ปี 2567 ลอยกระทงวันที่เท่าไร ? มารู้จักประวัติวันลอยกระทงให้มากขึ้นกัน !
ลอยกระทงวันที่เท่าไหร่ ชวนลอยกระทงให้สนุก และเข้าถึงประเพณีไทยมากขึ้นด้วยการเข้าใจประวัติความเป็นมา มาเรียนรู้ เข้าใจ และสนุกกับเทศกาลนี้กัน
การเที่ยวในปัจจุบันไม่ว่าจะเที่ยวในต่างประเทศหรือในไทย การไม่มีรถก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป สำหรับการท่องเที่ยวในบ้านเรา จะไปจังหวัดไหนก็มีทั้งเครื่องบิน รถทัวร์ รถบัส แล้วก็สามารถเดินทางต่อด้วยรถประจำทางในจังหวัด หรือจะเป็นการจ้างไรเดอร์ที่รอรับนักท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดก็ได้ทั้งนั้น และในช่วงสิ้นปีแบบนี้ ทุกคนก็ต้องคิดถึงอากาศเย็นๆ ที่ภาคเหนือกันทั้งนั้น นอกจากที่เที่ยวธรรมชาติ เชียงใหม่แล้ว น่านก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าไปเที่ยวเหมือนกัน และถ้าใครอยากไปน่าน การเที่ยว น่าน ไม่มีรถ ก็ไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลเลยค่ะ ซึ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวประมาณเดือนตุลาคมเป็นต้นไปยาวๆ ไปถึงช่วงปีใหม่ ถือว่าเหมาะมากสำหรับการมาเที่ยวภาคเหนือ ถ้าถามว่าเที่ยวน่าน เดือนไหนดี ? ก็ต้องเป็นช่วงตุลาคม – กุมภาพันธ์นี่แหละเหมาะสมที่สุด ! ใครที่อยากไปน่านแล้วไม่มีรถส่วนตัว มาดูกันว่า เราจะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง เก็บกระเป๋าแล้วไปกันเลย !
เที่ยวน่าน เดือนไหนดี ? ตอนช่วงหน้าหนาวนี่แหละเป็นเวลาที่เหมาะที่สุด! เรามาดูกันดีกว่าว่าสถานที่ที่ต้องไปเช็กอินให้ได้ถ้าไปเหยียบถึงตัวเมืองน่านแล้ว จะมีที่ไหนบ้าง ? โดยเฉพาะสำหรับคนที่เที่ยวน่าน ไม่มีรถ บอกเลยว่าไปง่ายสะดวกแน่นอน
มาเริ่มกันที่สถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองก่อนเลย ใครที่เที่ยวน่าน ไม่มีรถ ให้เรียกรถมาส่งที่บริเวณซุ้มลึลาวดี ซึ่งเป็นซุ้มที่อยู่หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เป็นบริเวณที่เหมาะกับการถ่ายภาพสุดๆ ซึ่งหลังจากชมดอกไม้จนหนำใจแล้ว ก็ได้เวลาเดินเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ อันเป็นที่ประทับเดิมของเจ้าผู้ครองนครน่าน หรือที่เราคุ้นหูกันว่า ‘หอคำ’ นั่นเอง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะทำให้เราได้เข้าใจประวัติศาสตร์และชีวิตของชนกลุ่มน้อยในเมืองน่านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแม้ว เย้า หรือไทยลื้อ ฯลฯ ผ่านรูปถ่ายโบราณ ข้าวของเครื่องใช้ หรือศิลาจารึกที่ยังคงเหลืออยู่ โดยเฉพาะ ‘งาช้างดำ’ ที่เป็นของล้ำค่าของเมืองน่าน
เวลาทำการ : เปิดบริการวันพุธ – วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์ – อังคาร) เวลา 09.00 – 16.00 น.
ราคาโดยประมาณ : คนละ 20 บาท
แผนที่ :
วัดภูมินทร์ ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของจังหวัดน่านเลยก็ว่าได้ และเป็นอีกที่ที่เหมาะมากๆ กับคนที่มาเที่ยวน่าน ไม่มีรถ เพราะอยู่ถัดมาจากพิพิธภัณฑ์ สามารถเดินไปได้เลย ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ขึ้นชื่อในเรื่องภาพวาดฝาผนัง ‘ปู่ม่านย่าม่าน’ และพระจตุรทิศทั้งสี่ด้าน ที่เราสามารถมองเห็นหน้าองค์พระได้ทุกด้านทุกทิศ แถมยังเป็นสถานที่ฮิตสำหรับการขอพรอีกด้วย แนะนำว่าถ้าต้องการขอพรเรื่องความรัก โดยเฉพาะคู่รักให้ขอพรต่อหน้าปู่ม่าน ย่านม่าน จะทำให้ชีวิตคู่ยั่งยืน แต่หากต้องการขอพรในเรื่องอื่นๆ สามารถไปขอพรได้กับพระจตุรทิศ แต่จะต้องอยู่ในทิศที่เหมาะสม ต้องเป็นมุมที่เห็นหน้าองค์พระยิ้มแย้มมากที่สุดเท่านั้นก็จะสมปรารถนาดั่งใจหวัง
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น.
ราคาโดยประมาณ : ฟรี
แผนที่ :
สำหรับคนเที่ยวน่าน ไม่มีรถ เราแนะนำให้เที่ยวในบริเวณนั้นๆ ที่สามารถเดินไปได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเรียกรถหลายครั้ง ซึ่งถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน ก็อยู่บริเวณวัดภูมินทร์และพิพิธภัณฑ์นั่นเอง โดยตลาดจะเปิดในช่วงเย็นๆ ในวันศุกร์ – อาทิตย์ มีของกิน น่านทั้งของพื้นเมืองและอาหารทั่วไป รวมไปถึงยังมีสินค้าท้องถิ่นให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย ถือว่าราคาสินค้าโดยรวมมีราคาไม่แพง เหมาะกับการเดินกินช็อปชิลๆ ฆ่าเวลาในช่วงเย็น โดยปกติแล้วจะเริ่มตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็น ยาวไปจนถึง 4 ทุ่ม ถ้าใครอยากสัมผัสความเป็น Local ของเมืองน่าน แนะนำว่าให้มาเดินเล่นที่ถนนคนเดินนี้ค่ะ
เวลาทำการ : วันศุกร์ – วันอาทิตย์ เวลา 17.00 – 22.00 น.
แผนที่ :
ใครอยากซึมซับบรรยากาศย้อนยุค หรือชื่นชอบสถาปัตยกรรมแบบโบราณ และมาเที่ยวน่านแบบไม่มีรถแนะนำว่าต้องมาที่ตึกรังษีเกษม ห่างจากวัดภูมินทร์ไม่ถึง 3 กิโลเมตร ตึกแห่งนี้ เป็นหอประวัติศาสตร์ของโรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบสไตล์ตะวันตก และมีจุดเด่นที่ทำให้สะดุดตาก็คืออาคารจะเป็นรูปตัว U ภายในตึกเป็นกำแพงเก่าที่เหมาะกับคำว่าย้อนยุคของแท้ ทั้งยังมีข้าวของเครื่องใช้จากสมัยมิชชันนารี และภาพถ่ายในอดีตมากถึง 1,000 ภาพให้เราได้เดินชมกันอีกด้วย แต่ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เค้าหยุดเสาร์อาทิตย์ ถ้าใครอยากมาถ่ายรูปตึกนี้ต้องมาวันธรรมดาถึงจะดีที่สุดค่ะ
เวลาทำการ : จันทร์- ศุกร์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
ราคาโดยประมาณ : ฟรี
แผนที่ :
คอกาแฟต้องได้ไปนั่งจิบกาแฟหอมๆ พร้อมชมวิวนาข้าวชิลๆ หรือจะกินไปเดินถ่ายรูปไปตามสะพานไม้ที่ทอดยาวไปทั่วพื้นที่ก็ได้เหมือนกัน พร้อมชมความสดใสจากสีสันของผ้าทอสไตล์ไทลื้อ เรียกว่าเป็นจุดเช็กอินที่ต้องมาแชะภาพบรรกาศเก็บไว้จริงๆ และยังมีจุดซื้อของฝากเป็นผ้าทอประจำถิ่น รวมถึงขนมติดไม้ติดมือสำหรับหิ้วกลับบ้านกันด้วย ใครที่มาเที่ยวน่าน ไม่มีรถและต้องการมาที่นี่ แนะนำให้เรียกแท็กซี่ผ่านแอปฯ จะดีที่สุดค่ะ หรืออีกวิธีหนึ่งคือ นั่งรถสองแถวจากสนามบินหรือขนส่งมายัง ‘อำเภอปัว’ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีโดยประมาณ และปลายทางจะจอดอยู่ที่หน้าตลาดปัว แล้วค่อยเรียกรถนั่งต่อมายังกาแฟบ้านไทลื้อ ใช้เวเลาไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้น
เวลาทำการ : จันทร์- ศุกร์ เวลา 07.00 – 17.00 น.
