ออกแบบปฏิทิน ตั้งโต๊ะ ด้วยตัวเองยังไง ? แจกไอเดียทำตามง่าย ใช้ได้จริง !
ชวนมาดูไอเดีย ออกแบบปฏิทิน ตั้งโต๊ะ สวยๆ พร้อม how to ที่ทำตามได้ง่ายๆ ออกแบบเองได้ตามความคิดสร้างสรรค์ และการใช้งาน ใช้เองก็ได้ ให้คนอื่นก็ดี
เราเชื่อว่าไม่ว่าจะถามใคร ก็ต้องตอบไปในทิศทางเดียวกันว่า การดูแลตัวเอง การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญทั้งนั้น ทั้งการกินอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย การฝึกใจด้วยการเจริญสติ นั่งสมาธิ หรือการหาเวลาออกเดินทาง พักผ่อน ก็เรียกได้ว่าเป็นการ Care for Yourself ได้เช่นกัน แต่วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปพูดคุย เปิดรับมุมมองใหม่ๆ กับ “หมอแดง แพทย์แผนไทย” เจ้าของช่อง YouTube Healthy Daisy สุขภาพดีไปด้วยกัน ที่เน้นการดูแลสุขภาพด้วยตัวเองแบบองค์รวมโดยมีเป้าหมายว่าอยากให้คนไทยเข้าใจถึงสาเหตุของโรค รู้จักสังเกตตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดูแลกายใจเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีจากภายใน และพึ่งพายาให้น้อยที่สุด ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 182,000 คน ลองไปทำความรู้จักเรื่องแพทย์แผนไทย และรับพลังดีๆ จากหมอแดงไปพร้อมๆ กับ DIYINSPIRENOW กันค่ะ
หมอแดงเริ่มเล่าว่า ช่วงวัยเด็กของเธอนั้นเป็นเด็กขี้อาย เติบโตมากับพี่น้อง 4 คน ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่โลดโผน ครอบครัวอบอุ่น ธรรมะธัมโม และคุณพ่อของเธอเปิดร้านขายยา เมื่อถามต่อว่า หมอแดงมีความสนใจเรื่องยามาตั้งแต่เด็กเลยมั้ย เธอตอบเราว่า ตอนเด็กๆ ยัง “พี่เรียนตามสายที่สนใจ พอเรียนจบก็ทำงานตรงสาย มีน้องชายที่เรียนคณะเภสัชคนเดียว แต่ป๊าพี่รักร้านยามาก ลึกๆ ก็อยากให้ลูกสักคนมาสานต่อ”
“ชีวิตวัยรุ่นของพี่สนุก ชอบพูด ชอบคุย ตอนเรียนเลือกคณะนิเทศศาสตร์ เพราะชอบเขียน ชอบสื่อสาร แล้วก็ทำกิจกรรมไปด้วย ทำละครเวที อยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ติดต่อกับสื่อ เราก็จะคุ้นชินกับการทำอะไรแบบนี้ เป็นชีวิตวัยเรียนที่สนุก แต่ก็ยังไม่ได้มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนมาก”
เราเลยถามต่อว่าในตอนนั้นมีแนวคิดที่จะทำธุรกิจเป็นของตัวเองมั้ย หมอแดงเล่าว่า จบมาก็ทำงานด้านสื่อสาร เป็นผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจที่ Nation ทำ PR Agency ทำงานด้านการสื่อสารองค์กร (Corporate Communication) ให้กับธนาคาร และบริษัทเดินเรือซึ่งเป็นบริษัทระหว่างประเทศ เรียกว่าการทำงานของหมอแดงในฐานะพนักงานประจำกว่า 10 ปีนั้น เป็นการทำงานในแวดวงการสื่อสาร