ชวนสังเกต ภาษากาย จิตวิทยา ลักษณะท่าทางบอกอะไรกับเราได้บ้าง มาดูกัน !

แม้ว่าคนเราจะสื่อสารกันด้วยภาษาพูดหรือเขียนเป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่เรียกว่า Language หรือ Verbal Communication แต่ทราบหรือไม่ว่า ภาษากาย หรือ Body Language ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และยังเป็นสิ่งที่แสดงออกตรงกับความรู้สึกนึกคิดของคนๆ นั้น อีกด้วย สิ่งที่เป็นอวัจนภาษา หรือ Nonverbal Communication ช่วยให้เราเข้าใจคู่สนทนาได้มากขึ้น และรู้ถึงความคิดความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ภาษากาย จิตวิทยา บอกอะไรกับเราได้บ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

10 ภาษากาย จิตวิทยา ที่จะทำให้เราเข้าใจคู่สนทนาได้มากกว่าเดิม

กฎ 7-38-55 ของ Dr. Albert Mehrabian ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนีย กล่าวไว้ว่า ในการสนทนานั้น ภาษาพูดหรือเขียนมีความสำคัญเพียง 7% เท่านั้น อีก 38% คือน้ำเสียงที่ใช้ และอีก 55% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดคือ ภาษากายนั่นเองค่ะ ภาษากาย คือสิ่งที่มนุษย์เข้าใจกันมานานก่อนที่จะมีภาษาพูดหรือเขียนเสียอีก ในยุคโบราณนั้น มนุษย์เราสื่อสารกันด้วยการทำท่าทาง มีการส่งสัญญาณผ่านภาษากาย จนกระทั่งได้มีการคิดค้นภาษาพูดขึ้น สัญชาตญาณในการทำความเข้าใจอวัจนภาษาของมนุษย์นั้น เรียกได้ว่าอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา และยังเป็นการแสดงออกที่ตรงกับความคิดความรู้สึกของเราอีกด้วย ภาษากาย จิตวิทยา มีอะไรบ้าง ภาษากายแต่ละแบบหมายความว่าอย่างไร มาดูกัน

1. การกอดอก หรือนั่งไขว่ห้าง

เรามักจะเห็นผู้คนนั่งหรือยืนกอดอก หรือนั่งไขว่ห้างกันอยู่บ่อยๆ แต่ในระหว่างการสนสนานั้น หากมีใครกำลังกอดอกหรือนั่งไขว่ห้างอยู่ล่ะก็ ภาษากาย จิตวิทยา บ่งบอกว่าคนๆ นั้นกำลังมีกำแพงและปกป้องตัวเองอยู่ แม้ว่าจะนั่งเงียบๆ ฟังอีกฝ่ายพูด แต่ความเป็นจริงแล้วนั้น เป็นการฟังแบบไม่เชื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา หรือฟังแบบขอไปที หากกำลังคุยเรื่องจริงจังแล้วอีกฝ่ายนั่งกอดอกหรือนั่งไขว่ห้างขณะคุยกัน เป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีกำแพงหรือกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าสามารถเชื่อถือได้หรือไม่ หรืออาจเป็นไปได้ว่า ไม่สนใจในสิ่งที่เราพูดเลยค่ะ

2. การผายมือขณะพูด

หากเจอใครที่มักจะผายมือหรือขยับมือไม้ในขณะพูดคุย นั่นเป็นภาษากายอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ผู้พูดมีความมั่นใจในตัวเอง และยังมีความเป็นผู้นำอีกด้วย คนๆ นั้นมีความมั่นใจในสิ่งที่เขาพูด และอาจจะเป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่ได้มีอะไรปิดบังอยู่ค่ะ

3. มือเท้าเอวขณะพูดคุย

ถ้ากำลังคุยอยู่อีกฝ่าย แล้วคนๆ นั้นยืนเท้าเอวตัวเอง ภาษากาย จิตวิทยา บ่งบอกว่าคนๆ นั้นกำลังเกิดความไม่พอใจขึ้น และเป็นการประกาศอนาเขตของตัวเอง หรือต้องการแสดงอำนาจทางอ้อม ลองสังเกตดูค่ะว่าในวงสนทนา หากมีใครคนหนึ่งเริ่มเอามือเท้าเอวตัวเอง และใช้น้ำเสียงที่เปลี่ยนไป นั่นเป็นสัญญาณว่าบรรยากาศจะตึงเครียดมากขึ้น และอาจเป็นการพูดทางอ้อมว่า “จะเอายังไง” ได้อีกด้วย

4. มองดูนาฬิกาบ่อยๆ

การมองดูนาฬิกาบ่อยๆ ระหว่างกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ในทางภาษากาย คือสัญญาณที่บอกว่า คนๆ นั้นเริ่มไม่สนใจกับบทสนนาอีกต่อไปแล้ว หรือกำลังร้อนใจอยากออกไปจากวงสนทนาเนื่องจากมีสิ่งสำคัญที่ต้องไปทำ กิริยานี้แสดงให้เห็นว่าคนๆ นั้นอยากปลีกตัวออกไปโดยเร็ว หรืออยากจะจบบทสนทนานี้ให้ไวที่สุดค่ะ

