สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น, สัญลักษณ์ซักผ้า

ชวนรู้ สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น รู้ไว้ คนชอบช้อปของญี่ปุ่น ไม่ผิดหวังแน่นอน !

ใครเคยซื้อเสื้อผ้าของญี่ปุ่นแล้วเจอป้ายสัญลักษณ์แปลกๆ ที่ติดอยู่กับเสื้อกันบ้างคะ ? หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าป้ายเหล่านั้นมีความสำคัญอย่างมากเลยค่ะ เพราะเป็นป้ายที่ช่วยให้เราสามารถดูแลรักษาเสื้อผ้าที่ซื้อมาได้อย่างถูกวิธี ช่วยทำให้เสื้อผ้าใช้งานได้นานและไม่เสียทรง แต่ถ้าไม่รู้ว่าป้ายที่เราเห็นนั้นแปลว่าอะไรกันแน่ ในบทความนี้จะมาแนะนำ สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น ให้ได้รู้จักกันค่ะ

รู้ไว้ไม่มีพัง สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง ? ครั้งหน้าต้องไม่พลาดทำผิดวิธีอีกต่อไป !

ป้ายสัญลักษณ์ซักผ้า คืออะไร ?

โดยปกติแล้วเสื้อผ้าทั่วไปมักจะมีป้ายบอกยี่ห้อและไซส์ติดมากับชุดอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้าของญี่ปุ่นเรามักจะเห็นว่ามีป้ายอีกอย่างหนึ่งที่ไม่คุ้นตาด้วย นั่นก็คือป้ายสัญลักษณ์ซักผ้า หรือ Laundry Symbol นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบุว่าผ้าแต่ละชนิดควรใช้วิธีซักอย่างไรจึงจะเป็นการถนอมใยผ้ามากที่สุด รวมทั้งเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจซื้อได้ด้วย เนื่องจากผ้าบางชนิดต้องมีวิธีการรักษาแบบพิเศษที่อาจไม่สะดวกสำหรับเราก็ได้ มาดูกันดีกว่าว่าสัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่นนั้นมีความหมายอย่างไรบ้าง

1. วิธีการซักผ้า

แน่นอนว่าสัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่นก็จะต้องบอกถึงวิธีการซักผ้าอยู่แล้ว ทั้งนี้ ผ้าที่เส้นใยต่างกันไม่สามารถซักด้วยวิธีเดียวกันได้ เพราะอาจส่งผลทำให้ผ้าหดหรือยืดย้วยและไม่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งส่วนมากแล้วจะบอกว่าผ้าชนิดนี้ควรซักด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า นอกจากนี้ ยังต้องสังเกตด้วยว่าควรซักด้วยอุณหภูมิเท่าไหร่ เช่น

สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น, สัญลักษณ์ซักผ้า
Image Credit : www.japanlivingguide.net
  • สัญลักษณ์ซักด้วยเครื่อง : เป็นรูปกะละมังที่มีน้ำอยู่ด้านใน
  •  สัญลักษณ์ซักด้วยมือ :  เป็นรูปกะละมังที่มีน้ำอยู่ด้านในและมีรูปมือ
  • สัญลักษณ์ห้ามซักเด็ดขาด : เป็นรูปกะละมังที่มีน้ำอยู่ด้านในและมีกากบาททับ
  • สัญลักษณ์บอกอุณหภูมิน้ำ  : เป็นรูปกะละมังที่มีน้ำอยู่ด้านในและมีเลขบอกอุณภูมิน้ำที่ใช้

2. การฟอกขาว

สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น, สัญลักษณ์ซักผ้า
Image Credit : www.insider.com

หลังจากซักผ้าเสร็จ การใช้สารฟอกขาวก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกันโดยเป็นวิธีขจัดคราบบนเสื้อผ้าอีกวิธีหนึ่ง รวมทั้งช่วยทำให้ผ้ายังคงสีสว่างสดใสไว้ได้นานด้วย แต่ก็มีผ้าบางชนิดที่ไม่สามารถใช้น้ำยาฟอกขาวได้ เพราะจะเป็นการทำลายเนื้อผ้าให้เสียหายและลดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าที่ซื้อมาด้วย โดยสารฟอกขาวจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ คลอรีน บลีช (Chlorine Bleach) ซึ่งเหมาะกับการซักผ้าขาวที่เป็นผ้าฝ้ายและผ้าลินิน และออกซิเจน บลีช (Oxygen Bleach) ที่เหมาะกับการฟอกทำความสะอาดผ้าสี ซึ่งสัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่นก็ได้มีการระบุชนิดสารฟอกขาวที่สามารถใช้ได้กำกับไว้ด้วย ดังนี้

  • รูปสามเหลี่ยมว่างเปล่า : สามารถใช้สารฟอกขาวได้ทุกชนิด
  • รูปสามเหลี่ยมมีขีดแนวทแยง 2 เส้นภายใน : ห้ามใช้สารฟอกที่มีคลอรีนเป็นส่วนผสม
  • รูปสามเหลี่ยมมีกากบาททับ :  ห้ามใช้สารฟอกขาวเด็ดขาด

