วันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่ ? สำคัญยังไง ? เค้าทำอะไรกันบ้าง ?!

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถ้าเป็นบ้านเรา ก็คงตั้งตารอวันลอยกระทง ซึ่งเป็นเทศกาลที่สำคัญอีกเทศกาลหนึ่งของคนไทย หรือวัน 11.11 วันคนโสดสากลที่ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่จะลดราคาสินค้ากันกระหน่ำ แต่สำหรับต่างประเทศแล้ว โดยเฉพาะประชาชนชาวอเมริกัน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน มีวันสำคัญมากๆ อีกวันหนึ่ง ซึ่งก็คือ “วันขอบคุณพระเจ้า” นั่นเอง หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อวันนี้กันมาบ้าง แต่ยังไม่รู้ประวัติความเป็นมาที่แน่ชัด และกำลังสงสัยว่า วันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่ ?เพราะทุกปีก็จัดในวันที่ไม่เหมือนกันเลย มาอ่านเรื่องราวของวันนี้กันค่ะว่า มีความเป็นมายังไง ทำไมถึงสำคัญ แล้วเขาจัดขึ้นในวันไหนกันแน่ ? ไปหาคำตอบกันเลย !

วันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่ ? คือวันอะไรกันแน่นะ ?

วันขอบคุณพระเจ้า ถือเป็นวันหยุดประจำชาติในสหรัฐอเมริกา และเป็นวันหยุดราชการ โดยกำหนดให้วันพฤหัสบดีในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนทุกๆ ปีเป็นวัน Thanksgiving Day หรือวันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง แล้วปีนี้ วันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่กันนะ ? ในปีนี้ จะตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายนค่ะ

Thanksgiving Days เป็นวันที่ชาวอเมริกันจัดเทศกาลเฉลิมฉลองและขอบคุณพระเจ้าสำหรับการอวยพรต่างๆ รวมไปถึงการเก็บเกี่ยวพืชผลในปีที่ผ่านมา ซึ่งประเทศอื่นๆ ก็มีการเฉลิมฉลองเช่นกัน อาทิ ประเทศแคนาดา เยอรมนี ออสเตรเลีย เป็นต้น แล้ววันนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ? เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังค่ะ ย้อนไปในช่วงปี 1621 นักบวชแสวงบุญที่เรียกกันว่ากลุ่ม Pilgrims พร้อมกลุ่มคณะอพยพชาวยุโรปออกเดินทางจากเกาะอังกฤษด้วยเรือที่ชื่อว่า Mayflower และมาทิ้งสมอ จอดเรือปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมือง Plymouth ในดินแดนแห่งใหม่ ซึ่งก็คือประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง (ปัจจุบันคือรัฐ Massachusetts) ซึ่งในช่วงแรกที่อพยพมานั้น ก็เกิดความอดอยาก เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ต้องต่อสู้กับสภาพอากาศที่หนาวเย็น แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากชนพื้นเมืองอเมริกันที่สอนให้กลุ่มชาวอพยพรู้จักการปลูกพืช เช่น การปลูกข้าวโพด ล่าสัตว์ จับปลาในแม่น้ำ ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้ มีอาหารกินพร้อม ไม่อดอยากอีกต่อไป เมื่อถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยวพืชผล กลุ่ม Pilgrims จึงได้จัดงานเลี้ยงฉลองขอบคุณพระเจ้าขึ้น และได้เชิญเหล่าชนพื้นเมืองอเมริกันมาร่วมงานด้วย เพราะได้ให้ความช่วยเหลือจนผ่านพ้นความยากลำบากมาได้นั่นเอง

หลังจากนั้น ก็ได้มีการจัดเทศกาลวันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าขึ้นในทุกๆ ปี เพื่อเป็นการรำลึกขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ช่วยเหลือกลุ่มอพยพให้รอดชีวิตมาได้ และต่อมาได้กลายเป็นหวัดหยุดประจำชาติอเมริกา เมื่อประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น ได้ประกาศให้วัน Thanksgiving เป็นวันหยุดทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 1863 สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน เพื่อให้สมาชิกครอบครัวกลับมาที่บ้านและรับประทานอาหาร เฉลิมฉลองร่วมกันนั่นเองค่ะ

[affegg id=4539]

กิจกรรม Thanksgiving Days เขาทำอะไรกันบ้าง ?

วันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่ ตอนนี้ก็รู้กันแล้ว ตอนนี้เราดูกันบ้างว่า ในวันนี้ เขามีกิจกรรมอะไรกันบ้างนะ ? หลักๆ เลยก็คือการเฉลิมฉลอง รับประทานอาหารร่วมกัน โดยมีไก่งวงเป็นอาหารจานหลัก ซึ่งจะต้องมีบนโต๊ะอาหาร ขาดไปไม่ได้สำหรับการเฉลิมฉลอง และมีอาหารดั้งเดิมที่เป็น Traditional ประเภทอื่นๆ ได้แก่ อาหารยัดไส้ต่างๆ ที่เรียกว่า Stuffing เช่น พริกหวานยัดไส้ มะเขือเทศยัดไส้ มันบด ซอสแครนเบอร์รี่ พายฟักทอง เมนูฟักทอง ของหวานต่างๆ และพายแอปเปิ้ล หลังจากนั้นก็นั่งเล่นพักผ่อน ดูฟุตบอลด้วยกัน และในชุมชนยังมีการจัดเลี้ยงอาหารค่ำฟรีให้กับผู้ด้อยโอกาสหรือคนไร้บ้านในละแวกนั้นด้วยค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีการจัดขบวนพาเรดขึ้น ในนครนิวยอร์กจะมีขบวนพาเรดที่มีชื่อเสียงมาก ซึ่งจัดโดยห้างสรรพสินค้า Macy เพื่อให้คนออกมาดูขบวนพาเรดกันเป็นการเฉลิมฉลอง และในวันศุกร์ถัดจากวันขอบคุณพระเจ้า ตามห้างร้านสรรพสินค้า และร้านค้าส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดร้านเร็วกว่าปกติเพื่อจัดเทศกาลลดราคาสินค้าแบบกระหน่ำจัดหนักจัดเต็ม ให้ได้ไปช็อปปิ้งกัน ซึ่งเรียกว่า Black Friday นั่นเอง

ข้อแนะนำสำหรับการเฉลิมฉลองวันThanksgiving Days

มีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับงานเลี้ยงเฉลิมฉลองในวันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่แขกและเจ้าบ้านจะปฏิบัติกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันค่ะ

• เผื่อเวลาทำอาหารเอาไว้เยอะๆ และทำรายการอาหารเอาไว้ล่วงหน้า ซื้อของเตรียมเอาไว้ก่อนที่จะทำอาหาร 

• จัดโต๊ะแบบง่ายๆ มีพื้นที่เหลือสำหรับการวางจานอาหารต่างๆ 

• อย่าปฏิเสธความช่วยเหลือจากแขก แม้จะเป็นเจ้าบ้านก็ตาม อาหารมื้อค่ำในวันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าเป็นเรื่องใหญ่ การที่แขกเสนอให้ความช่วยเหลือในการทำอาหาร จัดโต๊ะ จึงไม่ควรปฏิเสธค่ะ 

• อย่าลืมทำอาหารจานโปรดหรือเมนูประจำของสมาชิกในครอบครัว และอย่าเพิ่งลองทำเมนูใหม่ในวันนี้ เพราะอาจผิดพลาดได้ 

• อย่าลืมสอบถามว่าแขกที่จะมาร่วมมื้อค่ำแพ้อาหารชนิดใดหรือไม่ เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้