หมอแดงเล่าต่อว่า เนื่องจากงานต้องใช้ภาษาอังกฤษ จึงไปเรียนภาษาต่อที่นิวซีแลนด์ 1 ปี และระหว่างนั้นก็เริ่มรู้สึกว่า “เราชอบทำงานสื่อสาร แต่การทำงานในองค์กรไม่น่าจะตอบโจทย์ข้างใน เพราะว่าถ้าทำงานองค์กรก็ต้องเติบโต ต้องมีลูกน้อง มีการปกครอง ต้องผลักดันตัวเองขึ้นไป ซึ่งลึกๆ เราอาจจะไม่ได้ชอบแบบนั้น” จนกระทั่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อคุณพ่อไม่สบาย หมอแดงเลยอยากลาออกมาดูแลพ่อ และดูแลกิจการร้านยาแทนคุณพ่อ
“พอป๊าป่วย ก็อยากออกมาดูแลท่าน แบ่งเบาภาระท่าน ก็เลยมาช่วยดูแลร้านยา” นั่นทำให้หมอแดงเข้ามาดูแลธุรกิจยาของคุณพ่อเต็มตัว เธอบอกว่าโชคดีที่ตอนยังทำงานประจำ คุณพ่อก็มีส่งให้ไปเรียนเพิ่มเติมความรู้เรื่องยา วันหยุดก็ส่งไปเรียน NANO MBA ซึ่งเป็นหลักสูตรพัฒนาศักยภาพลูกหลานผู้ประกอบการร้านยา ทำให้ได้รู้จักพี่ๆ เพื่อนๆ ในวงการยาที่ให้คำปรึกษากันได้ ต่อมามีพี่ท่านหนึ่งแนะนำให้เรียนแพทย์แผนไทย ก็เลยไปสมัครเรียนเพราะเห็นว่าน่าสนใจ เผื่อนำมาต่อยอดร้านยาได้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้รู้จักแพทย์แผนไทย
แต่มาเข้าใจลึกซึ้งและเชื่อมั่นในองค์ความรู้และยาแผนไทยเพราะผ่านประสบการณ์ป่วยเอง คือตอนนั้นมีอาการไม่สบายท้อง ลมในท้องเยอะ มึนงง รู้สึกขาหนัก ขึ้นบันไดก็เหนื่อย กินยาปัจจุบันอะไรก็ไม่ช่วย พอเจอกับตัวทำให้เริ่มสังเกตว่าลมในตัวเกิดจากอะไร ค่อยๆ ปรับสมดุลด้วยตัวเอง และกินยาแผนไทย หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ อาการทางลมหายหมดเลยจึงเป็นที่มาของการอัดคลิปแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับโรคลม เป็น EP แรกของช่อง YouTube Healthy Daisy สุขภาพดีไปด้วยกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
หมอแดงเล่าว่า “แพทย์แผนไทย คือการบำบัดรักษาอาการป่วยไข้โดยใช้องค์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่บรรพบุรุษของเราสั่งสมมาหลายชั่วอายุคน ร่างกาย (ธาตุทั้ง 4) และจิตใจมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งเสียสมดุลจะนำมาซึ่งอาการป่วยไข้” หมอแดงขยายความเพิ่มเติมให้เราฟังว่า การป่วยไข้คือภาวะไม่สมดุล เพราะฉะนั้นการตรวจของแพทย์แผนไทยจะเน้นการซักประวัติให้ทราบถึงมูลเหตุของโรค ทราบว่าเหตุเกิดจากธาตุใดเสียสมดุล แล้วใช้หัตถการหรือหยูกยาที่มาจากธรรมชาติ รักษาให้เหมาะกับคนไข้แต่ละราย
การรักษาของแพทย์แผนไทย จะดูตามธาตุ ตามอาการของคนไข้ในขณะนั้น ไม่มีแพทเทิร์นตายตัว เป็นการวิเคราะห์และจ่ายยาเฉพาะราย จะเรียกว่า Tailor made หรือ Customize ก็ได้ แพทย์แผนไทยจึงต้องใช้ทักษะทั้งศาสตร์และศิลป์ ใช้ความใส่ใจ สังเกต และต้องละเอียด หยาบไม่ได้ สำคัญคือตัวผู้ป่วยเองต้องปรับสมดุล ลด ละเหตุก่อโรคด้วยตัวเองด้วย อาการจึงจะเสถียร
หมอแดงขยายความให้เราฟังต่อว่า ร่างกายของคนเราประกอบด้วย 4 ธาตุ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ รวมทั้งจิตวิญญาณ ประกอบกันเป็นชีวิต “ธาตุดิน คือ อวัยวะที่เรามองเห็น จับต้องได้ เช่น ผม ผิว เล็บ ฟัน หนัง ฯลฯ แต่ธาตุดินมันขับเคลื่อนด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องอาศัยธาตุน้ำ ลม ไฟ ในการขับเคลื่อน ในคัมภีร์จะมีคำว่า “ปิตตะเป็นต้น” แปลว่าทุกอย่างเริ่มจากไฟ ธาตุไฟ คือพลังงานความร้อนที่ทำให้เกิดลม เมื่อมีลมจึงเกิดพลังไปผลักให้น้ำ ซึ่งได้แก่ของเหลวในร่างกายของเราทั้งหมดเคลื่อน เพื่อไปบำรุงดิน” ซึ่งแต่ละธาตุนั้นต้องสมดุล เราจึงสามารถดำรงชีวิตอย่างปกติสุข สิ่งสำคัญอีกอย่างนอกจากร่างกายก็คือจิตใจ “ถ้าจิตใจระส่ำ ร่างกายมันก็จะระสาย” ดังนั้นทั้ง 4 ธาตุกับอีก 1 จิตวิญญาณ ก็คือส่วนประกอบที่จะส่งผลให้สุขภาพกายและใจดีหรือไม่ดี
“การเรียนแพทย์แผนไทยสามารถเรียนได้ทั้งในมหาวิทยาลัย จะมีคณะหรือสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ เรียนจบ 4 ปีได้รับวุฒิปริญญาตรี (แผน ข.) หรือจะเลือกเรียนนอกเวลากับสถาบันที่ได้รับการรรับรองจากสภาการแพทย์แผนไทยก็ได้ (แผน ก.) ทางสถาบันก็สามารถส่งเราสอบใบประกอบวิชาชีพได้เช่นกัน ใบประกอบวิชาชีพจะมี 4 สาขา คือ นวด ผดุงครรภ์ เภสัชกรรม และเวชกรรม ระยะเวลาในการเรียน 3 ปี ซึ่งก็จะเรียนจากตำราหรือคัมภีร์แพทย์แผนไทยเหมือนกัน” เมื่อหมอแดงพูดถึงเรื่องรูปแบบการเรียน เราจึงถามเรื่องพื้นฐานการศึกษาของผู้เรียนต่อว่า ต้องจบด้านไหนเป็นพิเศษมั้ย และได้คำตอบว่าไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐาน สามารถเรียนเพื่อดูแลตัวเองได้ หรือถ้าอยากเรียนและสอบเพื่อได้ใบประกอบวิชาชีพก็สามารถทำได้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของ สภาการแพทย์แผนไทย ซึ่งจะมีข้อมูลสถาบันที่ขึ้นทะเบียนกับสภาฯ ทั่วประเทศ ใกล้ที่ไหนก็สมัครเรียนที่นั่นได้ สำหรับความยากง่ายนั้น ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคน แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวรู้สึกสนุกและน่าสนใจ ถึงจะยากบ้างแต่ก็ยากพอสู้
“โลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน สุขภาพก็คือสุขภาพ คนก็คือคน ทำไมเราจะปรับสมดุลด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ข้อมูลทุกวันนี้ที่มีเยอะมาก ทำให้เรามีทางเลือกเยอะ เยอะจนทำให้เราไม่ได้กลับมาอยู่กับตัวเอง ไม่ได้มานั่งสารตะว่า อ๋อ…จริงๆ เราเสียสมดุลเพราะเหตุนี้นะ”