3. การซักแห้ง

สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น, สัญลักษณ์ซักผ้า
Image Credit : www.vogue.co.th

การซักแห้งเป็นการทำความสะอาดเสื้อผ้าโดยไม่ใช้ผงซักฟอกหรือใช้น้ำ แต่จะใช้น้ำยาหรือน้ำมันชนิดพิเศษคือ เพอร์คลอโรเอทิลีน (Perchloroethylene) ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่น้อยมากไปจนกระทั่งไม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบเลย ซึ่งผ้าชนิดพิเศษที่มีราคาสูงส่วนใหญ่มักจะต้องใช้วิธีการซักแห้ง เพราะช่วยถนอมเนื้อผ้าได้ดีกว่าการซักแบบอื่น แต่ก็ต้องสังเกตสัญลักษณ์ให้ดีเช่นกัน ไม่อย่างนั้นก็อาจจะซักผิดวิธีได้ โดยสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ดังนี้

  • รูปวงกลม : ต้องซักแห้งเท่านั้น
  • รูปวงกลมมีตัวอักษร A ภายใน : ซักแห้งได้ด้วยน้ำยาทุกชนิด
  • รูปวงกลมมีตัวอักษร P ภายใน : ใช้น้ำยาซักแห้งได้ทุกชนิด ยกเว้นไตรคลอโรเอทธิลีน ซึ่งเป็นสารทำความสะอาดที่มักใช้ในอุตสาหกรรมโรงงาน
  • รูปวงกลมมีตัวอักษร F ภายใน : ใช้น้ำยาซักแห้งชนิดสารละลายปิโตรเลียมเท่านั้น
  • รูปวงกลมมีกากบาททับ : ห้ามซักแห้งโดยเด็ดขาด

4. การอบแห้ง

สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น, สัญลักษณ์ซักผ้า
Image Credit : www.japanlivingguide.net

ในปัจจุบันการอบแห้งได้รับความนิยมอย่างมากเพราะสะดวกรวดเร็วแถมยังไม่ต้องพึ่งพาแสงแดด ซึ่งก็สามารถอบผ้าได้ตามร้านซักผ้าหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมงหรือใช้เครื่องอบผ้าขนาดเล็กสำหรับใช้ในบ้านก็ได้ แต่ในการอบผ้านั้นมีการใช้ความร้อนที่อุณหภูมิค่อนข้างสูงจึงไม่เหมาะสำหรับผ้าบางชนิด เพราะอาจเป็นการทำลายใยผ้าและทำให้เสื้อผ้ามีรูปทรงเปลี่ยนไปได้ ดังนั้นก่อนที่จะนำผ้าเข้าไปอบก็อย่าลืมสังเกตสัญลักษณ์การอบผ้ากันด้วยนะคะว่าสามารถอบได้หรือไม่ และสำหรับสัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่นในการอบแห้ง จะเห็นได้ว่ามีการใช้จุดทึบกลมเป็นตัวกำหนดอุณหภูมิ ดังนี้

  • รูปสี่เหลี่ยม มีวงกลมภายใน : สามารถอบแห้ง ด้วยอุณหภูมิใดก็ได้
  • รูปสี่เหลี่ยม มีวงกลมภายใน และจุด 1 จุด : อบแห้งด้วยความร้อนต่ำ หรือประมาณ 60  องศา
  • รูปสี่เหลี่ยม มีวงกลมภายใน และจุด 2 จุด : อบแห้งด้วยความร้อนปานกลาง หรือประมาณ 70 องศา
  • รูปสี่เหลี่ยม มีวงกลมภายใน และจุด 3 จุด : อบแห้งด้วยความร้อนสูง หรือประมาณ 80 องศา
  • รูปสี่เหลี่ยม มีวงกลมภายใน และมีกากบาททับ : ห้ามอบแห้งเด็ดขาด

5. วิธีการตาก

สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น, สัญลักษณ์ซักผ้า
Image Credit : www.japanlivingguide.net