แผนที่ :
ใครที่เที่ยวน่าน ไม่มีรถ และเป็นสายเดินดูภาพงานศิลปะและงานศิลป์ต่างๆ ก่อนจะไปถึงกาแฟบ้านไทลื้อ พลาดไม่ได้กับการแวะระหว่างทางที่ ‘หอศิลป์ริมน่าน’ ซึ่งเป็นสถานที่ที่รวบรวมงานศิลปะของคนไทยเอาไว้ ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่กว้างขวาง มีอาคารจัดแสดง 2 ที่สำหรับนิทรรศการของ ‘วินัย ปราบริปู’ และของศิลปินท่านอื่นๆ เปลี่ยนสลับกันไปตลอดทั้งปี นอกจากภายในอาคารจะมีงานศิลป์ที่โดดเด่นน่าจับตามองแล้ว รอบๆ บริเวณหอศิลป์ก็ยังอยู่ติดกับแม่น้ำน่านอีกด้วย ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาชื่นชมทัศนียภาพและถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกเอามากๆ และถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับชาวอาร์ตที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ
เวลาทำการ : พฤหัสบดี – อังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 9:00-17:00 น.
ราคาโดยประมาณ : คนละ 20 บาท
แผนที่ :
สุดท้ายมากันที่วัดภูเก็ต ชื่ออาจจะดูแปลก แต่ย้ำอีกครั้งว่าเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในจังหวัดน่านจริงๆ ซึ่งที่มาของชื่อนั้น ‘ภู’ มาจากการที่วัดอยู่บนเนินหรือดอย และตั้งอยู่ที่ ‘หมู่บ้านเก็ต’ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในจังหวัดน่านเลยค่ะ สามารถมองวิวได้รอบทิศ เห็นทั้งพื้นที่สีเขียวที่เป็นท้องทุ่งนาและเชิงเขาที่มีแม่น้ำอยู่ด้านล่าง แล้วก็อย่าลืมเข้าไปไหว้พระเสริมบุญให้ชีวิตเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ เราสามารถต่อรถมายังวัดภูเก็ตได้เพราะห่างจากกาแฟบ้านไทลื้อเพียงประมาณ 6 นาทีเท่านั้นเอง จะได้เที่ยวเมืองปัวได้แบบจุใจไปเลย
เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น.
ค่าบริการ : ฟรี
แผนที่ :
และนี่ก็เป็น 7 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองน่านสำหรับคนไม่มีรถ นอกจากความสงสัยในการแพลนว่าเที่ยวน่าน เดือนไหนดีแล้ว สำหรับคนที่ยังกังวลว่าการเที่ยวน่าน ไม่มีรถจะไปได้มั้ย บอกเลยค่ะว่าไม่ยากจริงๆ ถ้าเราวางแผนการเดินทางให้ดี สามารถเดินทางนิดเดียว ไม่ห่างกันมาก แต่สามารถไปแวะเช็กอินได้หลายสถานที่เลย และถ้าใครวางแผนไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยละก็ เที่ยวเชียงใหม่คนเดียว ที่ไหนดี ? ไปไหนก็เดินทางไม่ยากอีกเหมือนกัน เพราะก็มีรถประจำทางทั่วเมือง หรือจะเรียกรถก็ได้เช่นกันค่ะ แค่ดูแลตัวเองดีๆ จะไปไหน ก็ไปได้ทุกที่เลย!
Inspire Now ! : การเที่ยวแบบไม่มีรถนั้น สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนเส้นทางให้ดี และศึกษาวิธีการใช้ขนส่งมวลชน ขนส่งสาธารณะ หรือวิธีขึ้นรถประจำทางของจังหวัดนั้นๆ ก่อนไปถึง ง่ายที่สุดคือการถามคนในท้องที่ว่าสามารถไปสถานที่แห่งนั้นได้อย่างไรบ้าง และการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน สามารถเดินไปได้ ก็จะทำให้เราเซฟทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยค่ะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากออกเดินทางใช่ไหม ? หนาวนี้ ถ้ายังไม่มีแพลนจะไปไหน ลองไปเที่ยวเมืองน่านกันดูไหมคะ ? ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : nantourism.go.th, thai.tourismthailand.org
Featured Image Credit : vecteezy.com/boy_anupong
ลอยกระทงวันที่เท่าไหร่ ชวนลอยกระทงให้สนุก และเข้าถึงประเพณีไทยมากขึ้นด้วยการเข้าใจประวัติความเป็นมา มาเรียนรู้ เข้าใจ และสนุกกับเทศกาลนี้กัน
รวมทั้งผัก และ ผลไม้บำรุงสายตา อยากบำรุงให้สายตาของเราใช้ได้ไปนานๆ ต้องทำกินอะไรบ้าง มีผักหรือผลไม้อะไรบ้างที่เรากินอยู่แล้วเป็นประจำแล้วดีกับตาบ้าง มาดูกัน
ผลไม้น้ำตาลสูงมีอะไรบ้าง ชวนรู้จักน้ำตาลในผลไม้เทียบกับน้ำตาลเติมแต่ง พร้อมแนะนำผลไม้ 10 อย่างที่ควรกินให้น้อยเพื่อสุขภาพที่ดี และคนเป็นเบาหวานควรเลี่ยง