๆ รวมถึงสูญเสียความมั่นใจและยังเสี่ยงทำให้เกิดโรคซึมเศร้าอีกด้วย

• ประเภทของโรคอ้วน

โรคอ้วนที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพมี 2 ประเพท คือ อ้วนลงพุง ซึ่งเป็นภาวะสะสมของไขมันบริเวณช่องท้องและอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ลำไส้ กระเพาะอาหาร และอ้วนทั้งตัว  เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณไขมันมากกว่าปกติ โดยไม่ได้สะสมอยู่บริเวณใดบริเวณหนึ่งโดยเฉพาะ

• สาเหตุของโรคอ้วน

โรคอ้วน สาเหตุส่วนใหญ่นั้นเกิดมาจากการตามใจปากมากเกินไปและกินจนได้รับพลังงานเกินความจำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะสารอาหารประเภทแป้ง ไขมัน ของทอด ของหวาน เพราะพลังงานส่วนเกินที่ไม่ถูกเผาผลาญในแต่ละวันจะกลายเป็นไขมันสะสมจนเกิดไขมันพอกพูนตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อีกทั้งยังทำให้ระบบเผาผลาญทำงานน้อยลง เป็นที่มาของน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานและทำให้เกิดภาวะอ้วนในที่สุด นอกจากนี้สาเหตุของการเกิดโรคอ้วนยังเกิดจากการไม่ออกกำลังกาย กินจุบจิบไม่เป็นเวลา รวมถึงการกินแล้วนอนก็เป็นที่มาของโรคอ้วนเช่นกัน

ส่วนปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดโรคอ้วนก็คือ ความผิดปกติของต่อมที่อยู่ในร่างกายของเรา เช่น ต่อมใต้สมองหรือต่อมไทรอยด์ ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานผิดปกติจนไม่สามารถเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้เท่าที่ควร กลายเป็นสาเหตุของโรคอ้วน ทำให้มีไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายตามมา

ส่วนปัจจัยด้านจิตใจและอารมณ์ก็เป็นหนุ่งในสาเหตุของโรคอ้วนเช่นกัน เพราะเมื่อเรารู้สึกเครียด กังวล หรือแม้แต่ภาวะดีใจ ความอยากอาหารจะเพิ่มสูงขึ้นผิดปกติ ทำให้มีโอกาสเกิดโรคอ้วนได้ง่ายขึ้นหากไม่คุมอาหารและตามใจตัวเองมากไป แต่อารมณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนที่สุดก็คือความเครียดเพราะจะทำให้เรารู้สึกหิวผิดปกติและอาจเสพติดความสุขจากการกินของหวาน เพราะเมื่อกินของหวานร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินทำให้รู้สึกมีความสุขจนกลายเป็นภาวะอ้วนตามมา

และสาเหตุของโรคอ้วนอย่างสุดท้ายก็คือกรรมพันธุ์ค่ะ แม้จะพบได้น้อยแต่ก็มีโอกาสพบอยู่บ้าง โดยหากพ่อแม่อ้วนทั้งสองคน ลูกจะมีโอกาสอ้วนร้อยละ 80 หรือถ้าหากพ่อและแม่คนใดคนหนึ่งอ้วน ลูกจะมีโอกาสอ้วนร้อยละ 40 ค่ะ

• โรคอ้วนรักษาอย่างไร มีวิธีดูแลตัวเองยังไงบ้าง 

หากใครพบว่าตัวเองน้ำหนักเกินหรืออยู่ในภาวะอ้วน ต้องเริ่มดูแลตัวเองด้วยการคุมอาหาร ลดปริมาณของมัน ของทอด น้ำหวาน และอาหารรสจัด ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและทำจิตใจให้แจ่มใส ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอน้ำหนักตัวที่เกินและไขมันในร่างกายก็จะค่อยๆ ลดลงค่ะ ส่วนคนที่น้ำหนักเกินมากๆ นั้นอาจต้องพึ่งการปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง โดยคุณหมออาจแนะนำให้กินยาลดน้ำหนักซึ่งต้องกินตามใบสั่งของแพทย์เท่านั้นนะคะ ส่วนใครอยากรู้ว่าจะไปตรวจสุขภาพที่ไหนดีเพื่อดูว่าเราเป็นโรคอ้วนหรือไม่ เบื้องต้นสามารถวัดค่า BMI ด้วยตัวเองก่อน หรือหากไม่มั่นใจก็ไปโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อวัดระดับไขมันในร่างกายย่างละเอียดอีกครั้งก็ได้

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้คำตอบใช่ไหม ? ใครมีประสบการณ์ลดน้ำหนัก หรืออยากแชร์ทริคเพื่อสุขภาพที่ดีกับเรา คอมเมนต์ให้เรารู้ได้เลยนะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mayoclinic.org, who.int, bangpakokhospital.com