“จริงๆ โดยส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยเครียดกับอะไรนาน ยิ่งช่วง 3 ปีหลังนี้พี่ให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ บางคนอยู่ต่างประเทศ บางคนป่วยทางกาย บางคนป่วยทางใจ คุยมาหลายร้อยคนก็ทำให้เราเห็นความจริงบางอย่าง ยิ่งทำให้ปล่อยวางมากขึ้น เห็นว่าทุกอย่างเริ่มที่ความคิด คิดให้เป็นบวก หยุดคิดลบ ไว้ใจชีวิต เราคิดยังไงก็นำไปสู่ชีวิตแบบนั้น โลกคือกระจกสะท้อนตัวเราเอง ดังนั้นคิดให้ดี ทำให้ดี ที่เหลือพี่ไว้ใจว่าชีวิตจะส่งสิ่งดีๆ มาให้เรา คิดแบบนี้จะผ่อนคลายขึ้น และทำให้เรามุ่งเน้นกับปัจจุบันขณะมากขึ้นด้วย แทนที่จะกังวลกับอดีตหรืออนาคตที่ควบคุมไม่ได้
ความเครียด หลายครั้งเกิดจากความคาดหวังของเราเอง ก็ต้องผ่อนคลายความคาดหวังลง คิดว่าทุกอย่างมีจังหวะเวลาของมัน เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมจะเกิดขึ้นเอง พยายามทำให้ดีที่สุดและเรียนรู้จากความผิดพลาดเพื่อนำมาพัฒนาตัวเอง”
พอฟังหมอแดงตอบคำถามเมื่อกี้แล้ว เราก็ทัชใจกับคำว่า “โรคสะท้อนความคิด” เราว่าคำนี้นอกจากจะเก๋แล้ว ยังเต็มไปด้วยความหมายที่ซ่อนอยู่มากมาย หมอแดงเลยขยายความให้ว่า “เราไม่มีทางไปไกลกว่าความคิดเรา เราคิดได้ถึงตรงไหน เราก็ไปได้ถึงตรงนั้น เราคิดได้แย่แค่ไหน เราก็ไปได้แย่แค่นั้น ทุกอย่างมันคือความคิด บางทีคนก็ป่วยเพราะความคิด โดยที่ร่างกายไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่ความคิดทำให้ป่วย เพราะฉะนั้นเริ่มต้นด้วยความคิดว่าทุกอย่างจะดี แล้วก็เริ่มต้นทำสิ่งดีๆ กับตัวเอง ทำดีกับคนที่พบเจอ ชีวิตจะเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เพราะโลกภายนอกสะท้อนตัวตนของเราผ่านความคิด”
การขยายความของหมอแดงทำให้เราเห็นภาพมากขึ้น แต่ก็ทำให้เราเกิดคำถามเพิ่มเติมว่า ในยุคสมัยนี้ที่มีแต่ข้อมูล บางคนก็บอกว่า ทำแบบนี้สิดี บางคนก็บอกว่าไม่ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า อันไหนดีหรือไม่ดีกับเรา หมอแดงตอบว่า “ให้ฟังเสียงร่างกายตัวเอง โลกวันนี้เป็นโลกของข้อมูล ตื่นเช้ามาก็เจอข้อมูลฟีดเข้ามา คนนั้นก็บอกอันนี้ดี คนโน้นก็บอกอันนี้ก็ดี ก็เอามาลอง แต่การทำแบบนั้นทำให้เราไม่ได้ฟังเสียงร่างกายตัวเอง สิ่งที่จะเป็นสะพานให้ได้ยินเสียงร่างกายคือความเงียบ จริงๆ แล้วทุกคำตอบมีอยู่ในตัวเราเอง บางช่วงเราอาจปิดจากโซเชียล เพราะเรารับข้อมูลจากข้างนอกมามากพอแล้ว แล้วกลับมาสังเกตร่างกายตัวเอง ฟังเสียงของร่างกาย แล้วร่างกายจะบอกเราทุกอย่างเลย”
“พี่เป็นคนนึงที่ปวดท้องเมนส์มาตลอด แต่พอพี่เริ่มฟังเสียงร่างกาย ก็ทำให้รู้ว่าที่ปวดมากเป็นเพราะเราดูแลตัวเองไม่ดีพอ ทั้งช่วงก่อนและระหว่างมีประจำเดือนเลย พอค่อยๆ ปรับ รู้สึกเลยว่าปวดน้อยลง ไม่ทรมานมากเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นให้ฟังเสียงร่างกายตัวเอง ”
ได้ฟังหมอแดงพูดแล้ว ก็ทำให้คิดได้ว่า เรื่องดีมันมีอยู่เยอะบนโลกใบนี้ แต่ดีของเค้า มันจะเข้ากับดีของเราหรือเปล่า อันนี้ต้องฟังเสียงร่างกายของเราเอง : )
“คือการรู้จักร่างกายและจิตใจของเราเอง ร่างกายก็เหมือนเพื่อนสนิท ถ้าเราไม่รู้จักเค้าดีพอ เราจะใส่ใจเขาได้ยังไง เพราะฉะนั้นอันดับแรกของการ Care for Yourself ก็คือ เราต้องรู้จักตัวเองก่อน ว่าตัวเราชอบอะไร สบายกายสบายใจกับอะไร หลายคนป่วยเพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่สอดคล้องกับตัวตน เช่น ชอบทำงานศิลปะ แต่ต้องไปทำงานที่สังคมบอกว่าดี พี่ให้คำปรึกษาน้องหลายคนอายุช่วง 25-30 บางทีไม่ได้เป็นปัญหาสุขภาพเลยนะ แต่มันเป็นปัญหาที่ว่าเค้าไม่ได้ฟังเสียงของตัวเอง แล้วไม่ได้ทำในสิ่งที่ลึกๆ เค้าอยากทำ เค้าเลยป่วย เพราะฉะนั้นเราลองทำดู ใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับเสียงภายในของเราทั้งการงาน ทั้งการใช้ชีวิต”
หมอแดงบอกกับเราว่าให้หา moment ที่เราได้ผ่อนคลายตัวเอง ทำในสิ่งที่ชอบก็สร้างความสุขได้แล้ว ถ้าจะให้สุขมากขึ้นให้ลองขยายสิ่งที่เราทำได้ให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่น ความรู้สึกที่ได้เป็นผู้ให้ และสิ่งที่เราให้ออกไปช่วยคนอื่นได้ จะสร้างคุณค่าและความอิ่มเอมใจให้เราได้
ส่วนวิธีใส่ใจตัวเองของหมอแดงคือเมื่อรู้ว่าเราชอบอะไรบ้างก็จะจัดสรรเวลาหาโอกาสทำอยู่เรื่อยๆ เช่น ชอบตัวเองหลังโยคะเสร็จเพราะรู้สึกสบาย ก็จะแบ่งเวลาทำ นานๆ ทีก็มีพักจากงานไปพักผ่อนกับครอบครัวบ้าง เป็นต้น
“ในระหว่างการทำงานของพี่ ก็จะพยายามทำงานที่เราได้แบ่งปันด้วย เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่เราได้กลับมามันมากกว่าเงิน แล้วมันอิ่มเอมใจ ตรงนี้เป็นอะไรที่เรียกว่า Care for Yourself ได้อย่างหนึ่ง”
“ปีนี้อายุ 40 พอดี พี่มีความสุขกับวัย 40 ของพี่นะ คือเป็นวัยที่รู้ประมาณนึงแล้วว่าเราชอบอะไร เรามีประโยชน์กับใคร ที่ทางของเราอยู่ตรงไหน แต่ก็ยังคงตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่กำลังจะพบเจอ และพี่คิดว่าความตื่นเต้นตรงนี้สำคัญ มันคือความรู้สึกที่ทำให้ชีวิตมีชีวา วันนี้เรายังมีลมหายใจก็ใช้ชีวิตให้แข็งแรงตามวัย มีความสุขกับทุกวัน และพี่เชื่อเสมอว่ายังมีสิ่งดีๆ ให้เราได้แบ่งปันกับผู้คนอีกเยอะ”
หมอแดงย้อนคิดถึงวัยเด็กจนถึงตอนนี้แล้วบอกกับเราว่า มีหลายอย่างที่น่าขอบคุณ และอยากขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้เลิกล้มหรือหยุดกับสิ่งที่เราเชื่อว่ามันดีไปเสียก่อน หมอแดงบอกว่าตอนที่เราทำ ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่ทำจะสร้างผลลัพธ์อะไรให้กับเรายังไง แต่มันจะมีจังหวะที่เราได้เจอในวันหนึ่ง ทุกอย่างไม่มีเรื่องบังเอิญ อะไรก็ตามที่เข้ามาก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่ อะไรที่ผิดพลาดก็ขอให้เรียนรู้กับมัน
“หลักๆ เลยก็คงจะเป็นเรื่องของการฟังเสียงร่างกายตัวเอง เพราะคนทุกวันนี้โดน information bomb แล้วมันทำให้เราเป๋ได้ง่าย แล้วไปเจอใครที่ดีก็ดี ไปเจอใครที่ขายของก็อีกเรื่องนึง เพราะฉะนั้นเราต้องฟังเสียง และรู้จักร่างกายของตัวเอง แล้วเราจะสามารถเอาใจเค้า แคร์เค้าได้เหมาะกับชีวิตเรา”
สำหรับใครที่อ่านมาจนถึงตอนนี้แล้วรู้สึกสนใจ สามารถติดตามหมอแดงได้ที่ช่องทาง
YouTube : Healthy Daisy สุขภาพดีไปด้วยกัน
Facebook : Daisyinspire หมอแดง แพทย์แผนไทย
TikTok : @healthydaisy_2020
ส่วนใครที่อยากรับการปรึกษาด้านสุขภาพแบบแผนไทยกับหมอแดง ติดต่อได้ที่ช่องทาง Line: @healthydaisy ได้เลยค่ะ
Inspire Now ! : เป็นยังไงบ้างคะกับพลังดีๆ จากหมอแดงที่เรานำมาฝากกัน บอกเลยว่าตลอด 1 ชั่วโมงเต็ม ที่เรานัดคุยกันนั้น สร้างพลังดีๆ วิธีคิด และมุมมองที่แสนอบอุ่นให้กับการ Care for Yourself สำหรับเราได้มาก ขอบคุณพี่แดง (หมอแดง แพทย์แผนไทย) หญิงเก่ง พลังบวกที่ทำให้วันเสาร์ของเราเต็มไปด้วยพลังดีๆ และขอบคุณอีกครั้งที่สละเวลามาพูดคุยกันเรื่องแพทย์แผนไทย คืออะไร และทิปส์ในการปรับสมดุลให้กับชีวิต เพื่อให้เราได้นำพลังดีๆ แบบนี้มาเผยแพร่ให้กับผู้อ่าน DIYINSPIRENOW ค่ะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนที่ดีกว่าใช่ไหม ? ใครมีวิธีดูแลสุขภาพใจ สุขภาพกาย หรือการ Care for yourself ยังไงกันบ้าง มาคอมเมนต์บอกเรากันบ้างนะคะ ขอให้มีความสุขในวิถีของตัวเองโดยเริ่มที่ “ฟังเสียงร่างกายของตัวเอง” กันนะคะ ♡
ชวนมาดูไอเดีย ออกแบบปฏิทิน ตั้งโต๊ะ สวยๆ พร้อม how to ที่ทำตามได้ง่ายๆ ออกแบบเองได้ตามความคิดสร้างสรรค์ และการใช้งาน ใช้เองก็ได้ ให้คนอื่นก็ดี
เกษียณแล้ว ทำอะไรดี แนะนำ อาชีพหลังเกษียณ พร้อมคำแนะนำในการเลือก ให้คุณได้ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข และรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง
ชวนดูวิธี โสดอย่างมีความสุข เอาใจสาวโสดทั้งที่ตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ พร้อมแชร์นิยาม โสด หมายถึง อะไร พร้อมวิธีพัฬฒนาตัวเองที่ทำได้จริง