• ไม่ควรพาแขกที่ไม่ได้เชิญล่วงหน้ามาร่วมงานด้วย หรือไปร่วมงานโดยไม่ได้รับเชิญ

• บอกว่ากำลังลดน้ำหนักอยู่ในระหว่างการรับประทานอาหาร เพราะเป็นการเสียมารยาทมากๆ 

• หากเราเป็นแขก ไม่ควรไปก่อนเวลา เพราะบางทีเจ้าภาพงานอาจจะยังจัดโต๊ะหรือทำอาหารไม่เสร็จ ควรไปตรงตามเวลานัดที่ได้รับเชิญค่ะ 
• ควรนำของขวัญไปให้กับเจ้าภาพด้วย ไม่ต้องเป็นของแพงอะไร แต่เป็นของขวัญที่แสดงความขอบคุณที่เชิญเราไปร่วมงาน เช่น ช่อดอกไม้ การ์ดขอบคุณ เป็นต้น

[affegg id=4540]

กิจกรรมวันขอบคุณพระเจ้าในประเทศอื่นๆ

อย่างที่บอกไปว่า เทศกาลขอบคุณพระเจ้า ไม่ได้มีแค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังมีการจัดกิจกรรมในวันนี้ขึ้นในอีกหลายประเทศ มาดูกันค่ะว่า แต่ละประเทศ มีการจัดกิจกรรมอะไรกันบ้าง

• ประเทศแคนาดา ในประเทศแคนาดา วัน Thanksgiving จะเป็นคนละวันกับที่อเมริกา แล้วในแคนาดา วันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่ ? จะเป็นวันจันทร์ที่ 2  ของเดือนตุลาคมนั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นวันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าเมื่อสิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว ที่สามารถเก็บเกี่ยวผลิตผลได้อย่างอุดมสมบูรณ์ และเป็นวันหยุดราชการของแคนาดาด้วยเช่นกัน โดยจะมีกิจกรรมจัดตกแต่งโบสถ์ด้วยฟักทอง ข้าวโพด รวงข้าวสาลี มีการจัดงานแฟร์ในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนวันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า โดยจะมีขบวนพาเรด มีตลาดขายงานฝีมือ และผลิตผลทางการเกษตรต่างๆ และมีการเลี้ยงฉลอง รับประทานอาหารร่วมกันคล้ายกับที่อเมริกา อาหารที่เสิร์ฟได้แก่ ไก่งวงย่าง เนื้อย่าง แฮม มันบดกับเกรวี่ ซอสแครนเบอร์รี่ ข้าวโพดหวาน พายฟักทอง และอาจมีการเสิร์ฟอาหารและของหวานในภูมิภาคต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาดิบ พุดดิ้งถั่วลันเตา ทาร์ตเนย เป็นต้น 

• ประเทศออสเตรเลีย วันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่ ในออสเตรเลีย จะเป็นวันพุธสุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมีการเริ่มต้นเทศกาลนี้ขึ้นหลังจากที่เรือล่าวาฬของอเมริกาเข้ามาในออสเตรเลีย และได้มีการนำเอาวัฒนธรรมวันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าเข้ามายังออสเตรเลียด้วยนั่นเอง โดยทั่วไปแล้วไม่ได้เฉลิมฉลองกันเป็นเทศกาลประจำชาติ แต่ละเฉลิมฉลองกันในบางพื้นที่ เช่น บริเวณทางตอนเหนือของเกาะ Norfolk ซึ่งจะมีการรับประทานอาหารภายในครอบครัว ที่มีการตระเตรียมอาหารคล้ายคลึงกับที่อเมริกาค่ะ
• ประเทศไลบีเรีย ได้มีการจัดวัน Thanksgiving ขึ้นราวๆ ช่วงปี 1800 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการได้รับอิสรภาพจากการล่าอาณานิคมของชาวแอฟริกัน อเมริกันนั่นเอง แล้ววันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่ในไลบีเรีย ? จะมีการเฉลิมฉลองกันในวันพฤหัสบดีแรกของเดือนพฤศจิกายนค่ะ ซึ่งการเฉลิมฉลองจะแตกต่างจากอเมริกา แม้จะมีการทำอาหาร รับประทานอาหารร่วมกัน แต่ก็จะเป็นอาหารในท้องถิ่น เช่น มันฝรั่งต้ม ถั่ว ผลไม้ต่างๆ และบางคนก็จะเฉลิมฉลองโดยการเข้าร่วมพิธีทางศาสนา ไปโบสถ์เพื่ออธิษฐาน หรือหยุดพักผ่อนจากการทำงาน สำหรับบางคนใช้วันนี้เป็นการขอบคุณความสงบสุขและความมั่นคงที่เกิดขึ้นหลังยุคสงครามกลางเมืองนั่นเอง
• ประเทศเยอรมนี วันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า จะถูกเรียกว่า Erntedankfest ซึ่งเป็นเทศกาลเก็บเกี่ยวของชาวเยอรมันด้วย และเป็นการเฉลิมฉลองในฤดูใบไม้ร่วง เพื่อพักผ่อน ผ่อนคลายหลังจากทำงานหนักมาหลายเดือน ศาสนิกชนชาวคริสเตียนในเยอรมนีจะนิยมไปโบสถ์กันในวันนี้ และโบสถ์หลายแห่งได้มีการตกแต่งด้วยพืชผลที่ถูกเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ในบางสถานที่ มีการจัดขบวนพาเรด มีงานเต้นรำ มีเทศกาลเบียร์ เป็นต้น ทั้งนี้ มื้ออาหารยังแตกต่างไปจากอมริกา โดยที่เยอรมนีจะเสิร์ฟเมนูที่ชื่อว่า Masthühnchen ซึ่งเป็นไก่ที่เลี้ยงเพื่อขุนให้อ้วนขึ้นเพื่อให้ได้เนื้อมากขึ้น ที่ไม่มีเสิร์ฟในวันทั่วไป แต่จะรับประทานกันในวัน Erntedankfest เท่านั้น และถ้ากำลังสงสัยว่า วันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่ในเยอรมนี คำตอบคือ วันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคมค่ะ

[affegg id=4541]

Inspire Now ! : วันขอบคุณพระเจ้า เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของชาวอเมริกัน และยังมีการเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ในอีกหลายๆ ประเทศอีกด้วย วันขอบคุณพระเจ้า วันที่เท่าไหร่ ก็ได้รู้กันไปแล้ว ถ้าอิงเอาตามต้นกำเนิดก็คือ อิงตามวันในสหรัฐอเมริกานั่นเองค่ะ ซึ่งในปีนี้ จะตรงกับวันที่ 24 พฤศจิกายนนั่นเอง ซึ่งเป็นวันที่มีความสำคัญและมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ใกล้เคียงกับวันคริสต์มาสเลยทีเดียว ถ้าใครได้ไปต่างประเทศ หรือไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน เช่น ในอเมริกา ก็จะได้เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติ และประวัติ ความเป็นมาของวันนี้กัน และปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง ถ้าหากได้รับเชิญไปร่วมงานด้วย จะได้มีเรื่องคุยกับเจ้าบ้าน และไม่ทำตัวเก้อเขินด้วย และถ้าใครชอบอ่านเรื่องราวแนวๆ นี้ เรามีวันฮาโลวีน ประวัติ มาให้อ่านกันด้วยนะ

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? เทศกาลวันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า จัดขึ้นก็เพื่อแสดงความขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าตามตามเชื่อของนักแสวงบุญ และยังเป็นการขอบคุณชนพื้นเมืองอเมริกันที่ได้ให้ความช่วยเหลือในตอนนั้น แล้วก็เป็นวันที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากันด้วย ใครชอบเทศกาลไหนพิเศษ คอมเมนต์บอกเราได้เลยนะคะ จะได้เอามาเล่ากันอีกในครั้งต่อไป แล้วมาอ่านกันด้วยนะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : sfif.go.th, bawarehouse.com, nationtv.tv, history.com, britannica.com

Featured Image Credit : freepik.com