5. โน้มตัวเข้าใกล้อีกฝ่าย

ถ้าเราเจอใครคนหนึ่งแล้วกำลังยืนคุยกันอยู่ หรือกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ แล้วอีกฝ่ายขยับตัวมาใกล้เรามากขึ้นเรื่อยๆ หรือโน้มตัวเข้ามาหาเรา เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่า อีกฝ่ายกำลังสนใจหัวข้อในสิ่งที่กำลังคุยกัน หรือในอีกแง่หนึ่ง นี่เป็นวิธีสังเกตคนที่แอบชอบเราได้ด้วยนะคะ ถ้าบทสนทนานั้นไม่ได้มีความพิเศษอะไร เป็นการพูดคุยเรื่องทั่วๆ ไป แต่ถ้าอีกฝ่ายโน้มตัวเข้ามาหาเราหรือขยับเข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ โดยธรรมชาติ นั่นอาจเป็นเพราะว่าเขากำลังสนใจเราอยู่ก็ได้นะ

6. หันตัวออกจากคู่สนทนา

ในทางกลับกัน ถ้าคู่สนทนาของเราไม่ได้อยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับเราโดยตรง แต่หันตัวออกจากเราหรือมองไปทางอื่น แสดงว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกอึกอัด ไม่สบายใจ ไม่สนใจคู่สนทนา และไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอีกด้วย เป็นท่าทีในเชิงการปฏิเสธอย่างหนึ่งค่ะ

7. หลีกเลี่ยงการสบตาอีกฝ่าย

การไม่มองตาคู่สนทนาสามารถตีความหมายได้หลายอย่าง ภาษากาย จิตวิทยาในลักษณะนี้ อาจบ่งบอกได้ว่า คนๆ นั้นกำลังปิดบังบางสิ่งบางอย่างอยู่ เป็นการหลีกเลี่ยงที่จะพูดความจริง หรืออาจแสดงถึงความกลัว ความรู้สึกประหม่า การขาดความมั่นใจ เช่น การมองที่เท้าของตัวเองหรือมองที่พื้น แต่ในบางสถานการณ์ อาจหมายถึงความเขินอายก็ได้ค่ะ เช่น ไม่กล้ามองตาคู่เดทของตัวเองเพราะรู้สึกเขิน ภาษากายแบบนี้มีความหมายที่ขึ้นอยู่กับแต่สถานการณ์นั่นเองค่ะ

8. กาารสัมผัสคอ

การเอามือไปสัมผัสคอตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นต้นคอ ท้ายทอย หรือบริเวณกระดูกไหปาร้าในระหว่างที่พูดคุยไปด้วย ในทางภาษากาย คืออาการที่แสดงว่า คนๆ นั้นกำลังรู้สึกไม่มั่นใจหรือมีความกังวลเล็กน้อย ทั้งยังเป็นวิธีการคลายความเครียดตัวเอง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในขณะที่สมองกำลังประมวลผลและขบคิดถึงบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ทั้งนี้ การจับสร้อยคอหรือเล่นสร้อยคอตัวเองก็มีความหมายไปในทางเดียวกันค่ะ

9. การเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง

หากใครคนหนึ่งเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วโผล่นิ้วโป้งออกมาละก็ นั่นแสดงว่าคนๆ นั้นมีความมั่นใจในตัวเอง แล้วก็รู้สึกเป็นมิตรกับอีกฝ่าย ภาษากาย จิตวิทยาแบบนี้ บางคนอาจจะไม่ได้สังเกตมากนัก แต่เป็นท่าทางสบายๆ ที่บ่งบอกความรู้สึกได้ดี ลองมองดูสีหน้าเพิ่มเติมด้วยนะคะ ถ้าใครคนนั้นยิ้มแย้มหรือไม่ได้ขิ้วขมวด มีสายตาที่เป็นมิตร ไม่ใช่จ้องเขม็งมาที่เรา ก็ถือว่าเป็นท่าทางในเชิงบวกค่ะ

10. การวางมือที่แก้มหรือลูบคาง

การวางมือที่แก้มหรือการลูบคางนั้น ในทางภาษากาย จิตวิทยา บ่งบอกว่าคนๆ นั้นกำลังใช้ความคิดอยู่ เป็นท่าทางที่แสดงถึงการครุ่นคิด ไตร่ตรอง ถ้าในระหว่างการสนทนาแล้วมีคนทำท่าทางแบบนี้ นั่นแสดงว่าคนๆ นั้นกำลังคิดตามในสิ่งที่เราพูด หรือรู้สึกสนใจในสิ่งที่เราพูดและกำลังประมวลผลอยู่ หรือถ้าไปขอคำปรึกษาจากใครแล้วอีกฝ่ายทำท่าแบบนี้ ก็พอจะเดาได้ว่า น่าจะได้รับคำปรึกษาที่ดี เพราะคนๆ นั้นกำลังครุ่นคิดอย่างจริงจังและอาจให้คำแนะนำที่ดีกับเราได้

Inspire Now ! : ภาษากายเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สามารถสร้าง First Impression หรือความประทับใจแรกได้ และโดยส่วนใหญ่แล้ว มนุษย์เราเชื่อภาษากายมากกว่าสิ่งที่เป็นภาษาพูดอีกด้วย เพราะคำพูดนั้นสามารถโกหกกันได้ แต่ร่างกาย สายตา และท่าทางของมนุษย์เรานั้น เป็นสิ่งที่โกหกไม่ได้ หากใช้ภาษากายได้อย่างถูกต้อง หรือเข้าใจภาษากายของอีกฝ่ายได้ดีมากขึ้น เราก็สามารถคาดเดาคู่สนทนาได้ว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอย่างไร และควรจะมีทิศทางการสื่อสารอย่างไร เพื่อให้การพูดคุยสื่อสารกันนั้น เป็นไปอย่างไหลลื่นได้มากขึ้นค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าภาษากายแบบต่างๆ มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง ข้อดีของการเข้าใจภาษากายมีอะไรบ้าง มาคอมเมนต์กันได้นะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : verywellmind.com, indeed.com, inc.com

Featured Image Credit : freepik.com/artursafronovvvv