หลังจากซักผ้าเสร็จแล้วหากไม่ใช้วิธีการอบแห้งก็จะต้องใช้วิธีการตากผ้าแทน ซึ่งส่วนมากเราก็มักจะตากผ้าตามความเคยชิน ซึ่งก็คือการแขวนไม้แขวนเสื้อหรือพาดกับราวตากผ้า แต่สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมีความละเอียดมาก หากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีการระบุไปถึงวิธีการตากผ้าด้วย เพื่อทำให้เสื้อผ้าที่เราซื้อมาคงสภาพเดิมไว้ได้นานที่สุด โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • รูปสี่เหลี่ยม : ตากแห้งด้วยวิธีใดก็ได้
  • รูปสี่เหลี่ยม มีเส้นครึ่งวงกลมด้านบน หรือ รูปสี่เหลี่ยมภายในมีขีดแนวตั้ง 1 เส้น : แขวนตากให้แห้ง
  • รูปสี่เหลี่ยมภายในมีขีดแนวตั้ง 2 – 3 ขีด : ตากโดยใช้ไม้หนีบและหนีบผ้าติดกับราวแขวนในขณะที่ผ้ายังเปียก และต้องจัดให้เรียบพยายามอย่าให้มีรอยยับ
  • รูปสี่เหลี่ยมภายในมีขีดแนวนอน 1 ขีด : พาดหรือวางตากในแนวราบกับพื้น
  • รูปสี่เหลี่ยมภายในมีเส้นแนวทแยงมุมซ้ายบน 2 ขีด : ตากด้วยวิธีใดก็ได้แต่ควรตากในที่ร่มเท่านั้น
  • รูปสี่เหลี่ยมถูกกากบาททับ : ห้ามตากเด็ดขาด

6. การรีดผ้า

สัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่น, สัญลักษณ์ซักผ้า
Image Credit : www.insider.com

การรีดผ้าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการดูแลทำความสะอาดเสื้อผ้า ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะช่วยทำให้เสื้อผ้าของเราเรียบร้อยดูดี ไม่ยับย่น บางคนก็ใช้ร่วมกับน้ำยารีดผ้าเรียบเพื่อความสะดวกรวดเร็ว (อ่านเพิ่มเติม ยี่ห้อน้ำยารีดผ้าเรียบ)  แต่อุณหภูมิของเตารีดที่จะใช้ควรเหมาะสมกับชนิดของเส้นใยผ้าด้วย ถ้าปรับอุณหภูมิไม่ถูกต้องตามลักษณะเนื้อผ้าก็อาจทำให้ผ้าไม่เรียบ หด หรืออาจจะทำให้ผ้าไหม้ได้เลย ดังนั้นก่อนที่จะรีดควรสังเกตสัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่นให้ดีเลยค่ะ

  • รูปเตารีด : รีดผ้าด้วยอุณหภูมิใดก็ได้
  • รูปเตารีด มีจุดกลม 1 จุด : รีดผ้าด้วยความร้อนต่ำ
  • รูปเตารีด มีจุดกลม 2 จุด : รีดผ้าด้วยความร้อนปานกลาง
  • รูปเตารีด มีจุดกลม 3 จุด : รีดผ้าด้วยความร้อนสูง
  • รูปเตารีด พร้อมขีดแนวทแยงข้างล่างถูกกากบาททับ : ห้ามรีดด้วยเตารีดไอน้ำเด็ดขาด
  • รูปเตารีดถูกกากบาททับ : ห้ามรีดเด็ดขาด

ในตอนนี้ก็เข้าใจความหมายของป้ายสัญลักษณ์ซักผ้า ญี่ปุ่นกันมากขึ้นแล้ว ต่อไปนี้ก็สามารถดูแลรักษาเสื้อผ้าของเราได้อย่างถูกวิธีแล้วค่ะ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อเสื้อผ้าก็อย่าลืมพลิกดูป้ายก่อนนะคะว่ามีวิธีการดูแลทำความสะอาดอย่างไร เราสามารถปฏิบัติตามได้หรือไม่ เพื่อที่จะได้รักษาเสื้อผ้าให้อยู่กับเราไปได้นานและคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

Inspire Now ! : การซักผ้าที่ถูกต้องตามป้ายสัญลักษณ์ซักผ้า เป็นวิธีที่จะช่วยถนอมเสื้อผ้าให้อยู่ได้นาน ทั้งนี้ การแยกเสื้อผ้าก่อนซักก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่การแยกแค่ผ้าสีและผ้าขาวเท่านั้น แต่ควรใส่ใจในการแยกเสื้อผ้าที่เป็นเสื้อและกระโปรง – กางเกงออกจากกันด้วย เพราะส่วนมากกางเกงหรือกระโปรงจะสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียไว้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกางเกงยีนส์ หากนำมาซักรวมกันกับเสื้อผ้าอื่นๆ ก็อาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ และการแยกซักผ้าแบบนี้ยังทำให้ผ้าหอมมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากออกเดินทางใช่ไหม ? หากใครได้ไปญี่ปุ่นหรือไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าญี่ปุ่น ก็จะได้รู้วิธีการดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกต้อง ป้ายสัญลักษณ์การซักผ้าแม้จะดูยุ่งยากสักหน่อยแต่ก็มีประโยชน์ต่อการรักษาเสื้อผ้ามากเลยค่ะ ใครเคยเจอป้ายสัญลักษณ์แปลกๆ บนเสื้อผ้าก็มาคอมเมนต์คุยกันได้นะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : japanlivingguide.net, livinginjapan.net, lifeabroad.jp, insider.com, realestate-tokyo.com

Featured Image Credit : freepik.com/Lifestylememory

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW