ปี 2567 ลอยกระทงวันที่เท่าไร ? มารู้จักประวัติวันลอยกระทงให้มากขึ้นกัน !
ลอยกระทงวันที่เท่าไหร่ ชวนลอยกระทงให้สนุก และเข้าถึงประเพณีไทยมากขึ้นด้วยการเข้าใจประวัติความเป็นมา มาเรียนรู้ เข้าใจ และสนุกกับเทศกาลนี้กัน
วันตรุษจีนปี 2566 นี้ ตรงกับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาภายในครอบครัว กิจกรรมที่นิยมทำกันในวันตรุษจีนนั้นก็มีทั้งการไหว้เจ้า กินข้าวร่วมกับครอบครัว และออกไปเที่ยวพักผ่อนกันหลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งปี การจัดกิจกรรมงานตรุษจีนในไทยนั้น ในแต่ละจังหวัดก็นิยมจัดกันในแทบทุกปี รวมถึงที่กรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน ใครที่คิดว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงตรุษจีนนี้ละก็ มาดูกันค่ะว่า ในแต่ละจังหวัดนั้น มี กิจกรรมตรุษจีน ที่น่าสนใจยังไงบ้าง จะได้วางแผนเที่ยวกันให้ลงตัวค่ะ
สำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น จะมีอยู่ 3 วันหลักๆ ด้วยกันคือ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว นอกเหนือไปจากการไหว้เจ้าและการนั่งรับประทานอาหารกันภายในครอบครัวแล้ว ก็จะนิยมไปเที่ยวพักผ่อนกันใน “วันเที่ยว” ตามธรรมเนียมแล้วก็จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสวยงามและพากันออกไปข้างนอก ไปไหว้สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ หรือไปเที่ยวตามที่ต่างๆ และจะต้องงดเว้นการทำบาปทั้งปวง เพราะถือว่าเป็นวันแห่งสิริมงคล พร้อมกล่าวคำอวยพรตรุษจีน ภาษาจีนให้แก่กัน มาดูกันค่ะว่า มีกิจกรรมวันตรุษจีนทั่วไทยที่ไหนกันบ้าง เผื่อใครที่อยู่ในจังหวัดนั้นๆ จะได้ชวนครอบครัวไปเที่ยวกันค่ะ
ถ้าพูดถึงเทศกาลตรุษจีนแล้วละก็ จะไม่พูดถึงเยาวราชก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ในปี 2566 นี้ ทาง ททท. ได้จัดกิจกรรมตรุษจีนที่เยาวราชภายใต้แนวคิด “สิริมงคล รุ่งเรือง โชคดี ปีกระต่าย” เนรมิตซุ้มอุโมงค์ไฟความยาวกว่า 45 เมตร พร้อมโคมไฟประดับถนนมากกว่า 500 โคมที่บริเวณเยาวราช ถนนสายวัฒนธรรมชุมชนชาวจีนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยสามารถเข้าชมอุโมงค์ไฟนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18.00 – 24.00 น. ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา นอกจากนี้ ในวันที่ 22 – 23 มกราคม 2566 ยังมีการออกบูทจัดกิจกรรมแสดงนิทรรศการแหล่งท่องเที่ยวชุมชนชาวจีน บอกเล่าความเป็นมาการจัดตรุษจีนในประเทศไทย พร้อมทั้งมีการทำนายดวงชะตาและเสริมสิริมงคลชีวิตรับปีใหม่ตามหลักโหราศาสตร์จีนที่ถนนเยาวราชอีกด้วย ถ้าใครอยู่แถวๆ เยาวราช ก็ไปเที่ยวงานตรุษจีนแถวๆ นั้นพร้อมถ่ายรูปกับอุโมงค์ไฟกันได้นะคะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : facebook.com/ThailandFestival
แผนที่ :
ที่จังหวัดสมุทรสาคร ใกล้ๆ กับกรุงเทพฯ ก็มีเทศกาล “เล่ง เกีย ฉู่” สืบสานตำนานมังกร ณ ริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 23 มกราคม 2566 ภายในงานมีการแสดงต่างๆ ทั้งเชิดสิงโต เชิดมังกร มีการแสดงวัฒนธรรมไทย – จีน แสง สี เสียง น้ำพุเต้นระบำ พร้อมชิมอาหารเลื่องชื่อของสมุทรสาครอย่างผัดหมี่กระทะยักษ์ ชมขบวนแห่เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี๊ยะ พร้อมชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังอีกหลายท่าน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : facebook.com/mots.samutsakhon
แผนที่ :
ที่จังหวัดราชบุรี จัดกิจกรรมตรุษจีนภายใต้ชื่องาน “เทศกาลตรุษจีนราชบุรี สิริมงคล รุ่งเรือง โชคดี ปีการะต่าย” บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา อำเภอเมือง ระหว่างวันที่ 19 – 23 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 น.ภายในงานมีการสาธิตการทำอาหารมงคลในเทศกาลตรุษจีนโดยเชฟจากรายการสตาร์เชฟ พร้อมกิจกรรมงานฝีมือ DIY ต่างๆ มากกมาย ไม่ว่าจะเป็นการประดิษฐ์โคมจีน ฝึกการเขียนพู่กันจีน การเขียนหน้ากาก รวมถึงกิจกรรมดูดวงโหราศาสตร์จีน เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันเริ่มต้นปีใหม่ เพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทยจีนให้คงอยู่ต่อไป และยังมีโชว์เชิดมังกรภายในงานอีกด้วย สำหรับใครที่กลัวเรื่องการระบาดของโรค COVID – 19 ก็ไม่ต้องกังวล เพราะภายในงานมีมาตรการให้สวมหน้ากากอนามัย พร้อมจุดบริการแอลกอฮอล์ภายในงาน ใครที่อยู่จังหวัดราชบุรี ก็ไปเที่ยวกันได้นะคะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : facebook.com/ChineseNewYearRatchaburi
แผนที่ :
จังหวัดนครสวรรค์ก็ได้มีการจัดกรรมกรรมตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ระหว่างวันที่ 15 – 26 มกราคม 2566 ภายใต้แนวคิด “สืบสานพลังแห่งศรัทธา รักษาประเพณี 107 ปี ตรุษจีน ปากน้ำโพ” เชิญชวนผู้ร่วมงานร่วมสักการะองค์เจ้าพ่อ – เจ้าแม่ปากน้ำโพ และไฮไลท์กิจกรรมเกล็ดมังกรแก้ชง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสิงโตโหงวซก การแสดงสิงโตเก้าขุนพล มีการจัดนิทรรศการแสดงงานศิลปะ ตลาดวัฒนธรรม ชมการสาธิตและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมอย่างหลากหลาย มีกิจกรรมเสวนาทางวิชาการ โดยกรมศิลปากร ร่วมกับกิจกรรมไหว้เจ้าขอพร การแก้ชง ไหว้เสริมดวง และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นงานเทศกาลตรุษจีนที่ยิ่งใหญ่อลังการเลยทีเดียว
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : facebook.com/paknamphochinesenewyear
แผนที่ :
กิจกรรมตรุษจีนที่จังหวัดสุพรรณบุรี จัดขึ้นที่บริเวณอุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานมังกร ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ระหว่างวันที่ 21 – 31 มกราคม 2566 ภายในงานมีการแสดงแสงสีเสียงที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งการแสดงชุดลูกหลานพันธ์ุมังกร การแสดงระบำจีน การแสดงคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินนักร้องชื่อดัง ทั้งนี้ ยังมีการตกแต่งสถานที่ให้มีความสวยงามด้วยระบบแสงสี และมีการจัดสวนดอกไม้ไว้ให้ไปถ่ายรูปเล่นสวยๆ อีกด้วย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : facebook.com/SuphanburiTAT
แผนที่ :
ที่จังหวัดอุดรธานี มีการจัดกิจกรรมตรุษจีน ณ ศาลเจ้าปู่ – ย่า อุดรธานี วันที่ 18 – 21 มกราคม 2566 โดยมีกิจกรรมการแสดงของ 4 คณะ ได้แก่ มังกร สิงโต เอ็งกอ และหล่อโก้ว พร้อมซุ้มอาหารมิชลินไกด์อุดรธานี ของดีเมืองอุดรให้เลือกชิมเลือกช็อปกันมากมาย ร่วมไหว้เจ้าแก้ชงเสริมดวงได้ภายในงาน ทั้งยังมีการแจกลูกโป่งมงคลให้กับเด็กๆ ที่ไปร่วมงานด้วย จะพาลูกๆ หลานๆ ไปเที่ยว ก็ได้สนุกกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : facebook.com/puyaudon/?ref=page_internal
แผนที่ :
ส่งท้ายด้วยกิจกรรมตรุษจีนในหาดใหญ่ ณ ลานอรรถกระวีสุนทร ในวันที่ 21 – 24 มกราคม 2566 จัดโดยสมาคมไทย – จีน ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเทศบาลนครหาดใหญ่ ภายใต้ตีม “ตรุษจีน หาดใหญ่ ต้องยิ่งใหญ่ และสร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืม ให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน” ภายในงานมีการแสดงเชิดสิงโตทองอย่างงดงามอลังการ จากคณะสิงโตชื่อดังของจังหวัดยะลา พร้อมการแสดงขับร้องเพลงจีนจากชมรมศิลปะวัฒนธรรมจีนโดยเด็กๆ โรงเรียนจีนในความดูแลของสมาคม และยังมีซุ้มโคมไฟ กระต่ายนำโชค ถนนคนเดิน ให้ได้เดินเที่ยวชิมช็อป และถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : facebook.com/ThaiChineseSongkhla
แผนที่ :
ในข้างต้นได้แนะนำ กิจกรรมตรุษจีน ทั่วไทยไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับคนกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้วางแผนไปเที่ยวต่างจังหวัดนั้น นอกจากเยาวราชแล้ว เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันอีกได้บ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
อีกหนึ่งกิจกรรมตรุษจีนที่นิยมทำกันก็คือ การไหว้เทพเจ้าขอพรเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ถ้าได้มาเยาวราชแล้ว ก็ต้องมาแวะศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า สถานที่ไหว้พระขอพรที่คนไทยเชื้อสายชีน รวมถึงคนจีนนิยมมาสักการะขอพรและให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก ที่นี่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร ซึ่งอันเชิญมาจากประเทศจีนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 เลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่แล้ว จะนิยมมาขอพรในเรื่องของสุขภาพ ให้ช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยและมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย เหมาะสำหรับการมาไหว้ขอพรในช่วงตรุษจีนมากๆ ค่ะ
การเดินทาง : สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือนั่งรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานีวัดมังกรก็ได้เช่นกัน หรือจะนั่งรถประจำทาง ปอ.529 ปอ.542 ก็จะผ่านแถวศาลเจ้าพอดีค่ะ
แผนที่ :
ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำให้มาไหว้สักการะในช่วงตรุษจีนนี้ เพราะเป็นศาลเจ้าแต้จิ๋วที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย มีอายุมากกว่า 300 ปี ตัวศาลเจ้าเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีตามแบบโบราณ ภายในศาลมีแท่นบูชาองค์เทพ “เล่งบ๊วยเอี๊ยะ” หรือเทพเจ้ามังกรเป็นประธาน ตามความเชื่อแล้ว นิยมมาไหว้พระขอพรในเรื่องของการค้าขาย ให้มีความมั่งคั่งรุ่งเรือง กิจการก้าวหน้า หรือจะมากราบไหว้เพื่อขอให้เลี้ยงลูกได้ง่าย มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีแท่นบูชาเทพเจ้ากวนกู แท่นบูชาพระแม่สวรรค์ให้ได้สักการะ รวมถึงมีระฆังโบราณที่สร้างตั้งแต่ราชวงศ์ชิง และวัตถุล้ำค่าโบราณอื่นๆ ให้ได้ชมด้วยนะ เป็นการเที่ยววันตรุษจีนที่ได้สักการะขอพรเทพเจ้า พร้อมๆ กับศึกษาเรื่องราวประศาสตร์ไปด้วย ใครที่ชอบความเก่าแก่โบราณต้องห้ามพลาดค่ะ
การเดินทาง : ขึ้น MRT สายสีฟ้า มาลงที่สถานีวัดมังกร เดินอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงที่หมาย
แผนที่ :
นอกจากจะไปไหว้เทพเจ้าที่ศาลเจ้าต่างๆ แล้ว สำหรับกิจกรรมตรุษจีนสำหรับคนไทยเชื้อสายจีน หากจะไปวัดไทยเพื่อไปไหว้พระขอพรก็ได้เหมือนกันค่ะ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ตั้งอยู่บนถนนตรีมิตร แขวงตลาดน้อย เป็นวัดโบราณเก่าแก่ เดิมชื่อว่า “วัดสามจีน” เข้าใจกันว่ามีชาวจีน 3 คนร่วมกันสร้างพระอารามเพื่อถวายเป็นทานบุญ ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธทศพลญาณ พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ผู้คนนิยมมาสักการะกันอยู่เสมอ และอย่าลืมไปไหว้พระสุโขทัยไตรมิตร พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งยังได้รับการบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์บุ๊กอีกด้วย นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช บอกเล่าความเป็นมาของย่านจีนสำเพ็ง – เยาวราช และมีนิทรรศการพระพุทธรูปทองคำให้ได้ศึกษา เป็นวัดที่เหมาะกับการทำบุญในช้วงปีใหม่จีนสำหรับชาวพุทธเชื้อสายจีนมากๆ ค่ะ
การเดินทาง : สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือนั่งรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานีหัวลำโพง ทางออกหมายเลข 1 เดินอีก 10 นาที ก็จะถึงที่หมาย
แผนที่ :
หลังจากไหว้พระไหว้เทพเจ้าขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันที่เรียบร้อยแล้ว ก็มาเที่ยวแบบชิลๆ บ้างค่ะ ล้ง 1919 เป็นโกดังเก็บสินค้าด้านการเกษตรของตระกูลหวั่งหลี ดัดแปลงมาจากท่าเรือกลไฟบรรทุกสินค้าเก่าแก่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2393 ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ได้ มีลานอเนกประสงค์สำหรับจัดกิจกรรม นิทรรศการ และมีร้านอาหาร คาเฟ่สไตล์จีนให้นั่งดื่มกาแฟกันเพลินๆ แล้วก็อย่าลืมไปสักการะศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ที่มีอายุมากกว่า 180 ปี สิ่งศักด์สิทธิ์และศูนย์รวมใจของชาวจีนในแผ่นดินไทย นิยมมาขอพรในเรื่องการงานและความรัก นอกจากจะได้สวมชุดกี่เพ้าสวยๆ มาถ่ายรูปกันแล้ว ยังได้มาไหว้องค์เจ้าแม่หม่าโจ้วเพื่อความเป็นสิริมงคลรับตรุษจีนอีกด้วย
การเดินทาง : สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาที่ท่าเรือราชวงศ์ แล้วข้ามฟากมายังท่าดินแดง หรือลงที่ท่าเรือสี่พระยา แล้วข้ามฟากมายังท่าเรือคลองสาน หากเป็นรถประจำทาง ให้ข้ามฟากมายังฝั่งธนฯ แล้วนั่งสาย 6, 43, 88, 167, 120 หรือ 57 ก็จะถึงที่หมาย
แผนที่ :
ตลาดน้อย เป็นย่านการค้าริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีการผสมผสานวัฒนธรรมไทย – จีนได้อย่างลงตัว ในชุมชนนั้นมีศาลเจ้าจีนอยู่หลายแห่ง และมีร้านกาแฟที่ออกแบบให้เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์จีนอยู่หลายร้านด้วยกัน เหมาะมากๆ สำหรับการเดินเที่ยวถ่ายรูปเล่น จิบกาแฟเพลินๆ ที่ตลาดน้อยมีไฮไลท์คือ Hong Sieng Kong คาเฟ่สไตล์จีน โดดเด่นที่อาคารสีน้ำเงินสดซึ่งก่อสร้างโดยช่างจีน ยังมีสภาพที่สวยงามสมบูรณ์ อยู่ติดกับศาลเจ้าโจวซือกง ภายในร้านให้กลิ่นอายโรงเตี๊ยมแบบจีนโบราณ จากนั้นไปเยี่ยมชมบ้านโซวเฮ่งไถ่ บ้านของคหบดีชาวจีนที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบฮกเกี้ยน มีอายุเก่าแก่ถึง 250 ปี ถ้าใครอยากศึกษารูปแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ สถานที่แห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ
การเดินทาง : สามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีสะพานตากสิน จากนั้นต่อเรือมาลงที่ท่าเรือกรมเจ้าท่า เดินทะลุซอยมาประมาณ 100 เมตรก้จะถึงตลาดน้อย หรือนั่งรถเมล์สาย 1, 35 และ 75 ก็ได้
แผนที่ :
สวนหลวง ร.9 นั้นเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีพื้นที่มากกว่า 500 ไร่ ภายในมีสวนนานาชาติที่จัดแสดงลักษณะสวนของประเทศต่างๆ หนึ่งในนั้นคือสวนจีน “สวนจื้อเล่อ” หรือ 智乐园 สวนแห่งนี้ถอดแบบมาจากสวนสไตล์เจียงหนาน ออกแบบให้มีเก๋งจีนตั้งอยู่บนเนินเขา รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม พร้อมกับสระบัวและระเบียงทางเดินริมน้ำตามแบบฉบับสวนจีนแท้ ถ้าใครไม่ชอบไปงานตรุษจีนที่มีคนเยอะๆ หรือมีความอึกทึกครึกโครม จะชวนครอบครัวมาถ่ายรูปเล่น หรือมานั่งพักผ่อนหย่อนใจที่สวนจีนแห่งนี้ก็ได้เหมือนกันนะคะ เป็นกิจกรรมตรุษจีนสบายๆ ที่ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ
การเดินทาง : สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือนั่งรถไฟฟ้าลงสถานีอุดมสุข เดินเลี้ยวเข้าซอย 103 จะมีท่ารถประจำทางเขียนว่าไปประเวศ ซึ่งจะผ่านหน้าสวนหลวง ร.9 หรือจะนั่งรถเมล์สาย 139, 25, 45, 508, 588 ก็ได้เช่นกัน
แผนที่ :
Inspire Now ! : กิจกรรมวันตรุษจีนก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย แล้วแต่ความสะดวกว่าเราอยากจะไปเที่ยวที่ไหน จะไปทำกิจกรรมอะไร จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพรและเสริมความเป็นศิริมงคล หรือไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ก็ย่อมได้ ที่สำคัญคือ ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเฉลิมฉลองช่วงวันหยุดอย่างเต็มที่ และอีกหนึ่งกิจกรรมตรุษจีนที่นิยมทำกันก็คือ การไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะเพื่อแก้ชง แล้วเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะมีที่ไหนบ้าง ? สำหรับในกรุงเทพฯ ก็มีอยู่หลายที่ด้วยกัน นิยมไปไหว้กันที่วัดมังกร วัดทิพยวารีวิหาร และวัดอื่นๆ อีกหลายแห่ง ใครที่เกิดปีชงพอดี ก็อย่าลืมไปไหว้แก้ชงกันด้วยนะคะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากออกเดินทางใช่ไหม ? มีลิสต์กิจกรรมวันตรุษจีนที่ไหนอยู่ในใจกันบ้างหรือยังคะ ? หรือถ้าใครอยากจะแนะนำที่เที่ยววันตรุษจีนที่อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ก็คอมเมนต์กันมาได้เลยนะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : facebook.com/ThailandFestival, pptvhd36.com, komchadluek.net, thansettakij.com
Featured Image Credit : pexels.com/熊大 旅遊趣
ลอยกระทงวันที่เท่าไหร่ ชวนลอยกระทงให้สนุก และเข้าถึงประเพณีไทยมากขึ้นด้วยการเข้าใจประวัติความเป็นมา มาเรียนรู้ เข้าใจ และสนุกกับเทศกาลนี้กัน
รวมทั้งผัก และ ผลไม้บำรุงสายตา อยากบำรุงให้สายตาของเราใช้ได้ไปนานๆ ต้องทำกินอะไรบ้าง มีผักหรือผลไม้อะไรบ้างที่เรากินอยู่แล้วเป็นประจำแล้วดีกับตาบ้าง มาดูกัน
ผลไม้น้ำตาลสูงมีอะไรบ้าง ชวนรู้จักน้ำตาลในผลไม้เทียบกับน้ำตาลเติมแต่ง พร้อมแนะนำผลไม้ 10 อย่างที่ควรกินให้น้อยเพื่อสุขภาพที่ดี และคนเป็นเบาหวานควรเลี่ยง